ปลูกผักกันเถอะ
Let's Do Some Gardening
โดย ศิริกุล ซื่อต่อชาติ (ป้อม)
สำนักพิมพ์อัมรินทร์ฮาวทู : เล่มเดียวจบ
190 หน้า ราคา 225 บาท
คุยกันก่อนรีวิว :
เริ่มจากพ่อบ้านเป็นคนชอบทำกับข้าวและลูก ๆ ก็ติดฝีมือพ่อ
ชอบกินข้าวในบ้านมากกว่ากินข้าวนอกบ้าน ประจวบกับสุขภาพไม่ค่อยดี
ก็เลยถึงเวลาที่จะต้องมาโฟกัสเรื่องอาหารการกินมากขึ้น
ที่นอกจากจะสรรหาสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว ก็ยังให้ความสำคัญกับสารพิษตกค้าง
ที่ปะปนมากับวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารด้วย จึงเป็นที่มาของการ "ปลูกผักสวนครัว"
นึกถึงคำพูดหนึ่งที่เคยได้ยินมานานคือ "ผักสวนครัว รั้วกินได้"
คือ เดินรอบรั้วบ้านก็เก็บผักได้หนึ่งหม้อแกงละ บ้านเกิดของ จขบ.ที่ อ.สะเมิงก็เป็นแบบนั้น
แต่บ้านในเมืองพื้นที่ค่อนข้างแคบรั้วรอบขอบชิด ไม่ค่อยมีที่ปลูกผักแต่อยากจะปลูก
ทำไงเมื่อมีพื้นที่จำกัด ปลูกในกระถางเอาละกัน ปลูกได้เท่าที่ปลูก จึงกลายเป็นแนว
"ผักสวนครัว แต่รั้ว(ยัง)กินไม่ได้" จากนั้นก็เริ่มไปเดินตลาดคำเที่ยง
ตลาดที่ขายพืชพรรณไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่
เมียงมองหาต้นกล้าผักที่ต้องการ และวัสดุอุปกรณ์ในการปลูกผัก
เช่น ดิน ปุ๋ยคอก เปลือกมะพร้าวสับ แกลบ ขี้วัว ฟางข้าว กระถางพลาสติก ฯลฯ
ผักที่เล็งไว้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสมุนไพรพื้นเมืองก่อน
เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ตะไคร้ ขมิ้น
กะเพรา สาระแหน่ เม็ดแมงลัก โหระพา พริกขี้หนูสวน พริกหนุ่ม พริกชี้ฟ้า
มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือพวง ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง
ผักขึ้นฉ่าย กุยช่าย อัญชัญ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู
แตงกวา มะเขือเทศ จิงจู่ฉ่าย ผักคาวตอง มะม่วงหาวมะนาวโห่
ผักบุ้งจีน ผักกาด คะน้ายอด กวางตุ้ง และปวยเล้ง
เอิ่ม... ก็เยอะอยู่เนอะ จะบอกว่าที่สาธยายมาข้างบนน่ะ จัดหามาปลูกหมดเลยนะเออ^^
ผีผักเข้าสิงยิ่งปลูกยิ่งสนุกและมีความสุขที่ได้ลงมือทำ
ไปเดินเกือบทุกวัน ไม่ก็วันเว้นวันช่วงเวลาที่ว่างหลังกินข้าวมื้อเที่ยง
ถือเป็นการเดินย่อยอาหาร เปลี่ยนจากเดินเล่นตามร้านหนังสือ เปลี่ยนเป็นตลาดต้นไม้แทน
แดดร้อนฝนตกก็ไม่หวั่นไปมันตลอด ไม่มีเบื่อ
บางวันก็ได้กล้าผักติดมือมา บางวันก็ไ้ด้ดอกไม้มาแทน
บางวันไม่ได้ตั้งใจไปซื้ออะไร แต่ขอให้ได้ไปเดินดูพืชพรรณไม้นู๊นนี่นั่น
ได้คุยกับพ่อค้าแม่ค้า ถามเรื่องความรู้เกี่ยวกับชื่อต้นไม้และพืชผัก ก็มีความสุข
วันหนึ่ง..สบตากับหนังสือ"ปลูกผักกันเถอะ" เปิด ๆ ดูแล้วน่าสนใจ
อ่านหนังสือนี้ที่คุณป้อมเขียนแล้ว ทำให้รู้สึกรักที่จะปลูกผักสวนครัวมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ไปเริ่มต้นทำความรู้จักหนังสือเล่มนี้กันเลยค่ะ
แล้วค่อยเอาผักที่ปลูกตามมาตามเกิดข้างรั้วบ้านมาให้ดูกัน
สิ่งแรกที่คุณป้อมแนะนำในการปลูกผักก็ คือ
ชอบกินผักอะไรก็เริ่มต้นผักนั้นแหละ แต่ก่อนจะลงมือปลูกผัก
มาทำความรู้จักผักเหล่านี้ก่อนเนอะ
1.ผักปลอดภัย
คือ ผักที่ยังใช้สารเคมีในการปลูกอยู่ แต่จะมีกำหนดว่าใช้ได้แค่ไหน
เว้นระยะในการใช้สารเคมีก่อนการเก็บผลิตกี่วัน
2.ผักปลอดสาร
คือ ผักที่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์ และยังคงใช้ปุ๋ยเคมีอยู่บ้าง
แต่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง
3.ผักไร้สาร
คือ ผักที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูก แต่จะปลูกในดินอะไรหรือ
น้ำที่ใช้รดจะเอามาจากไหนไม่ควบคุม
4.ผักออร์แกนิก
คือ ผักที่ปลูกในดิน โดยดินที่ใช้ปลูกผักนั้น
จะต้องเป็นดินที่ไม่เคยใช้เคมีมาก่อน หรือเลิกใช้สารเคมีมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี
และข้าง ๆ ดินที่ปลูกก็ต้องไม่ใช้สารเคมี
ถ้ามีก็ต้องสร้างแนวต้นไม้กั้นไว้สูงตามมาตรฐานกำหนด
น้ำที่ใช้รดผักก็ต้องเป็นแบบน้ำที่ไม่ไหลผ่านพื้นที่ที่ใช้สารเคมี
ดังนั้นผักออร์แกนิกจึงมีราคาแพงเป็นพิเศษ
การที่เราปลูกผักกินเอง ไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีช่วยเร่งการเจริญเติบโต
รวมทั้ง
ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง ทุกอย่างเราทำเองตั้งแต่การปรุงดินหรือการดูแลผักด้วยฮอร์โมนต่าง ๆ
ถ้าเกิดมีแมลงศัตรูพืชก็จะใช้แต่สารสกัดจากธรรมชาติ
การปลูกผักแบบกินเองลักษณะนี้ คุณป้อมเธอบอกว่า
เป็นการปลูกผักแบบ เกษตรอินทรีย์
รู้จักชนิดของผักกันคร่าว ๆ แล้ว ก็มาเรื่องการปลูกผักตามฤดูกาล
ว่าผักอะไร ชนิดไหน ควรปลูกเมื่อไหร่
เพราะพืชผักบางอย่างถ้าปลูกตรงฤดูกาลเขาจะให้ผลผลิตได้ดี แข็งแรง
ไม่มีศัตรูพืชมารบกวน
หนังสือเล่มนี้ จะแนะนำแต่ละฤดูกาล ฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน
ควรจะปลูกผักอะไรดี และเน้นว่า ต้องปลูกในสิ่งที่เรากิน ไม่ต้องปลูกตามกระแส
ผักบางชนิดก็สามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางของคนเมือง ที่บ้านไม่ค่อยมีพื้นที่แบบ จขบ.
