|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
"ทักษิณ"ฟ้อง"ซีเอ็นเอ็น" ผู้มีบารมีขัดขา
วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10543
"ทักษิณ"ฟ้อง"ซีเอ็นเอ็น" ผู้มีบารมีขัดขา
กลับไม่ได้ซื้อบ้านที่อังกฤษ "นพดล"รับจ้างพีอาร์ส่วนตัว
ซีเอ็นเอ็นแพร่บทสัมภาษณ์"ทักษิณ"ฉบับเต็ม ยันถูกกล่าวหาอย่างไร้หลักฐาน ทั้ง"บึ้ม กทม.-คอร์รัปชั่น" โยง"เปรม"อีกผู้บารมีนอก รธน. "สุรยุทธ์"เย้ย"แม้ว"สมัครใจไม่กลับเองมากกว่า ระบุสิงคโปร์ดื้อแพ่งกับคำขอของไทย ถึงต้องตอบโต้"นิตย์"ยังไม่ลดระดับความสัมพันธ์ เผยรู้เรื่อง"แม้ว"จ้างล็อบบี้ยิสต์แล้ว
**ฟ้องซีเอ็นเอ็นโดนขัดขา
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้แพร่ภาพการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการ "ทอล์ค เอเชีย" โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐาน ขณะที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีหลายสมมติฐาน ทั้งปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และมีการสร้างสถานการณ์ให้เชื่อว่าเหตุการณ์ยังไม่ปกติ เช่นเดียวกับข้อกล่าวหาว่าตนคอร์รัปชั่นอย่างมากในไทย ใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่ไร้หลักฐาน เป็นแค่เครื่องมือทางการเมือง
"ผมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่จนถึงขณะนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานใดๆ ที่เป็นรูปธรรมต่อผมได้" พ.ต.ท.ทักษิณระบุ และว่า การเดินทางไปสิงคโปร์เพียงเพื่อเล่นกอล์ฟและพบเพื่อนเก่าบางคนเท่านั้น
ต่อคำถามที่ว่าในเดือนมิถุนายน 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงว่าถูกบ่อนทำลายโดยผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ หมายถึงใคร พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า หมายถึงใครบางคนที่พยายามขัดแข้งขัดขาเพื่อไม่ให้ตนสามารถสั่งการเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานที่ควรต้องทำได้
หมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ไม่อยากระบุชื่อ แต่หมายถึงผู้ที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ในฐานะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นไม่สามารถทำงานได้ เพราะใครบางคนคอยปัดแข้งปัดขาอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงอนาคตของตนเองหากไม่ได้รับอนุญาตให้กลับประเทศไทย ว่า กำลังคิดจะซื้อบ้านที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ถาวร ตนสามารถมีบ้านในหลายประเทศ สามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ ตอนนี้เป็นพลเมืองของโลก และของไทยด้วย
**คมช.ขอหารือนายกฯก่อน"แม้ว"กลับ
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดช่องทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าประเทศไทย ว่า ยังไม่ได้ปรึกษากับนายกรัฐมนตรี
"ตอบไม่ได้ว่านายกรัฐมนตรีพูดไว้อย่างไร ขอไปศึกษาอีกนิดหนึ่ง ผมมองภายในว่าทำอย่างไรถึงจะให้ภายในมีความมั่นคงต้องยึดแนวทางตรงนั้น ส่วนจะอยู่หรือไม่อยู่หรือจะกลับหรือไม่กลับ ต้องพิจารณากันอีกที" พล.อ.สนธิกล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับเข้าประเทศไทย จะเป็นการตัดสินใจของรัฐบาล หรือ คมช. พล.อ.สนธิกล่าวว่า ต้องคุยกันคู่ เพราะเรื่องการตัดสินใจ คมช.จะต้องให้ข้อเสนอแนะ
**"บิ๊กจิ๋ว"พร้อมให้คำปรึกษา
เมื่อถามว่า ได้พบกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างงานเลี้ยงได้ปรับความเข้าใจอะไรหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ปกติแล้วไม่มีอะไรขัดแย้งกับท่าน เมื่อคืน (19 มกราคม) ท่านก็บอกว่ากองทัพบกมีอะไรที่จะขอคำปรึกษาก็เชิญ ก็ไม่มีปัญหา เมื่อคืนได้คุยกันทุกคน ทั้งอดีตรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงพี่ธรรมรักษ์ (พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม)
