วิวทะเลสาบ Koeniggsee จากมุมสูง

เมื่อวานตอนกลับจากล่องเรือแล้ว เราขับรถไปกินที่ร้านอาหารสไตล์ดั้งเดิมของบาวาเรียกันค่ะ รสชาดก็ใช้ได้แต่จานมันใหญ่เป้งมากเลยน่ะ jujastar กินไปได้แค่ 1 ใน 4 เท่านั้นก็จุกแล้วอ่ะ มีคู่สามีภรรยาเยอรมันนั่งร่วมโต๊ะกับเราด้วย ท่าทางใจดีคุยกันถูกคอ คุณป้าชอบผมยาว ๆ ของ jujastar มากเลยจับแล้วจับอีกอยู่นั่นแหละ เขินค่ะ ฮิ ฮิ แต่ถึงแม้จะอายุมากแล้วนะคะเค้าก็ควงก้นเที่ยวทั่วเยอรมันอย่างนี้ทุกปี แฟนบอกว่าคนเยอรมันรุ่นปัจจุบันนี้หาคู่ที่จะอยู่กันยืนยาวแบบนี้ได้น้อยลงทุกที เนื่องจากผู้หญิงเยอรมันมักเอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยสนใจครอบครัวเท่าไร ผู้ชายก็เลยขยาดไม่ค่อยอยากแต่งงานกับคนเยอรมันด้วยกัน อันนี้เราก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะ เพราะไม่ได้สนใจน่ะ

พอกลับเข้าห้องพักเราขออาบน้ำสุดท้าย เพราะอยากดูดาวจากห้องใต้หลังคาน่ะ หูย.... นอนดูดาวอยู่ตั้งนานแน่ะ สะใจมากเลย กลับออกมาแฟนหลับไปแล้ว เค้าคงเพลียจากการขับรถทั้งวันนั่นแหละ

ตื่นเช้าคุณป้าเจ้าของที่พักเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว มีชา กาแฟ คนละหนึ่งกา พร้อมขนมปัง Home made และ cold cut แถมด้วยผลไม้อีก เยอะเหมือนกันค่ะ กับมื้อเช้าของที่นี่

เราขับรถไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าไต่ไปบนเขาน่ะค่ะ วิวที่มองจากกระเช้าสวยมาก ๆ เลยค่ะ







มีการเปลี่ยนกระเช้าตัวใหม่ครึ่งทางด้วยนะเออ เค้าเผื่อว่าใครอยากจะลงเดินจากช่วงครึ่งหนึ่งเพื่อไต่ไปข้างบนก็ได้ เห็นมีคนลงเดินเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่เขาจะมีไม้สำหรับเดินด้วยทุกคน เราดูแล้วคิดว่าไม้นั่นน่ะเกะกะแท้ ๆ แต่แฟนบอกว่ามันช่วยให้คนมีอายุทรงตัวได้ดีขึ้น เออ ท่าจะจริงแต่เราคงไม่เอาด้วยหรอก ขอแค่ใส่รองเท้า hiking แบบนี้ก็พอแล้ว เพราะใส่ถุงเท้าแบบเดินป่าด้วยไง เค้าจะแยกข้างซ้ายข้างขวาให้เสร็จเนื่องจาก มันจะมี Support ที่อุ้งเท้าแตกต่างกันทั้งสองข้าง ดังนั้นห้ามใส่สลับข้างเด็ดขาด แต่ถุงเท้าแบบนี้ดีมาก ๆ เพราะเดินเท่าไรก็ไม่เมื่อยค่ะ วันนี้เดินขึ้น เดินลงภูเขาตั้งหลายลูกยังไม่รู้สึกเหนื่อยเลยน่ะ ตอนกลับบ้านแฟนหยิบเครื่องวัดระยะทางการเดินมาดูวันนี้เดินทั้งวัน 15 กิโลเมตรค่ะ ! เรามองหน้ากันแล้วหัวเราะกันใหญ่ เป็นไปได้ไงเนี่ย ฮิ ฮิ

ทะเลสาบ Koeniggsee ที่เราไปล่องเรือเมื่อวานนี้ค่ะ มองจากมุมสูงสวยมาก ๆ เลย ยิ่งตอนมีเรือล่องแล้วน้ำแหวกเป็นหางตามหลังมา สวยจริง ๆ เลยเชียว