หรือแม้กระทั่งบ้านทาวเฮ้าส์ ควรจะปลูกผักแบบไหน มีรูปภาพประกอบให้เห็นภาพชัดด้วยค่ะ
ดูแล้วก็เออนะ.. ถ้าจะปลูกเสียอย่างก็ปลูกได้น่ะ
รู้จักผัก รู้จักข้อจำกัดของตัวเอง แล้วคุณป้อมจะสอนเรื่อง
การเตรียมตัวปลูกผัก การทำแปลงปลูกผักและภาชนะที่ใช้ในการปลูก
รวมไปถึงวิธีดัดแปลงวัสดุเหลือใช้มาทำที่ปลูกผัก
การเตรียมดิน ปรุงดินเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี วิธีการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์
อ่านดูแล้วสามารถทำตามได้ไม่ยากแม้วิธีการจะยุ่งยากนิด แต่ถ้าใช้กับผักที่เรากินเอง
ยังไงก็ดีกว่าใช้ปุ๋ยที่ทำจากสารเคมีแน่นอนค่ะ
จากนั้นก็ไปการลงมือปลูกพืชผักชนิดต่าง ๆ ที่เราเห็นกันทั่วไปตามตลาด
เช่น ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาว ปวยเล้ง ซึ่งเรียกว่า ผักกินใบ ไปจนถึงผักกินผลฝัก
ตลอดจนผักที่เก็บกินดอกได้ เช่น ดอกขจร ดอกชมจันทร์ ดอกอัญชัญ
และก็วิธีปลูกผักทั่วไป เช่น ผักเป็ดน้ำ ถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน
โต้วเมี่ยว ไควาเระ ผักสลัด เห็ด ผักสามัญประจำบ้าน ผักแกงจืด ผักเครื่องต้มยำ
ผักเครื่องลาบ และพืชผักสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ติดบ้าน
ผักแกงจืด ก็จะแนะนำวิธีการปลูกผักชี ปลูกต้นหอม ปลูกขึ้นฉ่าย
ผักเครื่องต้มยำ ก็แนะนำวิธีปลูกข่า ปลูกตะไคร้ ปลูกต้นมะกรูด และส่วน
ผักเครื่องลาบ ก็วิธีปลูกสาระแหน่ ปลูกผักชีฝรั่ง
พืชผักสมุนไพรที่ควรมีปลูกติดบ้าน ได้แก่
ดอกอัญชัญ ใบเตย ตะไคร้ ฟ้าทะลายโจร ว่านหางจรเข้
สาระแหน่ หูเสือ โรสแมรี่
ที่บอกมาทั้งหมดนี้ คุณป้อมเธอก็จะบอกวิธีปลูกง่าย ๆ
และวิธีการนำมาเอาใช้ พร้อมคุณประโยชน์
และที่พิเศษที่สุด คือ การทะนุถนอมผัก / อิ่มเอมจากผัก
ด้วยสูตรฮอร์โมนถั่วเหลืองและฮอร์โมนไข่ พืช-สมุนไพรไล่แมลง และวิธีการทำ
กำลังเป็นวิธียอดฮิตกันในขณะนี้เลย เห็นในเน็ตมีหลายสูตรมาก
คุณป้อมเธอแถมวิธีการทำ เครื่องดื่มสูตรผักบ้านเรา
เมนูจากผักบ้านเรา น้ำยาเอนกประสงค์ให้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่อง
เรื่องปลูกผักสวนครัวแบบสนุกสนานมากมายเลย
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ.. รายละเอียดคร่าว ๆ ของเนื้อหาเล่มนี้
อยากจะหามาเป็นกุนซือในการปลูกผักสวนครัวที่บ้านกับบ้างหรือเปล่า
จขบ.อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว อะไร ๆ ก็แลดูง่ายไปเสียหมด
อยากจะปลูกตามคุณป้อมเสียทุกอย่าง
ทีนี้ ก็มาดูสวนผักริมรั้วของ จขบ.บ้าง
มือใหม่หัดปลูกเริ่มต้นจากอยากปลูก ปลูกแล้วได้กินหรือไม่นั้นยังไม่สน
ขอให้ได้เริ่มต้นปลูกเสียก่อน ผลผลิตค่อยว่ากัน..
จขบ.ปลูกผักชีและหอมแดงในกระถางพลาสติก
ส่วนสามีปลูกหอมแดงในแผงไข่ ซื้อไข่มาเป็นแผงแล้วเก็บแผงไข่ไว้
เลือกหอมแดงเก่าโยนใส่แผงไข่หลุมละหัวแล้วเอาดินกลบ
ปรากฎว่า หอมแดงที่ปลูกในแผงไข่งอกแตกช่อเร็วมาก
ส่วนที่ จขบ.ปลูกในกระถางพลาสติกเลือกหอมแดงที่คิดว่าแก่ หัวโต ๆ
ไม่แตกยอดแทงใบให้เห็นสักที เจ็บใจแอบแข่งกับสามี 55
ที่เกริ่นนำด้านบน สรรหามาปลูกหมดค่า ก็ตั้งใจไว้แล้วนินะ
ขอให้ได้ปลูกก่อน จะเลี้ยงโตหรือตาย จะได้กินหรือไม่ค่อยมาลุ้นเอาทีหลัง
ไปเดินตลาดคำเที่ยงแทบจะวันเว้นวัน จนรู้ร้านไหนขายถูกขายแพง
ไปจนแม่ค้าถามว่า อ้าวมาอีกแล้วเหรอ ยังมีต้นอะไรที่ยังไม่มี ต้นนี้เอาไปแล้วนินา บลาๆ
บางทีนอกจากลดราคาแล้ว ก็แถมต้นเล็กให้อีก
จัดหามาปลูกหมดค่ะ..
