เพชรพระอุมา โดย พนมเทียน ภาคแรก : อมตะนวนิยายสุดโปรด (2)



คุณลุงพนมเทียน เริ่มต้นเขียนนวนิยายเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2507 จบบริบูรณ์ทั้งภาคแรกและภาคสอง 
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2533

รวมระยะเวลาเขียนทั้งสิ้น 25 ปี 7 เดือน และอีก 2 วัน
เมื่อมาถึง 2561 นี้ ก็ผ่านพ้นมาแล้วถึง 54 ปี

จะว่าไปแล้วนวนิยายเรื่องนี้มีอายุมากกว่าอายุของใครหลายคน
ที่รู้จักและรักเพชรพระอุมา รวมถึง จขบ.ด้วย ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกผูกพันกับตัวละครเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะ..
รพินทร์ ดาริน บุญคำ เกิด เส่ย จัน แงซาย เชษฐา ไชยยันต์ 
เมย์ คะหยิ่น ส่างปา อนุชา และหนานอิน

อ่านจนรู้สึกว่าแทบจะนับญาติกับพวกเขาเหล่านี้
รู้สึกเหมือนพวกเขามีตัวตนจริง ๆ หาใช่โลดแล่นแต่ในนิยายเท่านั้น


เพชรพระอุมา ภาคแรก
โดย พนมเทียน

มี 6 ตอน ตอนละ 4 เล่ม รวม 24 เล่มจบ
ต้องอ่านต่อกัน ข้ามตอนไม่ได้ เริ่มจากตอนที่ 1 - 6
จำนวน 10,089 หน้า

เล่มละ 200 บาท รวมราคา 4,800 บาท  
Box set ตอนละ 840 บาท รวมเป็น 5,040 บาท

ตอนไพรมหากาฬ ดงมรณะ จอมผีดิบมันตรัย อาถรรพณ์นิทรานคร
ป่าโลกล้านปี และ แงซายจอมจักรา



ชั้นบน เป็นเพชรพระอุมาภาคแรก และเบื้องหลังเพชรพระอุมาทั้งสองภาค
ชั้นล่าง เป็นเพชรพพระอุมาภาคสอง นวนิยายชุดโปรดนี้

จขบ.ค่อยเก็บหอบรอมริบสะสมมาที่ละตอนบ้างทีละเล่มบ้าง
ทีละครึ่งภาคบ้าง ตั้งแต่ชุดแรกถึงปัจจุบันร่วม 10 ปี ตอนนี้ มีครบหมดแล้ว
ทั้งเบื้องหลัง อินไซด์ และลึกจากลิ้นชักของพนมเทียน


รีวิว เพชรพระอุมา ภาคแรก
ตอน ไพรมหากาฬ ดงมรณะ และ จอมผีดิบมันตรัย คลิ๊กที่นี่



ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร


















ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร คาบเกี่ยวกับตอนจอมผีดับมันตรัย กับปริศนาจากภยันอันตรายที่เผชิญต่าง ๆ
ในภาคนี้มาสู่จุดไคลแมกซ์ คลี่คลายเหตุการณ์ร้ายที่คณะเผชิญ นับว่าเป็นตอนแฟนซีที่ยาวนานของเรื่องมาก
เริ่มตั้งแต่แงซายหายตัวไปพร้อมกับแผนผังลายแทงของมังมหานรธา ที่คณะใช้เป็นแผนที่ในการเดินทาง

เป็นตอนที่ดารินกับรพินทร์ได้เดินทางมาถึง ปราสาทพันธุมวดี ตามที่ดวงจิตของขุนพลวรมันต์ต้องการให้เป็น
เพื่อให้คณะเดินทางได้ ปลดปล่อยดวงวิญญาณของพสกนิกรชาวนิททรานคร ที่ต้องคำสาปจาก
มันตรัยปุโรหิตร้าย ด้วยการเข้าสิงร่างของแงซายแล้วชักจูงให้มาช่วยเหลือปลดปล่อยดวงวิญญาณ 
คณะเดินทางจำต้องตามแงซายและช่วยวรมันต์ไม่รู้ตัว

ดาริน รพินทร์ และบุญคำ เจอโสมสคราญนางหนึ่งนอนอยู่ในโลงแก้วอยู่ในอาภรณ์เครื่องประดับ
ของนางกษัตริย์เพียบพร้อมด้วยปวงถนิมพิมพาภรณ์จากเส้นเกศา ลงไปจนกระทั่งปลายบาท
มงกุฎประดับด้วยแก้วเก้า สังวาล ทับทรวง ธำมรงค์ ปลอกแขน แต่เบื้องอุรประเทศอันเปลือยเปล่านั้น
ทำให้ทั้งสามต้องตกตะลึงพรึงเพริศไปชั่วขณะหนึ่ง

กึ่งกลางระหว่างปทุมถันอันเต่งตึงชูชันงามนั้น มีไม้โมกขศักดิ์ที่รพินทร์กับบุญคำใช้ต่อสู้กับ ค้างคาวผี
แล้วเสียบปักตรึงหักคาอกของค้าวคาวผีในค่ำคืนหนึ่ง ไม้โมกขศักดิ์ที่ปลายไม้ทาด้วยเลือดประจำเดือน
แต่กลับมาปรากฎอยู่กลางอกของหญิงสาวงามสราญในโลกแก้วนี้

ใช่แล้ว..นางในโลงแก้วที่งามปานนางงามของสามโลก คือ เจ้าหญิงพันธุมวดี ที่ถูก ปุโรหิตมันตรัย 
ลอบปลงพระชนม์พระบิดาแล้วคิดครอบครองพระนาง แต่หากพระนางไม่ยินยอมเพราะมีขุนศึกคู่พระทัยอยู่แล้ว
คือ ขุนพลวรมันต์ ที่พยายามที่จะช่วยเจ้าหญิงหากแต่ช้าไป มัยตรัย บังคับให้พระนางต้องดื่มยาพิษ

แล้วใช้วิชาอาคมชั่วร้ายสาปอาณาจักรนิทรานครให้ถึงกาลวิบัติล้มสลายด้วยฤทธิ์ของ กฤตยามนต์ ทันทีที่
กริชปักบนมหาคัมภีร์มายาวิน ทุกสรรพสิ่งในนิทรานครต้องคำสาปวิญญาณทั้งหลายไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ 
ผีกองกอย คือพสกนิกรของนิทรานคร หัวหน้าของผีกองกอย คือ ขุนพลวรมันต์ นั่นเอง

