ทันทีที่อ่านจบ ไล่ล่าหาผลงานเล่มอื่น ๆ ของเจ้าป้าอุตลุต
อ่านแล้ว องค์ลง อินจัด อัดแน่นเนื้อหาและพาเอนเตอร์เทน ครบรส
อารมณ์ประมาณ รักแรกพบ ประทับใจมาก
มากจนตั้งใจเก็บผลงานของเจ้าป้าทุกเรื่อง มาไว้ใน ห้องสมุดส่วนตัว
แนะนำเพื่อนคนไหนอ่าน เป็นเสร็จ เจ้าป้า และ หนอนจินตนา
พากันหาผลงานอื่นมาอ่านต่อ อาการเดียวกันเป๊ะ++
ไปดูกันค่ะ ว่าสะสมเรื่องอะไรไว้บ้าง
ข้าบดินทร์
ข้าบดินทร์ อ่านไปแค่บทแรก ก็แทบไม่อยากละสายตา
ว่างเป็นจับ ขยับเป็นคว้ามาอ่าน ทั้งภาษา การร้อยเรียงเรื่องราว และการผูกเรื่อง
อ่านแล้วรู้สึกเหมือน อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ แต่ได้อารมณ์เหมือนอ่านนิยายสุดสนุก
ทั้งศึกรบ ศึกรัก เวลาสงบก็รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง
อิงประวัติศาสตร์เมื่อร้อยปีก่อน ประวัติบุคคลสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต
ความเป็นอยู่ของไทย การปรับตัวเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
รวมไปถึง การค้าขายกับฝรั่งและคนจีนในยามศึกสงบ
"ข้าบดินทร์" เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบของ นิยายพีเรียด
ทั้งความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ความบันเทิง ที่ไม่น่าจะมาพร้อมกันได้
... คนที่รู้เชิงด้วยกันย่อมดูออก ทันทีที่เจ้าตัวไหว้ครูจบ ขยับท่านิ่งตั้งระวัง
ถือดาบขวาแนวเอียงพาดเฉียงกลางอก จ่อปลายดาบทิ้งห่างระดับระหว่างคิ้ว
ได้ระยะเหมาะเหม็ง วางเท้าตั้งฉาก ดาบอีกข้างถือแนบตามแนวลำตัว
แต่พุ่งปลายใส่คู่ต่อสู้ ทุกมุมดาบได้ระยะ พร้อมทั้งการรุกและตั้งรับ
ลักษณะวางเท้าและวางดาบเตรียมต่อสู้ของมัน
พระศรีสิทธิสงครามอ่านคนเบื้องหน้าออกทันที "วิชาดาบอาทมาต หรือ"....
...ถึงเจ้าจะเกิดเป็นเศษเสี้ยวธุลีของแผ่นดิน
เจ้าจงรู้ว่า แผ่นดินให้อะไรกับเจ้า และตัวเจ้าเองมีความหมายต่อแผ่นดินเพียงใด
จงทำตัวเป็นเศษธุลีที่มีค่าของผืนแผ่นดิน เป็นข้าแห่งบดินทร์
อันร้อยรวมศรัทธา ความกล้าหาญ ความรัก ความภักดี ไว้ในดวงใจเดียวกัน...
