Group Blog |
ครั้งหนึ่งในชีวืต พิชิต..ภูกระดึง ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต..ภูกระดึง  ทริปนี้ไปมาเมื่อปี 2555 ช่วงปลายฝนต้นหนาว ตอนที่ไปจึงไม่ค่อยหนาวมาก อากาศเย็นๆ แต่แดดค่อนข้างแรง ออกเดินทางจากหมอชิต 22.00 เพื่อถึงจุดหมายแรกผานกเค้า 05.00  เดินทางโดยรถทัวจากหมอชิพใหม่ ทริปนี้รถทัวขับค่อนข้างน่ากลัวทีเดียวส่ายไปมาๆตลอด หลับไม่เต็มตาเลยถึงที่หมายก่อนกำหนด ถึงตอนประมาณ ตี 4 กว่าๆ ร้านที่เป็นจุดจอดรถทัวยังไม่เปิดเลย นั่งรอสักพัก ประมาณใกล้ตี5ร้านเปิด ร้านนี้มีห้องน้ำ อ่างล้างหน้าแปรงฟันให้ใช้บริการกัน ฟรี เกือบ 6โมง พอดีร้านเขาทำกับข้าวออกเตรียมขาย แล้ว เราจึงตกลงทานมื้อแรกกันที่นี่ เพื่อที่ไปถึงภูจะได้เตรียมขึ้นภูได้เลย   ผานกเค้า เริ่มสว่างแล้ว ประมาณ 6โมงกว่าๆก็มีรถสองแถววิ่งไปภูกระดึงเริ่มจอดรอบริการ จำไม่ได้ว่าค่าบริการเท่าไหร่ นั่งรถสูดอากาศสดชื่นมาไม่นานก็ถึงที่ทำการอุทยานติดต่อเรื่องค่ากางเต้นและอื่นๆ  เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ ไปที่จุดบริการหาบสัมภาระ จัดแจงเรียบร้อยก็เตรียมขึ้นภูกัน ผมเองอยากรู้ว่าจะไหวไหมจึงไม่ได้เอาสัมภาระฝากลูกหาบ ลองชั่งดูของผมประมาณ4กิโลกรัม อยากลองสักครั้ง    เมื่อพร้อมทุกอย่างแล้ว เราจึงฟันฝ่าอุปสรรคกัน  ก่อนขึ้น ทำการไหว้พระขอพรกันก่อนครับ ป้ายบอกเส้นทางทั้งหมดที่ต้องผ่าน  ถ้าจำไม่ผิดกลุ่มเราเริ่มเดินขึ้นภูตอน9โมงกว่าๆ  ไม่ทันไรครับ น้องในกลุ่ม ไม่ไหวครับบอกจะลงไปนอนรอข้างล่างพี่ๆไปกันเถอะ มาด้วยกันจะทิ้งกันได้ไง จึงค่อยๆไป เหนื่อยพัก เหนื่อยพัก ซำแรกนี่ยอมรับว่าเหนื่อยจริงๆ เพราะทางค่อนข้างชัน แต่แล้วก็มาถึง ซำแฮก แฮกจริงๆครับ ที่นี่มีร้านค้าค่อยให้บริการมากมาย ซำแรกนี้เสียค่าน้ำไปเยอะครับ  พักไปสักพักนึง ก็เตรียมเดินทางกันต่อ ลุงร้านขายน้ำที่เราแวะพักให้มะขามป้อมติดมา ลุงแกบอกกินแล้วชุ่มคอ แต่พอกินกันไปคนล่ะเมดที่ร้านของแกก็ไม่มีใครหยิบติดมือมาเลย      ระหว่างทางก็แวะแทบทุกซำที่มีร้านค้าครับ ส่วนใหญ่ถึงเราจะไม่ได้อุดหนุดลุงๆป้าๆ แต่แกก็ใจดีครับให้นั่งพักฟรี สุดท้ายเราขึ้นมาถึง หลังแปร ตอนประมาณ บ่าย2โมง ได้ หลังจากนั้นเดินทางตรงต่อไปยังจุดกางเต็นท์ รวมๆแล้วถึงที่จุดกางเต้นบ่าย3กว่าๆ ครับ โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตกระหว่างที่เราขึ้นมา เมื่อถึงที่กางเต็นท์ก็ไม่รอช้าครับสัมภาระที่จ้างลูกหาบยังไม่มา ไปกางเต้นรอก่อนเพราะเราแบกเต้นมาเอง และติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเอาหมอน ผ้าปูนอน