และขณะที่ ดาริน รพินทร์ กำลังต่อสู้กับกองทัพผีดับที่พยายามขัดขวางไม่ให้ดึงกฤชที่ปักอยู่บนคัมภีร์มายาวิน
ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้โลงแล้วนั้น เชษฐา เกิด เส่ย จัน คะหยิ่ง ส่างปา ที่พลัดหลงไปคนละทาง ได้ยินเสียงปืน
ก็รีบเดินทางเจอกันและช่วยต่อสู้ได้ทันท่วงที  ทันทีที่ดึงกฤชออกจากมหาคัมภีร์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็คลี่คลาย

กองทัพผีดิบก็สิ้นฤทธิ นางในโลงแก้วก็ยุบสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน ทุกวิญญาณในนิทรานครก็ได้รับการปลดปล่อย
จึงออกติดตามช่วยเหลือไชยยันต์และมาเรียที่ถูกหลอกให้ไปติดกับอยู่ใน สุสานใต้ดินของนิทรานคร
ทั้งหมดจึงกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากับอีกครั้งหลังจากพลักพรากจากกันออกเป็นสามกลุ่มตอนเจอไฟป่า

ผีดิบมันตรัยในร่างมัมมี่ไม่ยอมแพ้ สะกดจิตให้ดารินหายตัวไปเพื่อเป็นตัวแทนของเจ้าหญิงพันธุมวดี
จึงเกิดการต่อรองแลกชีวิตของดารินกับมหาคัมภีร์มายาวิน และวางแผนเพื่อกำจัดวิญญาณร้ายให้สิ้นซาก
ดวงจิตของเจ้าหญิงพันธุมวดีและขุนพลวรมันต์ ได้ช่วยเหลือดารินให้กลับมารวมกับกลุ่มคณะอย่างปลอดภัย

และเพื่อพิสูจน์ว่า ซากศพมนุษย์พันปี เดินได้กับ เสือสมิงพรายหรือ เสือหิน เชื่อมวิญญาณกันได้ 
ไชยยันต์กับรพินทร์ ช่วยกันทำระเบิดตั้งชนวนเวลาไว้ที่เสือหินที่ดารินรู้ตำแหน่งตอนที่ถูกมันตรัยจับตัวไป
ถ้าวิญญาณปุโรหิตชั่วร้ายมันถ่ายทอดวิญญาณตัวเองมาที่เสือหินจริง ทันทีที่เสือหินขยับก็จะระเบิด

ขณะที่ผีดิบมันตรัยมาเอาคัมภีร์คืนก็เกิดการต่อสู้กัน เชษฐาได้ยิงด้วยปืนที่กระสุนคลุกกับเลือดประจำเดือน
ทำให้อาถรรพณ์ผีดิบเสื่อมและถอดจิตออกร่างไปยังเสือหิน พอเสือหินกลายเป็นสมิงพรายและขยับตัว
ก็ระเบิดทำให้วิญญาณร้ายกลับมาสิงร่างมัมมี่ที่ถูกกระสุนปืนดังกล่าวอีกครั้ง พิสูจน์ความสงสัยของทุกคน

ด้วยร่างที่ถูกกระสุนล้างอาถรรพณ์ ผีดิบร้ายทนความเจ็บปวดไม่ไหว จึงพุ่งตกเหวสิ้นฤทธิ์ 
ทั้งหมดจึงจัดการเผาคัมภีร์อุบาทว์แต่ไม่ยอมไหม้ บุญคำจึงนำผ้าอนามัยที่เปื้อนเลือดประจำเดือน
โยนเข้าไปในกองไฟจึงจะไหม้เป็นเถ้าถ่าน เป็นอัน ล้างอาถรรพณ์นิทรานครได้อย่างราบคาบ

จากนั้นขุนพลวรมันต์ก็คืนร่างแงซาย แต่แงซายถูก แมงมุมดำหกขา กัดเกือบเอาชีวิตไม่รอด 
แต่ส่างปาช่วยถอนพิษได้ทัน จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปยังขุนเขาพระศิวะต่อเพื่อให้ทันตามเวลา
ที่ลายแทงกำหนด คือ "ปิ่นพระศิวะฉายแสงเรืองรองเมื่อใด ถันพระอุมาจะปรากฎ ในคืน 5 ค่ำ เดือน 12

:: :: :: :: :: :: ::

ทั้งหมดก็เดินทางต่อ มุ่งไปยังเขาเกือบม้ามุ่งสู่ ทะเลสาบมรณะทางทิศตะวันตกของนิทรานคร
และพบกับร่องรอยของอนุชาอีกครั้ง จากนั้นคณะก็พบการเหตุการณ์ไม่คาดฝันเหมือนกับ
หลุดเข้าไปใน ยุคดึกดำบรรพ์ เจอ เสื้อเขี้ยวดาบ ช้างโบราณดิโอโนเทเรี่ยม กับ ไทรันโนซอรัส เร็กส์

ช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตายอีกครั้งนี่เอง รพินทร์กับดารินได้มีโอกาสได้หยั่งความรู้สึกของกันและกัน
สารภาพรักและสัญญาจะรักมั่นกันไปจนตาย ในโพรงหินแห่งหนึ่งที่ทั้งสองได้วิ่งหลบหนีมาอยู่ด้วยกัน
จากนั้น ดารินก็ยิงไล่ไดโนเสาร์กินเนื้อเข้าตาข้างหนึ่ง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้ชั่วขณะ

จากนั้นคณะเดินทางได้เดินต่อตามแผนการเข้าสู่ เขตป่าหิน ก็เจอไทรันโนซอรัสตัวเดิมขวางทาง
จึงได้ต่อสู้อีกครั้งระหว่างต่อสู้ทำให้รพินทร์กับมาเรียต้องแยกจากคณะเดินทางและเกือบหวิดเสียท่า
พอดีเกิดเหตุ แผ่นดินไหว ทำให้ได้ไดโนเสาร์หนีไป แต่รพินทร์กับมาเรียต้องติดอยู่ในโพรงถ้ำ

