** คุณนายดอกไม้แวะมาเยี่ยม = พบเจอเพื่อพรากจาก **
...............ฉากชีวิตฉากนี้ผมไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะได้เจอในวันนี้ วันที่ผมมีสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากอาการหวัด จริงๆเกือบจะไม่มาทำงานแล้ว ติดอยู่แค่ว่า ไม่แน่ใจว่าวันนี้ที่ทำงานเขาจะให้ผมไปให้ปากคำที่ ส.น. หรือเปล่า เพราะทีแรกเห็นว่านัดกันไว้ว่าจะไปวันจันทร์ ก็เลยต้องฝืนมา ช่วงเช้าก็แว่บไปนอนห้องพยาบาลอยู่ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งก็ยังมึนๆไม่หายสักเท่าไหร่ เที่ยงครึ่ง เพื่อนโทรเข้ามือถือบอกว่า มีคนแวะมาหา ผมก็เลยลุกจากเตียงเดินกลับมาที่หน้าร้าน ..ทีแรกไม่คิดว่า แขกผู้มาเยือนจะมาหาวันนี้ เพราะว่าเมื่อคืนโทรมาคุยนัดกันไว้ว่าคงจะเลื่อนไปก่อน เนื่องจากผมอาจจะไม่อยู่ที่ทำงาน เดินกลับมาที่หน้าร้านก็มองหาแขกผู้มาเยือนว่ารออยู่ตรงใหน แล้วผมก็เห็นพี่แอ้ ยืนกับเพื่อนอยู่ตรงแผนกใกล้เคียง ก็รีบตรงเข้าไปไหว้ หน้าเจ๊แกเหมือนในภาพถ่ายไม่มีผิดเพี้ยนเลยทีเดียว เรียกว่าไม่เคยรีทัช หรือโฟโต้ช็อปใดๆทั้งสิ้น
...............เสียดายหลายๆอย่าง ไม่มีกล้องถ่ายภาพมาด้วย ตัวเองก็มึนๆซึมๆ กระเซอะกระเซิง ผมไม่รู้หรอกว่าจุดประสงค์จริงๆของพี่แอ้คืออะไรในการมาเยี่ยมผมคราวนี้ ผมคงไม่อาจจะใช้คำพูดน้ำเน่าประเภทแค่มองตาก็รู้ใจหรอกนะครับ เสียดายที่เหตุการณ์วันนี้มันมาเกิด ณ วันนี้ ถ้าหากว่ามันเกิดขึ้นสัก 3 - 4 ปีก่อนหน้านี้ ความรู้สึกมันก็คงจะเป็นอีกแบบ !! พี่แอ้ หรือ คุณนายดอกไม้ นั้นคือพี่สาวและเพื่อนที่ผมคิดเอาเองว่า สนิทที่สุดในโลกไซเบอร์แล้ว ผมกับพี่เค้าไม่มีความลับกันหรอก ! ผมคิดเอาเองนะว่า ผมก็รู้นิสัยพี่เค้าดี และพี่เค้าก็รู้นิสัยผมดี ! แต่ด้วยความเป็นไปและทางแยกของชีวิตผม ทำให้ผมและพี่แอ้ต้องแยกทางเดินกัน กลายเป็นคนแปลกหน้าระหว่างกัน มันน่าเศร้านะ ที่เราต้องเลือกใครคนนึง เพื่อจะทำให้ชีวิตของเราลงตัว !! หลังจากสนิทกันแบบสุดๆได้ประมาณ 4ปี เราก็ขาดการติดต่อกันไปถึง 2 ปีเต็มๆ ( พี่เค้าอยู่แคนาดา และยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆกันมาก่อน )
................พี่คุณนายดอกไม้บอกผมว่า ที่มาวันนี้ตั้งใจว่าจะตังของฝัน ที่ตอนโน้นจะยืมตังแก แต่แกไม่สะดวกโอน แล้วให้ผมโอนให้ไปก่อน พันนึง ซึ่งผมลืมไปแล้วล่ะ ผมไม่แน่ใจว่าฝันเขาโอนเงินคืนมาให้หรือยัง ถ้าผมจำไม่ผิดเค้าน่าจะโอนคืนมาให้แล้วนะ พยายามปฏิเสธแก แต่พี่แกก็คะยั้นคะยอให้ผมรับให้ได้ สุดท้ายผมก็เลยรับเงินนั้นไว้ พี่แกว่าพี่แกเข้าใจผม และบอกผมว่าเราคบกันมานาน ก็น่าจะรู้ว่าแกเป็นคนยังไง พี่เค้าไม่ได้โกรธอะไรผมเลย ( แกว่างั้นนะ ) ส่วนผมนั้นหรือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้พี่แกก็ยังคงเหมือนเดิม เหมือนวันแรกที่ผมเคยได้คุยกับพี่เค้านั่นแหละ เพื่อความสบายใจของคนรอบข้างอีกหลายๆคนและเพื่อความสงบสุขของตัวแปรทั้งหลาย และชีวิตครอบครัวของผม พี่เค้าก็เลยเลือกที่จะตัดขาดการติดต่อจากผมโดยสิ้นเชิง อย่างที่ผมพูดน่ะแหละครับ มันคือทางเดินที่เราเลือกแล้ว เราสองคนก็อายุเยอะแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว และผมก็เข้าใจดีถึงสถานการณ์ทั้งหมด
................บางช่วงจังหวะของการสนทนา น้ำเสียงของพี่แกก็สั่นเครือ ผมจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่บอกเจ๊แกว่าแค่ชาตินี้ได้มีโอกาสเจอแกหนนี้ก็ดีใจแล้วล่ะครับ ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอกัน แกพูดอะไรซึ้งๆมาอีกผมเองก็ไม่ได้เตรียมทิชชู่มาซับน้ำตาซะด้วยสิ !! ฉากชีวิตของคนคู่นึงที่เคยคิดว่าเป็นคนที่รู้ใจกันที่สุด เป็นคนที่รู้จักกันดีที่สุด บางทีมันก็จบไม่สวยเสมอไป เนอะ แต่นั่นล่ะคือชีวิตจริงครับ เราคุยกันได้ไม่นานนัก ทราบคร่าวๆว่าเจ๊แกกลับมาเยี่ยมบ้าน และไม่ได้พาครอบครัวมาด้วย มาคนเดียว ได้ยินแว่วๆว่าไปเจอเจ๊บัคกี้มา ลืมถามว่าเจ๊แกแวะไปเยี่ยมคารวะป้าเรด้วยหรือเปล่า ? ยังไงซะ การที่ได้เห็นพี่คุณนายตัวเป็นๆ มีสุขภาพแข็งแรง นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดแล้ว เราทั้งสองต่างทราบดีว่าการลาจากคราวนี้คงเป็นการจากเป็น ซึ่งคงจะไม่มีโอกาสกลับมาเจอกันแบบมีลมหายใจอีกแล้ว ในชั่วขณะของการล่ำลามาถึง ผมไม่กล้าที่จะกลับไปมองพี่แกนะ ไม่รู้ทำไม แต่พอกลับมาคิดย้อนไปถึงชั่วขณะนั้น น้ำตาของผมมันก็ไม่รู้มาจากใหน บล็อคนี้ผมว่าเป็นบล็อคที่ผมอัพในอารมณ์ที่เศร้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยแฮะ
ด้วยรักและระลึกถึงซ้อเสมอ
//www.pandagroup.pantown.com/
Create Date : 23 กันยายน 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 23 กันยายน 2551 17:52:49 น. |
Counter : 892 Pageviews. |
|
|
|