Versus Arena Vol.2 FUJI S2000HD VS Panasonic FZ28
Versus Arena สังเวียนกล้องดิจิตอล by Jonaja Free TextEditorFuji FinePix S2000HD VS FZ28 Panasonic Lumix ตลาดกล้องดิจิตอลในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ ได้มีกล้องชนิดใหม่ประเภทหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นในตลาด เป็นการพัฒนาจากกล้องคอมแพคชนิดโปรซูมเมอร์ ( Prosumer ) ที่สามารถปรับแต่งการถ่ายภาพได้หลากหลายกว่ากล้องคอมแพคทั่วไป แต่พัฒนาความสามารถทางด้านเลนส์ให้มีกำลังซูมที่สูงขึ้น และออกแบบการใช้งานให้สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้สะดวกเหมือน DSLR จนมีบริษัทกล้องแห่งหนึ่งนิยามชื่อให้กับกล้องประเภทนี้ว่า DSLR Like ซึ่งความหมายก็คือ กล้องที่ใกล้เคียง DSLR ( ทางรูปทรง ) แต่ก็ยังมีความแตกต่างทางด้านประสิทธิภาพต่างๆ เช่น ความเร็วในการจับโฟกัสที่ยังช้ากว่าเหมือนกล้องคอมแพคทั่วไป และเซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่ามาก จนชื่อ DSLR Like เป็นที่ใช้เรียกกันติดปากในหมู่ผู้ใช้งานทั่วไป แต่จะนับว่าเป็นคำแสลงก็ได้ เพราะในการจัดหมวดหมู่กล้องดิจิตอลอย่างเป็นทางการนั้น จะไม่มีการใช้ชื่อ DSLR Like แต่จะจัดกล้องประเภทนี้ไว้ในกลุ่มกล้องคอมแพค ( ตามลักษณะการทำงานของกล้อง ) ซึ่งก็จะนับว่าเป็นระดับ Top สุดในประเภทกล้องคอมแพค โดยกล้องประเภทนี้นั้น เคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงหนึ่งที่ DSLR ยังมีราคาสูง โดยจะได้ส่วนกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการกล้องดิจิตอลสมรรถนะสูง ทั้งการปรับตั้งค่าได้หลากหลาย และมีเลนส์ที่ครอบคลุมการใช้งานถ่ายภาพได้ทุกประเภท แต่ไม่ต้องการเปลี่ยนเลนส์ให้ยุ่งยากเหมือน DSLR และอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มผู้ที่ต้องการใช้งาน DSLR แต่อาจจะมีงบประมาณไม่เพียงพอ จึงหันมาใช้งานกล้องประเภทนี้ เพราะมีการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน และยังได้อารมณ์คล้ายกับการใช้ DSLR ( ประมาณว่าใช้แก้ขัดไปก่อนนั่นแหละ ) แต่เมื่อตลาดกล้องมีการเปลี่ยนแปลง DSLR มีราคาถูกลงจนใครๆก็สามารถซื้อหามาใช้ได้เป็นกล้องประจำบ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มช่างภาพหรือนักถ่ายภาพสมัครเล่นที่มีฐานะเหมือนสมัยก่อน กล้องประเภทนี้จึงได้รับความนิยมน้อยลง เพราะด้วยงบประมาณหมื่นปลายๆที่ใช้ซื้อคอมแพค DSLR Like ในสมัยก่อน ตอนนี้สามารถซื้อกล้อง DSLR แท้ๆพร้อมเลนส์คิทได้แล้ว จึงเหลือเพียงกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่ชอบความยุ่งยากของ DSLR และต้องการกล้องที่จบได้ในตัวเดียว ที่ยังมีความนิยมใช้งานกล้องประเภทนี้อยู่ สำหรับ Fujifilm นั้นถือได้ว่าเป็นเจ้าแห่งตลาดคอมแพคประเภทนี้ก็ว่าได้ เพราะมีกล้องทำตลาดอยู่มากรุ่นที่สุด ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดอย่าง