ต่างๆที่เราเช่าจากอุทยาน ระหว่างทางขึ้น กลุ่มเราไม่เจอทากกัด นะครับตอนแรกคิดว่าไม่มีแล้วสะอีก เพราะอากาศเริ่มเย็นสบายๆไม่มีฝนตก แต่ก็ยังมีปูนขาวโรยรอบเต็นท์ครับ แสงแดดยามบ่ายใกล้เย็นหลังจากกางเต็นท์เสร็จ    ไม่นานลูกหาบก็แบกของมาถึงก็ไปจัดการกับสัมภาระ และจัดแจงอาบน้ำกันครับ เรียบร้อยก็ไปหาอะไรกินกันที่โซนร้านค้า จัดกันเป็นข้าวตามสั่งครับ อร่อยครับและเยอะ ไม่แพงครับตกจาน 60ถ้าเทียบกับการขนของขึ้นมาที่ค่อนข้างลำบากถือว่าคุ้มครับ กินข้าวและชาร์จแบต วันนี้หมดแรงครับ จึงได้แค่รอไปดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่ผาหมากดูกไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ และก็เดินกลับมาพักผ่อนครับวันแรก วันที่สอง ตื่นตั้งแต่ ตี 5 ครับ มีพี่เจ้าหน้าที่ นำนักท่องเที่ยวไปดู พระอาทิตย์ขึ้นที่ ผานกแอ่น ครับ    อากาศไม่หนาวมากครับ กำลังดีมีลมเย็นๆ อากาศดีสดชื่นครับ หลังจากที่ชมพระอาทิตเสร็จ วันนี้เป็นวันเดย์ทริปที่โหดที่สุดเท่าที่ผมเคยสัมผัสมา ก็กลับไปที่พักที่เต็นท์ครับ จัดของเรียบร้อยไปกินข้าวเช้ากัน  บำรุงกันก่อน ถามป้าป้าแนะนำว่า ถ้าจะไปเส้นน้ำตกไม่ต้องเช่าจักรยาน เพราะเอาเข้าไปไม่ได้ แต่ป้าไม่บอกว่าถ้าจะไปผาด้วยให้เช่าจักรยาน  ป้าคงไม่คิดจะเที่ยวหมดในวันเดียว แน่ๆเลยแผนที่ภูกระดึง  รูปนี้ขอยืมมาจาก //TREK.BLOGGANG.com เมื่อกินข้าวเช้ากันเสร็จ ก็เตรียมตัวเดินทาง เริ่มที่เส้นทางน้ำตกตามหาใบเมเปิ้ลแดง เส้นทางที่เราเลือกเดินวันนี้เริ่มที่ จากเต็นท์ >> น้ำตกวังกวาง >> น้ำตกเพ็ญพบใหม่ >> น้ำตกโผนพบ >> น้ำตกเพ็ญพบ >> น้ำตกถ้ำใหญ่ >> สระแก้ว >> ผานาน้อย >>ผาเหยียบเมฆ >> ผาแดง >> ผาหล่มสัก>> และย้อนกลับไป ผาจำศิล >> ผาหมากดูก กลับที่พัก เส้นทางนี้ เดินเท้าล้วนๆครับ เส้นทางน้ำตกนี่ทากเยอะครับโดนกันไปหลายครับ    น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำค่อนข้างน้อยครับ  และก็เดินทางตามมาเรื่อยๆ น้ำค่อนข้างน้อยแล้วครับช่วงที่ไป มาจนถึง น้ำตกถ้ำใหญ่ ครับ   ใบเมเปิ้ลแดงครับ จากนั้นเราก็เดินมายังฝั่งหน้าผาครับ ฝั่งนี้แห้งครับไม่มีทาก   ติดมาถึงฝั่งผาครับ ตามผมต่างๆจะมีร้านค้าอยู่ด้วย      เดินไปยังแดดจ้าอยู่ครับ พอใกล้จะถึงผาหล่มสักเท่านั้นแหละครับ  บรรยากาศเปลี่ยนครับ หมดหวังไม่ได้ชม พระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักแน่แท้  และก็ไม่รอดครับฝนตกหนักเลย มาถึงนี่ประมาณ 4โมงกว่าๆ มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่ม ครับปั่นจักรยานมาติดฝนด้วยกัน ก็นั่งคุยไปเรื่อยครับรอฝนหยุด