<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
5 กันยายน 2556

ชวนอร่อยไปกับ “เทศกาลลางสาด ลองกองหวาน” จ.อุตรดิตถ์









ททท.สำนักงานแพร่ ชวนร่วมอร่อยในงาน “เทศกาลลางสาด ลองกองหวาน และสินค้า OTOP อุตรดิตถ์ ปี 2556” ตั้งแต่วันนี้ - 10 ก.ย. 56 ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก และบริเวณถนนแปดวา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ภายในงานพบกับลางสาด ลองกองหวานชั้นดี ขบวนแห่ การประกวดธิดาชาวสวน ประกวดรถผลไม้ ฯลฯ



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจร่วมงาน “เทศกาลลางสาด ลองกองหวาน และสินค้า OTOP อุตรดิตถ์ ประจำปี ๒๕๕๖” ตั้งแต่วันนี้ -10 กันยายน 2556 ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก และบริเวณถนนแปดวา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์



นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ กล่าวว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งปลูกลางสาดหวานที่มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นลางสาดที่มีคุณภาพดี และมีรสชาติหวาน มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ทุกปี นอกจากลางสาดแล้วอุตรดิตถ์ยังเป็นแหล่งปลูกลองกองที่มีคุณภาพดีของประเทศอีกด้วย โดยผลของลองกองนั้นมีลักษณะเป็นช่อสวยงาม เปลือกผลนุ่มคล้ายกำมะหยี่ เนื้อล่อนออกจากเปลือกได้ทั้งผล เมล็ดน้อย หรือไม่มีเลย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานชื่นใจจึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวสวนผลไม้ในอำเภอเมือง อำเภอลับแล และสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจในจังหวัดอุตรดิตถ์ได้




ภายในงานกำหนดให้มีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่น่าสนใจ อาทิ พิธีเปิดงาน และขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา การประกวดธิดาชาวสวน ประกวดรถผลไม้ ประกวดส้มตำลีลา ประกวดทุเรียนกวน ประกวดลางสาด ลองกอง ประกวดกระเช้าผลไม้ การแข่งขันกินลางสาด ชมนิทรรศการจากส่วนราชการ การจำหน่ายสินค้า OTOP เลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากบริษัท ห้างร้าน และโรงงาน ชมคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง



ททท.สำนักงานแพร่(ดูแลพื้นที่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) จึงเชิญชวนผู้สนใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ และร่วมงาน “เทศกาลลางสาด ลองกองหวาน และสินค้า OTOP อุตรดิตถ์ ปี 2556” ตั้งแต่วันนี้ - 10 ก.ย. 56 ณ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก และบริเวณถนนแปดวา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์



ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 0-5540-0700 หรือสนใจสอบถามข้อมูลการเดินทาง และการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0-5452-1127
















“เห็ดเข็มทอง” เห็ดกินอร่อย ได้ประโยชน์



ในหมู่คนรักสุขภาพ อาหารอย่าง “เห็ด” เป็นอย่างแรกๆ ที่ถูกหยิบขึ้นมาทำเป็นเมนูต่างๆ เนื่องจากสารอาหารและคุณประโยชน์อื่นๆ ที่ได้นั้นดีต่อสุขภาพจริงๆ



เห็ดที่ “108 เคล็ดกิน” จะมาแนะนำให้ลองชิมกันวันนี้ เป็นเห็ดที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั่นก็คือ “เห็ดเข็มทอง” ที่เป็นเห็ดสีขาวนวลๆ มีก้านยาวเรียว มีหมวกเห็ดกลมๆ อยู่ด้านบน เกาะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ



“เห็ดเข็มทอง” นำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งต้ม นึ่ง ผัด ปิ้งย่าง หรือแม้แต่ยำเห็ดก็รสชาติอร่อยดี แล้วยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย มีสารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน และใยอาหาร



ส่วนสรรพคุณทางยาของเห็ดเข็มทองนั้น หากกินเห็ดเข็มทองเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง และในเห็ดเข็มทองมีสารที่ชื่อว่า Flammulin ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเยื่อบุช่องท้อง และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสิ่งมีชีวิตได้ด้วย



เห็นสรรพคุณเยอะแยะขนาดนี้ กินข้าวมื้อถัดไปลองหาเมนูที่มีส่วนประกอบของเห็ดเข็มทองมากินด้วยก็ดีเหมือนกัน












มันน่าลอง!! “ไวน์ทุเรียน”







เคยได้ยินกันมาบ่อยๆ ว่า ถ้ากินทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร้อนในตายได้!!



แล้วถ้าเอาทุเรียนมาทำเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซะเลย มันจะกินได้จริงหรือไม่ กินแล้วจะร้อนในตายหรือเปล่า



“108 เคล็ดกิน” มีคำตอบมาเฉลย เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ทีมนักวิจัยจากโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ได้ทดลองแปรรูปทุเรียนให้กลายเป็นไวน์ทุเรียนที่มีแอลกอฮอล์ 6% โดยมีการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปีแล้ว



สำหรับคนที่ชื่นชอบทุเรียนนั้นก็คงจะอยากลิ้มลองรสชาติไวน์ทุเรียนกันแน่นอน แต่สำหรับคนที่ออกจะลำบากใจกับกลิ่นที่ไม่ค่อยพึงประสงค์เท่าไหร่นัก ก็คงจะสั่นหัวไว้ก่อน แต่กระบวนการหมักทุเรียนให้กลายเป็นไวน์นั้นจะช่วยลดกลิ่นฉุนของทุเรียนลงไปได้มาก จนเมื่อลองจิบไวน์ทุเรียนนี้แล้วก็จะไม่ได้กลิ่นและรสชาติของทุเรียนเลย



ส่วนเรื่องที่กินทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นอาจจะทำให้ตายได้ ทีมนักวิจัยได้มีการศึกษาแล้วว่าส่วนประกอบของสารซัลเฟอร์ในทุเรียนที่อาจทำให้เสียชีวิตนั้น เมื่อผ่านกระบวนการหมักไวน์ สารดังกล่าวจะลดลงอย่างมากจนไม่เป็นอันตราย ฉะนั้นการดื่มไวน์ทุเรียนจึงไม่ส่งผลใดๆ ต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ การวิจัยการทำไวน์ทุเรียนยังจะได้รับการพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อให้กลิ่นและรสชาติของไวน์ทุเรียนที่ผลิตออกมานั้นเป็นที่ถูกปากของผู้บริโภค และจะมีการผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไปในอนาคต



เห็นแบบนี้แล้ว ก็คงต้องอดใจรอกันต่อไปอีกหน่อยถ้าอยากจะลิ้มลองไวน์ทุเรียน ตอนนี้ก็กินทุเรียนสีเหลืองทองเนื้อหอมหวานกันไปพลางๆ ก่อน





ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์












 

Create Date : 05 กันยายน 2556
1 comments
Last Update : 5 กันยายน 2556 10:55:45 น.
Counter : 3078 Pageviews.

 

 

โดย: ญามี่ 5 กันยายน 2556 10:56:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]