จันทราอุษาคเนย์
อ่านเรื่องนี้จบ เป็นจบแบบอาลัยอาวรณ์
ยังอินกับ เจ้าชายจิตรเสน กับ ตมิสา นางเอกสาวร่างบาง ผู้กุมหัวใจอันเกรียงไกร
ขึ้นหิ้งนิยายแสนประทับใจไปอีกเรื่อง
จันทราอุษาคเนย์ เป็น นิยายอิงประวัติศาตร์แถบเอเชียคเนย์ช่วงศตวรรษที่ 12
เจ้าป้าได้ร้อยเรียงเรื่อง ตำนาน ลุ่มแม่น้ำโขง และ แม่น้ำมูล
ผ่านนางเอกยุคปัจจุบัน หลุดเข้าไปในอดีตด้วยมนตรา เจอเจ้าชายผู้เก่งกาจและทรนง
บนแผ่นดินที่เรายืนอยู่ นับถอยหลังไปอีกหลายพันปี
ดินแดนที่มีอารยธรรม ผสมผสานกับความเชื่อ ความศรัทธา
ได้อย่างลงตัว งดงาม และยิ่งใหญ่
**เวลาที่แนะนำงานเขียนของเจ้าป้าวรรณวรรธน์ จะแนะนำเรื่องนี้
เพราะรู้สึกประทับเป็นพิเศษ และเป็นเรื่องที่ จขบ.อ่าน 2 รอบด้วยความคิดถึง
และใครที่เคยติด "คำสาปฟาโรห์" หนึบหนับ ยังคงจำ เมมฟิสกับแครอล ได้
จะต้องอินจัดไปกับ เจ้าชายจิตรเสน กับ ตมิสา อย่างแน่นอน
บัลลังก์สายหมอก
เป็นอีกเรื่องที่อ่านจบแล้ว อารมณ์ค้างแบบว่าไม่อยากให้จบ
มันน่าจะต่อได้อีก เป็น นิยายรักโรแมนติก จิกหมอน น่ารักน่าชัง ฟินสุด ๆ
ใช้เวลาว่างหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ละเลียดเล็มความหวาน
ระหว่าง เจ้าแห่งชีวิต แห่งสีหสถาน ดินแดนกลางสายหมอก กับ
แพทย์สาวไทย จิตใจงดงาม น่ารักอ่อนหวาน
เมื่อเขาและเธอ บังเอิญมาเจอกัน ในจังหวะที่เหมาะ ที่ควร
...ความสุขอยู่ที่ใด อยู่ที่วิธีคิดของคนเรา หากยอมเปิดใจรับมัน
จะรู้ว่าความสุขนั้น ไม่ได้อยู่ไกลจากหัวใจของเราเลย
"เชวา ลาโซ ลอก เจ เก" แล้วสักวัน ข้าจะไปรับเจ้ามาร่วมเรือน...
**ยกให้เป็นนิยายรักหวานแห่งปี แต่อ่านให้ตายก็ไม่เลี่ยน
เพราะเป็นอะไรที่ หวานลงตัว หวานละมุนละไม
อ่านแล้ว โอ๊ย..ชั้นอยากจะเป็นเธอจัง มัสฤน เอ๋ย
ถ้าจะหานิยายรักโรเแมนติกสักเรื่อง
นอกจาก ดั่งดวงหฤทัย ของลักษณวดีแล้ว ก็มี "บัลลังก์สายหมอก"
ของเจ้าป้า วรรณวรรธน์ เนี่ยแหละ แนะนำและห้ามพลาดเลยค่า
หนึ่งด้าวฟ้าเดียว
หนึ่งด้าวฟ้าเดียว เป็นเรื่องราวของ จารบุรุษ ที่เสียสละ
ปลอมตัวเข้าไปเป็น ขันที ในมหาราชวังใน ยุคที่กรุงศรีอยุธยา เสียกรุงครั้งที่ 2
เพราะจากความโลภ แตกสามัคคีของคนไทยด้วยกันเอง
จนกระทั้ง พระยาตาก ได้เข้ามากอบกู้เอกราช
ขับไล่ทหารอังวะออกจากกรุงศรีอยุธยาสำเร็จ ใช้ระยะเวลาร่วม 7 เดือน
..."คนของแผ่นดิน ย่อมกระทำการเพื่อแผ่นดิน ก่อนกระทำการเพื่อตน
ทองแท้มิต้องพิสูจน์อื่นใด ใช้เวลาและความตั้งใจเป็นเครื่องพิสูจน์ก็พอ
เท่านี้ ฐานะผู้อาสาก็รู้แล้วว่า ที่อาสาเข้ามาเป็น จารบุรุษ ในนี้
เพื่อพระเจ้าตากเท่านั้น ตนเลือกคนไม่ผิด!!"...
