<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
11 กรกฏาคม 2556

เป็ดย่างสูตรฮ่องกง-เกี๊ยวกุ้งกวางเจา









เป็ดย่างหงกี่


เกี๊ยวกุ้งน้ำกวางเจา


บะหมี่เกี๊ยวกุ้งเป็ดย่าง


หมูกรอบหงกี่


บะหมี่หงกี่


“เจ๊น้อง” เจ้าของร้าน




ร้าน “หงกี่” ถนนเฉลิมพระเกียรติฯ


เมนูอร่อยน่าชิม…ประจำฉบับนี้ แม่ลิ้นจี่กำลังจะชักชวนแฟนคอลัมน์ให้พากันไปอิ่มอร่อยกับสารพัดเมนูจานเด็ดกันที่ร้าน “หงกี่” ในย่านถนนเฉลิมพระเกียรติ สวนหลวง ร.9 ซึ่งร้านที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้เขามีอาหารสารพัดอย่างให้เราได้เลือกสั่ง ไม่ว่าจะเป็น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ตือฮวน ต้มเลือดหมู ส้มตำ และอาหารไทย-อีสานตามสั่ง สนนราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นกันที่จานละ 30-150-440 บาท แต่เมนูจานเด็ดที่เป็นพระเอกของที่นี่ไม่ว่าใครมาก็ต้องสั่ง นั่นก็คือ “เป็ดย่างหงกี่” และ “เกี๊ยวกุ้งกวางเจา” เรียกได้ว่ามาที่ร้าน “หงกี่” ร้านเดียวเหมือนได้เที่ยวชิมสารพัดอาหารในฟาสต์ฟู้ด



จากการสอบถาม “คุณวีรวรรณ เนตรทัศน์” หรือ “เจ๊น้อง” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้บอกเล่าให้ “แม่ลิ้นจี่” ฟังว่า ย้อนอดีตไปเมื่อครั้งยังอยู่ในวัยสาว ตนเองได้แต่งงานกับหนุ่มชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้มีนามว่า “คุณหงใจ๋” จนมีทายาทเป็นลูกสาวสวยน่ารัก วัย 15 ปี ชื่อว่าน้อง “จิง จิง” ซึ่งกำลังเข้ารอบสุดท้ายของการประกวด “ไทยซูเปอร์โมเดล” หมายเลข T10 คุณหงใจ๋เป็นชาวจีนกวางตุ้งซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เมืองกั๋วซาน และมีญาติสนิทเป็นเถ้าชิ่วมือหนึ่งอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวของเมืองจีน ซึ่งได้ถ่ายทอดวิทยายุทธ์ในการทำ เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ บะหมี่เกี๊ยว ให้กับคุณหงใจ๋จนเจนจบครบทุกกระบวนท่า



ต่อมาเมื่อฝ่ายสามีได้เข้ามาตั้งรกรากทำธุรกิจอยู่ในเมืองไทย จึงได้มาเปิดร้านอาหารอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซาบางนา ซีคอนสแควร์ และที่เสรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อต้องถูกทางห้างฯ แบ่งเปอร์เซ็นต์ไปมากมาย จึงยุบกิจการแล้วมาเปิดร้านใหม่ได้นานกว่า 4 ปี อยู่ปากซอยเฉลิมพระเกียรติ 10 โดยได้นำชื่อของสามีมาตั้งเป็นชื่อร้านว่า “หงกี่”



ส่วนเมนูจานเด็ดที่ “แม่ลิ้นจี่” จะแนะนำให้สั่งมาลิ้มลองกันในวันนี้ก็มีอยู่หลายอย่าง…แต่เรามาเริ่มจานแรกกันที่


เป็ดย่างหงกี่…เขาจะใช้เป็ดเชอรี่ตัวใหญ่เนื้อหนา นำเครื่องเทศสารพัดชนิดยัดใส่ไว้ในตัวเป็ด หมักบ่มข้ามวันตั้งแต่บ่าย 3 โมง ก่อนนำมาย่างตอนตี 4 ของวันใหม่ เขาจะย่างด้วยไฟที่ร้อนปานกลางจนเป็ดเริ่มสุกตั้งแต่หนังไปจนถึงเนื้อใน จากนั้นเขาจะตัดที่ก้นเป็ดเทน้ำเครื่องเทศที่หมักในท้องออกมาปรุงเป็นน้ำราด ความอร่อยอยู่ที่หนังเป็ดแห้งกรอบ เนื้อเป็ดเนียนนุ่มสัมผัสได้ถึงรสชาติของเครื่องปรุงที่ซึมซาบเข้าเนื้อใน น้ำเป็ดย่างรสหวานเค็มมันหอมกลิ่นเต้าเจี้ยว เขาจะหั่นสไลซ์มาเป็นชิ้นพอคำ เสิร์ฟใส่จานเปลพร้อมด้วยขิงดอง ในราคาจานละ 110 บาท ข้าวหน้าเป็ด 40 บาท