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะขอคำปรึกษาหรือเชิญ พล.อ.ชวลิต ในการแก้ไขปัญหาความยากจน พล.อ.สนธิกล่าวว่า ต้องปรึกษาในทุกเรื่อง เพราะท่านมีความเชี่ยวชาญหลายเรื่องอยู่แล้ว ซึ่งท่านก็พร้อมที่จะรับเป็นที่ปรึกษาของเราภายในอยู่แล้ว
**"สุรยุทธ์"ขอคุยหมด""คมช.-แม้ว"
เวลา 11.30 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสายตรงทำเนียบ ถึงการเดินทางกลับเข้าประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ต้องมีการหารือกันก่อนว่ากลับมาแล้วจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรกับ คมช. รัฐบาล รวมทั้งตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวให้เห็นพ้องต้องกันกับทุกฝ่าย และเมื่อได้ข้อยุติก็จะดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่า รัฐบาลกำลังวิ่งตามการเล่นเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณมากกกว่าการทำงานของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้โฟกัสไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณมากนัก แต่โฟกัสไปที่การสร้างสมานฉันท์ให้บ้านเมือง ซึ่งการเจรจาด้วยสันติวิธีสามารถทำได้และแก้ปัญหาทุกอย่างได้ รัฐบาลยึดแนวทางนี้มาตลอด เหลี่ยมจัด - ป้ายโฆษณาภาพยนตร์เรื่องหนึ่งถูกนำมาติดไปทั่วกรุงเทพฯ ฉวยจังหวัดที่สถานการณ์การเมืองกำลังคุกรุ่น มาเรียกร้องความสนใจจากผู้สัญจรไปมาก่อนนำออกฉาย
**แฉสิงคโปร์ดื้อแพ่งกับคำขอไทย
เมื่อถามว่า มาตรการทางการทูตที่ตอบโต้สิงคโปร์จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะเป็นเรื่องทางการทูต เมื่อทางสิงคโปร์แจ้งให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้รับทราบว่าจะมีการพบปะกันของ พ.ต.ท.ทักษิณ และรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ถึงแม้จะไม่เป็นทางการเราก็มีความกังวล ก็ได้แจ้งกลับไปเป็นการแสดงท่าทีทางการทูตเพื่อพูดตรงๆ ว่า อย่าดำเนินการเลย นอกจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็พบกันที่ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ยังพูดอีกครั้งหนึ่ง แต่ทางสิงคโปร์ไม่ได้ฟังและรับไปพิจารณาทบทวนในคำขอของเรา แล้วดำเนินการตามจุดยืนเดิม เราจึงจำเป็นต้องตอบโต้ทางการทูต ในเมื่อสิงคโปร์ไม่ได้รับพิจารณาละเลยว่าเรามีความห่วงใย เราก็ต้องพิจารณา
**ระบุเป็นเรื่องปท.-ไม่ใช่เด็กทะเลาะกัน
เมื่อถามว่า เหมือนเป็นเรื่องของเด็กสองคนทะเลาะกันแล้วไปบอกอีกคนหนึ่งว่าไม่ให้ไปคบกับคนคนนี้ รัฐบาลจะทำความเข้าใจกับต่างชาติอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ในเมื่อฝ่ายหนึ่งอยู่ในฐานะตัวแทนและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่มีปัญหาการเมืองในประเทศตัวเอง แล้วยังปล่อยให้เข้าพบ เป็นลักษณะการแสดงออกที่มองความสัมพันธ์ของเราเป็นรองกว่าเรื่องที่จะเข้าพบ ก็ต้องพิจารณาเช่นเดียวกัน และคงไม่ใช่เรื่องของเด็กสองคนทะเลาะกัน แต่เป็นปัญหาการเมืองภายในประเทศของเราเอง และก็ไม่ได้บอกว่าอย่าไปคบคนคนนั้น
**ชี้"แม้ว"สมัครใจไม่กลับไทยเอง
เมื่อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเรื่องของลี้ภัยทางการเมือง จะมีปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาอะไรกับตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนสมัครใจที่จะยังไม่กลับเข้าประเทศไทยเอง ยังไม่ได้ไปตั้งว่าเป็นผู้กระทำความผิดทางการเมือง แต่สิ่งที่รอขณะนี้คือการดำเนินการตามกฎหมายที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนอยู่