อ่านครั้งแรก เกิด ความแปลกใจมาก่อนความสนุก
ไม่คิดว่าราชวงค์ไทยในอดีตเราจะมี ขันที ด้วย
เพราะเวลานึกถึงขันที จะนึกถึงแต่ราชวงศ์จีนเท่านั้น
แปลกใจใคร่รู้ ตีคู่มากับความสนุก และแล้ว ..ก็วางไม่ลง
ถ้าเพื่อน ๆ อ่านหรือดู "ข้าบดินทร์" ทางช่อง 3 แล้ว
ลองอ่าน "หนึ่งด้าวฟ้าเดียว" อีกสักเรื่องนะคะ เห็นว่ากำลังจะออนแอร์ช่อง 3 เช่นกัน
นำแสดงโดย เจมส์ จิ กับ แต้ว ณฐพร
อัสวัด ราชันย์แห่งความมืด
เป็นนิยายทีร้อยเรียงความเชื่อที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือลบล้าง
ศรัทธาและจารีตประเพณีของ ราชวงศ์หนึ่งบนท้องทะเลทราย
ควบคู่ไปกับการแย่งชิงอำนาจการบริหารประเทศ
ชิงไหว ชิงพริบ ชั้นเชิงการเจรจา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและผลประโยชน์
อ่านแล้วลุ้นระทึก ตื่นเต้น สนุกและมีแอบหวาบหวาม
ขึ้นชื่อผลงานของวรรณวรรธน์ ไม่มีคำว่าอ่านแล้วไม่สนุกค่ะ
"..วันเวลาปัจจุบัน มีแต่จะกลายเป็นอดีต แต่วันเวลาปัจจุบัน
ไม่เคยกลายเป็นอนาคตได้เลยสักครั้ง แล้วจะหวาดกลัวอนาคต ที่ยังมาไม่ถึงเพราะอะไร.."
"..ดาวคู่ แห่งอัคไบยาห์ปรากฎ หนทางยาวไกลข้างหน้าไปจนสุดฟ้า
เป็นได้เพียงเงา ที่ไม่อาจเอื้อมเอาตะวัน หรือคำทำนายจะเป็นจริง
โลกนี้ มันไม่มีที่ยืนให้กับผู้แพ้..
หากไม่เป็นอย่างที่ทรงวาดหวังไว้ อาจจะต้องรวมเอาแผ่นดินอัคไบยาห์ทั้งผืน
มารองซับความเจ็บปวดจากการพ่ายแพ้ของพระองค์
..องค์อัศวัด ราชันย์แห่งความมืด!!.."
**หากใครที่กำลังมองหานิยายแนวทะเลทราย มาอ่านสักเรื่อง
แนะนำเรื่องนี้เลยค่า ที่สุดของผลงานแนวทะเลทรายของเจ้าป้า ล่ะ
นอกจากจะไม่ผิดหวังแล้ว
จะต้องหาแนวทะเลทรายสีทองมาอ่านอีกแน่นอน
เส้นทรายสีเงา (ปกเก่า)
เส้นทรายสีเงา ปฐมบทแห่ง ซาเลม วัสวัด ราชันย์แห่งความมืด
หลังจากที่อ่านอัสวัดจบ ไม่อยากจะอ่านเรื่องนี้ กลัวว่ามันจะเศร้า จบแบบสะเทือนใจ
คิดไปคนเดียวว่า น่าจะเป็นเรื่องราวของ ราชินีมาญ่า ท่านแม่ของเจ้าชายเลือดผสม
ก่อนจะมาเป็นเรื่องราวของเจ้าชายใน อัสวัด ราชันย์แห่งความมืด
จนแล้วจนรอดก็ตัดใจจากผลงานของเจ้าป้าไม่ได้ จนต้องคว้ามา
เพราะถ้าไม่อ่านเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนมีอะไรค้างคาในใจ
และแล้ว พอได้อ่าน ว๊าย..รู้งี้ อ่านตั้งนานแล้วอ่ะ พลาดได้ไงเนี่ย
ทำให้รู้จัก จอมราชันย์แห่งความมืด มากขึ้น
อะไรที่ทำให้พระองค์ต้องตั้ง "หน่วยญาดีน" ขึ้นชื่อความดุดัน เฉียบขาด
พระองค์ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความทุกข์ระทม อุปสรรคมามากมาย
เหมือนดาบกว่าจะเป็นเล่มงาม ต้องผ่านการตีหล่อหลอมไม่รู้กี่ครั้งกี่หน
ที่มาที่ไปของ กองกำลังศักดิ์สิทธิ์
