Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
30 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
^0^ ห้องเรียนธรรมชาติตอนที่ 2 ^0^

2Y6M 13-18.04.10

ก่อนจะไปเรื่องจั่วหัวขอเล่าเป็นวัน ๆ ก่อนนะ ตามสไตล์ไดของบ้านเรา

ปฎิบัติการเคี้ยวอาหาร
อังคาร 13.04.10


พ่อแม่ตกลงกันว่าช่วงวันหยุดยาว 6 วัน นี้จะฝึกก้านกล้วยให้เคี้ยวข้าว วันละ 1 มื้อ บังเอิญแม่ไปซื้อปลาหิมะมา 1 กิโล มื้อเช้าก็ให้กินเบา ๆ ไปก่อน แม่ก็ทำปลาหิมะนึ่งเห็ดหอมให้กิน เนื้อนุ่มอร่อยมาก คล้าย ๆ ปลาสำลีแต่อร่อยกว่าเยอะ ส่วนเห็ดหอมซื้อมาใครกลัวเสียรีบล้างแล้วเก็บใส่กล่องเข้าฟรีสก็กินได้นานเลย จานนี้ได้เห็ดหอมมายิ่งอร่อยมากขึ้น แล้วก็ไปต้มข้าวต้มข้าวกล้องมาให้ก้านกล้วยกินคล่อง ๆ คอ (รูปที่ 3)


1.

2.

3.

กินเสร็จก็ไม่มีไร ทำแบบฝึกหัดตามใจก้านกล้วย หยิบเล่มไหน แม่ก็จะดูให้ว่าอันไหน พอทำได้แล้วไม่ยากเกินไปก็ให้ทำ อย่างนับเลข แล้วก็เขียนตัวเลข รอบบ่ายตื่นมาแม่ก็เอาเค้กหมีพูห์มาให้กินบอกว่าจะกินตรงเสื้อสีแดง กินแล้วบอก “เยลลี่สีแดงมีรสเปรี้ยวๆ ” จิ้มกินจนเยลลี่หมดก็ไม่ยอมกินเนื้อเค้ก (แม่เก็บให้พ่อกินต่อ) แล้วก็ไปวิ่งเล่นข้างนอกกัน (ไม่มีไรมากหมดไปอีกหนึ่งวัน)


4

5

6

7

พุธ 14.04.10


อากาศร้อน แม่รมณ์บ่จอยเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรเลย วันนี้พ่ออุ่ยทำข้าวผัดให้กิน ตอนเที่ยงไม่ยอมกิน พ่อป้อนไป 5 คำ นานเป็นชั่วโมง เสร็จก็ขอนมกินแล้วหลับไป พอเย็นตื่นมาก็เอาใหม่คราวนี้แม่ป้อนเอง ก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมง กับจานข้าวที่เห็นหมด (คือก้านกล้วยเค้ากินเรื่อย ๆ แต่เค้าเคี้ยวช้า แม่เลยไม่จำกัดที่เวลา 30 นาที ใครเอาไปปฎิบัติตามต้องดูเป็นเคส ๆ ไปนะ แล้วพอแม่บอกจะเก็บก็ไม่ให้เก็บ มองในปากก็เห็นเค้าเคี้ยวอยู่เลยต้องหยวน ๆ แล้วเมื่อเคี้ยวได้ดีแล้วจะลดเวลาลงเรื่อย ๆ ให้ได้ประมาณ 30 นาทีพอ)

11

ภาพต้นแก้วจากมุมเงย (แม่นอนบนแคร่) กับภาพเต้นท์ยามโพล้เพล้


9

10

เค้าบ้านอาบน้ำกันแม่ก็เอาแป้งโดว์ให้เล่น พอดีซื้อร้านมือสองมา มีสีหลายอย่าง ทั้งทรายสี สีน้ำ สีเทียน ก็เอามาเล่นหมดแหล่ะ สุดท้ายจบที่ปั้นโดว์เป็นก้อนกลม โยนใส่ลงกะมังที่มีทรายอยู่ แล้วให้ก้านกล้วยหยิบโดว์สีเดียวกันนับว่ามีกี่เม็ด