S5800 ไปจนถึงรุ่นใหญ่สุดสำหรับคอมแพค DSLR Like อย่าง S100FS ซึ่งถือว่าเป็นตัว Top ด้วยการบรรจุเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย และราคาที่สูงกว่า DSLR รุ่นเล็กๆบางรุ่นเสียอีก ถึงแม้ว่าความนิยมในกล้องประเภทนี้จะลดลงไปแต่ทางฟูจิก็ยังคงออกกล้องมารองรับในตลาดนี้อยู่ไม่ได้ขาด ต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆที่หยุดการทำตลาดกล้องคอมแพค DSLR Like รุ่นใหญ่ไปแล้ว โดยทางพานาโซนิคได้หยุดอยู่ที่รุ่น FZ50 เหมือนกับทางโซนี่ที่ทิ้งทวนไว้ให้ผู้คนจดจำด้วย Cybershot R1 โดยค่ายต่างๆเหล่านีได้หันมาทำตลาด DSLR Like รุ่นเล็ก ราคาประหยัด ที่มีกลุ่มผู้ใช้กว้างกว่าแทนรายละเอียดทั่วไป ( General Details ) Fujifilm Finepix S2000HD นับว่าเป็นกล้องรุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของฟูจิในตอนนี้ จากราคาเปิดตัวเพียงหมื่นต้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆที่กล้องสมัยนี้ควรจะมี ตัวกล้องมีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกใส่ในกระเป๋าเป้ติดตัวไปได้อย่างสะดวก หรือหากใช้กระเป๋ากล้องโดยเฉพาะก็เหมาะกับกระเป๋ากล้องใบเล็กๆ ที่สามารถสะพายไปเที่ยวถ่ายภาพเล่นในวันพักผ่อนได้เป็นอย่างดี แต่คงไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบไปไหนมาไหนตัวเปล่า เพราะอย่างน้อยๆคุณก็ต้องมีกระเป๋าซักใบจึงจะสามารถพา S2000HD ไปกับคุณได้ เรื่องการออกแบบถือว่าทำได้ดูดีไม่ขี้เหร่ การออกแบบดูลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อย่าง S1000FD ที่ดูเหมือนกับว่าทีมออกแบบยังทำงานไม่เสร็จแล้วฝ่ายผลิตกลับแอบไปขโมยแบบมาทำขายซะก่อน โดยส่วนกริปมือจับดูลงตัวกับบอดี้มากขึ้น การจัดวางปุ่มด้านหลังดูเรียบร้อยไม่วุ่นวาย สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และมีการเน้นสีในปุ่มที่สำคัญอย่างปุ่มเล่นภาพและปุ่มลบภาพ ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดี เพราะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานใหม่ๆเกิดการจดจำได้ง่าย บริเวณขอบกระบอกเลนส์เป็นสีเงินมันวาวดูสะดุดตาและทำให้กล้องดูมีราคาขึ้น สิ่งที่ผมชอบอย่างนึงในกล้องตัวนี้คือ font คำว่า S2000HD ที่ติดอยู่ส่วนบนของแฟลชป๊อบอัพนี่แหละ มีการดีไซน์ได้ทันสมัยดีมาก โดยเฉพาะกับการเน้นกับคำว่า HD ในส่วนท้าย ซึ่งจริงๆแล้วก็คือการนำโลโก้สากลของ HD มาใช้นั่นแหละครับ มาวางต่อกับชื่อรุ่น ทำให้กล้องดูทันสมัย เป็นการเน้นจุดขายว่าสามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ HD ถึงแม้ว่าตัวกล้องจะมีสีดำล้วน ดูเคร่งขรึมน่าจะเหมาะกับผู้ชาย แต่ถ้าผมแปลงเพศเป็นสาวเต็มตัวผมก็อาจจะยังชอบกล้องตัวนี้อยู่ก็ได้ เพราะดูแล้วมันเหมือนกับการนำเอา DSLR มาย่อส่วน ทำให้ดูเหมือนพวกโมเดลน่ารักๆอยู่เหมือนกัน คล้ายๆกับพวกหุ่นกันดั้ม SD