กองกำลังที่ก่อสงคราม เพื่อปอป้องลูกหลานของชาวอัฟกัน
เรื่องราวภายหลังสงครามเย็น การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
การเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจสิ้นสุด
เหตุการณ์ยึดครองประเทศคูเวต กองทัพของอิรัก
การกรีฑาทัพในนามของ สหประชาติโดยสหรัฐอเมริกา
การก่อกำเนิดขึ้นของ กองทหารศักดิ์สิทธิ์ "มูจาฮีดีน"
การต่อสู้ในรูปแบบของการก่อการร้าย
กระจัดกระจายไม่จำเพาะแต่ชายแดน อิสราเอล กับ ปาเลสไตล์
เพื่อปกป้องการครอบงำของประเทศตะวันตก
"..ค่ำคืนนั้น เมืองคอร์ท กลายเป็นทะเลเพลิง และสุสานของชีวิตไร้ค่า
เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ ใน อัฟกานิสถาน ที่ถูกโจมตีด้วย จรวดทอร์มาฮอค
จำนวน 70 ลูก กระจัดกระจายทั่วประเทศ ทุกอย่างแหลกเหลว
หมดสิ้นสภาพความเป็นเมืองที่เคยมีเคยอาศัย..
..นี่หรือ คือ สิ่งที่มหาอำนาจ ตอบโต้ กองทหารศักดิ์สิทธิ์
ตอบแทน การระเบิดพลีชีพ แล้วทำไมผลพวงของความเลวร้ายเหล่านี้
ตกมาใส่ผู้บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ต้องสูญเสียใหญ่หลวงถึงเพียงนี้
ผลพวงแห่งสงครามทุกครั้ง มีแต่คนบริสุทธิ์ทั้งนั้นที่สูญเสีย.."
ทรายนี้ยังมีรัก
ทรายนี้ยังมีรัก เป็นนิยายอิงประวัติศาตร์ในยุค เมโสโปเตเมียและเปอร์เซีย
ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมโลกตะวันตก
ผูกพันกันข้ามชาติ ร้อยรัดด้วยความเชื่อและสัจจะอธิฐาน
จากตำนาน นกเพลิงฟีนิกซ์ กับ สฟิงค์
ไปนิทาน เทพปกรณัมตะวันออกกลาง นิทานเก่าแก่ ความรักต้องห้าม
รักที่ต้องคำสาป และ ความเจ็บปวด
ในที่สุด มาสะสางในชาติปัจจุบัน วันเวลาที่รอคอยมานานแสนนาน
ทุกครั้งที่อ่านนิยายของเจ้าป้าวรรณวรรธน์จบ
จะมีความรู้สึก อยากจะเก็บนิยายของเจ้าป้าให้ครบทุกเรื่อง และอยากบอกต่อ
ถ้าไม่เชื่อ .. ลองหามาอ่านดูสักเล่ม แล้วมาคุยกันค่ะ
ทร้ายล้อมตะวัน (ปกเก่า)
ทรายล้อมตะวัน เป็นนิยายที่เจ้าป้าบอกว่า เขียนเบา ๆ
แต่อ่านแล้ว ดุเด็ดเผ็ดมันส์ ไม่เบาเลยสักนิด
สนุกตื่นเต้น ลุ้นระทึก คับแค้นใจ หวาบหวาม มาหมด
ครบรส เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นนิยายแนวตบจูบ ขิงก็รา ข่าก็แรง
ระหว่าง ซีรีน นางเสือดาวแห่งกองโจรทะเลทรายกาซีม กับ ท่านญีน
เจ้าชายรัชทายาท แห่งราชบัลลังก์สหพันธ์มูซาอาด
สองเส้นทางที่ไม่อาจมาบรรจบกันได้
เจ้าชายผู้เปรียบเหมือนตะวันอันร้อนแรง กับ หญิงสาวที่โตมากับกองโจรแห่งทะเลทราย
...เจ้าตัวน้อย เจ้าช่างไม่รู้เลย ทุกครั้งที่ตะวันตกดิน เจ้าคิดว่าตะวันนั้นจะหนีไปไหนพ้น
ถ้าไม่ใช่ปรารถนากลับมานอนซบแทบทะเลทรายทุกค่ำคืน...