เกี๊ยวกุ้งน้ำกวางเจา…ถ้าอยากกินเกี๊ยวให้หนำใจก็ต้องสั่งชามนี้ เขาจะใช้กุ้งสดทั้งตัวและหมูบดปรุงรสห่อด้วยแผ่นแป้งเกี๊ยวสีเหลืองอร่าม นำไปลวกน้ำร้อนจนสุกกำลังดีใส่ไว้ในชามพร้อมผักกวางตุ้ง โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย ราดด้วยน้ำซุปหอมกรุ่นใสแจ๋วจนมองเห็นก้นชาม ความอร่อยอยู่ที่เกี๊ยวกุ้งลูกใหญ่เคี้ยวกินได้สะใจ ตักเติมพริกดองลงไปนิด ใส่ซีอิ๊วขาวจากเมืองจีนลงไปหน่อย…อร่อยแน่นอน ในราคาชามละ 50 บาท


บะหมี่เกี๊ยวกุ้งกวางเจาเป็ดย่าง…เมนูนี้เป็นแบบลูกผสม เขาจะใช้เส้นบะหมี่ไข่ลวกสุกพร้อมผักกวางตุ้งใส่ไว้ในชาม เติมเต็มด้วยเป็ดย่างหอมกลิ่นเครื่องเทศที่หั่นมาเป็นชิ้นพอคำ และเกี๊ยวลวกสุกที่มีกุ้งสดทั้งตัวและหมูบดปรุงรสซุกซ่อนอยู่ภายใน ความอร่อยอยู่ที่บะหมี่ไข่เส้นเล็กเหนียวนุ่ม เป็ดย่างเนื้อนุ่มละมุนลิ้น เกี๊ยวก้อนโตเคี้ยวกินได้เต็มปากเต็มคำ มีให้เลือกสั่งทั้งอย่างน้ำและแห้ง ในราคาชามละ 50 บาท



บะหมี่หงกี่…อยากอิ่มอร่อยให้สะใจก็ต้องสั่งชามนี้ เพราะเป็นแบบทรีอินวัน เขาจะใช้เส้นบะหมี่ไข่ลวกสุกพร้อมผักกวางตุ้ง ใส่เป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบ โรยหน้าด้วยตังฉ่ายและผักชี ความอร่อยอยู่ที่เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม บวกกับเป็ดย่างเนื้อนุ่ม หมูแดงหอมกลิ่นเครื่องเทศ หมูกรอบเคี้ยวกินได้กรอบกรุบ ลองสั่งมาชิมกันได้ ในราคาชามละ 70 บาท


หมูกรอบหงกี่…จานนี้ก็ไม่เบา..เขาจะนำหมูสามชั้นหมักบ่มด้วยเครื่องปรุงจนซึมซาบเข้าเนื้อใน ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ตรงส่วนที่เป็นเนื้อเผยให้เห็นส่วนที่เป็นหนังหมู ก่อนนำไปย่างบนเตาไฟจนเนื้อหมูติดมันที่อยู่ในกระดาษฟอยล์ค่อยๆ สุกแบบไร้มัน ส่วนหนังหมูที่อยู่ด้านนอกจะค่อยๆ สุกฟู เขาจะหั่นเรียงแถวมาเป็นชิ้นพอคำ เสิร์ฟพร้อมน้ำราดสูตรเดียวกับเป็ดย่าง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อหมูไร้มันเคี้ยวกินได้สนิทใจหอมกลิ่นเครื่องเทศ ส่วนที่เป็นหนังฟูฟ่องเคี้ยวกินได้กรอบกรุบสนุกปาก ลองชิมกันได้ ในราคาจานละ 150 บาท ข้าวหมูกรอบจานละ 40 บาท


นี่แค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่แนะนำกัน ยังมีเมนูน่าชิมอีกหลายอย่างเชิญเลือกสั่งกันเองได้ ที่ร้าน “หงกี่” จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. (หยุดทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน) สถานที่ตั้งของร้านก็หากันไม่ยาก ร้านนี้เขาจะตั้งอยู่ริมถนนปากซอยเฉลิมพระเกียรติ 10 ทางไปสวนหลวง ร.9 แต่ถ้าเกรงว่าจะหากันไม่เจอก็โทรศัพท์ไปสอบถามเส้นทางกันก่อนได้ที่ 0-2747-2033 และ 08-7711-1733


โดย “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 12”





ข้อมูลโดย บ้านเมือง















 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2556
2 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2556 20:16:08 น.
Counter : 3843 Pageviews.

 

 

โดย: ญามี่ 11 กรกฎาคม 2556 20:17:17 น.  

 

เป็ดย่างน่าทานมากเลยค่ะคุณมี่
ถ่ายภาพได้แจ่มสุดๆเลย
น่าทานจัง

 

โดย: lovereason 11 กรกฎาคม 2556 23:05:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]