12

พฤหัส 15.04.10
ห้องเรียนธรรมชาติ ตอนที่ 2 เยี่ยมคุณปู่โทมัส



นั่งนอนเล่นบ้านมาหลายวัน อากาศร้อน ก็ลังเลนะว่าจะพาก้านกล้วยไปเที่ยวไหนดีที่ไม่รถติดไม่เจอม๊อบ รอไปรอมาอาจไม่ได้ไป ก็ตกลงว่าวันนี้จะพาก้านกล้วยไปสวนรถไฟ ก่อนไปก็หาข้อมูลแล้วเห็นว่ามีรถไฟเก่า ๆ เยอะเลย ถามก้านกล้วยว่าอยากเจอคุณปู่โทมัสไหม๊ครับ ก้านกล้วยก็ตื่นเต้นอยากเจอเพราะแม่พูดหลายอาทิตย์แล้วว่าจะพาไปก็ไม่ได้ไปสักที แต่เนื่องจากคุยกับพ่ออุ่ยว่าจะไปวันนี้นะ แต่เมื่อคืนพ่ออุ่ยมัวแต่เช็คข่าวก็เลยนอนดึก กว่าจะออกจากบ้านก็ 10 โมงกว่า ถือว่าคราวนี้ผิดพลาดอย่างแรงเพราะว่าแดดมันร้อนมาก ไปตามแผนที่หาทางเข้าไม่เจอ แล้วก็บังเอิญไปเจอ

หอเกียรติภูมิรถไฟ ได้พาก้านกล้วยเยี่ยมที่แรกเลย โชคดีจริง ๆ เข้าไป

ตัวแรกก็เจอรถไฟไม้โยกเยก น่ารักมาก ก้านกล้วยอมยิ้มไม่หุบเลย
ตัวที่สองก็เป็นรถไฟเล็กทำจากเหล็ก
ตัวที่สามก็รถไฟขนาดจริง
ตัวที่สี่ รถไฟจริงสีดำ ๆ (แม่สมมุติให้เป็นปู่โทมัส) ก้านกล้วยตื่นเต้นมาก
แล้วก็มีไฟสัญญาณของรถไฟ ก็ชอบอีกมองตั้งนาน ไปอ่านป้ายบอกด้วยนะ แล้วก็มีรถไฟจำลอง แล้วก็เห็นพวงมาลัยก็ไปหมุนใหญ่เลยจริง ๆวาล์วเปิดปิดไอน้ำ ก้านกล้วยดีใจที่เห็นของจริง เพราะรถไฟชุดแรกที่แม่ซื้อให้ก็ไอน้ำแบบเดียวกัน


13

14

15

รถไฟเล็กประวัติศาสตร์ ชื่อ วิกตอเรีย มีอายุ 140 ปี


16

ในนี้มีพาหนะสมัยโบราณรวมอยู่ด้วย มอเตอร์ไซด์ เกวียน รถเก่า ๆ สามล้อ ก้านกล้วยเห็นที่เบรกของเกวียนก็รี่ไปหยิบจับโยก แล้วก็เลยมาถึงด้านในมีรางรถไฟของเล่นต่ออยู่ด้วย แต่ฝุ่นเพียบเลย ก็ให้ออกไปด้านหน้า ไปลองนั่งรถไฟดู แต่ด้านในมืดมาก เลยนั่งแป๊บเดียวจริง ๆ (แม่ไม่ทันหยิบกล้อง) พ่อก็ให้ลงแล้ว


17

18

รูปแรกที่มืด ๆ ที่แหล่ะ อยู่บนรถไฟ เสร็จจากตรงนี้ก็วนไปหาทางเข้าสวนรถไฟจริง ๆ แวะกินข้าวกันก่อนถึงแม้จะเพิ่ง 11 โมงเพราะว่าจะได้เที่ยวรวดเดียวเลย แม่ให้กินนมมาแล้ว 1 กล่อง เลยไม่ยอมกินข้าวมันไก่ (อร่อยมากทั้งไก่ทั้งน้ำจิ้ม) นั่งตรงเต้นท์แดดร้อนสุด ๆ จนก้านกล้วยบ่นออกมาเลยว่า “ร้อน ๆ ” แม่ก็เอาขนมปังกับไส้กรอกและนูเทลล่า (ขาดไม่ได้) มาให้ก็กินไปนิดหน่อย พ่อแม่เลยรีบกิน จะได้รีบไป


19

ก็ไปเช่าจักรยานสองคัน ก่อนไปบอกก้านกล้วยแล้วว่าไปเที่ยวสวนรถไฟ จะต้องเช่าจักรยาน น้องกล้วยยังขี่ไม่เป็น ต้องซ้อนพ่ออุ่ยก่อน ไม่ซ้อนคันแม่ เพราะว่าแม่คงขี่ไม่ไหว การที่เราจะทำอะไรแล้วบอกเด็กล่วงหน้าถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำมาก เพราะถึงเวลาเด็กก็จะจำได้และรู้ว่าควรทำตัวยังไงบ้าง ถ้าเกิดไม่บอกอาจมี งองแงง ว่าจะไปกับแม่ (ปรับแสงไม่ถูกเลยถ่ายกลางแดดหน้ามืดซะเยอะ)