อขิทโร
อขิทโร เป็นนิยายที่อ่าน หลากอารมณ์มาก ไม่รู้จะบอกยังไง
เจ้าป้าเขียนเรื่องนี้ได้สลับซับซ้อน ย้อนยุคไปเป็นพัน ๆ ปี
อ่านแล้ว ตื่นเต้น ไคร่รู้ไคร่เห็น น่าติดตาม น่าค้นหา
ว่า พลังแห่งอขิทโร ที่แท้จริงนั้น จะเป็นอย่างไรกันนะ
อขิทโร เป็นการเล่าเรื่องราวของ ลูกปัดเม็ดหนึ่ง
เอามาผูกเรื่องร้อยเรื่องราวกับยุคประวัติศาสตร์ที่กว้างไกล
ในช่วงเวลาที่โลกโบราณที่ไม่ได้มีแค่ฝั่งยุโรป หรือเอเชียเท่านั้น
การเดินทางของ การค้า และ ศาสนา
"เส้นทางเครืองเทศ" Spice Trade ได้นำมาวางเป็นฉาก
และตัวอักษรแห่งอขิทโร
ทั้งวิถีการดำเนินชีวิต เส้นทางการค้าขาย ประเพณีวัฒนธรม
อารยธรรมและความเชื่อ แต่ละศาสนาก็มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในยุคก่อน
การล่าอาณานิคม ของ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
ความโหดร้ายของเหล่า ทหารมาซิโดเนีย และยังรวมไปถึง
ความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อ เทวะฑูต แห่งบัลลังก์กษัตริย์
ความลี้ลับของโบราณวัตถุ ความละโมบ โลกของจิตวิญญาณที่เรามองไม่เห็น
บางช่วงของการดำเนินเรื่อง รู้สึกหนักหน่วง บางช่วงก็ผ่อนคลาย
อ่านแล้วมีสองความรู้สึก คือ
อยากรู้ตอนจบ กับ ไม่อยากให้จบ ในเวลาเดียวกัน
* เริ่มอ่าน *
ลูกปัดมนตรา - ลูกปัดสิเน่หา - อุบัติมหาคุรุเทวา - มหาคุรุเทวาปรัยวสาน
ฤกษ์สังหาร
ฤกษ์สังหาร ตอนแรกนึกว่าจะออกแนวบู้ ลุย หรือปฏิบัติการลับ
หรือทีมล่าสังหาร ประมาณนี้ ...แต่พอได้อ่านแล้ว
กลับตาลปัตรกลายเป็นอีกแนว ที่ตื่นตะลึง ระทึกขวัญกว่าที่คาด
ผู้หญิงร้อยละ 90% เดาว่าชอบไปดูดวง
เอาวันเดือนปีเกิดของตัวเอง ไปให้หมอดูทำนายทายทัก
ระวัง! จะกลายเป็น ผู้ถูกเลือก
เหยื่อของพิธีกรรมไสยดำ เสริมบารมีคนใครบางคน อำนาจบารมีอันหอมหวาน
ที่ใคร ๆ ก็อยากจะครอบครอง ไปให้ถึงจุดสูงสุด
ไม่ได้อ่านหนังสือที่ออกแนวนี้มานาน ไม่ได้สยองขวัญ แต่ทำเอาขวัญผวา
อินจัด นึกถึงคนที่ถูกเลือกตาม ฤกษ์สังหาร วินาทีที่อยู่ในพิธีกรรม
เพื่อถวายเป็นบัดพลี มันช่างเป็นพิธีที่อุบาทว์ น่าสะอิดสะเอียน และชั่วช้าเลวทรามที่สุด
...มันไม่ใช่ความสยดสยอง แต่มันเป็นความหวาดกลัว ต่อสิ่งลึกลับที่มองไม่เห็นตัวตน
มันกดลึกเข้าไปในจิตใจ เหมือนกระตุ้นเตือนสัญญาณบางอย่าง
ชายหนุ่มลับตานิ่ง ทบทวนคลับคล้ายเคยเห็น บทความในตำราโบราณ
ที่อธิบายลักษณการเช่นนี้..
"บูชาธรณี ตั้งเศียรขึ้นฟ้า
ดั่งเทียนเทพพนม
ผินพักตร์หน้าตรงมุ่งสู่บูรพา"
