สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9..10 แล้วปล่อย ทุกอย่างจะดึขึ้น
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
3 วันแรกของการไป summer ที่โรงเรียน(ครั้งแรกในชีวิต)

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ออมสินต้องห่างอกแม่และพ่อไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ พี่น้อง ซึ่งเป็นที่ที่ออมสินต้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ “โรงเรียน” และนับจากวันนี้ชีวิตลูกครึ่งนึงจะอยู่ที่โรงเรียนอีกเป็นสิบๆ ปี

19 เม.ย. 53 คือวันที่ออมสินจะต้องไปโรงเรียนวันแรก ซึ่งถือเป็นการ summer เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเรียนจริงๆ วันแรกลูกเป็นยังไงบ้างนะหรอ เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟัง...

7 โมงเช้า พ่อปลุกให้ออมสินตื่น ลูกพูดกับพ่อว่า “7 โมงแล้ว” และก็หลับต่อ (สงสัยจะละเมอป่าวว้า) พ่อก็เรียกออมสินอีกที คราวนี้ออมสินพูดกับพ่อว่า “ให้ออมตื่นทำไม” พ่อก็ต้องอธิบายยาว... สรุปใจความได้ว่าคือต้องไปโรงเรียนนั่นแหละลูก ออมสินก็อาบน้ำ แต่งตัวไม่ได้งอแงอะไร แต่สงสัยว่ามันจะเช้าไปสำหรับลูก ลูกเลยไม่กินข้าว ซึ่งจริงๆ ลูกก็เป็นคนกินข้าวไม่ยากไม่ง่าย วันแรกไม่อยากซีเรียสไม่กินก็ไม่กิน กินนมแทนละกัน แต่ขอบอกพ่อซีเรียสนะ ไม่ใช่อะไรเลยกลัวลูกหิว แม่รู้

7 โมงนิดๆ ก็ออกเดินทาง มีพ่อ แม่ และอั่งเปา (ยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่เลย) แต่เพื่อการไปเรียนวันแรกของลูก แม่ก็กระเตงน้องไปส่งลูกด้วย ไปถึงโรงเรียนเกือบๆ 8 โมง ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนประมาณ 20-30 นาที ลูกสวัสดีคุณครูตั้งแต่หน้าโรงเรียนจนถึงหน้าห้องเรียน อ.1/3 คุณครูมารับเข้าห้อง ตอนนั้นลูกไม่สนใจพ่อกับแม่แหละ ไปเล่นของเล่น แม่ก็เลยเดินออกมา ก่อนจากคุณครูให้ลูกสวัสดีพ่อกับแม่ 1 ครั้ง

แต่ด้วยความกังวลใจของแม่ แม่ยังไม่กลับบ้านหรอกนะ แม่แอบอยู่แถวๆนั้นแหละ อยากรู้ว่าลูกเป็นไงบ้าง ลูกก็เล่นของเล่นซักพัก และก็วิ่งเล่นกับเพื่อนอยู่ในห้อง พักนึงเหมือนลูกคุยกับครู แม่แอบจับใจความได้ว่า “พ่อแม่ไปไหน อยู่ไหน ประมาณนี้” แล้วสายตาก็เริ่มมองหา... รู้เปล่าว่าแม่แอบน้ำตาคลอเลย รู้สึกเหมือนสงสารลูก แต่เพื่ออนาคตข้างหน้าที่ดี ลูกต้องมีการศึกษา ต้องมีสังคม เพื่อสิ่งที่ดีที่แม่จะให้ได้ แม่ต้องยอม แล้วซักพักเหมือนสายตาเรามาจ๊ะกัน ครูรีบปิดประตู เพื่อบอกเป็นนัยๆ แม่เลยต้องจำยอมกลับบ้าน

บ่าย 2 โมง (จริงๆไม่ถึงหรอก แม่ไปก่อนแต่ไม่อยากให้ลูกเห็น) สิ่งที่แม่เห็นคือลูกเดินไปเข้าห้องน้ำ คงไปฉี่แหละ และก็ล้างหน้า เพราะหน้าเปียกมาเลย อิอิ คุณครุปะแป้งให้ซะหน้าขาว แป๊บนึงแม่ก็เดินไปรับ ออมสินเหมือนกำลังจะร้องไห้ ถามว่าพ่อแม่อยู่ไหน เพราะก่อนหน้าแม่เริ่มมีผู้ปกครองคนอื่นไปรับเพื่อนลูกแล้ว แม่เดินมาพอดี คุณครูเลยชี้ให้ดู เท่านั้นแหละ ร้องไห้ไม่อายใครเลยลูกอ่ะ วิ่งเข้ามาหาแม่ กอดแม่ไว้แน่ แล้วถามแม่ว่า “แม่ไปไหนมา แม่นั่งอยู่ตรงไหน” แม่ก็อธิบายไปเรื่อยๆ พูดไปพูดมาจนจับใจความไม่ถูก เพราะแม่ก็ตกใจที่ให้ลูกร้องไห้ สุดท้ายแม่ใช้ไม้ตายเด็ด คือพาไปเล่นเครื่องเล่นที่อยู่บริเวณนั้น ลูกก็หยุดร้อง เล่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮ้อออออออ ลูกชายแม่