เด็กเพิ่งได้ซ้อนจักรยานครั้งแรกดี๊ด๊ามาก ตอนดูรูปก้านกล้วยถามด้วยว่าแล้วแม่ไปไหน แม่ก็บอกว่าแม่ถ่ายรูปให้ก้านกล้วยกับพ่อไง เรื่องนี้ก้านกล้วยยังไม่เข้าใจ ก็โมเมเองแล้วชี้ไปที่เงาดำ ๆ ไกล ๆ ว่า แม่อยู่ตรงนี้เอง (แม่ก็ปล่อยเลยตามเลยไปก่อน แต่จะอธิบายบ่อย ๆ ว่าแม่เป็นคนถ่ายรุปถึงไม่มีรู้แม่)


20

ที่แรกก็ไปที่สวนผีเสื้อก่อน ตอนดูในเวป ผีเสื้อเยอะและสวย ๆ ทั้งนั้นเลย ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเพียบ เพราะก้านกล้วยชอบผีเสื้อมาก อยู่บ้านก็วิ่งไล่จับผีเสื้อ ถึงแม้บ้านเราจะมีแค่ตัวสีขาวตัวจิ๋วก็ตาม ก้านกล้วยก็สนุกได้ แต่ว่าเรามาใกล้เที่ยงผีเสื้อคงหลบร้อน เห็นอยู่ไม่กี่ตัว ก็เดินไปจนทั่วนั่นแหล่ะ ดีที่ได้ดอกไม้สวย ๆ หลากสีพอรื่นรมกันบ้างแล้วด้านในก็มีไอน้ำพ่นตลอดทาง แต่ก็ทำให้พื้นลื่น และทางบันไดขึ้นลง ก็ระวังกัน แล้วมีบ่อปลาคาร์พด้วยก้านกล้วยชอบมากแวะดูสองรอบ


21

22


23

24

เป้าหมายต่อไปก็สนามเด็กเล่น ก็ขี่ตามกันออกไป มาถึงตอนเที่ยงพอดี แม่ก็ลืม ลืมว่าของเล่นโดดแดดมันจะร้อน ตอนแรกไปถึงก็ชวนก้านกล้วยกินขนมปังก่อนแต่ พอหันไปเห็นเครื่องเล่นก็เลยไม่ยอมกิน ก็ต้องเช็คว่าชิ้นไหนไม่ร้อนมาก พอทนได้ก็ให้เล่น ของเล่นที่นี่ก็ดีนะ แต่สไลเดอร์ ทุกที่เลยจะมีทางขึ้นที่ปีนยากจังสำหรับเด็กอวบอย่างก้านกล้วย (เด็กคนอื่นเป็นหรือเปล่า) แต่สไตล์บ้านเราก็ต้องให้ก้านกล้วยลุย มีดันก้นนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกะอุ้มให้ขึ้นไปก็อยากให้ปีนเยอะ ๆ จะได้ฝึกกล้ามเนื้อ และตาให้สัมพันธ์กันด้วย (ไหน ๆ ก็มาแล้ว)

เล่นอุโมงค์ไปรอบนึง สไลเดอร์ไป 2 อัน จับโคมไฟ 1 ครั้ง จักรยานเด้ง ๆ ไม่เล่น ชิงช้าก็ถ้าจะร้อนแม่ก็ชวนเดินข้ามสะพานไปอีกด้านนึง หวังว่ามันจะดีกว่าตรงนี้


25

26

พูดถึงชอบด้านนี้มากกว่าเพราะว่าร่มรื่นกว่า เงาไม้เยอะมาก เครื่องเล่นเลยไม่ร้อน ตัวสไลเดอร์ด้านนี้จะมีหลายสโลปกว่า ทางเดินเป็นสะพานแบบนี้ก็ง่ายสำหรับเด็กปีนไม่เก่งแบบก้านกล้วย แต่เข้าก็มีด้านที่ให้ปีนนะ ทางขึ้นหลายด้านดี ก้านกล้วยโดนสไลเดอร์ที่โค้ง ๆ อันแรก ตกใจ เพราะเคยเล่นแต่เรียบ ๆ เลยไม่ยอมขึ้นอีกเลย ตอนเด็กระหว่างทางเห็นมีที่ให้หมุน ๆ ก็อดจะหยุดเล่นไม่ได้ เด็กหนอเด็ก เสร็จแม่ชวนกลับเพราะแดดร้อนมากเลย ลมก็ไม่มี กลัวจะไม่สบายด้วย แต่ก้านกล้วยยังอยากเล่นอีก ก็ไปปีนทางขึ้น (เหมือนลูกเสือเลย)