ตามศาสตร์โบราณว่าด้วย การวางเสาหลักเมือง มีการกำหนดฤกษ์
เพื่อบรรจุร่างสี่ผู้รักษาคุ้มครองเมือง
ด้วยชื่อผู้รักษาอันเป็นเคล็ดมงคล อยู่ - ยัง - มั่ง - คง
หากที่ประจักษ์เบื้องหน้า ไม่ใช่เพื่อบ้านเมือง แต่เพื่อมันและพวกมัน!
ใช่แน่แล้ว "ตำราแก้เคล็ดดวงเมือง" ตำราที่ผู้คงแห่งโหราศาสตร์
ห้ามทำการ ห้ามแตะต้องเด็ดขาด!!
ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ
ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ อ่านแล้ว ชื่นใจจริง ๆ ค่ะ
หัวใจมันเต้นยุบยิบ ยิ้มเล็กยิ้มน้อยไปกับ "อาปูรณ์" และ "วีว่า"
นางเอกสาวคนเก่ง มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ มุ่งมั่นทำความฝันตัวเองให้เป็นจริง
คือ เป็นเจ้าของธุรกิจวิวาห์ครบวงจรและมีชื่อเสียงโด่งดัง
ในขณะที่ทำให้ใครต่อใครเป็นเจ้าสาวแสนสวย เธอเองก็อยากจะสวมชุดเจ้าสาวสักครั้ง
แต่ละคนที่เข้ามาในชีวิต ทำให้เธอผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า จนแทบหมดหวัง
ที่จะได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนใครเขา
เธอไม่รู้ตัวว่า.. มีใครคนหนึ่งคอยต่อเติมความฝัน เฝ้าดู คอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ
รักและห่วงสุดใจ ชีวิตมีความหมาย เพราะได้ความฝันเธอล่อเลี้ยง
แต่เธอไม่เคยใส่ใจที่จะมองเห็นมัน
เป็น นิยายคอมเมดี้ เคล้ารักโรแมนติก สุดฟิน
แม้ใครที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าสาว หรือ ผ่านการแต่งงานมาแล้ว
หรือไม่คิดว่าชีวิตนี้ จะไม่เป็นเจ้าสาวของใคร
ขอรับรองว่า อ่านเรื่องนี้แล้วอินตามแน่นอน
และพระนางบทละครนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก เกรท วรินทร กับ แมท ภรนีย์
คณะผู้จัดวางตัวพระนางได้เปะเวอร์
ขอเป็นนางเอกสักครั้งให้ชื่นใจ
ขอเป็นนางเอกสักครั้งให้ชื่นใจ ความรู้สึกส่วนตัวเมื่ออ่านจบ
เป็นนิยายที่อ่านเบา ๆ สนุกสนาน ผ่อนคลาย
ลุ้นให้นางเอกหาทางออกให้ได้ในตอนจบ ทางออกที่ว่านั้นจะเป็นอย่างไร
ท่านลักษณ์ ทำให้นึกถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่งเคยอ่านในอดีตแล้วฝังใจ
คือ เจ้าสาวซาตาน เดมอสกับวีนัส ที่ไม่อาจเคียงคู่กัน
เนื้อหาจำได้ลางเลือน ตามเก็บก็ไม่มีให้ซื้อแล้ว
..."เวลา ความรัก และครอบครัว
สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถเรียกหาจากโลกแห่งความฝันได้ และ
ไม่มีโลกความฝันแห่งไหนสามารถเติมเต็มให้กับตัวเราได้
ถ้าปราศจากการออกมาเผชิญกับความจริง"...