สมัยก่อนนั่นแหละครับ ( ขออภัยหากบทความนี้ฟ้องอายุของผู้เขียน )วัดกันที่สเปค Specifications Compare กล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ ต่างก็มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้งคู่ แต่สิ่งที่ต่างกันคือเซ็นเซอร์ที่ใช้ โดยทางฟูจิจะใช้ CCD ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนกับ CCD ของกล้องยี่ห้ออื่นที่ใช้กันทั่วไปในตลาด ซึ่งฟูจิภูมิใจเรียก CCD ชนิดนี้ว่า SUPER CCD โดยมีการออกแบบเซลล์รับแสงมีลักษณะแปดเหลี่ยมเรียงตัวกันคล้ายรังผึ้ง โดยให้เหตุผลว่าเป็นการลดช่องว่างระหว่างเซลล์รับแสงแต่ละตัว ส่งผลให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงและสัญญาณรบกวนต่ำ โดยในตลาดตอนนี้ ฟูจิจะแบ่ง SUPER CCD ออกเป็น 2 ประเภท คือ HR ( High Resolution ) กับ SR ( super dynamic range ) และในอนาคตกำลังเตรียมออกใหม่อีก 1 ประเภท ใช้ชื่อว่า EXR ใน S2000HD นั้นใช้ SUPER CCD HR ซึ่งได้พัฒนามาเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว ( SUPER CCD HR V ) และมีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่าของ FZ28 อยู่เล็กน้อยเพียง 0.03 นิ้ว ซึ่งความต่างเพียงแค่นี้ ไม่น่าส่งผลต่อคุณภาพมากนัก งานนี้ความต่างทางด้านคุณภาพ ระบบประมวลผลน่าจะมีผลมากกว่า สำหรับเลนส์ที่ใช้ติดกล้องนั้น S2000HD ใช้เลนส์ Fujinon ที่เป็นของทางฟูจิพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ค่ายที่สามารถผลิตได้เองทั้งเซ็นเซอร์และเลนส์ โดย S2000HD มาพร้อมกับช่วงเลนส์ 28 x 414 มม. รูรับแสงกว้างสุดที่ F 3.5 -5.4 ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานในปัจจุบันสำหรับการเริ่มต้นช่วงมุมกว้างที่ระยะ 28 มม. ระยะเลนส์ที่ให้มานับว่าครอบคลุมการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การถ่ายวิวทิวทัศน์ที่ต้องการช่วงมุมกว้างๆเพื่อเก็บบรรยากาศที่สวยงาม ไปจนถึงการถ่ายภาพจากระยะไกลเช่นการถ่ายคอนเสิร์ต หรือแอบถ่ายสาวข้างบ้าน (อันนี้ไม่ดีนะครับ) เพียงแต่ว่ารูรับแสงอาจจะดูแคบไปสักหน่อย ถ้าให้เริ่มต้นได้ที่ F 2.8 คงจะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเป็นเลนส์ที่น่าใช้งานในระดับนึง แต่ทว่า เหนือฟ้าก็ย่อมมีฟ้า เลนส์ Fujinon ใน S2000HD อาจจะดูช่วงเลนส์ว่าน่าใช้แล้ว แต่เมื่อมาเทียบกับเลนส์ของทาง FZ28 ก็ต้องบอกว่าเหนือชั้นน่าใช้มากขึ้นไปอีก ทั้งจากชาติตระกูลที่ดูดี พะยี่ห้อ Leica ไว้ เปรียบเหมือนกับชายหนุ่มหน้าตาดีมีการศึกษาแล้วยังเสริมด้วยนามสกุลดังเข้าไปอีก จากช่วงเลนส์ที่ครอบคลุมกว่าที่ 27 486 มม. เหนือกว่าทั้งช่วงไวด์และช่วงเทเล แต่ช่วงไวด์นั้น เหมือนจะทำมาเพื่อข่มเพียงเท่านั้น เพราะระยะ 27 กับ 28 มม. นั้น แทบไม่มีความต่างอะไรเลยในการใช้งานจริง ทั้งจากตัวแปรที่เลนส์แต่ละตัวต่างยี่ห้อนั้น ระยะเดียวกันยังไม่เท่ากันด้วยซ้ำไป ดังนั้นระยะ 