อีกกลุ่มถามว่าพี่มากันยังไง ไม่เห็นจักรยาน พอตอบไปว่า เดินมา  !!!! แล้วฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ เมฆยังคงมีแต่ฝนตกเบาลง นึกขึ้นได้ครับเต็นท์ครับ กางอยู่ ฝนตกแรงขนาดนี้ไม่น่ารอด จึงตัดสินใจไม่รอ ซื้อชุดกันฝนคนล่ะตัวครับ และเดินออกไปถ่ายรูปเท่าที่จะทำได้  และมุ่งน่าตรงกลับเต้นโดยด่วนเนื่องจากเริ่มเป็นห่วงเต็นท์ ระหว่างทางเดินกลับนี่ฝนตกตลอดทางครับ กลุ่มจักรยานก็ปั่นตามมาบ้างแซงบ้างสลับกันเพราะปั่นค่อนข้างยากครับ ฝนตกดินเป็นเลน ขากลับระหว่างทาง ทั้งมืด หนาว เปียก แต่ยังมีหมอก หิ่งห้อยครับ ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่ครับ ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เดินไม่นานเหมือนตอนขาไปครับแทบไม่แวะพักจุดไหนเลยครับ และสุดท้ายก็มาถึงผาหมากดูก แวะร้านค้าสักพัก กลุ่มจักรยานก็มาถึงพร้อมๆกัน และพักไม่นานก็เดินกลับเต็นท์ ซึ่งขากลับครับทากนี้กัดเป็นว่าเล่นครับ จนถึงที่พักยังไม่จบครับฝนตกหนักอีกรอบ ผู้ชายในกลุ่มก็ ตกลงกันไปยกเต็นท์เข้ามากางในศาลา เดินลุยฝนกันเลยครับแบกเต็นท์ทุลักทุเลสุดๆ ทากก็กัด หนาวครับสั่นเลย หนาวฝน สุดท้ายก็ผ่านไปได้ ลานกางเต็นท์ที่เรากางน้ำท่วมขัง แต่ของในเต็นเราไม่ได้เปียกมากเท่าไหร่ เรียบร้อยก็จัดแจงอาบน้ำครับ เรียบร้อยฝนเบาลง จึงไป ร้านค้าเพื่อ จัดชุด บำรุงพลัง หมูกะทะชุดใหญ่สองชุดครับ ฟาดกันเรียบครับ กลับมาที่เต็นท์ทำการกำจัด ทาก และนอน ตื่นมาวันที่สามไม่มีใครไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเลย เนื่องจากเมื่อวานนี้เพลียกันมากครับ ได้รูปตอนรุ่งเช้ามาบรรยากาศ ประมาณนี้  และก็จัดแจงอาบน้ำ กินข้าวที่ร้านค้ามื้อสุดท้ายครับ เรียบร้อยก็จัดสัมภาระ ให้ลูกหาบจัดการครับ ขาลงขอลงแบบสบายๆเถอะ  และเราก็ทำการเดินลง จากภูกระดึง มีโอกาสจะกลับมาใหม่ถ้าร่างกายยังพร้อมอยากให้ลองไปสัมผัสบรรยากาศดันดูครับ เหนื่อย..แต่สนุก ประทับใจครับ รูปถ่ายจากกล้องมือถือ 5MPครับ ไม่สวย เบลอ ขออภัยครับ  แล้วพบกันใหม่ครับปล.ของฝากจากภูกระดึง  ทากฝากไว้ ^0^ รูปถ่ายจากกล้องมือถือ 5MPครับอาจจะไม่สวย
ถึงจะเหนื่อย แต่ขึ้นมาได้ก็เป็นความภาคภูมิใจนะคะ อากาศข้างบนก็ดี๊ดี เราก็ชอบเหมือนกัน (แต่ตอนนี้แก่แล้ว ขึ้นไม่ไหวแล้วอ่า)
 โดย: hi hacky
 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:35:52 น. |
judpai2t
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
||||||||||||
เหมือนได้ย้อนรำลึกความหลังที่ภูกระดึงเลยค่ะ
พอแก่ตัวมาอยากปีนภูแต่เพื่อนรุ่นเดียวกัน
พากันปีนไม่ไหวแล้วค่ะ
อิอิอิ