.."จงปิดทาง อย่าให้ปีศาจตนนั้นเข้ามาทำให้จิตใจเราหวั่นกลัว
จนหยุดการทำความดี"..
เล่ห์บรรพกาล ผลงานล่าสุดของเจ้าป้า 3 เล่มจบ และเล่ม 3 ยังไม่วางแผงค่า
เล่ห์บรรพกาล มีด้วยกัน 3 ภาค
ภาคแรก : ภาคภพพยากรณ์ / ภาคสอง : ภาคอักษรปริศนา
ทันทีที่รู้ว่า "เล่ห์บรรพกาล" เปิดตัวใจงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
เป็นผลงานล่าสุดของเจ้าป้า ปี 59 ไม่รอให้วางแผงที่เชียงใหม่
สั่งจองทางเวปประจำทันทีที่กวาดสายตาเจอ
ตอนรับหนังสือมา ก็ตะหงิด ๆ ว่าทำไมมีเล่มเดียว
และแล้วพออ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย
ทันทีที่เพลิงฟ้าหมดสติ สติอิชั้นก็เตลิด เพราะต้องอ่านต่อภาคต่อไป
เอาเป็นว่า ภาค 3 ภาคจบสมบูรณ์มาเมื่อไหร่
ค่อยรีวิวทีเดียวละกันนะคะ
งานเชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 1
ณ เซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต ปี 59
กรี๊ดกร๊าดในใจ นับวันรอคอยวันที่เจ้าป้ามางาน เชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 1
กวาดหนังสือบนเช้ลยัดใส่กระเป๋าเกือบ 30 เล่ม หิ้วหลังแอ่นลุยฝน
เพื่อเอาไปล่าลายเซ็นต์
ในที่สุด ก็เจอ นักเขียนในดวงใจ ตัวเป็นเป็น ซะที
เกาะขอบเวทีด้านหน้า ตั้งใจฟังเรื่องราวที่เจ้าป้าเล่า
ที่มาที่ไปของผลงานแต่ละเรื่อง โห.. มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก
และกล้าที่ยกมือตอบคำถาม
แล้วก็ได้รางวัลจากเจ้าป้ากับมือ ..ดีใจ^^
และงาน "เชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 2"
ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต
วันที่ 24 มิ.ย. -2 ก.ค.60 นี้ เจอเจ้าป้าได้
ในวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. เวลา 14.00-16.00 น. นี้นะคะ
ใครเป็นสาวกเจ้าป้า เจ้าแม่แห่งนิยายอิงประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ไว้เจอกันในงานนะคะ..
พี่จินเป็นแฟนพันธุ์แท้เลย
นักเขียนอยากได้แฟนคลับแบบนี้ครับ
รักจริง ตามงานทุกเล่มเลย
ผมไม่ค่อยได้อ่านนิยายครับ
แต่งานหนังสือที่กำลังมาถึง
ไม่พลาดแน่นอน