เวลานี้นี่เองที่ กระชากหัวใจแฟนคลับดาริน และ เกลียดมาเรียจับใจ เป็นฉากที่ไม่อยากให้เกิดที่สุด
มาเรียได้เสียกับไชยยันต์ก็ยังไปยั่วแงซายและมาดหมายจะนอนกับรพินทร์ให้ได้ด้วยสันดานที่อิสระเสรีทางเพศ
มาเรียต้องการเอาชนะ แล้วในที่สุดก็กดดันให้รพินทร์ต้องยอมตามใจหล่อนในขณะที่ติดถ้ำอยู่ด้วยกัน

พอแผ่นดินไหวสงบเช้าอีกวันก็ออกตามหา ต้องรบรากับ นกอินทรียักษ์ แล้วในที่สุดก็รวมตัวกันได้อีกครั้ง
ตั้งแต่ตอนออกเดินทางมุ่งตรงไปขุนเขาพระศิว คณะก็พบกับเหตุเภทภัยร้ายตลอดเวลาการเดินทาง
ไม่ว่าจะเป็น น้ำป่า ไฟป่า พายุ แผ่นดินไหว ไม่รวมกับสัตว์ป่าดุร้าย สิ่งลี้ลับที่คุกคามและอาถรรพณ์ร้าย

ตอนท้ายของตอนอาถรรพณ์นิทรานคร ก็พบกับหลักฐานของ ชด ประชากร อีกครั้งเป็นครั้งที่สาม
ในที่สุดทุกคนก็เดินทางมายัง ช่องเขาขาด จุดหมายแรก ก่อนจะเจอ ทะเลสาบมรณะ อันดับต่อไป


ตอนป่าโลกล้านปี 



ตอนป่าโลกล้านปี ชื่อก็บ่งบอกถึงภูมิประเทศที่คณะเดินทางผ่าน
ตลอดของการเดินทางอีกสิบเก้าวันที่เหลือเพื่อให้ทันเวลาไปถึง เนินพระจันทร์
ในคืน 5 ค่ำ เดือน 12 นั้น เต็มไปด้วยอันตรายแทบทุกย่างก้าว

เจอเจ้าไทรันโนซอรัสดักอยู่ที่ช่องเขาขาด จนต้องหาวิธีกำจัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในที่สุดคณะเดินทางก็เดินถึงช่องเขาขาดตามวางแผนไว้ตั้งแต่แรก และค่ำคืนหนึ่งของการพักแรกนั้น
แงซายได้เปิดใจพูดกับรพินทร์ถึงเรื่องขุมทรัพย์พระอุมาและมรกตนคร

..มรกตนครเป็นนครที่เป็นเอกเทศ กาลเวลาและความเจริญของโลกภายนอก
ไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปเกี่ยวข้องกับดินแดนนี้ กาลเวลาของดินแดนนี้เป็นของตัวเอง
มีอารยธรรมของตนเอง คล้ายดังนิทรานครต่างกันแค่นิทรานครล่มหลาย

แต่มรกตนครยังคงอยู่ มีบ้านเมืองประชากร มีปราสาทราชมนเฑียร
มีราชบัลลังก์อันมีกษัตริย์ปกครองอยู่ แผ่นดินปกติสุขบ้าง รบราฆ่าฟันแย่งชิงราชบัลลังก์บ้าง
ความรบเย็นสงบสุขขึ้นอยู่กับการปกครองด้วยทศพิธราชธรรมหรือทรราช

ขุมทรัพย์พระอุมา เป็นสมบัติของเทพเจ้าฝังซ่อนอยู่สุสานใต้ภูเขาลูกใหญ่
อันเป็นสุสานของกษัตริย์ของมรกตนคร ชาวมรกตนครไม่มีใครกล้ำกลายสมบัติเหล่านั้น
เพราะถือว่าเป็นสมบัติของเทพเจ้า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิคู่แผ่นดิน..

รพินทร์ได้แต่รับฟังแงซายเล่าเหตุการณ์ที่พระธุดงค์ที่เลี้ยงแงซายมาเล่าให้ฟังอีกทอด
แงซายมีความเชื่อว่าอาถรรพณ์รอบนอกมรกตนครสลายเปิดทางให้แก่คณะเดินทางแล้ว เหลืออีกชั้นเดียวคือ
เพียงแค่ต้องไปให้ถึง "เนินพระจันทร์" ตามวันและเวลาที่ลายแทงกำหนดเท่านั้น

ผ่านช่องเขาขาดไปถึงยัง ทะเลสาบมรณะ เป้าหมายต่อไปคือเนินพระจันทร์
ทุกคนเริ่มวางแผนการเดินทาง โดยอาศัย ทิวปีกครุฑ อันเป็นจุดเชื่อมต่อกับเทือกเขาพระศิวะ
แต่จะต้องเดินทางผ่านทะเลสาบมรณะอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้

ตรงทะเลสาบมรณะนี่เอง ทุกคนเจอสัตว์ดึกดำบรรพ์ คือ บรอนโตเซารัส
แล้วก็เจอ เทอโรซอร์ สัตว์เลื้อยคลานแต่มีปีก มีนิสัยดุร้ายและมุ่งเข้ามาทำร้ายทุกคนทันทีที่เห็น
จนต้องช่วยกันยิงสกัด ไล่ไปได้แต่ยังไม่น่าไว้วางใจนัก

ขณะที่เดินทางลุยทะเลสาบมรณะนั้น ทุกคนเจอ ใบบัวกินสัตว์คล้ายดอกลำโพง
พอทุกคนตัดสินใจใช้เลือกลากต้นบัวมาพิสูจน์ก็เจอโครงกระดูกมนุษย์สองคนคล้ายนายชดและหนานอิน
แต่แงซายก็หาข้อสูจน์และเหตุผลมาชี้แจงว่าไม่ใช่บุคคลที่ทุกคนออกตามหาแน่นอน

พอทุกคนข้ามทะเลสาบมรณะได้สำเร็จ ก็พบหลักฐานถึงการมีชีวิตของนายชดและหนานอิน
เป็นครั้งที่สี่ เป็นหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าสิ่งที่แงซายบอกกับทุกคนว่าสองคนนั้นยังมีชีวิตเป็นเรื่องจริง
ทำให้คณะเดินทางมีกำลังใจที่จะเดินติดตามและไปยังจุดหมายต่อไป