27

28

29

จะกลับอยู่แล้วเพิ่งมาเจอของสนุก พอดีเมื่อกี้มีพี่โต ๆ กลุ่มนึงมาเล่นแล้วไปแล้ว ก้านกล้วยตอนแรกคงยังนึกไม่ออกว่าไอ้ดำ ๆ มันคืออะไร พอเห็นเค้าเล่นก็วิ่งมามั่ง แม่ก็จัดให้นั่ง แกว่ง ที่นี้สนุกเค้าหล่ะ ไม่ยอมลงเลย (การเล่นชิงช้าครั้งแรกในชีวิต) ยิ้มร่าเลย


30

สักพักจนพอใจก็กลับบ้านกัน เหงื่อซกทั้งครอบครัว ถึงบ้านก้านกล้วยยอมกินขนมปังแล้วก็หลับ ตอนบ่ายยังไม่เท่าไหร่ พอตกกลางคืนเท่านั้นหล่ะ ได้ของแถมมาจากสวนรถไฟด้วยก้านกล้วยไอแห้ง ๆ 4 ครั้ง
สิ่งที่ได้จากห้องเรียนธรรมชาติตอนที่ 2

ถ้าจะให้ดีเวลาไปไหนต้องเช็ค ดินฟ้าอากาศด้วย ยิ่งเอ้าท์ดอร์ท แสงแดด ความร้อน คราวก่อนเราไปทะเลเลยไม่รู้สึกเพราะมีลมเย็นตลอด แต่คราวนี้ร้อนมาก จนก้านกล้วยรับไม่ไหว ก็ป่วยไป ณ ปัจจุบัน 2 อาทิตย์แล้วน้ำมูกยังไหล ๆ หยุด ๆ

แต่นอกจากนั้นที่เราได้สอนก้านกล้วยก็คือ การนั่งซ้อนจักรยานว่าควรทำตัวยังไงจะได้ไม่เป็นภาระให้คนที่ขี่ ได้เห็นดอกไม้หลากพันธุ์ สีและจำนวนดอก รวมทั้งชนิด และแต่ละชื่อของดอกไม้ คราวนี้พลาดเรื่องผีเสื้อไว้มาใหม่ไปศึกษาเวลาที่ผีเสื้อออกมาเยอะ ๆ ก่อน

ของแถมคือเรื่องปลาคาร์พก็เพิ่งเห็นครั้งแรกแล้วเป็นสีถูกใจ สีส้ม ติดใจมากเลย แม่คิดอยากให้พ่อทำบ่อปลาเหมือนกัน แต่เสียที่ว่าพี่หมาที่บ้านคงเล่นสนุกไปเลยทั้งขุดดินอีก เดี๋ยวคิดก่อนว่าจะเอายังไงดี ไม่อยากแค่ว่าไปดูปลา แต่อยากเอามาเลี้ยงที่บ้านด้วยจะได้ดูได้ตลอดไปต้องเดินทาง (สไตล์บ้านเรา)

การเล่นของเล่นที่ต่าง ๆ แปลกตาไป การเห็นเด็กคนอื่น ๆ พี่โต ๆ การรอคอย ต่อคิว (แม้คนไม่เยอะมาก) การเล่นชิงช้าว่าเป็นยังไง ของใช้แล้วเช่นยางรถก็เอามาปรับเป็นของเล่นได้ ไม่แพ้ของเล่นแพง ๆ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดหลายอย่างก็ตาม

ศุกร์ 16.04.10 ป่วยซะแล้ว

เช้ามาก็ทั้งจาม ทั้งไอ แถมด้วยน้ำมูกใส ๆ ไหล งานเข้าเลย ตลอดวันหยุดก้านกล้วยได้แช่น้ำวันละ 2 รอบ ๆ 10 นาที แต่คิดว่าคงไปเจออากาศร้อนเมื่อวาน ก็เลยไม่ไหว แต่ก็ไม่งอแงเพียงแต่อดแช่น้ำและเล่นปืนฉีดน้ำตามสงกรานต์นั่นเอง วันนี้ก็เช่นเคยไปหยิบโบว์ลิ่งมาเล่น สนุกสนานได้พักใหญ่ แม่ก็ไปทำแกงจืดสาหร่ายใส่ไข่ กับข้าวสวย พร้อมปลาทูทอดให้กิน แต่คงเจ็บคอเลยกินได้ไม่เยอะ


