Bloggang.com : : JitJai :

ใหม่ เปิดตัว สัมผัส'นิสสัน Leaf ' พลังไฟฟ้า-แรงสะใจ สวยงามมากๆ

ต้องยกให้เป็นค่ายรถยนต์ ที่นำหน้าด้านนวัตกรรม แบบหาตัวจับยากสำหรับค่าย 'นิสสัน' เพราะหลังจากประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากอีโคคาร์แล้ว ล่าสุดนำนิสสัน 'ลีฟ' (Leaf) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คันแรกของโลกที่ผลิตขายเชิงพาณิชย์ มาให้สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ทดสอบสมรรถนะกัน

'ข่าวสด ยานยนต์' ไม่ยอมตกเทรนด์ ร่วมขบวนทดสอบในครั้งนี้ด้วยโดยพลัน

นัดแนะกันแต่เช้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังข้อมูลความเป็นมา แนวคิดและตัวรถ จากนั้นจึงจะให้เริ่มทดสอบแบบ 1 คัน 1 คน โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งประกบไปด้วย ประมาณว่าเผื่อสงสัยอะไร จะได้คำตอบในทันที

ดีไซน์มองผาดๆ คล้ายกับอีโคคาร์ 'มาร์ช' อยู่พอสมควร ด้านหน้ารถไม่มีกระจัง เพราะใช้พื้นที่จัดวางมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด

เส้นสายไหลลื่นเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ โคมไฟหน้าแนวตั้งขนาดใหญ่แบบ LED ขนาดบางนูนออกจากตัวรถเป็นทรง 'V-Shape' ช่วยควบคุมการไหลของอากาศไปยังกระจกมองข้าง

สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ โคมไฟท้ายแบบ LED และแผงกระจายแรงลม ติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของกันชนหลัง

ที่สำคัญรถคันนี้ไม่มีท่อไอเสีย เพราะไม่มีอะไรจะเสีย!??

ภายในเรียบหรู อุปกรณ์ต่างๆ มองเห็นชัดเจน กว้างขวางสะดวกสบาย ใช้โทนสีเทา แผงประตูข้างใช้วัสดุหนังสังเคราะห์และหนังกลับให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ขณะที่เบาะนั่งทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิล ให้ความรู้สึกเหมือนหนังกลับ สบายต่อการสัมผัส

แผงคอนโซลกลางแบบ 'flat-panel center cluster' จอแสดงผลสองชั้น เน้นฟังก์ชันและง่ายต่อการใช้งาน มาตรวัดอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และมาตรวัดความเร็วจะแสดงผลอยู่ทางด้านบน ง่ายต่อการอ่าน

ส่วนมาตรวัดด้านล่าง หรือ 'Power Meter' แสดงกำลังไฟฟ้าและการชาร์จของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน รวมถึงจอแสดงข้อมูลแบบ 'Multi Information' ให้ข้อมูลด้านการชาร์จ และประสิทธิภาพของกระแสไฟฟ้า ความจุแบตเตอรี่ที่ยังเหลือ ระยะทางในการขับขี่ และสัญญาณเตือนต่างๆ

ได้เวลาขึ้นทดสอบจริง นั่งประจำตำแหน่งคนขับ ความรู้สึกแรกคือทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม ด้วยความลาดชันของกระจกและกระโปรงหน้า ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเงียบสนิท จนไม่แน่ใจว่าสตาร์ตแล้วหรือยัง

มองไปที่เกียร์ก็ให้มึนเพราะรูปร่างคล้าย 'เมาท์' คอมพิวเตอร์มากกว่า โชคดีมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความกระจ่างอยู่

หากต้องการเดินหน้า (D) ให้ดึงเข้าหาตัวแล้วกดลง ต้องการหมวดประหยัด (ECO) ดึงเข้าหาตัวมากขึ้น แล้วกดลงเช่นกัน เกียร์ถอยหลัง (R) ดึงเข้าหาตัวแล้วดันขึ้น ใส่เกียร์ว่าง (N) ดึงเข้าหาตัวค้างไว้ 1 นาที ส่วนเกียร์ง่ายสุด แค่กดเบาๆ ที่หัวเกียร์

ทำความเข้าใจกับเกียร์ไฮเทคนี้พักหนึ่งก็เริ่มชิน แต่ก่อนจะออกตัวเจ้าหน้าที่เตือนว่า ให้แตะคันเร่งเบาๆ เพราะของเค้าแรง

จริงอย่างว่าเพราะหลังจากใส่เกียร์ D แล้ววางเท้าเบาๆ ตัวรถพุ่งไปข้างหน้าอย่างจัดจ้าน

ขึ้นวิ่งบนถนนรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ในโซนที่รถค่อนข้างน้อย ไม่รอช้าที่จะกดคันเร่งให้มิด แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเข็มความเร็ววิ่งขึ้นไปอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากการวางเท้าครั้งเดียว

โอ้ว แม่เจ้า!!!! นี่มันรถไฟฟ้าจริงหรือ เพราะไม่มีรอรอบ ไม่มีการเปลี่ยนเกียร์

ขากลับยังไม่มั่นใจ ขอใส่เต็มๆ อีกที ทุกอย่างเหมือนเดิม แถมมีระยะได้ความเร็วปลายมาที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาไม่ถึงนาที

เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่รถใช้น้ำมันอายม้วนก็แล้วกัน

ช่วงล่างในย่านความเร็วสูงไม่ได้รู้สึกสั่นไหว รวมถึงการเข้าโค้งที่กระชับมั่นคง แต่ด้วยเวลากับระยะทางสั้นๆ คงให้คำตอบที่ชัดเจนมากยังไม่ได้ ต้องรอโอกาสวิ่งกัน ยาวๆ อีกครั้ง

นิสสัน ลีฟ ใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC 3 เฟส กำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร สร้างแรงบิดสูงสุดตั้งแต่เริ่มออกตัว

อัตราเร่งตั้งแต่ความเร็วต่ำ ถึงกลาง เทียบเท่าซีดานหรู ขนาด 3.0 ลิตร

ขณะที่หลายคนอาจห่วงว่า การชาร์จไฟทำอย่างไร วิ่งได้ไกลแค่ไหนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

คำตอบคือที่ชาร์จไฟอยู่ใต้กระโปรงหน้า ใช้เวลา 8 ชั่วโมงในการชาร์จปกติ แต่ถ้าเป็นระบบ 'ควิกชาร์จ' สามารถเก็บไฟเข้าไปถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที

การชาร์จไฟแต่ละครั้งวิ่งได้ระยะทาง 200 ก.ม. แต่ในการทดสอบแบบดุดันทำได้ระหว่าง 120-180 ก.ม. ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว หากเทียบค่าไฟบ้านเราแล้ว อัตราสิ้นเปลืองประมาณกิโลเมตรละ 50 สตางค์

อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาค่าตัวตอนนี้อาจจะสูงเกินไปหากนำมาขายในบ้านเรา ยกเว้นแต่ภาครัฐจะเห็นประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ช่วยเหลือเรื่องภาษี

คนไทยหัวใจสีเขียวอาจมีสิทธิ์ได้สัมผัสตัวเป็นๆ ในอนาคต

Create Date : 24 มกราคม 2555

0 comments

Last Update : 24 มกราคม 2555 8:13:06 น.

Counter : 885 Pageviews.