. . เ ส รี ภ า พ แ ห่ ง ค ว า ม คิ ด . .
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 มกราคม 2553
 
 
ก ร ะ เ หี้ ย น ก ร ะหื อ รื อ ' ตื อ ' แ ส่ ท ว ง คุ ณ แ ก้ ร ธ น .

กระเหี้ยนกระหือรือ 'ตือ'แส่ทวงคุณแก้รธน./
'มาร์ค'เมินยุบ-เคลียร์พรรคร่วม

ข่าวหน้า 1 ไทยโพสต์
28 มกราคม 2553

ภูมิใจไทยร่วมใจขย่มประชาธิปัตย์ รมช.เกษตรฯ ด่าแหลก ไม่จริงใจ เอาดีเข้าตัว ขำขำถึงขนาดต้องกล้ำกลืนดูแล "มหาดไทย-คมนาคม" ต่อ เพื่อนเนวินเคืองถอดกางเกงแล้วยังไม่ทันได้ชำเราดันมาขวาง มีหน้าถามหาความเป็นสุภาพบุรุษ นักการเมืองถูกตัดสิทธิ์แส่ "เฮียตือ" นับถอยหลังรัฐบาล "เด็กเติ้ง" ขู่โหวตสวนซักฟอก "มาร์ค" ลั่นไม่ยุบพร้อมคุยพรรคร่วม แต่ "เทือก" ยังงอน ลั่นถ้าไม่ใช่ผมก็คงไม่มีคนอื่นที่จะสามารถไปพูดคุยกับพรรคร่วมได้ เพราะไม่เคยคบค้าใกล้ชิดกันมาก่อน ข่าวลือยุบสภาทุบหุ้นร่วงต่ำกว่า 700 จุด

มติไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็นของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทย อารมณ์เสียกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ มีการออกมาตำหนิพรรคประชาธิปัตย์อย่างไม่อ้อมค้อม

นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ และปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลออกมาฟรีโหวตบ้าง พรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึกอย่างไร

"อะไรที่เป็นประโยชน์ พรรคประชาธิปัตย์เอาหมด อะไรไม่เป็นประโยชน์แก่ตัวเองไม่ร่วมด้วย ผมรู้สึกเสียความรู้สึกมาก เพราะแสดงถึงความไม่จริงใจ ซึ่งผมสงสัยตั้งแต่ครั้งการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ แล้ว เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยส่งเรื่องแก้ไขเลย"

นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่อยากจะบอกว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ หรือไม่ตามที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุ ที่ทำให้เป็นสาเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงไป กับคำมั่นที่ผู้จัดการรัฐบาลเคยรับปากในครั้งการร่วมรัฐบาล

"แม้ว่าจะไม่มีการตกลงทำสัญญาแบบเป็นลายลักษณ์ แต่สัญญาใจมีค่ามากกว่ามากมาย เพราะเป็นการสะท้อนความเป็นสุภาพบุรุษและความเป็นมนุษย์ของแต่ละคนออกมาเป็นอย่างไร"

เขาบอกว่า หลังจากนี้การทำงานจะต้องตะแคงข้างกันไป เปรียบเสมือนการนั่งเรือลำเดียวกันที่ต้องรักษาสมดุลจึงจะเกิดความสง่างาม แต่หากข้างใดข้างหนึ่งเอียงไปอาจจะทำให้เรือล่มได้

ขณะที่ผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยยังคงสงวนท่าที นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องการทบทวนมติ และไม่มีการขอให้ประชาธิปัตย์เปลี่ยนท่าที ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ปชป. มีความคิดที่จะนัดพรรคร่วมรัฐบาลเคลียร์ใจนั้น ก็เป็นเรื่องดีและควรจะทำ

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่เป็นไร แต่เราต้องกล้ำกลืนดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคมต่อไปเท่านั้น

รัฐบาลนับถอยหลัง

ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดือดไม่แพ้กัน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ชทพ. ระบุว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ตนไม่ผิดหวัง เพราะไม่ได้หวังมานานแล้วหลังเห็นท่าทียื้อไปมาเกือบ 1 ปีทั้งที่เรื่องนี้เป็นข้อตกลงกันมาก่อน

"ขณะนี้รัฐบาลถึงเวลานับถอยหลังแล้ว และหากถามว่าพรรคพร้อมหรือไม่กับการเลือกตั้ง ขอบอกว่าไม่มีพรรคไหนที่ไม่พร้อม"

นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นยังตอบไม่ได้ว่า ส.ส.ชทพ.จะมีการฟรีโหวตหรือไม่ แต่ให้จับตาดีๆ เพราะคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เอาไว้ต่อรอง เพราะสิ่งที่นายกรัฐมนตรีว่าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สภาตัดสิน เรื่องอภิปรายให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นถือว่าถูกต้อง เพราะถึงวันนั้นพรรคจะฟังเสียงประชาชน อาจไม่ฟังเสียงพรรคประชาธิปัตย์

"ผมพูดความจริง ขณะนี้ถึงเวลาที่จะนับถอยหลังรัฐบาลแล้ว เพราะรัฐบาลเหลือเวลาเพียงปีเศษๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณอภิสิทธิ์รับปากกับประชาชนว่าจะแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกอบกู้เศรษฐกิจ ความสมานฉันท์ หรือกติกาต่างๆ ที่ไม่มีความเป็นธรรม ต้องเร่งทำให้เสร็จ เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ เพราะขณะนี้สิ่งเหล่านี้รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการทำเลย รีบทำเสีย เพราะเวลามีน้อย"

ถามถึงการติพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมศักดิ์ตอบว่า เราไม่ได้สนใจพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ชอบเล่นตามกระแส

นายสมศักดิ์ยังได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ระบายความในใจ 8 ข้อ แม้เขาจะออกตัวว่าเป็นสิ่งชำรุดเพราะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการทวงบุญคุณ เพราะเมื่อครั้งตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ได้รับปากว่าจะร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ

จดหมายเปิดผนึกยังระบุว่า การที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ (นายชวน) พูดว่าการยื่นญัตติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการยื่นเพื่อประโยชน์ของนายบรรหาร นายเนวิน หรือใครบางคน ถือเป็นคำพูดที่หมิ่นน้ำใจและดูถูกดูแคลนกันเกินไป ถามว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 มาตรานี้ประสบความสำเร็จ นายบรรหาร นายเนวิน หรือใครบางคนจะได้อะไรขึ้นมาบ้าง ประการสำคัญยังเท่ากับดูแคลนคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ทั้งคณะไปพร้อมกัน เพราะประเด็นที่จะขอแก้ไข 2 ประเด็นจาก 6 ประเด็นนั้น ล้วนมาจากข้อสรุปของคณะกรรมการฯ ที่ถือว่าเป็นตัวแทนของสังคม การกระทำเช่นนี้จึงยากที่กระผมจะยอมรับได้

สุดท้ายนายสมศักดิ์ระบายว่า เคารพในการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่อย่าเห็นในสิ่งที่คนอื่นทำเลวทั้งหมด ใช้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นตัวเองทำแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน กลับใช้ได้ทั้งหมด ทำดีทั้งหมด เราเป็นนักการเมือง เราเป็นคนอาสาประชาชนเพื่อมาทำงานการเมือง หวังจะเปลี่ยนแปลงการเมืองให้ดีขึ้น แต่ทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเรา "เขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า" เช่นวันนี้

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะเป็นวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ จะยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภา

"ต้องถามว่าถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์เราจะทำอย่างไร ดังนั้นจะถามกลับว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีพวกเราจะทำอย่างไร และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่แน่ เพราะ ส.ส.แต่ละคนมีความคิดเห็นต่างกัน อีกทั้งขณะนี้พรรคเพื่อไทยต้องการเอารัฐธรรมนูญปี 2540 เท่านั้น ซึ่งจะทำให้สังคมแตกแยกอีก"

ถามว่า มติพรรคประชาธิปัตย์ไม่ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ ทางพรรค ชทพ.จะสนับสนุนรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า ต้องดูเนื้อหาการอภิปรายของฝ่ายค้านก่อนว่าจะมีน้ำหนักหรือไม่ เพราะอาจมีน้ำหนักเป็นไปได้ที่จะทำให้ ส.ส.ของพรรค ชทพ.จะลงมติแบบอิสระ ดังนั้นหากรัฐมนตรีในรัฐบาลทุจริตจริงตามที่ฝ่ายค้านอภิปราย เราก็ต้องโหวตสวนรัฐบาลไป เพราะเป็นสิทธิของ ส.ส.ที่เราต้องทำเพื่อประชาชน

นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ณ เวลานี้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เตรียมจะยื่นญัตติสู่สภาผู้แทนราษฎรนั้น ฉบับต้นร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมี 2 ประเด็นตามที่เคยแถลงข่าว และไม่มีการสอดไส้แก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมเด็ดขาด จากนี้ไปจะเป็นขั้นตอนที่ให้สมาชิกตรวจสอบเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งอาจกินเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์น่าจะเรียบร้อย