โบสถ์สวยที่เราแวะไปนั่งกินปลาเทร้าท์เมื่อวานนี้ ก็คือติ่งเล็ก ๆ ที่ยื่นมาจากทุ่งกว้าง ๆ นั่นแหละค่ะ ของจริงน่ะ ให้ความรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ Classic เหมือนภาพวาดยังไงก็ไม่รู้ แต่รูปถ่ายห่วยมากเลยค่ะ ดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร ฮิ ฮิ





มีภัตตาคารแบบ open air ข้างบนด้วยค่ะ นั่งรับแดดกันอุ่นมาก ๆ ค่ะ



นั่งรับไออุ่นจากแดดอยู่พักใหญ่ ๆ ก็นั่งกระเช้ากลับลงข้างล่างค่ะ เพราะจะต้องไปไต่เขาอีกลูกนึงเพื่อไปดูบ้านฮิตเล่อร์ค่ะ











นั่งเต๊ะจุ๊ยบนยอดเขาก่อนกลับลงมาข้างล่างค่ะ



พอลงมาแล้ว เราก็ต้องขับรถไปอีกหน่อยเพื่อไปขึ้นรถบัสที่จะพาขึ้นเขาอีกลูกไปดูบ้านฮิตเล่อร์น่ะค่ะ พอไปถึงจะมีอุโมงค์อยู่ต้องขึ้นลิฟต์ในอุโมงค์นี้ไปถึงจะมีห้องที่อยู่ของฮิตเล่อร์ บนสุดจะเป็นภัตตาคาร open air อีกแล้วไว้ดักนักท่องเที่ยวที่หิวโหย เพราะเดินผ่านเขามาหลายลูกแล้ว ทุกคนก็จะกระหน่ำสั่งอาหารกันอย่างไม่คิดชีวิต ว่าจะกินหมดมั๊ยนั่น เราเดินไปดูตรงจุดชมวิวก่อนค่ะ แล้วถึงเดินย้อนกลับมาที่ภ้ตตาคารซึ่งเสือหิวทั้งหลายเผ่นไปแล้ว ทิ้งไว้แต่หลักฐานกระจายเต็มโต๊ะ ยืนรอแป๊บเดียวก็ได้นั่งแล้วค่ะ อาหารเค้าก็อร่อยใช้ได้แต่ก็จานใหญ่อีกแหละ ไม่หมดค่ะขอบอก ไม่เคยกินอะไรที่เยอรมันหมดจานเลยเพราะเค้าไม่เคยเสิร์ฟจานเล็กให้เราเลยน่ะ



วิวระหว่างขับรถไปเขาอีกลูกค่ะ





บ้านฮิตเลอร์ค่ะ ในอุโมงค์มีลิฟต์ด้วยนะเออ





วิวที่มองจากเขาลูกนี้จะเป็นแบบ Panorama สามารถมองไปเห็นฝั่งออสเตรียได้เลยค่ะ







เราวิ่งขึ้นวิ่งลงกับภูเขาสามสี่ลูกนี่ ดื่มด่ำกับวิวมุมสูงแล้ว ก็กลับลงมาขับรถข้ามไป Salzburg ไปดูบ้านของ Mozart และแวะซื้อช็อคโกแลต กับไปจิบโกโก้ร้อนอร่อย มาก ๆ ได้หนังสือภาพดอกกุหลาบเล่มใหญ่ปึ้กสำหรับเป็นวัตุดิบในการวาดภาพสีน้ำมันต่อไป กับได้หนังสือดี ๆ มาอีกสองสามเล่มน่ะ ขนมากกว่านั้นไม่ได้เพราะกลัวน้ำหนักเกิน ทริปนี้ได้แวะเข้ามาที่นี่แป๊บเดียวเอง แบบว่ามา Say Hello หมุนตัวสองรอบแล้วก็ Say Goodbye น่ะ เอาไว้มาแก้ต้วใหม่คราวหน้าแล้วกัน

วันนี้เพิ่งไปเดินงานบ้านและสวนแฟร์ มาค่ะ มีภาพของแต่งสวนสวย ๆ มาฝากเยอะเลย เดี๋ยวมา up blog ใหม่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาเที่ยวด้วยก้น รักทุกคนเลยค่ะ

Create Date : 28 ตุลาคม 2551 Last Update : 1 พฤศจิกายน 2551 0:16:54 น. Counter : 1541 Pageviews.		15 comments
Share Tweet