ค่ำคืนที่ตั้งแค้มป์พักแรก พรานคู่ใจของรพินทร์ไปหาหนามหวายมาทำรั้วป้องกัน เทอโรซอร์
ก็เจอ โป่งค่าง คล้ายลิงอุรังอุตังสะกดให้เดินวนอยู่ใต้ต้นกระบากจนรพินทร์ออกไปตามและช่วยไว้ทัน
โป่งค่างคล้ายครึ่งสัตว์ครึ่งปีศาจ ที่มีอำนาจสะกดให้ทุกคนหลับไหลและสูบเลือด

แต่แล้วทุกคนก็พบกับเหตุการณ์วิกฤติที่สุดอีกครั้ง เมื่อหีบห่อสัมภาระและปืนยาวทุกกระบอก
หีบเวชภัณฑ์ของดารินได้สูญสายไปจากแค้มป์ที่พักในขณะที่ทุกคนออกไปตามหารพินทร์กับพรานที่หายไป
และแล้วทุกคนก็ตกเป็นเชลย กองทัพลิงขนาดใหญ่ ที่เข้ามายึดหีบห่อสัมภาระไปนั่นเอง

กองทัพลิงดำใหญ่คล้ายมนุษย์วานรต้อนทุกค้นไปยังที่อยู่ของมัน
เพื่อช่วยเหลือ วายา เจ้านครขีดขินที่บุญคำตั้งชื่อเมืองให้ แล้วทุกคนก็เข้าใจเจตนาของพวกมัน
ในขณะเดียวกันก็เจอกับสิ่งที่อัศจรรย์ใจอีกรอบ คือได้เจอกับ ฤาษีโกฑัญญะมุนี

โยคีโกฑัญญะมุนี ได้รักษาศีลบำเพ็ญตะบะ เป็นเวลา 99 ปี โดยไม่ขยับตัวไปไหน
ท่านได้บรรลุญาณชั้นสูงและหลุดพ้นจากสภาวะการณ์สิ่งมีชีวิต มนุษย์วานรเห็นท่านจำศีลเป็นเวลานาน
จึกสักการะเอื้อเฟื้อปฏิบัติต่อท่านเยี่ยงสานุศิษย์ตลอดมา

ด้วยความเมตตาของโกฑัญญะมุนี ทำให้คณะเดินทางได้สื่อสารกับมนุษย์วานรเข้าใจ
วายา คือ ผู้ปกครองนครนิลกาญจน์ ได้ต่อสู้กับไดโนเสาร์แล้วพลาดท่าเสียทีได้รับบาดเจ็บสาหัส
นีลาหัวหน้าลิงทโมน จึงไปต้อนทุกคนเพื่อมาช่วยวายาโดยมีฤาษีโกฑัญญะได้ดลบันดาล

แล้วทุกคนก็ได้พบร่องรอยของหนานอินและอนุชาเป็นครั้งที่ห้า จาก มีดโบวี่ ของอนุชา
ได้มอบให้วายาตอนที่หนานอินและอนุชาซมซานมาถึงภูเขานิลกาญจน์และวายาได้ช่วยเหลือทั้งสอง
และทุกคนก็ได้ช่วยปราบเจ้า ไทรเซราทอป ไดโนเสาร์สามเขาให้กับวานรแห่งเขานิลกาญจน์

ตอนปะทะกับเจ้าสามเขาแงซายถูกโขดหินทับ ทุกคนคิดว่าแซงายตายไปแล้ว
ณ วินาทีนี้เองทุกคนก็ได้ว่า รพินทร์ ไพรวัลย์ ที่คอยงัดข้อกับแงซายตลอดเวลาของการเดินทางนั้น
รักกะเหรี่ยงพเนจรไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าดั่ง น้องชายร่วมสายโลหิต

แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร แงซายยังไม่ตายกลับมาช่วยรพินทร์ที่ถูกแมงมุมหกขากัด
แงซายและรพินทร์ค่อยยังชั่ว คณะก็เดินทางต่อไปยัง เนินพระจันทร์ เพื่อให้ทันตามเวลาที่กำหนด
โดยมีวานรแห่งเขานิลกาญจน์ไปส่งยังสุดอาณาเขตนคร

:: :: :: :: :: :: ::

ออกจากเขานิลกาญจน์ปักจุดหมายที่เนินพระจันทร์ ต้องผ่านหลุม อุกาบาตที่ 1-3 ก่อน
ช่วงเวลาเดินทางนี้ทุกคนก็เจอพายุลูกเห็บที่ทุ่งลมกรด อากาศหนาวเหน็บ ใครทนไม่ไหวก็พึ่งยาบุญคำ
มาเรียเร่ิมมีอาการแพ้ท้องหนักและยอมรับในตัวไชยยันต์

คืนหนึ่งแงซายบอกกับรพินทร์ พ่อชื่อ วิษณุพรหมนาถ แม่ชื่อ เกษราเทวี
ตัวเองชื่อ จักราช บิดาและมารดาถูกมหามนตรีกับแม่มดวาชิกาคิดคดทรยศก่อการขบถแผ่นดินนองเลือด
เขากับแม่หนีรอดเงื้อมมือศัตรูออกมาได้แต่พ่อถูกธนูปักอกตายต่อหน้าต่อตา

แต่แม่ก็ต้องเสียชีวิตจนได้ เขาได้รับการช่วยเหนือจากหนานอิน
และเขาต้องกลับไปยัง มรกตนคร เพื่อทำหน้าที่ ทศพิธราชธรรมแต่รพินทร์ได้แต่รับฟังไว้เท่านั้น
คิดว่าเป็นนิทานที่แงซายกุขึ้นมาคอยกวนปราสาทเขาเหมือนเช่นทุกครั้ง

ต่อมาทุกคนเจอทองคำปนกับกองหินใหญ่โตบนปากหลุมอุกาบาต
แต่ทุกคนไม่สนใจ เพราะได้ให้คำสัตย์ต่อ ฤาษีโกฑัญญะ ไว้แล้วคือ ละความละโมภทั้งหมด
ต้องการเพียงติดตามผู้สูญหายอย่างที่ตั้งใจไว้แล้วเท่านั้น