แม่ลืมบอกว่าวันนั้น ตายายลูกก็ไปด้วย ซึ่งแม่ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องไป เพราะไม่อยากให้อะไรมากมาย แต่เค้าก็ไม่เชื่อแอบไปจนได้ แล้วคิดดูละกันไหนจะเจอพ่อแม่ ไหนจะเจอตายาย ยิ่งร้องไห้ไปกันใหญ่ แม่ก็รู้นะว่าเค้าเป็นห่วงลูก พูดไปเดียวบ่นยาว ไม่พูดดีกว่า แค่ให้ลูกรู้ว่าวันแรกตายายไปด้วยละกัน เพราะทุกคนรักออมสิน

20 เม.ย. 53 คือวันที่ 2 ที่ต้องไปโรงเรียน แม่ปลุกออมสินเวลาเดิม คำพูดแรกเลย “แม่ไปพิชญชนกเถอะ” บอกตรงๆ แม่แอบขำเลย ไปโรเงรียนไหนก็ต้องตื่นเช้าเหมือนกันลูก ลูกคงคิดว่าไปพิชญชนกคงไม่ต้องตื่นเช้า อิอิ คิดไปได้

วันนี้แม่ลงไปทำแซนวิสให้ออมสินกิน ลูกกินดีขึ้น ถึงจะเรื่องมากไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กิน แล้ววันนี้ก็เหมือนเดิมพ่อแม่และน้องไปส่งลูก แล้วแม่ก็ตั้งใจว่าวันนี้จะไปถามคุณครูหลายเรื่องเกี่ยวกับลูก

1.ลูกกินข้าวไหม? สรุปลูกกินข้าวและกินเอง แปลกไหมหละอยู่บ้านให้พ่อแม่ป้อน ซึ่งแม่ก็ไม่อยากทำเลย เพราะอยากฝึกลูก แต่บางทีแม่ขี้เกียจรอนานตัดปัญหา ป้อนซะเลย อิอิ (ไม่ดีๆ) แม่ก็ไม่รู้หรอกว่าลูกกินมากกินน้อย เพราะคงไม่มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชลูกเหมือนแม่(ขาโหด) 55 แต่กินเองได้ก็ OK รับได้ ลูกบอกแม่ว่าวันแรกกินไข่เจียว กับหมู ส่วนนี้เรื่องมันผ่านมาแหละแม่เลยบอกได้ว่าลูกกินอะไร แต่จริงๆแม่ก็ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าลูกบอกว่า “ไม่อร่อย”

2. ลูกกินนมไหม? เพราะแม่เตรียมนมกล่องไป 3 กล่อง ในเป้ลูก แต่มันหายเกลี้ยง ซึ่งแม่ไม่เชื่อว่าลูกกินหมด สุดท้ายลูกกินไป 1 กล่อง ที่เหลือครูพี่เลี้ยงเอาออก ลูกคงไม่ชินแม่รู้ เพราะอยู่บ้านแม่ยังให้นมขวดลูกสลับนมกล่องอยู่เลย ฝึกๆไปลูก แม่รู้ว่าออมสินทำได้

3. ลูกนอนไหม? เพราะระหว่างกลับบ้านดูช่างง่วงเหลือเกิน คำตอบก็คือไม่ได้นอน เฮ้ออออออ ครูบอกว่าลูกบอกไม่ง่วง 2 วันแล้วนะลูกที่ไม่ยอมนอนกลางวัน แม่สงสารลูกจัง ตื่นแต่เช้าแล้วไม่นอนนิ แม่เข้าใจเรื่องที่ลูกไม่นอน เพราะลูกไม่ชินกับการนอนคนเยอะๆ และก็สถานที่+บรรยากาศใหม่ๆ