27 มม. ของ FZ28 จึงถือว่าได้เปรียบแค่ในกระดาษสเปคเท่านั้น แต่ของจริงเค้าอยู่ตรงที่ช่วงเทเลครับ ซึ่งสามารถซูมได้ไกลกว่าทางด้าน S2000HD อยู่พอตัว น่าจะพอสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ได้บ้าง แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ระยะที่ยิ่งซูมไกลมากเท่าใดนั้นก็ยิ่งส่งผลต่อความเบลอของภาพอันเกิดจากการสั่นของมือได้ แต่ก็ยังได้เปรียบนิดหน่อยที่เลนส์ยังมีความไวแสงกว่า โดยรูรับแสงกว้างสุดเริ่มต้นที่ F 2.8 4.4 ช่วยให้ได้ความไวชัตเตอร์ที่เร็วขึ้นเล็กน้อย แต่การถ่ายภาพที่ระยะไกลด้วยช่วงเลนส์ถึงระดับสี่ร้อยกว่ามิลลิเมตรนี้ ถ้าไม่ได้ถ่ายกลางแจ้งหรือในที่ๆมีแสงสว่างมากเพียงพอหรือใช้ขาตั้งแล้ว โอกาสที่จะได้ภาพที่ดีไม่สั่นไม่เบลอนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ง่ายๆอยู่เหมือนกัน ความไวชัตเตอร์ของ S2000HD ให้มาเพียงพอต่อการถ่ายภาพไฟกลางคืนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นแสงสีด้วยการเปิดรูรับแสงนานๆนั้นอาจจะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง เพราะสามารถใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำสุดได้เพียง 8 วินาทีเท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยไปนิด แต่ก็เพียงพอต่อการถ่ายรถที่วิ่งพลุกพล่านในถนนให้เห็นแสงไฟเป็นทางยาวสวยงามได้ แต่คุณอาจจะต้องเลือกถนนที่มีรถเยอะซักหน่อย เช่น ถนนราชดำเนิน หรืออนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในขณะที่ความไวชัตเตอร์สูงสุดอยู่ที่ 1/1000 วินาที ซึ่งดูว่าน้อยมากๆเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นอื่นๆ แต่ต้องลองย้อนถามกันสักนิดนึงว่า มีโอกาสซักกี่ครั้งที่เราจะได้ใช้ความไวชัตเตอร์เกิน 1/1000 วินาที ซึ่งทางฟูจิอาจจะมองเห็นถึงความต้องการในการใช้งานจริง จึงจำกัดสเปคมาให้เพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ก็ต้องยอมรับว่า เมื่อตัวเลขนี้อยู่บนตารางเปรียบเทียบสเปคแล้ว มันก็ดูด้อยๆกว่าชาวบ้านเค้าอยู่เหมือนกันนะ และก็แน่นอนว่า FZ28 สามารถทำได้เหนือกว่าอีกแล้วด้วยความไวชัตเตอร์ต่ำสุด 60 วินาที และสูงสุดที่ 1/2000 วินาที ซึ่งความไวชัตเตอร์ระดับ 60 วินาทีนี้ ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายในยามค่ำคืนได้ง่ายและหลากหลายกว่า โดยใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง แม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่มีแสงน้อย หรือภาพที่ต้องการเปิดรับแสงนานเป็นพิเศษอย่างการถ่ายท้องฟ้า สำหรับคนที่ชอบถ่ายไฟกลางคืนเน้นแสงสีหรือธรรมชาติยามค่ำคืนน่าจะชอบข้อดีตรงส่วนนี้ ส่วนความไวชัตเตอร์สูงสุดก็เป็นไปตามมาตรฐานของกล้องระดับนี้ที่ 1/2000 วินาที ฟังดูเยอะกว่า S2000HD ถึงเท่าตัว แต่ก็ไม่ได้นับว่าเหนือกว่ากันมากในการใช้งานทั่วไป