เจอเขารูปนกอินทรีและเขาเกือกม้า ใกล้จุดหมายเนินพระจันทร์ไป
ดารินก็ถูกโรคเก่ารูมาตอยคุกคามทำให้การเดินทางช้าลง แต่แงซายก็หาวิธีแก้ไขจนได้
และทุกคนได้เจอกับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอนั่นก็คือ หิมะตก



ตอนแงซายจอมจักรา



แงซายจอมจักรา เป็นตอนที่ จขบ.ชอบที่สุดในบรรดาหกตอนของภาคแรก ถัดไปคือตอนไพรมหากาฬ
ด้วยเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายพีเรียดและอิงประวัติศาตร์ มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งโครตสนุก
เป็นพีเรียดที่กระชากหัวใจเหวี่ยงไปมาได้แบบชนิดที่หยุดอ่านไม่ได้มีความตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นตลอด

ในที่สุดทุกคนก็เดินทานมาสู่จุดหมาย นั่นก็คือ เนินพระจันทร์ ตามแผนที่ลายแทงกำหนดไว้
ช่วงระหว่างที่พักแรมบริเวณเนินพระจันทร์เพื่อรอให้ถึงเวลา 5 ค่ำ เดือน 12 นั้น ทุกคนก็ต้องเจอกับ
เหตุการณ์ที่อกสั่นขวัญแขวนอีกครั้ง เจอกับ ฝูงหมาป่า หลายพันตัว แต่สามารถรอดปลอดภัยมาได้

นอกจากนี้ ยังเจอหลักฐานการพักแรมของนายชด ประชากรและหนานอิน บริเวณเนินพระจันทร์อีกครั้ง
ในคืนที่ทุกคนพักแรมที่เนินพระจันทร์ถูก ว่านผีปอบ แสดงอิทธิฤทธิ์แต่บุญคำก็สะกดมันไว้ได้
และค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง คืน 5 ค่ำ เดือน 12 ปิ่นพระศิวะ อันหมายถึง พระจันทร์เสี้ยว

คล้อยต่ำลงมาแตะปลายยอดดอยพระศิวะ ทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงพรึงเพริศ
ภูเขาศิวะเทพที่ตอนกลางวันเป็นเพียงแค่ภูเขาธรรมดาลูกหนึ่ง ได้กลายเป็น เทวรูปพระศิวะ
เมื่อจันทร์เสี้ยวคล้อยต่ำลงมาแตะติดในยอดสูงสุด ก็สำแดงปรากฎการณ์ประหลาดเป็น องค์ศิวะเทพ

และฝังตรงข้ามของเขาพระศิวะเทพก็เกิดปรากฎการณ์เขาสองลูกที่ถูกหิมะปกคลุมมีแสงฉายชัด
มองดูคล้ายถันของดรุณี ดังคำในลายแทงที่ว่า ปิ่นพระศิวะฉายแสงเมื่อใดถันพระอุมาจะปรากฎ
ทุกคนเร่งเดินทางตามแผนที่กำหนด ปีนขึ้นเขาพระศิวะเทพประดึงองค์พระศิวะได้เปิดทางให้แล้ว

คืนที่พักแรมระหว่างเดินทางในถ้ำเล็ก ๆ ทางด้านเหนือของภูเขาที่มีลักษณะเหมือนถันสองลูกนี่เอง
ทุกคนเจอ โครงกระดูกของมังมหานรธา เจ้าของแผนที่ลายแทงที่ทุกคนใช้นำทางมาที่นี่โดยบังเอิญ
ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่มาเจอเจ้าของลายแทง พร้อมกับพระศิวะเทพเปิดทางให้ และในที่สุด

ทุกคนก็พบ ถนนบนยอดเขาพระศิวะ ทางลาดยาวราบเรียบสุดลูกหูลูกตาดังใครมาทำไว้ด้วย
นาฬิกาและเข็มทิศหยุดการทำงาน เวลาปรับเปลี่ยนไปจากโลกปัจจุบัน เหมือนทุกคนก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง

:: :: :: :: :: :: :: :: ::

คืนที่ทุกคนพักผ่อนบนถนนเส้นนั้น ทุกคนนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย และแล้วก็มีอันต้องตื่นตะลึง
ทุกคนก็ถูกล้อมด้วย กองทัพของกรุงมรกตนคร ภายใต้การนำของ อุปราชรหัสยะ และในขณะเดียวกัน
แงซายได้หายตัวไปพร้อมอาวุธปืนยาวทุกกระบอกและวัตถุระเบิด โดยที่ทุกคนจับต้นชนปลายไม่ถูก

รหัสยะและกองทัพที่ล้อมเพียรพยายามที่จะถามหาคนที่ 12 ที่หายตัวไปเหลือเพียงแค่ 11 คน
ทุกคนรู้ได้ทันทีว่าทหารที่เข้ามาล้อมนั้น มีจุดประสงค์อะไร แต่ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
แล้ว 11 คนได้กลายเป็น เชลย ของกษัตริย์สิงหราและมหาอุปราชรหัสยะ อย่างไม่มีทางหลบหลีก

นาทีนี้นี่เอง"รพินทร์ ไพรวัลย์"ได้รู้แล้วว่า"แงซาย"คนใช้กะเหรี่ยงพเนจรที่เข้ามาสมัครเป็นลูกหาบ
และได้เล่าความจริงให้ฟังคืนหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นนิทานนั้น หากแต่มันคือความจริงโดยที่ไม่คาดคิด
แงซาย คือ จักรราช โอรสแห่งวิษณุพรหมนารถ และ ราชินีเกษราเทวี แห่งกรุงมรกตนคร

ที่ถูก มหามนตรีสิงหรา ร่วมมือก้บ แม่มดวาชิกา คิดคดก่อการขบถเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน 
ราชินีเกษราเทวีและโอรสหนีรอดไปได้ ด้วยการให้ความช่วยเหลือจาก กุตะมะ ขุนพลฝ่ายขวาของ
กษัตริย์วิษณุกพรหมนารถเปิดทางลับในคุกใต้ดินให้หนี ส่วนพระบิดาและประยูรญาติสิ้นพระชนน์ทั้งหมด

