Bloggang.com : After Sunset_Before Sunrise : Bali in love

Bali in love_day 1

ในที่สุดก็ได้เดินทางมาอินโดนีเซียอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้มาเพื่อเที่ยวโดยเฉพาะ ณ.เกาะบาหลี ค่ะ

เราหาข้อมูลการท่องเที่ยวมาจาก website เป็นหลักนะคะ โดยเฉพาะห้อง blue planet มีรีวิวทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร แหล่ง shopping แหล่งเช่ารถ คนขับ ได้ข้อมูลมากมาย จนตอนหลังรู้สึกมันเยอะเกินค่ะ

สำหรับการจัดโปรแกรมเที่ยวบาหลี 6 วัน 5 คืน (9-14 ส.ค 2554) เราเริ่มจากหาแผนที่เกาะ เอามาวงชื่อสถานที่ต่างๆ ที่เป็น the must ไว้ แล้วก็ลองไล่ดูว่าแต่ละวันจะเดินทางจากไหน ไปไหน แวะสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ค้างคืนที่ไหน แล้วก็หารีวิวที่พักกับร้านอาหารบริเวณนั้น

เดินทางกันเลยค่ะ...

ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ 06:15 น ถึงสนามบิน Ngurah Rai Bali 11:30 น. รวมนั่งเครื่องประมาณ 4 ชม. มาถึงแล้วต้องปรับนาฬิกาให้เดินเร็วขึ้น 1 ชม. ค่ะ

มาถึงก็ได้เรื่อง...
เราติดต่อกับคนขับชื่อ Ketut Bagiada ไว้ตามที่มีคนแนะนำ แต่คนที่มารับดันไม่ใช่อะ เค้าบอกว่าชื่อ Made พอเราถามว่าทำใม Ketut ไม่มา ก็ตอบไม่เคลียร์ ถามซ้ำตั้งนาน ถึงรู้ว่า อ้อ..ภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีนี่เอง อารมณ์ตอนนั้น..เซ็งเป็ดค่ะ
(รู้สึกว่าโดนหลอก เพราะเมลล์ตกลงกันไว้ดิบดีแล้ว เจ็บใจพอๆ กับตอนที่แท็กซี่คันที่มาส่งสุวรรณภูมิทำเป็นลืมกดมิเตอร์แล้วบอกให้จ่ายราคาเหมานั้นแหละ

)

เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว อย่างน้อยคนขับคนนี้ก็ดูเต็มอกเต็มใจบริการดีค่ะ จุดแรกที่เราให้เค้าจอดคือ อนุสาวรีย์รามายณะ เพราะเป็นจุดแรกที่เห็นหลังจากออกจากสนามบินมานิดนึง

ตอนหลังเราได้เห็นอนุสาวรีย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในรามเกียรติ์เยอะแยะไปหมดทั่วบาหลีค่ะ มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อของคนที่นี่
(อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมอันดับหนึ่งของโลก แต่ยกเว้นเกาะบาหลีแห่งนี้ ที่มีคนนับถือศาสนาฮินดูเป็นส่วนใหญ่ค่ะ)

บอกคนขับให้แวะแลกเงินและแวะซื้อซิมโทรศัพท์เอาไว้โทรกลับหาแม่ (อีก 3 วันเป็นวันแม่ แต่หนีแม่มาเที่ยว

)

จากนั้นแวะเติมพลังกันด้วยที่ร้านอาหารจีนร้านดัง Marioboro สั่งเป็ดทอดกรอบราดน้ำซอสไข่เค็มกับผัดผักบุ้ง อร่อยสมกับมีคนแนะนำค่ะ จ่ายไป 150,000 Rp รู้สึกราวกับเป็นเศรษฐินี ฮ่า

อ้อ! เราต้องยืนยันโปรแกรมการท่องเที่ยวของเรากับคนขับคนนี้ใหม่ค่ะ ที่เค้าเสนอมาเป็นสถานที่ขายของพวกเครื่องเงิน ไม้แกะสลัก ผ้าบาติกนี่ เราขอไม่แวะเลย

สถานที่ท่องเที่ยวแรกในบาหลีคือ Pura Uluwatu เป็นวัดที่อยู่บนหน้าผา ติดกับมหาสมุทรอินเดีย

ขับผ่านบริเวณของมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในบาหลีด้วยค่ะ Udayana Universitus เก่าแก่และดูกว้างขวางทีเดียว
มาถึงวัดเอาตอนบ่ายสามโมง แดดร้อนเปรี้ยงเลยค่ะ คนข้างๆ เราเริ่มบ่นเหนื่อยละ เพราะเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน แผนที่ว่าจะนั่งรอดูพระอาทิตย์ตกแล้วก็ดูการแสดง Kejac dance ก็เลยต้องข้ามไป

อ้อ วัดนี้มีลิงจอมขโมยที่ชอบฉกแว่นตา สิ่งของนักท่องเที่ยว ต้องเอาของกินไปไถ่คืนแล้วต้องเสียเงินให้เจ้าของลิง เอ๊ย! คนที่มาช่วยไถ่ของด้วย

แต่เราโชคดีที่ไม่โดน

จากนั้นก็เดินทางขึ้นเหนือไปยังเมือง Ubud ซึ่งเราจะพักกันที่นี่ 2 คืน ระหว่างทางเราผ่านอนุสาวรีย์นายพลงูราไรห์ วีรบรุษของชาวบาหลีในการต่อต้านการครอบครองของชาวดัชช์เมื่อครั้งอดีตค่ะ (เป็นที่มาของชื่อสนามบินนั่นเอง)