3 เรื่องที่แม่อยากรู้ก็ได้คำตอบแหละ ยังไงก็ค่อยๆ ปรับตัวกันไปนะลูก
บ่ายพ่อไปรับลูกคนเดียว พ่อบอกแม่ว่า ออมสินเกือบร้องไห้แต่พ่อรีบตัดบทให้ไปเล่นของเล่นตามเคย อิอิ ตอนเย็นลูกนั่งกินข้าวกับแม่ ลูกบอกแม่ว่า “ไม่ไปแล้วโรงเรียน พอแล้ว” กะไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้ แต่แหม.. เร็วจังลูก ตลอดเวลาที่แม่พาลูกตระเวนไปหาโรงเรียน ลูกคงตื่นเต้นและคิดว่าไม่ได้ไปเรียน ไปเล่นสนุกๆ มีแม่กับพ่อไปด้วยหละซิ มันไม่เป็นอย่างลูกคิดแล้วใช่ไหมหละ แม่ก็อธิบายยาวเลย... สรุปคือยังไงก็ต้องไปโรงเรียนครับผม

21 เม.ย.53 วันที่ 3 แล้วลูก วันนี้ลูกตื่นเองแฮะ แถมมาปลุกแม่ตังหาก นิมิตหมายที่ดี วันนี้แม่กับน้องไม่ได้ไปส่งลูก แต่แม่ก็ลงไปเตรียมอาหารเช้าให้ลูกเหมือนเดิม และก็ส่งลูกขึ้นรถครับ แม่ก็ไม่ได้กังวลอะไร แต่แล้ว.. เวลาผ่านไป 8 โมงนิดเดียว พ่อโทรมาหาบอกว่าลูกร้องไห้ แย่แล้ว... ลูกเริ่มบอกพ่อตั้งแต่อยู่ในรถว่าไม่อยากไปเรียนแล้ว พอเดินเข้าตึกอนุบาลลูกก็ร้องไห้ตลอด เฮ้อออออออออ

สุดท้ายแม่โทรไปหาครูประจำชั้นลูก ว่าออมสินเป็นไงบ้าง ครูไม่ต้องตอบเลย... เพราะแม่ได้ยินเสียงออมสินเข้ามาในโทรศัพท์เลยลูก ลูกร้องไห้แบบบ่นๆ ว่าแม่ไปไหน เดี๋ยวแม่มาใช่ไหม มั้ยเป็นแบบนี้หละลูก สงสารลูกจัง แต่ถ้าครูบอกว่าไม่เป็นไร แม่ทำได้อย่างเดียวคือต้องยอมรับ เพราะโรงเรียนคือบ้านหลังที่ 2อย่างน้อยแม่ก็ต้องไว้ใจและวางใจระดับนึง แต่จะบอกให้ว่าวันนี้แม่วางแผนกับพ่อ ว่าจะไปแอบดูออมสินที่โรงเรียน อยากรู้และเป็นห่วงลูกมาก แล้วแม่จะมา update เรื่องลูกใหม่ และก็จะถ่ายรูปมาประกอบด้วย ตั้งใจจะถ่ายตั้งแต่วันแรก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถ่ายซักกะที เฮ้ออออออ ยุ่งตลอดอ่ะแม่เนี้ย อิอิ

สู้ๆ ลูกแม่




Create Date : 21 เมษายน 2553
Last Update : 21 เมษายน 2553 9:36:21 น. 3 comments
Counter : 579 Pageviews.

 
ออมสินเหมือนหยกเลยค่ะ บอกไม่อยากไปโรงเรียน ทั้งที่แต่ก่อน ไปอีกโรงเรียนนึงไม่เคยร้องไห้เลย มีแต่ตอนเช้าไม่อยากตื่นแค่นั้น

แต่วันนี้ปรับตัวได้ละ ไม่ร้องไห้ ตอนไปส่ง เข้าห้องไป เรียบร้อยดีค่ะ

แล้วจะมาตามอ่านอีกนะคะ


โดย: นุช แม่น้องหยก+มุก (pengawinna ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:11:20:56 น.  

 
แวะมาอ่านเพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับแม่ (อิอิ) เพราะปีหน้าน้องแก้มก็ต้องไปโรงเรียนเหมือนกันค่ะ


โดย: แม่น้องแก้ม (noobim_j ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:12:31:25 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:18:31:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

jprommy
Location :
Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




slow but sure!!! แต่อย่าให้ช้าจนล่าหลัง และตั้งสติทุกครั้งก่อนจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ^_^ ยิ้ม ยิ้ม!!!

welcomeสวยๆมากมายจากเกาหลี
Friends' blogs
[Add jprommy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.