ราชินีเกษราเทวีเสียชีวิตในป่าแต่โอรสรอดชีวิต หนานอินได้ช่วยชีวิตไว้และฝังพระศพราชินีไว้ในป่า
โอรสน้อยได้ร่อนเร่พเนจรกับหนานอิน และไปอยู่กับพระธุดงค์ในป่าและมีโอกาสได้ร่ำเรียนวิชาแบบอรัญวาสี
และได้รับการศึกษาจากโลกภายนอก จนเติบใหญ่ทั้งความรู้จากวิทยาการโลกภายนอกและคาถาอาคมแก่กล้า

อายุอยู่ในวัยฉกรรจ์พร้อมทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ สมองและสติปัญญาและฝีมือ ถึงเวลาที่จะกลับสู่มาตุภูมิ 
โดยมีเหตุการณ์เชื่อมโยงกับคณะของเชษฐา ที่เดินทางออกติดตามหา นายชด ประชากร หรือ
ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ ที่เดินทางไปค้นหาขุมทรัพย์พระอุมาพร้อมกับหนานอิน แล้วได้หายสาบสูญไป

แงซาย หรือ จักราช จึงใช้โอกาสนี้ ขอติดตามคณะของเชษฐาโดยไม่ขอรับค่าจ้างใดใดทั้งสิ้น
คณะเดินทางจากโลกภายนอกโดยมีเชษฐาเป็นหัวหน้า เดินทางมาเพื่อติดตามหาน้องชายที่หายไป
แต่อีกคนที่ร่วมเดินทาง มาเพื่อทวงความยุติธรรมและคืนความผาสุขให้กับประชาชนในแผ่นดินบ้านเกิด

ร่วมฝ่าฟันภยันอันตรายนานับประการ พิสูจน์ให้เห็นถึงแก่นแท้ของจิตใจของกันและกันระหว่างเดินทาง
หล่อหลอมรักใคร่กลมเกลียว พระศิวะเทพ เปิดทางให้เห็นเมืองอีกมิติหนึ่งที่ไม่อยู่ในภูมิศาสตร์โลกปัจจุบัน
แต่เป็นชนเผ่าที่อยู่รวมกันหลายแสนคน มีประเพณีวัฒนธรรมของตัวเอง ภาษาที่ใช้คือ กุโบ๊ท

ขณะที่ทุกคนถูกควบคุมตัวเดินทางไปยังมหาปราสาทเพื่อเข้าพบ กษัตริย์สิงหรานั้น ก็ได้รับรู้เหตุการณ์
ของเมืองมรกตนครที่กำลังระส่ำระสาย จากการปกครองของ ทรราช ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน
จนเกิด กองโจร ขึ้นมา ต่อต้านการปกครองที่ไร้มนุษยธรรมจากทรราชหลังจากการผลัดแผ่นดิน

การต่อสู้ระหว่างกองโจรหรือเรียกอีกอย่างว่า กองพัพประชาชน กับทหารแห่งกรุงมรกตนคร
ที่ปกครองโดย ทรราช ได้ประจักษ์ต่อหน้าทุกคน แล้วก็ได้รู้จักกับ เมยานี แม่เสือสาวแห่งกองโจร
ธิดาแห่งอรชุน ขุนพลฝ่ายซ้ายของกษัตริย์วิษณุพรหมนารถ ที่ตีฝ่าวงล้อมครั้งเกิดการขบถออกมาได้

และตั้ง กองโจร ขึ้นมาปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์และคอยก่อกวนกองกำลังของกรุงมรกตนคร
รอคอยการกลับมาของโอรสอันชอบธรรมเมื่อถึงเวลาอันควร และเข้าใจผิด กุตะมะ สหายร่วมน้ำสาบาน
ที่ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายการทหารของกษัตริย์สิงหรา ได้คิดคดทรยศต่อกษัตริย์วิษณุพรหมนารถ

แงซายที่หายตัวไปจากคณะเดินทาง ได้ไปเข้าร่วมกับกองทัพประชาชน ภายใต้การนำของ ผู้เฒ่าอรชุน
พยายามหาทางช่วยเหลือทุกคนที่ตกเป็นเชลย ในขณะเดียวกันก็คิดหาทางช่วยนายชด ประชากร
และหนานอิน ที่ติดอยู่ในคุกใต้ดินของมรกตนครออกมาด้วย เมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่

จึงเกิดการต่อรองกันขึ้นระหว่างชีวิตของสองคนกับแงซายหรือจักราชที่หายตัวไปจากคณะเดินทาง
ทั้งหมดถูกกษัตริย์ชั่วใช้เล่ห์เหลี่ยมถูกขังตายอยู่ในคุกใต้ดินกับกุตะมะและทหารคนสนิทอีกสี่คน
แต่กลับกลายเป็นการดีเพราะ กุตะมะ ได้ติดต่อลับ ๆ กับ อรชุน ให้ส่ง เมยานี เข้ามาช่วยเหลือ

โดยใช้ เส้นทางลับ ที่มีเพียง กษัตริย์วิษณุพรหมนารถ ราชินีเกษราเทวี และ กุตะมะ เท่านั้นที่รู้เส้นทาง
ให้เมยานีเล็ดลอดเข้ามาทางใต้ดินโผล่มายังคุกที่ทุกคนติดกับกษัตริย์สิงหราและช่วยเหลือออกไปได้
แล้วทุกคนก็ได้พบกับ แงซาย ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็น เจ้าชายจักราช โอรสอันชอบธรรมแห่งบัลลังก์มรกตนคร

ณ ถ้ำเหมราช อันเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังของกองทัพประชาชน แล้วทุกคนก็ช่วยแงซายวางแผน
เร่งเปิดศึกกับกษัตริย์สิงหราให้เด็ดขาด เพราะไม่อยากให้ศึกยืดเยื้อเสียเลือดเนื้อกันทั้งสองฝ่าย
ในที่สุด กษัตริย์สิงหรา อุปราชรหัสยะ และ แม่มดวาชิกา ก็ถูกประหารชีวิต บ้านเมืองกลับมาสุขสงบอีกครั้ง

การต่อสู้ครั้งนี้ กุตะมะ ได้ถูกอาวุธแทงข้างหลังในขณะที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักราช
ได้สิ้นใจต่อหน้าพระพักตร์และต่อหน้าสหายคนสนิทอย่างอรชุนพิสูจน์ความจงรักภักดีว่าแท้ที่จริงแล้ว 
เขาไม่เคยคิดคดทรยศต่อแผ่นดิน เฝ้ารอคอยเวลา เพียงแต่ รอคอยอยู่ฝั่งของทรราชเท่านั้นเอง

