<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
31 กรกฏาคม 2556

ให้อ่าวพร้าวเกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล







ผู้ว่าฯระยองประกาศให้อ่าวพร้าวเกาะเสม็ดเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล หลังน้ำมันดิบกว่า 3 พันลิตรทะลักเกยชายหาด ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ พร้อมประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ สั่งระดมกำลังทหารช่วยขจัดคราบน้ำมันโดยด่วน


















เมื่อเวลา 08.00น.วันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงายว่า จากสถานการณ์ท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้วใต้ทะเล ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดรั่วไหลน้ำมันดิบไหลลงสู่อ่าวไทยเกือบ 70 ตัน หรือประมาณ 70,000 ลิตร ห่างจากชายฝั่งท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ประมาณ 10 ไมล์ทะเล หรือ 18 กม. ส่งผลให้น้ำมันแพร่กระจายเป็นวงกว้าง มีระยะทางยาว 1.5 ไมล์ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา



หลังเกิดเหตุจนขณะนี้เวลาผ่านไป 48 ชั่วโมง กองทัพเรือและบริษัทผู้เกี่ยวข้อง ได้กู้วิกฤตนำเรือออกวางบูมปิดล้อมคราบน้ำมัน ไม่ให้ตีแผ่เป็นวงกว้าง พร้อมกับฉีดน้ำยาคุมเพื่อสลายคราบน้ำมัน จนขณะนี้พบน้ำมันดิบได้สลายตัวเหลือเพียง 5 % หรือประมาณ 3,500 ลิตร จากสถานการณ์ขณะนี้ มีคลื่นลมแรงยากต่อการควบคุม ทำให้น้ำมันเข้าเกยชายหาดเกาะเสม็ด จ.ระยอง เป็นที่เรียบร้อยตามคาดการณ์



ล่าสุด เวลา 10.00 น.พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 ได้สั่งการให้ พล.ร.ต.ทิวา ดาราเมือง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 1 และ น.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้อำนวยการ กองยุทธการ จัดส่งเฮลิคอปเตอร์ ทำการบินสำรวจความเสียหาย การกระจายตัวของคาบน้ำมัน พร้อมส่งเรือหลวงแสมสาร เรือหลวงบางปะกง เรือตรวจการณ์ 82 และกำลังพล เข้าให้การช่วยเหลือในการควบคุม และสลายคราบน้ำมัน ส่วนบนชายฝั่งมี นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 เข้าสำรวจภาคพื้นดิน และควบคุมการปฏิบัติ



จากภาพสำรวจทางอากาศพบกลุ่มน้ำมันได้เคลื่อนตัวเข้าเกยชายหาดเกาะเสม็ด บริเวณอ่าวพร้าว และอ่าวขาม ม.4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร คราบน้ำมันมีความหนา 20 - 30 ซม.ห่างออกไปในทะเลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นสีดำหนา ตีแผ่เป็นวงกว้างในลักษณะคล้ายฟิล์มบาง ๆ กำลังเคลื่อนตัวเข้าปิดล้อมตัวเกาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสกัดกั้นอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้คราบน้ำมัน เข้าไปกระทบสภาพแวดล้อมชายฝั่งของอ่าวอื่น ๆ



ด้านนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้เกาะเสม็ดได้ประกาศบริเวณอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล และขั้นแรกจะต้องป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันกระจายไปยังชายหาดอื่นที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมกับสั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่1 อบต.เพ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด พร้อมกับประสานไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 100 นาย มาช่วยเหลือดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันโดยด่วน และคาดว่าต้องใช้เวลามากกว่า 15 วัน ในการเก็บกู้คราบน้ำมันและฟื้นฟูชายหาด เบื้องต้น น้ำมันมีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ ได้ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำจนกว่าเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนนักท่องเที่ยวได้ทะยอยกันเดินทางกลับบ้าน



นายพรเทพ บุตรนิพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอ่าวพร้าวที่น้ำมันทะลักเข้าชายหาดในครั้งนี้ด้วย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่นำแผ่นซับคราบน้ำมันมาเก็บคราบน้ำมันทั่วชายหาด นอกจากนี้บริษัทฯใช้เรือฉีดพ่นสารเคมีสลายคราบน้ำมัน พร้อมกับนำบูมยางมากั้นในวงจำกัด เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันหลุดออกไปยังอ่าวบ้านเพ




ข้อมูลโดย เดลินิวส์















 

Create Date : 31 กรกฎาคม 2556
2 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2556 9:44:34 น.
Counter : 2339 Pageviews.