ที่พักชื่อ Kunang Kunang guest house แปลว่าหิ่งห้อย..แต่ไม่ยักเจอหิ่งห้อยซักตัว ห้องพักอยู่ติดทุ่งนา เงียบสงบ อากาศปลอดโปร่ง เย็นสบายไม่ต้องเปิดแอร์ค่ะ

มี welcome drink เป็นชาร้อนๆ ให้คุณชายแกได้นั่งจิบชิลล์ ชิลล์

ด้านหลังห้องพัก มีสระว่ายน้ำค่ะ

อีกมุม อยากมีไว้ที่บ้านบ้างจัง

ส่วนภายในห้องพักกับห้องน้ำดูธรรมดาค่ะ การบริการก็เป็นแบบครอบครัว

หมดแล้วค่ะ การเดินทางของวันแรก

แถมท้ายด้วย tips การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปบาหลีของเราค่ะ

1. ติดต่อห้องพักกับเวปของโรงแรมโดยตรง หรือกับ Booking.com

2. ติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับ ค่าใช้จ่ายสำหรับครึ่งวันแรกที่ไปคือ 300,000 Rp เต็มวันคือ 400,000 Rp อัตรานี้รวมค่าจอดรถตามสถานที่ท่องเที่ยวและน้ำมันแล้ว
ตอนแรกเราวางแผนจะขับรถเที่ยวกันเอง แต่มาเปลี่ยนใจเป็นเช่ารถพร้อมคนขับแทน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากค่ะ เพราะถนนในบาหลีแคบมาก มีป้ายบอกทางน้อยมาก หลงทางง่ายมาก อาจเสียอารมณ์ได้

3. จัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า...ต้องไม่ลืมครีมกันแดดดีๆ และแว่นกันแดด ชุดว่ายน้ำด้วยก็ดีค่ะ

4. เครื่องใช้ไฟฟ้าของบ้านเราใช้กับบ้านเค้าได้ แต่ควรเตรียมปลั๊กแบบ universal ไปด้วย เพราะที่อินโดนีเซียรวมทั้งบาหลีใช้ปลั๊กขั้วกลมค่ะ

5. แลกเงินบาทเป็นเงินยูเอสดอลลลาร์ แล้วค่อยเอายูเอสดอลลาร์ไปแลกเงินรูเปียห์ที่โน่น แลกให้พอใช้ในแต่ละวันพอ
อัตราแลกเงินตอนที่เราไป
1 US$ = 30.14 บาท
1 US$ = 8600 รูเปียห์ (Rp)

การคำนวณเงินรูเปียห์กลับมาเป็นเงินบาทง่ายๆ คือ ตัดศูนย์ 3 ตัวหลังออกแล้วคูณด้วย 3.5
เช่น 10,000 รูเปียห์ ตัดศูนย์สามตัวหลังจะได้ 10x3.5 = 35 บาท

6. ถ้าต้องการโทรศัพท์กลับเมืองไทย ให้ซื้อ sim pati ราคา 10,000 Rp มีเงินให้โทรได้ 5,000 Rp ค่าโทรนาทีละ 2 บาท ถูกกว่าใช้ Roaming เยอะค่ะ

7. เตรียมและป้องกัน passport หาย โดยเราถ่ายเอกสารและ print อีก 2 ชุดใส่กระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเงินเผื่อไว้ แถมยัง scan ส่งเข้า e-mail ตัวเองไว้อีกต่างหาก กันเหนียวสุดๆ

ติดตามต่อได้ใน blog หน้าค่ะ

Create Date : 04 กันยายน 2554

Last Update : 5 กันยายน 2554 22:11:13 น.

5 comments

Counter : 2253 Pageviews.

มาชมภาพจากบาหลีด้วยคนค่ะ
ที่พักสวยมาก ชอบวิวริมสระน้ำค่ะ

โดย: diamondsky

วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:16:52:40 น.

รออ่านตอนหน้านะครับ กำลังจะไปเหมือนกัน อีก 2 สัปดาห์ แต่มีเวลาไม่มาก

โดย: Bird Freedom

วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:20:23:29 น.

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หวังว่าเรื่องที่เขียนคงจะมีประโยชน์หรือเป็นแนวทางในการไปเที่ยวบาหลีได้บ้างค่ะ ^^

โดย: After Sunset_Before Sunrise

วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:20:25:42 น.

เข้ามาดูหน้าตาคุ้นมาก ที่แท้พี่ที่คุยกันระหว่างรอเครื่องขากลับที่สนามบินบาหลีนี่เอง สวัสดีนะคะ (น้องผู้หญิงที่ไปดำน้ำ)

โดย: น้องผู้หญิงทีไ่ปดำน้ำ IP: 119.46.55.106 วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:17:51:46 น.

อ๊าววว น้องเองเหรอคะ สวัสดีค่ะ หลังจากกลับมาแล้วมีข่าวว่านักดำน้ำชาวไทยคนหนึ่งหายไปในทะเล ยังคุยกับสามีเลยว่า ไปดำน้ำที่เดียวกันกับน้องรึเปล่า? สบายดีนะคะ ^^

โดย: After Sunset_Before Sunrise

วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:23:40:04 น.