ไม้สะสม (1) : ของมันต้องมีสำหรับ Cactus Lover
อัพเดทเรื่องราวแคคตัส JinnyTent Cactus & Succulent ติดกันสองเอนทรี่แล้ว ขออีกสักบล็อกละกัน อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊า วันนี้เอาไม้สะสมแคคตัสหลากหลายสายพันธุ์มาฝาก เป็นสายพันธุ์ที่ Cactus Lover จะต้องรู้และของมันต้องมีค่ะ
ไม้สะสมในบล็อกวันนี้ จขบ.เริ่มเลี้ยงและสะสมจริงจังมาได้สองปีกว่า เริ่มต้นเลี้ยงแคคตัสจากพันธุ์ที่หาง่ายไปหายาก จากนั้นเรียนรู้สายพันธุ์แปลกใหม่ไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ สะสมไปทีละนิด เริ่มจากต้นเล็กเพราะราคาถูกกว่าต้นใหญ่
สายพันธุ์ของแคคตัสมีหลากหลายสกุลมาก จำชื่อกันไม่หวาดไม่ไหว จขบ.เลือกเก็บไม้ที่ชื่นชอบและราคาเอื้อมถึงอย่างละนิดละหน่อย
ปะ.. ไปชมกันเลยว่ามีสกุลไหนบ้าง
ชุดที่หนึ่ง
1 และ 2 แมมขนแกะ 3.แมมแลนต้า
สกุลแมมมิลลาเรียทั้งสามต้นนี้ เลี้ยงเพราะขนปุยสีขาวเค้าค่ะ ความที่เค้าน่ารักน่าชังนี่เอง ทำให้ราคาสูงสมค่าตัว เป็นท็อปไฟว์ของสายแมมต้องมี
จขบ.เลือกเลี้ยงต้นเล็ก เพราะราคาจะเบากว่า ต้นโตเห็นราคาแล้วถอดใจเลยค่า
ชุดที่สอง
1.อิพิ หรือ อิพิเทลันทา เป็นแคคตัสไซส์มินิ โตช้า หนามขาวนวลน่ารัก ไม่แหลมคม
2.เทอบิเส้น หรือ เทอบิ มินิมัส จขบ.เพิ่งได้มา เห็นต้นเค้าแล้วว๊าว น่ารักน่าชังอยากได้มาเลี้ยง ราคาหลักร้อย พอกัดฟันแลกมาได้อยู่
3.แมมดูเวอาย หรือ แมมมิลลาเรีย ดูเวอาย
4.แมมเปค หรือ แมมมิลลาเรีย เพคตินิเฟอรา เรียกอีกชื่อว่าแมมหนาวหวี มีเพราะลักษณะของหนามเหมือนหวี เห็นครั้งแรกปิ๊งเลยค่ะ หนามแน่นสวย ดอกก็สวยมาก แต่ราคาไม่สวย เลยมีไว้แค่ต้นเดียวให้รู้ว่ามี
5.แมมแม่เฒ่า หรือ แมมมิลลาเรีย ฮาห์เนียนา ลุ้นให้เป็นซุปเปอร์บาร์อยู่ค่ะ มีขายทั่วไปราคาไม่แพง แต่ถ้าหนามฟูขาว และชี้ยาวมาก ๆ เรียก ซุปเปอร์บาร์ อันนี้ราคาสูงทีเดียว
6.แมมเลาอาย หรือ แมมมิลลาเรีย เลาอาย หนามแน่นสีเหลืองนวลสวย โตช้าและราคาค่อนข้างสูง เป็นอีกหนึ่งต้นที่สายแมมจะต้องมีค่ะ