**"นิตย์"ไม่ลดระดับสัมพันธ์ทูตสิงคโปร์
นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกรณีสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทยโทรสารระบุถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ หลังการพบกันของนายปีเตอร์ ชาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย กับนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับตน แต่เมื่อมีข้อขัดแย้งหรือสะดุดในความสัมพันธ์ปกติระหว่างกัน ก็จำเป็นที่จะต้องแสดงออกบางอย่างเท่านั้น แต่ก็ต้องแสดงออกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยรับไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นการให้การรับรองเป็นนัยต่อกลุ่มอื่นหรือบุคคลที่คิดว่าจะเป็นคู่แข่งขันกับรัฐบาลไทย สิ่งนี้มักจะไม่ทำกัน แต่ข่าวที่ว่ารองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดบ้านพักส่วนตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณให้เป็นสถานที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศนั้นตนไม่ทราบ
นายนิตย์กล่าวว่า อยากให้เรื่องนี้ยุติแค่นี้ เพราะเราก็อยู่ด้วยกัน เรื่องมาตรการตอบโต้ต่างๆ ในเบื้องต้นก็ยุติเท่านี้ก่อน แต่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเป็นระยะๆ ไป เพราะแม้กระทั่งคนในประเทศสิงคโปร์ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ในลักษณะที่ว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นในทำนองนี้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องลดความสัมพันธ์ทางการทูตลง เพราะเท่าที่ได้ดำเนินการไปถือว่าเพียงพอและเหมาะสมแล้ว และหวังว่าสักวันหนึ่งจะต้องกลับมารื้อฟื้นเรื่องความสัมพันธ์นี้ได้
**รู้เรื่อง"แม้ว"จ้างล็อบบี้ยิสต์มา3ด.
ผู้สื่อข่าวถามกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ว่าจ้างบริษัท บาร์บูร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ แอลแอลซี (บีจีอาร์) ซึ่งเป็นบริษัทล็อบบี้ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ให้ดำเนินการขอความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ นายนิตย์กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมา 2-3 เดือนแล้ว ทางกระทรวงการต่างประเทศก็รับทราบเป็นข้อมูลไว้หารือกับส่วนอื่นๆ ต่อไป ถือเป็นสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะไปว่าจ้างบริษัทเหล่านี้ แต่ประเด็นขึ้นอยู่กับว่าเมื่อว่าจ้างแล้วจะมีการใช้สื่อหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือผู้ที่เป็นล็อบบี้ยิสต์หรือองค์กรประชาสัมพันธ์อื่นๆ ไปในทางไหน คงต้องเฝ้ามองกัน ส่วนข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำเรื่องขอลี้ภัยในประเทศต่างๆ โดยมีหลายประเทศให้การตอบรับแล้วนั้น ยังไม่เห็นข้อมูลในเรื่องนี้ แต่การลี้ภัยต้องมีเหตุผลหลายอย่างประกอบกัน ตนยังไม่เห็นว่าเวลานี้มีเหตุผลประการใด
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณในประเทศญี่ปุ่น นายนิตย์กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าใจถึงความรู้สึกของไทยดี และคงไม่ทำอะไรให้เกิดความระคายเคืองความรู้สึกของประเทศไทย
**"อารีย์"ปัดหารือทูตสิงคโปร์ฟื้นสัมพันธ์
นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเข้าพบของ นายปีเตอร์ ชาน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ หรือขอให้สิงคโปร์ปรับท่าทีต่างๆ ต่อไทย เพราะตนไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงการเข้าพบของเอกอัครราชทูตสิงคโปร์แล้วว่าเป็นการมาเยือนตามปกติของการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และพูดคุยกันในฐานะที่รู้จักกันมาก่อน มาตรการระหว่างประเทศที่ดำเนินการอยู่เป็นเรื่องของระบบ แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์ยังคงอยู่ เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ไม่ได้สะท้อนอะไรเป็นพิเศษ และตนคิดว่าคงมีความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ดี
**กลาโหมจวกสิงคโปร์เห็นแก่เงิน
พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวการเปิดบ้านพักของรองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้ในการแถลงข่าวกับสื่อต่างประเทศจริงหรือไม่ และคิดว่าสิงคโปร์ต้องยอมรับว่าได้ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมไป และคงจะมีการแก้ไข อย่างญี่ปุ่นเองก็ยังมีการปรับตัว ดังนั้นสิงคโปร์เองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน
"ไม่อยากให้ความขัดแย้งในเรื่องนี้มันขยายไป เพราะเรามีความสัมพันธ์กันมานาน และเพิ่งมามีนโยบายต่อกัน ตอนนี้อาจจะคิดเรื่องเงินและเศรษฐกิจมากไปหน่อย โดยสิงคโปร์คิดถึงเรื่องเงินเป็นอันดับแรก อย่างอื่นเป็นเรื่องรอง มันก็เลยทำให้เกิดเหตุเช่นนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นบทเรียนของสิงคโปร์แล้ว" พล.อ.บุญรอดกล่าว
**คมช.ชี้"แม้ว"ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งบอบช้ำ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปญี่ปุ่นโดยจะเข้าพบนักธุรกิจชั้นนำในญี่ปุ่นและเตรียมกล่าวสุนทรพจน์ในที่สาธารณะว่า ถือเป็นดุลพินิจของแต่ละประเทศที่มีสิทธิที่จะทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักการทางการทูตแต่ละประเทศจะต้องคำนึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่าตัวบุคคล คมช.ไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเคลื่อนไหวในต่างประเทศ และเชื่อว่าจะไม่ไม่การเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณไปบรรยาย เพราะเขารู้ว่าหากทำแล้วอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณไปบรรยายเรื่องอะไรก็ตาม
"คมช.ไม่ได้กังวลเรื่องความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเชื่อว่าท่านคงไม่ดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะยิ่งทำไป ตัวท่านทักษิณจะยิ่งบอบช้ำไปมากกว่านี้ และเราก็ไม่ได้ไปห้าม พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไปประเทศใด เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพของท่านที่จะเดินทางไปประเทศใดก็ได้ คมช.มีหน้าที่เพียงดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเท่านั้น" โฆษกคมช.กล่าว
**ย้ำ"แม้ว"กลับต้องติดต่อคมช.ก่อน
พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า คมช.ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณเรื่องที่กำลังเร่งรีบอยู่ คือ พยายามเร่งร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็วเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ขณะนี้ไม่มีการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้นระหว่าง คมช.กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้ติดต่อมาทาง คมช.ว่า ต้องการกลับประเทศแต่อย่างใด ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณต้องการจะกลับต้องคิดต่อมาทาง คมช.ก่อน จากนั้น คมช.กับรัฐบาลจึงจะมีหารือกัน
เมื่อถามถึงม็อบต่างๆ ที่เตรียมจะเเข้ามาคลื่อนไหวในกรุงเทพฯในช่วง 1-2 เดือน พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า เรื่องนี้ คมช.พยายามหาทางแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขณะนี้ได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาคเกาะติดพื้นที่ เกาะติดชุมชน รวมถึงเข้าไปทำความเข้าใจกับกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน หากมีเรื่องอะไร กอ.รมน.ภาคจะประสานมายังกอ.รมน.เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่อไป
** สิงคโปร์ยืนยันเป็นมิตรทุกฝ่าย
วันเดียวกันเอเอฟพีรายงานว่า นายจอร์จ เยียว รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ ออกมายอมรับว่านายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้แจ้งให้เขาทราบถึงความห่วงกังวลของไทยเกี่ยวกับการพบกันระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายเอส. จายากุมาร รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่เมืองเซบู ฟิลิปปินส์ จริงอย่างน้อย 2-3 ครั้ง
โดยกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายเยียวแจ้งกับรัฐมนตรีต่างประเทศไทยว่า เข้าใจความห่วงกังวลของทางการไทย แต่ก็ได้ขอให้นายนิตย์เข้าใจสถานะของสิงคโปร์เช่นกัน พร้อมกันนี้ เขายังได้รับประกันกับนายนิตย์ว่า การพบกันของทั้งสองคนเป็นเรื่องทางสังคมและเรื่องส่วนตัวอย่างแท้จริง