โดยข้อดีที่เหนือกว่าตรงนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพแอคชั่นกลางแจ้ง เช่นการถ่ายนกนางนวลที่บางปูในวันที่แดดจัดมากๆ โดยความไวชัตเตอร์ที่สูงมากๆนั้นจะช่วยให้นกที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหยุดนิ่งราวกับถูกสตาฟเอาไว้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะแพนกล้องตามมันทันรึเปล่าด้วยนะ ระบบวัดแสงในตัวกล้องนั้น ทั้ง 2 รุ่นถือว่าเสมอภาคต่อกัน มีระบบวัดแสงที่จำเป็นต่อการใช้งานมาให้ 3 แบบเหมือนกัน คือ ระบบวัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ เหมาะกับการถ่ายภาพที่สภาพแสงมีความใกล้เคียงกันทั้งภาพ เช่นทิวทัศน์ยามเย็นหรือในห้องที่เปิดไฟสว่างทั้งห้อง ระบบวัดแสงแบบเฉลี่ยหนักกลาง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่เน้นบริเวณส่วนกลางของภาพ เช่นการถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุที่อยู่ตรงกลางภาพ และระบบวัดแสงเฉพาะจุด สำหรับภาพที่มีสภาพแสงที่ซับซ้อน เช่นต้องการถ่ายคนในห้องที่มีแสงลอดเข้ามา หากใช้วัดแสงแบบอื่น ส่วนที่เป็นเงามืดก็จะสว่างเกินไปไม่เป็นสีดำสนิทและส่วนที่ได้รับแสงก็จะสว่างจ้าจนเสียรายละเอียดไป โดยการวัดแสงแบบเฉพาะจุดนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน ต้องใช้ความแม่นยำในการเลือกจุดที่ต้องให้ค่าแสงพอดี ในกรณีนี้ต้องวัดแสงที่บริเวณส่วนที่โดนแสงลอดเข้ามา เพื่อให้บริเวณนั้นได้รับแสงพอดี และส่วนที่เป็นเงาก็จะมืดสนิทจริงๆ ซึ่งถ้าเป็นใน DSLR ผู้ใช้โหมดนี้จะต้องมีความชำนาญและประสบการณ์มากพอสมควร แต่ในกล้องคอมแพคที่จอสามารถแสดงผลแบบ Live View ได้อยู่แล้วนั้น ถือเป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามาก เพียงแค่นำจุดกลางภาพซึ่งเป็นส่วนที่ใช้วัดแสงเลื่อนไปเรื่อยๆในบริเวณที่ต้องการวัดแสงในภาพและกดชัตเตอร์ลงครึ่งนึงเพื่อวัดแสง จอภาพก็จะแสดงสภาพแสงให้เห็นว่าถ้าเราวัดแสงที่บริเวณนี้ภาพจะออกมาเป็นอย่างไร สำหรับคนที่ใช้กล้องคอมแพคเป็นทางผ่านเพื่อจะไปสู่ DSLR ในอนาคตจึงสามารถฝึกฝนและเรียนรู้การวัดแสงแบบเฉพาะจุดได้อย่างไม่ยาก ด้านความเร็วในการถ่ายภาพ S2000HD ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ โดยสามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 1.4 ภาพต่อวินาที สูงสุด 3 ภาพเพียงเท่านั้น ดังนั้นในการถ่ายภาพแอคชั่นจึงควรกะจังหวะให้พอดี เพราะไม่สามารถคาดหวังว่าจะได้ภาพมาเลือกมากนักจากการถ่ายรัวเป็นชุด ขณะที่ FZ28 นั้นทำได้ดีกว่านิดหน่อย สามารถถ่ายด้วยความเร็ว 2.5 ภาพต่อวินาที สูงสุดที่ 5 ภาพ และเมื่อถ่ายจนครบตามที่จำกัดไว้ ก็จะต้องรออีกชั่วครู่หนึ่ง ในระหว่างนี้กล้องจะไม่สามารถใช้งานอะไรได้ เพื่อให้กล้องเขียนข้อมูลลงการ์ดจนเสร็จเสียก่อน จึงจะสามารถถ่ายภาพต่อไปได้ การถ่ายวิดีโอของ S2000HD สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดระดับ HD ( High Defination ) อันเป็นที่มาของชื่อรุ่นที่มี HD ต่อท้าย ( คงไม่มีใครคิดว่าหมายถึงใช้หน่วยความจำแบบฮาร์ดดิสนะครับ ) ความละเอียดสูงสุดที่ 1280 x 720 สามารถนำไปเปิดกับจอ LCD ขนาด 22 นิ้วได้อย่างสบาย ซึ่งขณะนี้กำลังเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ของความละเอียดวิดีโอในปัจจุบัน แต่ก็ต้องแลกมากับการใช้เนื้อที่ที่สูงมากกว่าคลิปวิดีโอธรรมดา ถ้าต้องการถ่ายวิดีโออย่างเป็นเรื่องเป็นราวควรหา SDHC ความละเอียดสูงๆมาใช้เพิ่มอีกซักตัวครับ แต่หากใครที่ต้องการถ่ายคลิปเล่นๆเอาไว้ดูสนุกๆก็สามารถเลือกความละเอียดที่ต่ำลงมาได้ เพื่อไม่ให้กินเนื้อที่มากจนเกินไป ส่วน FZ28 นั้นก็สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ HD ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่ยกมานำเป็นจุดขายเหมือนทางฟูจิเท่านั้นเอง และดูเหมือนมาตรฐานทางวิดีโอนี้ จะถูกบรรจุไว้ใน Lumix รุ่นใหม่ๆทุกรุ่นอีกด้วย ( ก็บริษัทเค้าผลิตทีวีด้วยนี่ครับ เลยต้องทำอะไรๆให้ออกมารองรับกันหน่อย ) ในโหมดการถ่ายวิดีโอนี้ FZ28 จะมีความละเอียดให้เลือกมากกว่า โดยมีความละเอียด 848 x 480 เพิ่มขึ้นมาให้เลือกใช้อีก 1 ขนาด ซึ่งเป็นสัดส่วนแบบ Wide Screeen อีก 1 ขนาดให้เลือกใช้ Fujifilm นั้นอาจจะมีเทคโนโลยีทางด้านกล้องที่เหนือกว่า สามารถผลิตได้ทั้งเลนส์และเซ็นเซอร์ แต่ในโลกของสื่อทางภาพและเสียงนั้น ก็ต้องยอมรับให้กับ Panasonic เพราะเป็นผู้ผลิตและพัฒนา SD Card ขึ้นมาเป็นเจ้าแรกและเป็นมาตรฐานของโลกดิจิตอลในทุกวันนี้ โดยผลิตครบในด้านการแสดงผลภาพที่ต่อเนื่องจากการถ่ายภาพ ทั้ง SD Card ที่ใช้เพื่อบันทึกภาพ และจอภาพ LCD สำหรับแสดงผลทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว หรือจะเรียกได้ว่า Fujifilm เป็นผู้นำทางด้านการ Input ( กระบวนการสร้างและกำเนิดภาพ ) และ Panasonic เป็นผู้นำทางด้าน Output ( กระบวนการแสดงผลภาพ ) นั่นเอง การ์ดหน่วยความจำที่รองรับนั้น ทั้ง 2 รุ่นต่างก็รองรับ SD , SDHC , และ MMC เหมือนกัน แต่ S2000HD จะเพิ่มการรองรับ XD Card เพิ่มขึ้นมาอีก 1 อย่าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าเก่าของฟูจิเองเท่านั้น ที่อาจจะมีการ์ดเก่าๆหลงเหลืออยู่ ให้สามารถนำมาใช้ด้วยกันได้ ดีกว่าที่จะนำไปโยนทิ้งให้เจ็บใจ ถือเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้ทางหนึ่ง ( ขนาดนั้นเลย ) แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ซื้อกล้องดิจิตอลเป็นตัวแรกก็นับว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะขณะนี้ XD Card ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ดับเอามากๆ จากราคาที่แพงกว่าการ์ดชนิดอื่นและกำลังค่อยๆหายไปจากตลาดแล้ว หลังจากที่ฟูจิกับโอลิมปัสพยายามช่วยกันดันอยู่นานหลายปี จนตอนนี้กล้องรุ่นใหม่ๆของฟูจิเริ่มปรับตัวตามความนิยมของตลาดด้วยการออกแบบให้สามารถใช้ SD Card ได้ด้วย