สเต๊กจานดาวเทียม! ขวัญใจวัยโจ๋ “นอกจากความใหญ่ ความแปลกแล้ว สเต๊กของร้านผมก็น่าจะอร่อยใช้ได้นะ ถึงมีคนสนใจกันเยอะ ” เพราะด้วยความเก่าแก่บวกกับรสชาติของอาหาร ทำให้ชื่อเสียงของร้าน “อ้วน-ผอม ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตลาดสามย่าน เป็นที่รู้จักกันดีของคนในย่านนั้น แถมปัจจุบันยังมี “เมนูเด็ด” เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่านิสิต-นักศึกษา จนหลายคนพากันไปทาน ก่อนบอกต่อกันด้วยภาพผ่านทางสื่อออนไลน์ตามยุคสมัย “สเต๊กจานดาวเทียม....ตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟคือต้องอุ้มมาเลยทีเดียว..555...”. คือหนึ่งในหลายๆ “เมนท์”บนโลกออนไลน์...วันนี้ เห็นช่องทาง เพิ่มรายได้ ช่วงบ่ายแก่ๆของวันทำการค้าขาย คุณอาคม อัจฉราวงศ์ วัย 48 ปี ที่อนุญาตให้เรียกแบบกันเองว่า เฮียอ้วน เจ้าของกิจการดังเกริ่นมาข้างต้น สละเวลามาพูดคุยด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้มกันเอง เริ่มต้นด้วยการย้อนอดีตส่วนตัวว่า พื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา หลังจากเรียนจบม.3 เดินทางเข้ากรุงเทพฯหวังมาหางานทำ และเริ่มต้นอาชีพแรกคือเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารย่านตลาดสามย่านเก่า ทำหน่าที่ในร้านแทบทุกอย่าง ทั้งล้างจาน หุงข้าว กระทั่งมาพบรักกับ คุณสละ นนทรีย์ หรือ เจ๊ผอม ช่วงทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งย่านพระรามสี่ หลังแต่งงานลาออกมาทำร้านอาหารกับพี่สาวแถวสามย่าน แต่รายรับไม่พอ จึงขอออกไปเปิดกิจการของตัวเอง ขายอาหารตามสั่งแถวสวนหลวงร.9 จนแล้วจนรอดรายได้ยังไม่ดีขึ้น จึงกลับมาทำงานกับพี่สาวอีกครั้ง คราวนี้ตลาดสามย่านมีการปรับปรุง และแบ่งล็อกให้เช่า เขาและภรรยา จึงตัดสินใจไปขอกู้ยืมจากญาติพี่น้องมาได้ราว 5 หมื่นบาท เพื่อเซ้งล็อกขายอาหารตามสั่ง ทำอยู่หลายปีกิจการเริ่มเข้าที่เข้าทาง จังหวะนั้นเอง ล็อกติดกันที่ขายสเต๊กจะเลิกกิจการ เลยบอกเซ้งร้าน 1แสนบาท แถมสอนการทำสเต๊กทุกชนิดเป็นเวลา 15 วัน เมื่อเห็นช่องทางทำรายได้ เฮียอ้วน จึงตัดสินใจขอเซ้งต่อทันที “จ่ายเงินให้ตอนบ่ายตกเย็นเขาหนีไปแล้ว สรุปได้ร้านเพิ่มมาหนึ่งร้าน แต่ทำสเต๊กไม่เป็นเลยนะ”เฮียอ้วน ย้อนควาทรงจำ เมื่อครั้งนั้น ด้วยหน้ายิ้มๆก่อนบอกต่อ “แต่ยังดีหน่อย ตรงที่เขาเขียนไว้ให้ว่าสเต๊กแต่ละอย่าง ต้องวางเครื่องเคียงอะไรบ้าง เหมือนแนะนำการจัดจานไว้ให้” ขายไป “ตามมีตามเกิด” ได้ไม่กี่วัน เกิดความไม่มั่นใจ เลยโทรศัพท์ตามกุ๊กคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นลูกจ้างร้านเสต๊กที่เขาเซ้งต่อมา โดยขอให้มาสอนวิธีการทำสเต๊ก ปรากฎกุ๊กคนดังว่า เรียกค่าเสียเวลา 15 วัน 9,000 บาท ซึ่งอัตรานี้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วก็นับว่าไม่น้อย แต่เฮียอ้วนก็สู้ เพราะเขาอยากรู้วิธีการทำสเต๊กที่ถูกต้องตามมาตรฐาน แปลก ใหญ่ อร่อยใช้ได้ หลังจากได้เรียนรู้หลักการต่างๆของการทำสเต๊กแล้ว สองสามีภรรยา เจ้าของกิจการ จึงช่วยกันพัฒนาสูตรน้ำหมักเนื้อสัตว์ น้ำเกรวี่ ให้ออกมามีรสชาติในแบบของพวกเขาเอง ก่อนทำสเต๊กออกขายควบคู่ไปกับอาหารตามสั่ง เฮียอ้วน เล่าให้ฟังต่อ และด้วยความที่มีความถนัดเรื่องอาหารตามสั่ง-ข้าวแกง มาก่อน เจ๊ผอม คู่ชีวิต จึงเกิดไอเดีย ตอนตักข้าวขาย ยังราดแกงได้มากกว่าหนึ่งอย่าง แล้วทำไม สเต๊ก ถึงจะมีมากกว่าหนึ่งอย่างในจานเดียวกันไม่ได้ “จากที่เคยขายสเต๊ก จานเดี่ยวๆ หมู-ไก่-เนื้อ เราเพิ่มเมนูเป็น หมูเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อ หรือไก่ในจานเดียวกัน ให้ลูกค้าเลือกทานได้ตามชอบ เพราะตอนนั้นขายสเต๊กจานเดี่ยว 69 บาท แม้อยากได้กำไรเพิ่มก็ไม่สามารถ ขึ้นราคาขายได้ แต่พอมีตัวเลือกให้ผสมกัน จะเพิ่มราคาขายคงไม่น่าเกลียด”เฮียอ้วน บอกเทคนิค กระทั่งปี 2550 ทางจุฬาฯ สร้างตลาดสามย่านขึ้นในทำเลใหม่ และอนุญาตให้เจ้าของล็อกที่ขายอยู่ในตลาดสามย่านแห่งเก่า มีสิทธิเซ้งต่อรายละไม่เกิน 2 ล็อก เฮียอ้วน จึงย้ายมาขายอาหารตามสั่งและสเต๊ก จนถึงปัจจุบัน “ตอนอยู่ตลาดเก่าสเต๊กของร้านเรามีการผสมกันแค่ 2 ชนิด แต่พอมาร้านใหม่ เราใส่เพิ่มเข้าไปอีก เป็น 3-4-5 ชนิดในจานเดียว จานที่ใส่เลยต้องใหญ่ตาม พอยกมาเสิร์ฟลูกค้จะเรียกกันว่าสเต๊กจานดาวเทียม”เฮียอ้วน เล่าที่มาของเมนูเด็ด หลังจากนั้นจึงมีสื่อหลายแขนงทั้งนิตยสาร รายการโทรทัศน์ มาขอสัมภาษณ์ “นอกจากความใหญ่ ความแปลกแล้ว สเต๊กของร้านผมก็น่าจะอร่อยใช้ได้นะ ถึงมีคนสนใจกันเยอะ ก่อนหน้านี้มีทั้งคนมาขอซื้อสูตร ซื้อแฟรไนชส์ ให้ไปขายให้ห้างฯ ขอปฏิเสธไปหมด ทำไม่ไหว ขอแค่พอเพียงดีกว่า”เฮียอ้วน บอกตรงๆ ขายเหมือนกันทั้งย่าน ไม่ใช่ปัญหา พลิกเมนูไปมา มองหาอันไหนคือเมนู “สเต๊กจานดาวเทียม” จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็น จนเฮียอ้วน ต้องอธิบายเมนูสเต๊กจานดาวเทียมโดยเฉพาะนั้นไม่มี หากแต่เมื่อไหร่ที่ลูกค้าสั่งชนิดของสเต๊ก 3 อย่างขึ้นไปเมื่อไหร่ ยกตัวอย่างเช่น สั่ง สเต๊กปลา +สเต๊กหมู +ไก่สไปซี่ อาหารทั้งสามชนิดน้นจะถูกใส่มาในจานใบเดียว ที่หลายคนยกให้เป็น “จานดาวเทียม”นั่นเอง “ลูกค้าจะจดเองว่าต้องการอะไร และสามารถบอกได้ว่า ไม่เอาอะไร แยกน้ำราดได้ ไม่ต้องสั่งว่าจานดาวเทียม คือถ้าสั่งแค่สามอย่างขึ้นไป เราเสิร์ฟมาให้ในจานดาวเทียมแล้ว”เฮียอ้วน อธิบายเพิ่มเติม นึกสงสัย “จานดาวเทียม” ซื้อหามาจากไหน เฮียอ้วน อธิบาย จานดาวเทียมในร้านของเขา มีไซส์ตั้งแต่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 16-17-18 นิ้ว มีทั้งแบบกระเบื้องและเมลามีน ส่วนหนึ่งซื้อมาจากโรงงานผลิตส่งออกที่คิวซีไม่ผ่าน บางส่วนซื้อจากตลาดทั่วไป ถามถึงลูกค้าส่วนใหญ่ เฮียอ้วน บอก นิสิต-นักคึกษา มีเฉพาะช่วงเปิดเทอม ระยะหลังมีกลุ่มคนทำงานจากแถวสีลมนั่งรถไฟฟ้ามาทานกันก็เยอะ โดยเฉพาะช่วงเย็นวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ขายได้ตลอด เกี่ยวกับอุปสรรคในอาชีพ เฮียอ้วน บอก เรื่องราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้นทุกวัน นับว่าน่าหนักใจ เนื่องจากเขาเลือกใช้ของดี จึงมีต้นทุนสูง หากขายไม่ได้จำนวนอาจมีปัญหาขาดทุนได้เหมือนกัน แต่อาศัยด้วยความเป็น “เถ้าแก่” ที่เดินตลาดจ่ายของเองแทบทุกวัน จึงทำให้ต้นทุนไม่รั่วไหล ส่วนคู่แข่งในย่านเดียวกัน ซึ่งมีอยู่หลายร้านทีเดียว เฮียอ้วนบอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะแทบทั้งหมดเป็นคนค้าขายหน้าเดิม รู้จักมักคุ้นแทบจะเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และต่างคนทำมาหากิน ไม่มีใครแข่งกับใคร ก่อนจากเฮียอ้วนขอฝากถึงลูกค้าที่อาจกำลังอยากมาอุดหนุน “ใครมาร้านผมครั้งแรกอาจเครียดหน่อย เพราะรอนาน บางครั้งนานถึงครึ่งชั่วโมง เนื่องจากอาหารทำแบบทอดไปย่างไป ของไม่มีสต๊อก หมูย่างต้องร้อนร้อยเปอร์เซ็นต์ ของทอดไม่มีการทอดไว้แล้วค่อยอุ่น และ ถ้าช่วงไหนยุ่งมาก ต้องขออนุญาตไม่ทำใส่กล่องนะครับ” กิจการ : ร้านอาหารตามสั่ง & สเต๊ก ลักษณะกิจการ : ครอบครัว ชื่อกิจการ : อ้วน-ผอม เจ้าของกิจการ : คุณอาคม อัจฉราวงศ์ - คุณสละ นนทรีย์ สินค้าขายดี ; สเต๊กจานดาวเทียม ราคาขาย : สเต๊ก มีตั้งแต่ 70-399 บาท วันเวลาดำเนินการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ครัวปิด 4 ทุ่ม สถานที่ตั้ง : ตลาดสามย่าน ชั้น 2 ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ : 02-214-0741 ข้อมูลโดย มติชน   Create Date : 05 กรกฎาคม 2556 2 comments Last Update : 5 กรกฎาคม 2556 18:50:29 น. Counter : 2893 Pageviews. Share Tweet

โดย: ญามี่ 5 กรกฎาคม 2556 18:51:34 น.

จานอลังๆแบบนี้สาวชาวดงอย่างโปรดเลยค่ะ   โดย: d__d (มัชชาร ) 9 กรกฎาคม 2556 15:57:45 น.