หกต้นข้างบนนี้ ราคาค่าตัวสูงไม่แพ้ชุดที่หนึ่งเลย ยกเว้นแมมดูเวอาย ราคาค่าคบหากว่าเพื่อน จขบ.เลือกเลี้ยงต้นเล็ก เพราะราคาแตะได้ ถ้าตายไปก็เสียใจอยู่ 55
ชุดที่สาม
แมมมิลลาเรีย คาร์มีเน หนามสีส้ม สีแดง สีเหลือง ส่วนรูปถัดไปเป็น คาร์มีเนหนามขาว เลี้ยงให้เป็นฟอร์มกออยู่ค่ะ
เสน่ห์ของคาร์มิเน คือ สีของหนามสวยและดอกน่ารักตะมุตะมิ ราคาเกินความน่ารักออกไปทางผู้ใหญ่ค่าตัวแพง แต่นางน่ารักจริง ๆ ค่ะ
(รูปล่าง) ดอกของคาร์มิเน ที่เลี้ยงไว้เป็นดอกสีขาวทุกต้น น่าจะมีสีอื่นด้วยแต่ จขบ.มีแต่สีขาว
ชุดที่สี่ ชุดนี้ ยังเป็นชุดที่เน้นหนามสีขาวน่ารัก
1.แมมสโน หรือ แมมมิลาเรีย กราซิลิส แอริโซนาสโนว์
2.แมมลูกกอล์ฟ หรือ แมมมิลลาเรีย ฮัมโบล์ดทิอาย ถ้าเป็นพันธุ์พุ่มเตี้ยโตช้ามาก ไม่ค่อยเห็นความเติบโตของเขา เรียกว่าเลี้ยงจนลืม พุ่มต้นเหมือนลูกกอล์ฟ
3.เอสโคบาเรีย หรือ เอสโคบาเรีย สนีดดิอาย หนามสีขาวปุยไม่แหลมคม แตกพุ่มเป็นกอน่ารักน่าชัง และโตช้ามาก จขบ.เลี้ยงไว้สองต้นนานแล้วยังไม่เคยเห็นดอก
4.แมมโอรุกะ หรือ แมมมิลาเรีย กราซิลิส โอรุกะ เลี้ยงง่าย ชำหน่อติดเร็ว หนามขาวดอทใหญ่ไม่แหลมคม ดอกก็สีหวานมาก ใครอยากเลี้ยงแคคตัสน่ารัก แนะนำค่ะ
5.แมมลูกกอล์ฟญี่ปุ่น หรือ แมมมิลลาเรีย เฮอเรเร โตเร็วกว่าลูกกอล์ฟพันธุ์เตี้ย แตกกอเร็วยังไม่เคยเห็นดอกเช่นกัน
6. Mammillara painteri ได้มาจากงานแคคตัสเห็นเป็นพุ่มสวย ดอกสีชมพูเล็กน่ารัก แทรกตามพูหนาม
ชุดที่ห้า
1.แมมขนนก ดอกชมพู หรือ แมมมิลลาเรีย พลูโมซา ให้ดอกไม่บ่อย ถ้าเป็นดอกสีชมพูปุยสีขาวตรงกลางจะมีสีเข้มกว่าดอกสีขาว ดอกสีชมพูหาจะยากและมีราคาแพงกว่า
2.แมมขนนก ดอกขาว ส่วนใหญ่ที่เห็นทั่วไปดอกจะเป็นสีขาว แตกฟอร์มเป็นกอจะสวยน่ารักมากมาย
3.แมมขนนกเหลือง หรือ แมมมิลลาเรีย ไซเดียน่า ออกดอกง่ายและให้ดอกตลอดทั้งปี มีดอกหลายสี ขนสีเหลืองอ่อน-เข้ม ราคาอยู่ที่หลักร้อย ขึ้นอยู่กับขนาดต้นเดียวหรือฟอร์มกอ
รูปที่หนึ่งเป็น แมมขนนก ดอกขาวฟอร์มกอ รูปที่สองเป็น แมมขนนกเหลือง ดอกหลายสีมีทั้งฟอร์มเดี่ยวฟอร์มกอ รูปที่สองแมมขนนกเหลืองเป็นแคคตัสของเพื่อนค่ะ