:: :: :: :: :: :: :: :: :: ::

สปอยนิดหนึ่ง.. ตอนที่กุตะมะเสียชีวิตนั้น เป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก อ่านไปก็ร้องไห้เป็นเผาเต่า
กุตะมะ เป็นตัวละครที่มีความโดดเด่น ลุ่มลึกในอารมณ์และฉลาดหลักแหลม ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดทำอะไร
นอกจากให้การกระทำและเวลาพิสูจน์หัวใจที่แท้จริง ของอดีตขุนพลฝ่ายขวากษัตริย์วิษณุพรหมนารถ
มีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อ ราชวงศ์เทพ เพียงใด และสุดท้ายมิตรได้เข้าใจในมิตรในที่สุด

เสร็จศึกปราบขบถแล้ว เจ้าชายจักราชธิราช ขึ้นครองราชย์ และได้นำทุกคนไปยัง สุสานของราชวงศ์เทพ
ศพของ กุตะมะ ได้รับเกียรติสูงสุดไปสิงห์สถิตอยู่ใน ณ สุสานแห่งนี้ด้วย และใต้ภูเขาอันเป็นสุสานนี่เอง
มีขุมทรัพย์เพชรนิลจินดามากมาย ที่ทุกคนเรียกกันว่า ขุมทรัพย์เพชรพระอุมา ที่ทุกคนไม่คิดว่าจะเห็น

ไม่มีใครต้องการหรือแตะต้องสมบัติเหล่านี้ เนื่องจากได้เจอสิ่งล้ำค่าแล้ว นั่นก็คือ น้ำใจของมิตรสหาย
ได้พบเจอมรกตนคร ได้พบเจอคนที่สูญหาย ได้รู้จักมิ่งมิตร หยั่งถึงจิตใจกันและกันอย่างที่สุดก็เพียงพอแล้ว
ทุกคนอยู่มรกตนครเป็นเวลาพอสมควร จึงได้เวลาที่จะต้องกลับไปสู่โลกภายนอก

องค์จักรราชได้ขอตัว ส่างปา ไว้ในฐานะ แพทย์หลวงของกรุงมรกตนคร ซึ่งมาเรียก็อนุญาต
มอบแหวนเพชรให้กับดาริน แหวนมรกตให้กับมาเรีย และ มอบตราราชวงศ์เทพแก่รพินทร์ เป็นที่ระลึก
ทุกคนตื้นตันใจมาก และเดินทางออกจากกรุงมรกตนคร ด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย..

** จ บ ภ า ค แ ร ก **

รีวิว เพชรพระอุมา ภาคแรก (สามตอนแรก)
ไพรมหากาฬ ดงมรณะ และ จอมผีดิบมันตรัย คลิ๊กที่นี่


..คุยกันท้ายบล็อก..

จำไม่ได้ว่าตัวเองอ่าน เพชรพระอุมา ภาคแรก มาแล้วกี่รอบ
เริ่มรู้จักนวนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่เรียนมัธยมต้น จนถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปเกือบ 30 ปีแล้ว
เริ่มจากยืมห้องสมุด ต่อมาเช่าร้านเช่าหนังสือ จนกระทั่งเก็บเงินซื้อ

บอกกับตัวเองได้ว่า นวนิยายชุดนี้ คือ บทสรุปของป่า
ตื่นตาตื่นใจกับสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ ประหวั่นพรั่นพรึงในอาถรรพณ์ของป่า
ความรู้และประสิทธิภาพของปืนแต่ละชนิด

นอกจากนี้ ยังมีมิตรภาพ ความซื่อสัตย์ ความเป็นสุภาพบุุรุษ กล้าหาญ
พอผสมกลมกลืนกับป่าแล้ว ก่อเกิดความรักและผูกพันต่อกันชนิดถึงแก่นแท้ของหัวใจ
ไม่แยกแยะความแตกต่างของชนชั้นในสังคมและชาติกำเนิด

ทุกขีดสุดของอารมณ์ หาได้ไม่ยากเลยจากนวนิยายเล่มนี้
ไม่ว่าจะเป็นความหวานโรแมนติก เศร้าโศกเสียใจ ตื่นเต้น ตลกขบขัน เคียดแค้นเอาคืน
พรั่นพรึ่ง สยดสยอง ลุ้นระทึกใจสั่น หวั่นไหว และห่วงหาอาทรต่อกัน

ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลในการอ่านนิยายเรื่องนี้ มันคือ..
สุดยอดของอรรถรสในการอ่านนิยายเรื่องหนึ่งในชีวิต ที่หาไม่ได้จากนิยายเล่มไหน
และจะไม่มีวันได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้ได้ ถ้าไม่ได้เริ่มต้นอ่านมัน..





 

Create Date : 21 มีนาคม 2561
18 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2561 13:11:26 น.
Counter : 4719 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณเนินน้ำ, คุณfor a long time, คุณSai Eeuu, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณยังไงก็ได้ว่ามาเลย, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณALDI, คุณnewyorknurse, คุณmambymam, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณ**mp5**, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณhaiku

 

เป็นรีวิวที่ตั้งใจเขียนมากๆเลยครับ
รู้เลยว่าปี้จินอ่านมาหลายรอบแล้ว
และเขียนได้ละเอียดมากๆ
คนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้
คงเพลินมากเมื่อกลับมาอ่านรีวิวบล็อกนี้

 

โดย: กะว่าก๋า 21 มีนาคม 2561 20:37:52 น.  

 

ต้องหาอ่านบ้างแล้วค่ะ

 

โดย: Sai Eeuu 21 มีนาคม 2561 21:20:30 น.  

 

อ่านจบหลายรอบทั้งที่เล่มหนาขนาดนี้ได้ แสดงว่าชอบมากเลยนะครับ

เรื่องนี้ผมคุ้นๆ ว่ารายการแฟนพันธุ์แท้เคยเอามาเล่นด้วย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 21 มีนาคม 2561 22:36:36 น.  