"ไม่มีผลกระทบอะไรต่อการร่วมรัฐบาล เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็เข้าใจว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถือเป็นเรื่องของสภา ที่ต้องแยกแยะออกจากการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านที่อาจเกิดขึ้นในห้วงเวลาอันใกล้นี้ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของกติกาการร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล" รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าว

ถล่ม ปชป.กลางที่ประชุมวิป

ในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วันเดียวกันนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง แต่เชื่อสุดท้ายในการโหวตรับหลักการในวาระแรก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค จะสามารถพาจำนวน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 48 คนที่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 26 มกราคม มาร่วมหนุนแก้รัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย จะสามารถไปเจรจากับพรรคเพื่อไทยให้ร่วมแก้รัฐธรรมนูญได้

ขณะที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต่างออกมาชี้แจงเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญทุกคนมีอิสระในการลงมติอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น

ส่วนกรณีดัชนีหุ้นร่วงเพราะมีการกังวลกระแสยุบสภานั้น นายกฯ บอกว่า ไม่ทราบว่าหุ้นตกเพราะอะไร

เมื่อให้ยืนยันว่าไม่มีการยุบสภา นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า ขณะนี้ทุกอย่างปกติ เมื่อช่วงเช้ามีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลก็มากันตามปกติ อย่างพรรคชาติไทยพัฒนาก็ยังหารือกับ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ทางพรรคภูมิใจไทย นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมก็อยู่ ทำงานกันตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไร

เขาบอกว่า ตั้งใจนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ คงต้องให้มีการประสานงาน เพราะนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคมเป็นเจ้าภาพ ก็บอกตามเหตุผลและตามที่เคยคุยกันไว้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมด

"ยินดีมาพูดคุย ทบทวนคำพูดทุกอย่างลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด จะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วทุกอย่างเดินไปตามที่พูดคุยกันไว้ แต่ช่วงหลังที่เขาไปตัดสินใจเดินกันเองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง" นายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ ข่าวลือยุบสภาส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นวันพุธปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 700 จุด โดยปิดวันที่ 27 ม.ค.ที่ระดับต่ำสุด 690.46 จุด ลดลง 11.20 จุด อยู่ที่ 690.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,880.53 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นดัชนีต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวไม่มีความอัดอั้นใจอะไรที่ต้องระบาย ซึ่งเราจะได้ยินพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระองค์รับสั่งว่า ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง เพื่อชาติบ้านเมืองตามขอบเขตความรับผิดชอบให้เต็มที่ ส่วนตัวได้จำใส่ไว้ในเกล้าในจิตใจ และยึดเป็นแนวในการดำรงชีวิต

"ไม่ต้องไปมีอะไรที่เป็นอารมณ์ ทุกอย่างมีธรรมชาติของมัน การเมืองก็ต้องมีธรรมชาติของการเมือง ฉะนั้นต้องทำใจให้ได้"

นายสุเทพยังกล่าวว่า "ในพรรคประชาธิปัตย์ถ้าไม่ใช่ผมก็คงไม่มีคนอื่นที่จะสามารถไปพูดคุยกับพรรคร่วมได้ เพราะไม่เคยคบค้าใกล้ชิดกันมาก่อน แต่ยังไงผมก็ต้องไปหาพรรคร่วมเหล่านั้น ต้องคุยกัน มีเรื่องอะไรก็ต้องคุยกันต่อไป"

"ผมไม่ได้ไปพูดจะแบบหลอกลวงต้มตุ๋นเขานี่ครับ เอาหัวใจไปคุยกัน เอาเรื่องของบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ก็ลองดูเพราะมันเป็นหน้าที่ ผมเป็นคนขยัน สติปัญญาความเฉลียวฉลาดไม่ค่อยมี แต่เป็นคนขยันมาก" นายสุเทพกล่าว

เมื่อถามว่า ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ให้ฟรีโหวตในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วพรรคร่วมให้ฟรีโหวตเรื่องการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ฟรีโหวตในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกคนเมื่อลงมติแล้ว และมีมติพรรคแล้ว แม้ ส.ส.ทั้ง 48 คนที่ลงมติที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเสียงส่วนใหญ่ของพรรคเป็นเช่นนี้แล้ว 48 คนนี้ก็จะทำเหมือบกับคน 82 คน

