เราชอบใช้สมุดน่ารักๆตั้งแต่สมัยเรียนส่วนไดอารี่ จำได้ว่าเริ่มเขียนจริงจังตอนอยู่ ม.ปลาย ตอนนั้นจะชอบใช้สมุดบันทึกนิทานของมูลนิธิเด็กที่เล่มเล็กๆยาวๆ ซึ่งตอนนี้เก็บลงกล่องไปเรียบร้อยแล้วลองเอาเล่มเก่าๆมาดู ก็เห็นวิวัฒนาการการจดบันทึกของตัวเองด้วย...เริ่มจากตอนเรียน ป.ตรีไดอารี่เล่มแพงที่สุดที่เคยมี จำไม่ผิดราคาประมาณ 600 บาท ซื้อที่ zen จดละเอียดยิบทุกหน้า ตอนนั้นฮิตใช้ปากกาสีๆ กับถ่ายสติ๊กเกอร์ก็จะเอามาแปะๆเล่มนี้ใช้ตอนเริ่มทำงานปีแรก เป็นแบบออแกไนเซอร์ พื้นที่จดบันทึกเล็กมาก เลยต้องเขียนอัดๆกันลงไป รู้สึกจะซื้อที่โบนันซ่ากระโดดมาอีกทีก็ตอนเรียน ป.โทเลยเนื่องจากงานเยอะมากๆ ต้องมีตารางกำกับชีวิตตัวเองเล่มนี้คล้ายๆว่าจะซื้อที่โตคิว...รึเปล่าน้าตอนนั้นแม่หนูคนนี้กำลังดัง ซื้อที่เซ็นเตอร์วัน ช่วงนั้นไม่ค่อยมีตังค์ เล่มละแค่ 19 บาท แล้วมาปริ้นท์ปฏิทินแปะเอาเองอันนี้ซื้อจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ ความจริงหน้าปกเป็นแบบเรียบๆ แต่เราตัดรูปมาใส่ปกเอาใหม่ เป็นโบรชัวร์ของมือถือค่ายฮัทส์ ตอนนั้นเพิ่งออกใหม่ๆเลย ปรินท์ปฏิทินแปะเองเช่นเคยเล่มนี้ชอบที่ลายปกสวยดี ซื้อที่ Loftแมวๆๆๆทั้งเล่ม ซื้อที่ร้าน....ที่สยาม ไม่เคยดูชื่อร้านเลยซักครั้ง แต่ทุกครั้งที่ไปเดินสยามก็จะต้องเข้าร้านนี้ตลอด เพราะของน่ารักเพียบและราคาไม่แพงเลยพอเริ่มปรับตัวได้แล้ว เลยมีเวลาว่างมากขึ้น เขียนไดอารี่ได้ละเอียดเต็มที่และทำได้ทุกวันสองเล่มนี้ของดับเบิ้ลเอ เรียบๆธรรมดา สมุดไม่มีลายเส้นบรรทัด แต่กระดาษหนาดี เลยทั้งเขียน ทั้งวาดภาพประกอบ แล้วก็ปะๆติดๆ ภาพ หรือสัญลักษณ์ของร้านที่เราไปกินมา ( 2 เล่มนี้จะใช้ดินสอเขียนเพราะสะดวกเวลาวาดภาพประกอบ )สมุดหนูห้ามดูเด็ดขาด ชอบเล่มนี้ที่หน้าปกเป็นแบบพลาสติกใส เราเลยถ่ายรูปตุ๊กตาหมีตัวล่าสุดปริ้นท์มาแปะเป็นเสมือนปกซะเลยด้านในเริ่มบันทึกทุกอย่างแบบละเอียด ตอนนี้มีกล้องดิจิตอลใช้กับเค้าแล้ว ก็เลยใช้วิธีปริ้นท์รูปมาติดประกอบ ( ยุ่งยากจริง ) แต่ก็ทำอย่างมีความสุขมากๆเลยหลังจากเรียนจบกลับมาทำงาน ก็ยังติดเขียนอะไรยาวๆอยู่ แล้วก็กลับมาใช้ปากกาสีๆอีกครั้ง เล่มนี้แฟนเราซื้อให้จาก Loft ราคาร้อยกว่าบาทยังคงคอนเซ็ปท์ติดๆปะๆเหมือนเดิมต่อจากเล่มข้างบน เล่มนี้เป็นสมุดเรียบๆสีน้ำตาล มีเส้นบรรทัด ได้จากร้าน 100 เยนที่โอซาก้า แล้วก็เอารูปโฆษณา ( ที่เป็นรองเท้าสีๆ ) จากหนังสือพิมพ์มาตัดแปะลงไปเป็นหน้าปก เล่มนี้ต้องใช้หมึกซึมเขียนเพราะกระดาษเป็นสีน้ำตาล ใช้ปากกาธรรมดาจะมองไม่ค่อยเห็นเวอร์ชั่นสุดท้ายของการเขียนบันทึกลงในกระดาษ หมีพูห์สีชมพูบานเย็น แรกๆก็เขียนๆ ติดๆปะๆเหมือนเดิม พอมีรูปมากขึ้นเลยเริ่มเบื่อ หลังๆเลยใช้วิธีพิมพ์ไดอารี่ลงคอม วันดีคืนดีก็ปริ้นท์ออกมาใส่เล่ม สะดวกสุดๆจากนั้นก็มาเป็นไดอารี่ออนไลน์ ไม่ได้บันทึกลงสมุดอีกแล้วแต่ก็ยังต้องใช้สมุดจดงานเล็กๆน้อยๆเวลาทำงานอยู่ดีนอกจากนี้ก็มีเล่มที่นานๆเอามาใช้ที ( พูดง่ายๆว่าไม่ค่อยได้ใช้น่ะค่ะ )ของแถมมากับนิตยสารจะทำไดอารี่เอง แต่ทำเสร็จแค่ปก แล้วก็ค้างคาเรื่อยมาสุดท้ายเป็นสมุดบันทึกของมูลนิธิเด็ก ที่ทางมูลนิธิส่งมาให้ ( ฟรี ) เป็นการขอบคุณที่เราร่วมบริจาคให้กับทางมูลนิธิอย่างสม่ำเสมอ...ถึงไม่ได้ใช้ แต่แค่มองก็รู้สึกภูมิใจจริงๆมีเล่มเล็กเล่มน้อยอีกเยอะมาก เก่าเน่าไปบ้าง หายไปบ้าง แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เวลากลับไปเปิดๆอ่าน ขำบ้างยิ้มบ้าง...มีความสุขอยู่คนเดียว 555