 

ที่ห้องสมุดที่ทำงานมีครบทุกเล่ม แต่ยังไม่เคยยืมอ่านเลยครับ
เคยอ่านจากหนังสือพิมพ์อยู่ช่วงหนึ่ง

 

โดย: สองแผ่นดิน 21 มีนาคม 2561 22:55:31 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
VELEZ Photo Blog ดู Blog
ลุงแมว Photo Blog ดู Blog
ญามี่ About Weblog ดู Blog
JinnyTent Book Blog ดู Blog

พี่อุ้มก็จำไม่ได้ว่าอ่านจบไปกี่รอบ
แต่ตั้งวางไว้ในห้องสุขาที่ จ.อุบลฯ
ทุกครั้งที่เข้าก็จะอ่านตลอด
555 โหวต

 

โดย: อุ้มสี 21 มีนาคม 2561 23:18:27 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าๆค่ะ พี่จิน
ตัวหนัวสือเยอะ ตาลายค่า

 

โดย: ann_shinchang (ยังไงก็ได้ว่ามาเลย ) 22 มีนาคม 2561 6:08:06 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับปี้จิน

โหวตครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 22 มีนาคม 2561 6:25:01 น.  

 

เพชรพระอุมาตอนตอนอาถรรพณ์นิทรานคร
เหมือนจะเคยผ่านตามาบ้างค่ะ จำได้ลางๆ
วันนี้ออเจ้าเอามารีวิวแบบละเอียด อ่านจุใจ ดีมากๆเลย
ว่ากันตามจริงเพชรพระอุมานี่สนุกทุกตอนเลยเนอะคะ
อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ

พลับพลึงก็ไม่อยากจะปลูกเท่าใดแล้วเจ้าค่ะ
ช่วงนี้หนอนไม้หัวมันพากันอาละวาดหนัก
ต้นไม้พากันเน่าตายหลายต้นเลย แงๆ
ขอบคุณที่แวะชมค่ะ
ไว้พรุ่งนี้มาใหม่น้า


 

โดย: mambymam 22 มีนาคม 2561 17:59:18 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับปี้จิน

น่าจะมีส่วนนั๊กเลยครับ
นี่มาดามผมหายต๋อมไปแล้ว
คาดว่าจะไปนอนดูละครบุพเพฯกับน้องๆผม 55555

ส่วนผมก่เล่นคอมไปเรื่อยๆ สบายใจเฉิบ
บ่ามีไผ๋กวนครับ 5555


 

โดย: กะว่าก๋า 22 มีนาคม 2561 20:32:46 น.  

 

ละเอียดมากค่ะ อ่านเก่งจริง ๆ
นี่อ่านอะไรเดี๋ยวนี้ไม่เคยจบเลยค่ะ

 

โดย: ALDI 22 มีนาคม 2561 23:50:08 น.  

 

วาวว น้องเขียนรีวิวได้ละเอียด
แถมตัวหนังสือมี ที่สำคัญๆด้วย
พี่ก็ชอบเรื่องเพชรพระอุมาเหมือนกันค่ะ

โหวดค่ะ

>>>
เรื่องการออมเงิน พี่อยากให้คนรุ่นหลังเตรียมตัวไว้บ้าง พี่อยู่รุ่นสว.มีเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง บางคน
ตอนนี้ลำบากพอควร เพราะทำงานไม่ค่อยมั่นคง
เปลี่ยนงานบ่อย พอเกษียณก็ไม่มีเงินเกษียณ เงินเก็บ ก็เก็บไว้ไม่มาก เพราะไม่ได้วางแผน มีพอใช้จ่าย แต่ถ้าเจ็บป่วยที่ต้องอยู่นานๆ ก็คงลำบากทีเดียว เลยอยากให้คนรุ่นหลังๆเตรียมตัวไว้บ้าง

*****
" ตอนนี้ ก็เหมือนตัวเองเป็นเครื่องจักร
ทำงานไปจนกว่าจะทำไม่ไหวแล้วพัก"

น้องควรดีใจที่มีงาน มีโอกาสได้ทำงาน เพี่ยงแต่เราต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะได้ทำงานได้
มีงานทำ มีรายได้ จะได้มีเงินดูแลครอบครัวเและเก็บไว้ยามเกษียณ บางคนไม่มีงานทำแม้จะอยากทำ หรือลงทุนทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
พี่เองทำงานตอนที่แข็งแรงทำงานก็ทำแทบทุกวัน วันละ16 ชั่วโมงไม่มีวันหยุดหรอก หยุดเดือนละวัน ทำอยู่หลายปีเลยค่ะ

 

โดย: newyorknurse 23 มีนาคม 2561 3:30:00 น.  

 

ต๊ะเอ๋ ส่งกำลังใจยามเช้าเจ้าค่ะ



 

โดย: mambymam 23 มีนาคม 2561 5:49:53 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับปี้จิน

 

โดย: กะว่าก๋า 23 มีนาคม 2561 6:47:51 น.  

 

จินตนาการ คุณพนมเทียนยอดเยี่ยม รวมกับความ
เชี่ยวชาญอาวุธปืน กับป่าในภาคใต้ เลยเกิดนิยาย
ที่น่าอ่าน ..อีกทั้งทำงานด้านนี้มานาน

ยอดเยี่ยมแต้ๆ เนาะคุณจิน

v

เรื่องหวาน ๆ ก็มี

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 23 มีนาคม 2561 18:15:15 น.  

 

ที่ไปคุย
จริงๆ รางวัลถ้าได้ทีมงานเค้าจะทำเป็นเหมือน ป๊อบอัพแจ้งตอนเราเข้าไปในหน้า จัดการแก้ไขบล็อกเลยนะครับ แต่ผมเดาว่านานเกินมั้ง ป๊อบอัพเลยหาย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 23 มีนาคม 2561 21:58:29 น.  

 

ส่งกำลังใจครับ

 

โดย: **mp5** 24 มีนาคม 2561 12:47:24 น.  

 

มาอ่านเรื่องย่อต่อค่า

 

โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน 24 มีนาคม 2561 12:56:52 น.  

 

เขียนได้ใจมากจริงๆ

 

โดย: คุณนายMoTo IP: 124.120.14.183 27 กรกฎาคม 2563 23:33:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


JinnyTent
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือ ชอบถ่ายรูป
& บันทึกเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง ^^

ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนพี่น้อง Blog Gang
& ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันค่ะ :-D

Jin
09.9.09
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มีนาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add JinnyTent's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.