ขิง ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะนาว ตะไคร้ ขมิ้น ชะพลู
กะเพรา สาระแหน่ เม็ดแมงลัก โหระพา พริกขี้หนูสวน พริกหนุ่ม พริกชี้ฟ้า
มะเขือเปราะ มะเขือยาว มะเขือพวง ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง
ผักขึ้นฉ่าย กุยช่าย อัญชัญ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู
แตงกวา มะเขือเทศ จิงจู่ฉ่าย ผักคาวตอง มะม่วงหาวมะนาวโห่
ผักบุ้งจีน ผักกาด คะน้ายอด กวางตุ้ง และปวยเล้ง
กะเพราเอามาทั้งสองสี ทั้งกะเพราะขาวกะเพราแดง
กะเพราแดงจะหอมกลิ่นแรงคนไทยนิยม แต่กะเพราขาวต่างชาตินิยม
เพราะทำอาหารออกมาให้สีสันดีกว่ากะเพราแดง
ตอนไปเลือกซื้อมะนาว ตอนแรกอยากได้มะนาวแป้นทวาย
พ่อให้ข้อมูลว่า แป้นทวายโรคแคงเกอร์เยอะ แป้นพิจิตรเปลือกหนา แม่ลูกดกแมลงชอบเจาะ
เอิ่ม.. ครั้นจะขอพ่อตอนกิ่งที่สวนให้ ก็ไม่อยากรอเพราะใช้เวลา
ไปเลียบ ๆ เคียง ๆ แม่ค้า ก็ได้ความมาว่า
แป้นวโรชาเป็นพันธุ์ดีที่สุด รองลงมาก็แป้นรำไพพันธุ์มะนาวเก่าแก่
ถ้าไม่อยากให้ต้นมันโตก็พันธุ์เตี้ย แต่ต้องมีที่ให้มันหน่อย
จขบ.เลือกพันธุ์แป้นวโรชาเพราะให้ลูกตลอดปี ลูกดก เปลือกบาง แต่แพงกว่าเพื่อน
เราไม่ได้ปลูกเป็นสวนปลูกไว้กินในบ้านแค่ต้นเดียว แพงหน่อยช่างมัน
บนขวา ปลูกดอกอัญชัญ และลงเมล็ดแตงกวาไว้สามหลุม กับเมล็ดมะเขือเทศอีกสามหลุม
เพิ่งเห็นต้นอ่อนของแตงกวาโผล่มาจากดินแล้วรอโตจะทำค้างให้เค้าอยู่
รูปล่าง เป็นถั่วพลูกับต้นถั่วฝักยาว
เอาไม้ปักแล้วเอาเชือกฟางมามัดทำที่เลื้อยให้ นางก็เลื้อยไปเรื่อย
โตและเลื้อยไปเร็วมากจริง ถ้าทำค้างให้คงจะดีกว่านี้
นี่ก็ลุ้นว่า จะออกผลให้เด็ดกินได้เมื่อไหร่
ส่องมันทุกวันค่ะ เห็นแต่ใบ 55
ตอนเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนหัวเราะแซวว่า กะจะไม่ให้เงินกระเด็นเลยเหรอ
ร้านค้าแถวปากซอยก็ขายผักถูกยังกะแจกฟรี ทีละ 5 บาท 10 บาท ได้ตั้งมัดและถุงเบ่อเร้อ
จริง ๆ ที่ซื้อผักและวัสดุอุปกรณ์มาปลูกครั้งแรกนั้นหมดไปเยอะมาก 55
แต่ความรู้สึกที่ได้เด็ดผักที่ตัวเองปลูกมากินเนี่ย มันฟินมากกว่า
นอกเหนือจากความฟิน ได้ความปลอดภัยจากผักสารเคมีตกค้างแล้ว อีกอย่างหนึ่ง
มันคือ ความภาคภูมิใจ เออ..เราปลูกเองนะ เก่งเหมือนกันนะเรา^^