จากเมื่อก่อนที่สามารถใช้ XD Card ได้แค่เพียงอย่างเดียว ด้านจอแสดงผลนั้นเป็นจอขนาด 2.7 นิ้ว ทั้งคู่ และมีความละเอียดกันที่ 230,000 พิกเซล ซึ่งถ้าขยายขนาดเป็น 3 นิ้วและเพิ่มความละเอียดหน้าจอขึ้นอีกซักหน่อยคงจะเป็นการดีมาก เพราะสมัยนี้นั้นมาตรฐานของกล้องดิจิตอลควรจะอยู่ที่ขนาด 3 นิ้วกันแล้ว แต่ด้วยขนาดของหน้าจอที่เล็กกว่าและความละเอียดที่ไม่มากแบบสุดๆนั้นก็ส่งผลดีในเรื่องของอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากกว่าจอสเปคสูงๆที่กำลังเป็นที่นิยมกันในกล้องคอมแพคระดับพรีเมี่ยมทั่วไป ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้น S2000HD เลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน ซึ่งมีข้อดีคือหากคุณไปเที่ยวกับเพื่อนที่ใช้ FZ28 และเกิดแบตเตอรี่หมดเหมือนกันระหว่างที่อยู่บนดอยสุเทพทั้งๆที่เพิ่งเดินขึ้นมาถึง คุณก็สามารถเดินไปซื้อถ่านอัลคาไลน์ที่ร้านค้ามาใช้แทนได้ และปล่อยให้เพื่อนที่ใช้ FZ28 นั่งเซ็งไปคนเดียว หรือจะชวนเค้ามาถ่ายรูปร่วมกันแทน แต่ข้อเสียก็คือ คุณอาจจะต้องศึกษาหาความรู้เรื่องแบตเตอรี่แบบชาร์จได้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อเลือกแบตเตอรี่ AA คุณภาพดีมาใช้กับกล้องของคุณ โดยแบตเตอรี่ประเภทนี้จะเป็นชนิด ลิเธียม เมทัลไฮดราย ซึ่งอายุการใช้งานในการชาร์จซ้ำก็จะค่อนข้างจำกัด และยังมีปัญหาเรื่องการคายประจุเมื่อไม่ได้ใช้เวลานาน คุณอาจจะต้องเตรียมแบต เตอรี่สำรองไว้ด้วยขณะไปเที่ยวเผื่อกรณีที่แบตเตอรี่ของคุณมีปัญหาขึ้นมา ซึ่งต่างจาก FZ28 ที่ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมอิออน ที่เมื่อคุณชาร์จไว้เต็มแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก หรือถ้าต้องการถ่ายหนักๆระหว่างวัน (ไม่ใช่ท้องเสียนะครับ) ก็อาจจะซื้อแบตเตอรี่ที่ตรงกับรุ่นที่ใช้มาสำรองไว้อีกซักก้อนก็อุ่นใจได้แล้ว จะเห็นได้ว่า กล้องทั้ง 2 ตัวนี้ต่างก็มีทั้งความเหมือนและแตกต่างกันทั้งทางด้านสเปคและราคา โดยที่ FZ28 นั้นจะราคาสูงกว่าประมาณ 3 พันบาท ( อ้างอิงจากราคาประกันร้าน ) แต่ก็มีความเหนือกว่าในบางด้าน สำหรับใครที่มองว่าความต่างตรงนั้นไม่สำคัญสำหรับตัวเอง การเลือก S2000HD ก็อาจจะคุ้มค่ากว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวในหลายๆเรื่องทั้งรูปทรงและแบรนด์ ซึ่งสุดท้ายก็อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคนแล้วละครับ ผู้เขียน/ เจ้าของบทความ วิทวัส เหนี่ยวองอาจ ( Jonaja ) เว็บไซต์ //jonaja.multiply.com email : jo_naja@hotmail.com
ชวนไปทำแกลเลอรี่ออนไลน์กัน
จะเก็บภาพถ่าย เก็บหนัง เพลงที่ชอบ
เก็บไฟล์ซ่อนไว้ หรือให้เพื่อนดาวน์โหลด
พื้นที่ก็ให้เพียบ แล้วยังเพิ่มได้อีก ยิ่งเล่นเป็นกลุ่ม ก็ได้อีกเพียบ
ดูในบล็อก 360D Gallery หรือจะไปตอนนี้ก็ คลิกได้เลยจ้า...
เอาคูปองลงทะเบียน Exclusive Member
ด้วยจ้า pantip 2012-1