"จะมาบอกว่าเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ฟรีโหวตได้ เขาก็ฟรีโหวตได้ มันไม่ใช่ครับ มันคนละเหตุผลคนละเรื่องราวกัน ต้องดูตามกรณีไป" นายสุเทพกล่าว

"หยัด"เชื่อ ปชป.ไม่แตก

ส่วนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องยุบสภา ส่วนที่พรรคร่วมที่ออกมาขู่ว่าจะมีการถอนตัว ซึ่งตนคิดว่าเป็นของคนที่มีความคิดต่างกัน อาจจะเป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการพูดออกมาบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อาจจะมีอารมณ์น้อยใจบ้าง แต่หากหักล้างกันดู เอาประโยชน์บ้านเมือง เอาเหตุผลมาพูดคุยกัน ตนไม่คิดว่าจะมีพรรคร่วมคนไหนคิดไกลว่าจะนำไปสู่ความขัดแข้งจนเกิดการยุบสภา

เขาเชื่อว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ เพราะทั้ง 2 คนอยู่ในพรรคมานานแล้ว และทราบดีว่าวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบนี้ นายสุเทพก็ไปรับคำมั่นสัญญากับเพื่อนไว้แล้ว ว่าอยากทำให้เป็นไปตามนั้น แต่จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนส่วนใหญ่ในพรรค และคนส่วนใหญ่ในพรรคลงคะแนนแบบนี้ ผลก็ต้องออกมาอย่างนี้เหมือนกัน ส่วนจะเป็นเรื่องของการเสียคนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคนที่ทำงานร่วมกันต้องเข้าใจกัน

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องที่ต้องแยกออกจากกันของการมารวมตัวกันเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินแก้ไขปัญหาประชาชน ถ้าเอา 2 เรื่องมารวมกันจุดยืนทางการเมืองบางเรื่องไม่ตรงกัน แล้วไปกระทบต่อเสถียรภาพารกทำงาน คิดว่าก็จะทำให้ประชาชนเกิดความข้องใจได้เหมือนกันว่ารัฐบาลมารวมตัวกันเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนจริงหรือไม่

"ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกัน อาจจะมีแรงกระเพื่อมอยู่บ้างหลังจากเราตัดสินใจไปแล้ว แต่ถ้าทำความเข้าใจถึงจุดยืนของพรรคต่อเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและแนวทางการแก้ปัญหาประชาชนแนวทางการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องทุกอย่างน่าจะดีขึ้น"

นายไชยยศ จิรเมธากร เลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า พรรคเคารพในการตัดสินใจของทุกพรรค โดยเฉพาะกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นถือว่าเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาทุกคน และเป็นเรื่องของสภา มิใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง จึงไม่เกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยอมรับว่ามติของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อแผ่นดินคาดไม่ถึงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเลือกตัดสินใจในลักษณะนี้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ถอนตัวออกจากรัฐบาลแน่ เพราะใกล้ช่วงงบประมาณโครงการต่างๆ กำลังจะออกมาแล้ว

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลจะมายกมือให้ฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ประวัติศาสตร์ไม่เคยมีมาก่อน แต่สถานการณ์ขณะนี้ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งนายสุเทพ ถูกพรรคประชาธิปัตย์หักหลัง แต่เมื่อถึงขั้นลงมติแล้วพรรคร่วมจะมาโหวตให้ฝ่ายค้านนั้น เขาไม่บอกกัน เป็นเรื่องที่มองตาก็รู้ใจ แต่การเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของนายบรรหารและนายสุเทพนั้น ชัดเจนว่าไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบหลอกๆ แล้วก็ชัดเจนว่าทั้งสองถูกหักหลัง

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ต้องขอยกนิ้วให้ประชาธิปัตย์ เชื่อว่าต่อจากนี้มีโอกาสสูงมากที่จะลดบทบาทตัวบุคคลภายในพรรค โดยอาจจะใช้รูปแบบวิปพรรคมากกว่าจะขึ้นอยู่กับนายสุเทพคนเดียว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่มีการยุบสภา เพราะพรรคร่วมจะรักษาหน้าโดยยื่นญัตติไปอย่างนั้น การทำงานคงเป็นไปแบบประคองตัว แต่อาจจะมีการโกงกันมโหฬาร.



Create Date : 28 มกราคม 2553
Last Update : 28 มกราคม 2553 12:41:27 น. 0 comments
Counter : 799 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

jirachon
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add jirachon's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com