ใส่เพียงปุ๋ยคอก ขี้วัว แค่เนี่ยะ แล้วก็รดน้ำทุกเช้าก่อนออกบ้าน
จะให้ดีต้องรดน้ำเช้า-เย็น เอ่อ..แอบใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดไล่แมลงนิดหนึ่ง
(จขบ.ใช้น้ำส้มควันไม้ของโครงการหลวงดอยคำค่ะ)
นี่ค่ะ! ความสุขในบ้าน ความสุขที่ได้ลงมือทำ
ผักปลอดสารพิษ ทำแนวรั้วบ้านคอนกรีตให้มีชีวิตชีวาและกินได้
ได้ออกกำลังกาย รดน้ำ เด็ดผัก ปลูกผักก็ได้เหงื่อตอนเช้า
และนี่ พริก ตะไคร้ มะกรูด ผักชี สาระแหน่
แปรงร่างมาเป็นอาหาร ผักที่เราปลูกและดูแลเอง ดูดีเนอะ อิอิ
คุยกันท้ายบล็อก
ที่ยกบล็อกนี้เป็นรีวิวหนังสือ เพราะอยากจะบอกต่อ
หนังสือ "ปลูกผักกันเถอะ" ให้ความรู้สำหรับมือใหม่หัดปลูกได้เป็นอย่างดี
คุณป้อมเธอได้ให้คำแนะนำ เทคนิคต่าง ๆ อย่างไม่หวงวิชา
เธอเขียนบอกเล่าได้อย่างสนุก อ่านไปแอบขำไป
มีหยอดมุกตลอดเวลา เรื่องราวที่เธอเล่ามาในหนังสือ ก็เป็นเรื่องใกล้ตัว
ที่แม่บ้านทั้งหลายประสบและรู้สึกคล้าย ๆ กันทั้งนั้น
เริ่มจากใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีให้มากที่สุด การใช้วัสดุอุปกรณ์
การเตรียมตัวปลูก การปลูก การดูแล การทำปุ๋ยให้ผัก และเมนูจากผักที่ปลูก
เล่มเดียว ครบครันเรื่องของการปลูกพืชผักจริง ๆ
อ่านแล้วชอบ อ่านแล้วนำไปปรับปรุงการปลูกผักแบบตามมีตามเกิดที่เคยทำ
คุณป้อมเธอย้ำเลยนะคะ ปลูกผักที่ชอบกิน ไม่ต้องไปปลูกตามกระแส อันนี้เห็นด้วยมาก
มีรูปภาพจริงประกอบการอธิบายในเล่มด้วยค่ะ
รีวิวหนังสือครั้งนี้ พูดถึงเนื้อหาในหนังสือน้อยกว่าประสบการณ์
ที่ได้ จขบ.ได้ทดลองลงมือปลูกผักสวนครัว สารภาพตรงนี้ว่าไม่รู้ว่าจะบอกต่อยังไง
ครั้นจะลอกมาทั้งดุ้นก็เยอะมาก เดี๋ยวจะถูกคุณป้อมฟ้องเอา^^
ก็เลยเอาประสบการณ์ของตัวเองที่ได้อ่านและลองปลูกผักเอง
มาเล่าประกอบกับรีวิวหนังสือซะเลย หนังสือ "ปลูกผักกันเถอะ" เนื้อหาที่ครบครันแล้ว
จขบ.ก็อยากให้รีวิววันนี้ ครบเครื่องและแซ่ปขึ้นอีกหน่อย
นอกจากอยากแนะนำหนังสือดี ๆ แล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ จขบ.อยากจะบอกกับทุกคน ก็คือ
"เรามาปลูกผักสวนครัวในบ้านกันเถอะ"
เพราะเป็นคนที่ปลูกแม้แต่ตะบองเพชรยังตาย 5555
ขอบคุณที่รีวิวหนังสือเรื่อยๆ ตามคำขอนะคะ อิอิ
วันนี้โควต้าหมด พรุ่งนี้มาใหม่นะคะพี่