32

33
บ่ายก้านกล้วยหลับแม่ก็ไปนึ่งปลาหิมะที่เหลือคราวนี้นึ่งซีอิ๊วเฉย ๆ เพราะคิดว่าก้านกล้วยไม่ชอบเห็ดหอมสด แต่จริง ๆ คือปลาหิมะเนื้อละเอียดมาก พอยีแล้วก็ยังติดกันเป็นแพ กินแล้วติดคอ สุดท้ายเห็นไม่สบายด้วย แม่ก็เลยไปปั่นให้กิน คราวนี้ก็ป้อนหายเลย


34

35

36

เสาร์ 17.04.10


พ่อลูกต่อเลโก้ ลูกอยากให้พ่อต่อเป็นโทมัส เจมส์ เพอร์ซี่ให้ ระหว่างต่อถึงเวลานมก็แทบไม่ยอมกิน ข้าวเช้าก็ไม่เอา หน้าเริ่มโทรมสุด ๆ เมื่อเช้าตื่นมาก็พาไปคลินิกได้ยาฆ่าเชื้อ ยาละลายเสมหะ ยาแก้ปวด แล้วก็เลยไปซื้อที่เหลาดินสอมา ตอนแรกมีโปรแกรมจะพาไปเล่นสวนน้ำด้านบนเดอะมอลล์ แต่วันนี้น้ำมูกก็ยังไหลอยู่ เลยไปแค่บิ๊กซีแทน กลับมาก็เอามาเหลาเองเพื่อเอาไว้เล่น stencil


37

38

พ่อทำสปาเก็ตตี้ขี้เมาให้แม่กินอร่อยมาก ส่วนมื้อเย็นแม่อยากกินยำวุ้นเส้นก็ได้หม่ำกันแซ่บ ๆ


39

40

ระบายสีลากเส้นจนเบื่อก้านกล้วยก็ขอให้เปิดคอม ตอนแรกแม่หาเกมส์โทมัส เห็นว่าเป็นเกมส์ที่ดีต่อเด็กไม่อันตราย ก็เล่นพวกเกมส์จิ๊กซอว์ ลากเส้นหาจุดอีกด้านให้ถูกต้อง ให้เด็กเล่นคอมพิวเตอร์จะต้องกำหนดเวลา เพราะเล่นนานไปก็เสียสายตา หรือว่าติดเกมส์ไปอีก แล้วระหว่างเล่น พ่อแม่ต้องคอยนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยนะ


41

อาทิตย์ 18.04.10


วันนี้ของหมดตู้แล้วเหลือแต่หมูหมักแม่ก็เลยไปทำให้พ่ออุ่ยกิน


42

ก็เป็นแบบฝึกหัดอีกเล่มที่ก้านกล้วยทำ ให้นับรูปและวงภาพที่มีจำนวนเท่ากัน ก็จะให้นับแล้ววงเอง


43

44


พอเบื่อก็เอาสีเมจิคมาวาดรูปแล้วเอามาอวดแม่บอกว่าน้องกล้วยวาดหน้าคน มี ตา ปาก จมูก ผม แขน


45

วันนี้ขอจบไดกับรูปเด็กคนนี้จ๊ะ


31

"ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าแม่รักกล้วยมากแค่ไหน"




Create Date : 30 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 16:39:15 น. 0 comments
Counter : 601 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

jittrees
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่ผู้หญิงทำงานออฟฟิศคนหนึ่ง และเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง ที่อยากเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับลูกชายสุดที่รักให้มากที่สุด เผื่อไว้วันข้างหน้าลูกจะได้มาอ่านความเป็นไปของตัวเอง เหมือนที่ตากับยายถ่ายรูปแม่ไว้ ก็ทำให้ระลึกถึงความทรงจำตอนเด็ก ๆ ไม่มีภาพ ก็ลืมกันได้เหมือนกันนะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบล็อคนี้รูปสาระตะเยอะมากมาย


"สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ข้อความและรูปภาพทั้งหมด ที่ปรากฏบน Blogนี้้ห้ามมิให้ทำซ้ำดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด"

free counters
Friends' blogs
[Add jittrees's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.