 


 

โดย: ญามี่ 31 กรกฎาคม 2556 9:47:54 น.  

 

กำลังเป็นอีกวิธีที่ช่วยกู้วิกฤติคราบน้ำมัน ซึ่งแพร่หลายในโลกออนไลน์ “การใช้เส้นผมดูดซับคราบน้ำมัน”


มีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถดูดซับคราบน้ำมันที่รั่วไหล ปัญหาใหญ่ในท้องทะเลขณะนี้ และกำลังได้รับการส่งต่ออยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย คือการนำ เส้นผมคน หรือขนสัตว์ ไปบรรจุใส่ถุงไนลอนทำเป็นทุ่นรูปไส้กรอก เพื่อดูดซับคราบน้ำมันที่ทะลักขึ้นมาได้ เพราะเส้นผมนั้นเป็นวัสดุอย่างดีในการดูดซับน้ำมันทุกประเภท ซึ่งรวมถึงปิโตรเลียมด้วย โดยวัสดุที่ทำขึ้นนี้เรียกว่า ‘ไส้กรอกผม’ สามารถนำไปวางบนชายหาดเพื่อดูดซับคราบน้ำมันที่ถูกซัดมาเกยหาดได้

จากกรณีตัวอย่างมีการใช้วิธีนี้ เพื่อช่วยดูดซับคราบน้ำมันที่ทะลักขึ้นมาหลังจากการระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีของอังกฤษนอกชายฝั่งมลรัฐลุยเซียนาของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วขนาดใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก ระหว่างวันที่ 20 เมษายน - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ในช่วงของการรั่วไหล ประมาณการว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลออกมาจากช่องเปิดใต้ทะเลระหว่างวันละ 12,000 ถึง 100,000 บาร์เรล (1.9 ล้าน ถึง 16 ล้านลิตรต่อวัน) ก่อให้เกิดภาวะปนเปื้อนเป็นอาณาบริเวณระหว่าง 6,500 ถึง 24,000 ตารางกิโลเมตร และภายหลังเหตุการณ์นี้ มีประมาณการว่ามีน้ำมันรั่วไหลทั้งสิ้น 4.9 ล้านบาร์เรล

นอกจานี้ มีข้อมูลเปิดเผยว่า มูลนิธิแมตเทอร์ ออฟ ทรัสต์ ได้ประสานความร่วมมือขอบริจาคเส้นผมจากทุก ๆ ภาคส่วนและต่างประเทศ เพื่อช่วยเหลือเหตุการณ์ระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันในครั้งนั้น และมีร้านทำ ผมเข้าร่วมด้วยราว 370,000 แห่งจากฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน บราซิล ออสเตรเลีย แคนาดา และสหรัฐฯ ซึ่ง ได้รับผมและขนสัตว์วันละ 204,000 กิโลกรัม ได้มีการรับบริจาคกันอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณน้ำมันที่ รั่วไหลออกมามีจำนวนมหาศาล และมีการประมาณว่าต้องใช้เส้นผมประมาณถึง 200 ตัน จึงสามารถ รองรับคราบน้ำมันได้ทั้งหมด โดยเส้นผมน้ำหนัก 0.45 กิโลกรัม สามารถซับน้ำมันได้กว่าแกลลอน(3.785 ลิตร) ซึ่งถ้าเทียบ เป็นต่อน้ำหนัก เส้นผมสามารถซับน้ำมันได้ประมาณ 4-6 เท่าของน้ำหนัก ถือได้ว่าการใช้ วิธีง่าย ๆ แบบชาวบ้านก็สามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์อันเลวร้ายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเหตุระเบิดแท่นขุด เจาะน้ำมันของบริษัทบีพีได้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีทีเดียว

ธัญญา เทอเนอร์

โดย เดลินิวส์

 

โดย: ญามี่ 31 กรกฎาคม 2556 10:28:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]