ในแถลงการณ์ กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ย้ำว่า สิงคโปร์ไม่ได้ตั้งใจที่จะกระทำการในสิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศ นโยบายต่างประเทศของสิงคโปร์คือเป็นมิตรกับทุกฝ่าย รวมถึงไทย และไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ทวิภาคี
"ขณะเดียวกัน นโยบายของเราคือการรักษาไมตรีตามมารยาทปกติที่พึงมีกับอดีตผู้นำต่างๆ อดีตผู้นำหลายคนไปมาหาสู่กับสิงคโปร์ และไม่เคยมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น" แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
**"นพดล"ชี้"แม้ว"กลับต้องไม่ถูกขัง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีโอกาสจะกลับประเทศไทยได้ แต่ต้องหารือถึงเงื่อนไข ว่า ขอขอบคุณในความปรารถนาดีของ พล.อ.สุรยุทธ์ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณจะคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก ส่วนเงื่อนไขที่ พล.อ.สุรยุทธ์ขอให้เป็นเงื่อนไขที่เป็นไปตามกฎหมาย หากพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาขอปฏิบัติเยี่ยงคนไทยคนหนึ่ง และให้เป็นไปตามหลักกฎหมายที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่กลับมาแล้วถูกจับขังไว้ที่บ้าน
"ขอย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เคลื่อนไหวใด" ในต่างประเทศ แม้แต่การให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศถึงจะมีติดต่อเข้ามามาก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณจะให้สัมภาษณ์เท่าที่จำเป็น และจะไม่พูดคุยถึงเรื่องการเมืองในประเทศไทย จะพูดถึงแต่สิ่งที่เป็นด้านบวกเพราะท่านก็รักประเทศไทย จึงขอให้ คมช.สบายใจได้ สำหรับกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ที่บอกว่าอยากพบปะพุดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น หากอยากพบจริง ท่านก็ยินดีไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ ผู้ใหญ่จะได้พูดคุยกันเพื่อสร้างบรรยากาศความสมานฉันท์ ประชาชนจะได้สบายใจ" นายนพดลกล่าว
**หลุดปากเตรียมจ้างปชส.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพบปะพูดคุยกับคนบริษัทบาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส บริษัทล็อบบี้ชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกาจริง แต่พบกันในฐานะเพื่อนเก่าและปรึกษากันเรื่องงานประชาสัมพันธ์และเตรียมว่าจ้างเกี่ยวกับงานส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้บริษัทนี้คุ้นเคยกับหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทยเป็นอย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
**ทรท.อัดรบ.ปลุกกระแสชาตินิยม
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดีมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งอาเซียนและนานาประเทศทั่วโลกและเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง จึงอยากจะเห็นรัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาวเป็นหลัก การจะมุ่งแก้ปัญหาใด ปัญหาหนึ่ง โดยใช้มาตรการที่จะไปกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศควรต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการนำเรื่องที่ยังไม่มีความชัดเจนมาเชื่อมโยงกันแล้วทำให้เกิดความรู้สึกไปในทางชาตินิยมหรือคับแคบเกินไปจนไม่เห็นความสำคัญของมิตรประเทศ ควรต้องระมัดระวังอย่างมาก สังคมไทยจะต้องได้รับการแนะนำให้มีการตั้งสติ ใช้สติปัญญา ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะในการคิดถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศไม่ควรจะมีความรักชาติโดยชาตินิยม
Create Date : 21 มกราคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2550 20:30:26 น. |
Counter : 396 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|