Credit : รูปแมมขนนกเหลือง(2) Photo by Panchanok Boonmawong
ชุดที่หก
1.แมมขนแมว หรือ แมมมิลลาเรีย โบคาซานา ขนฟูสวยคล้ายขนแมว เลี้ยงง่ายให้ดอกตลอดทั้งปี ดอกมีหลายสี เป็นหนามขอ มักเกี่ยวมือจับต้องระมัดระวัง
2.แมมนกฮูก หรือ แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลลา ลักษณะเด่นคือ หนามแน่นเรียงสวยงาม เวลาโตขึ้นจะแตกหน่อเป็นสองยอด เหมือนตานกฮูก เวลาให้ดอกพร้อมกันเหมือนมงกุฎสวย
3.แมมฮุย หรือ แมมมิลลาเรีย ฮุยต์ซิโลฟอชต์ลี ลักษณะหนามคล้ายแมมนกฮูก ให้ดอกรอบลำต้นแตกต่างจากแมมเฮเลน ที่ให้ดอกตรงปุยสีขาวด้านบน ดอกน่ารักมากมาย
4.แมมอิรุซามุ หรือ แมมมิลลาเรีย บูคาเรเลียนซิล หรือที่รู้จักกันว่า แมมปุยหิมะ
5.แมมเฮเลน หรือ แมมมิลลาเรีย วากาสไปนา มีปุยสีขาวด้านบนของลำต้น
6.แมมแคนดิด้า หรือ แมมสโนบอล ต้นนี้ได้มาจากเพื่อนสวนแสงดาวไม้หนาม ชอบหนามสีขาวสวย เคยเดินหาในตลาดต้นไม้ ไม่ค่อยเจอค่ะ ยังไม่ออกดอก
ชุดที่เจ็ด
แมมชูแมน หรือ แมมมิลลาเรีย ชูแมนนิไอ จขบ.ชอบตรงที่ตุ่มหนามน่ารัก ให้ดอกง่ายและออกดอกตลอดปี ดอกใหญ่สวย ดอกสีม่วงหรือสีม่วงเหลือบขาว บางต้นมีกลีบดอกสองชั้น
ราคาอยู่ที่หลักสิบถึงหลักร้อยขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นค่ะ
ชุดที่แปด
แมมมิลลาเรีย อิลองกาตา ส่วนใหญ่มักจะเรียกตามสีของหนาม ราคาไม่แพง 1 และ 4 นิ้วนาค 2.นิ้วดำ 3.นิ้วทอง
ชุดที่เก้า
เอสโคบาเรีย มินิมา เป็นเอสโคบาเรียที่ จขบ.รักและหวงมากที่สุด หนามสวยมาก หายาก ราคาสูงสมกับความสวย และโตช้า
ฟอร์กกอได้จากงานแคคตัสเชียงใหม่ ปี 2560 หกต้นเล็กเก็บไว้หลายต้นกันเหนียว เพราะเคยเลี้ยงแล้วตาย
ชุดที่สิบ
เทอบิ หรือ เทอร์บินิคาปัส
เป็นแคคตัสอีกหนึ่งสกุลที่มีขนาดลำต้นเล็ก ไม่ค่อยแตกกอ ดอกน่ารัก บางต้นให้ดอกสีหวานมาก หนามแปลก ราคาเริ่มต้นหลักร้อย เป็นอีกหนึ่งสกุลที่ จขบ.ให้ความสนใจเป็นพิเศษในเวลานี้
ชุดที่สิบเอ็ด
โคเปียโป เป็นอีกหนึ่งสกุลที่ จขบ.ให้ความสนใจเป็นพิเศษเช่นกัน เริ่มจากลองเลี้ยงต้นแรกได้เป็นต้นกราฟมา พอให้ดอกเห็นแล้วตะลึงอึ้งมาก สวย งดงาม น่าหลงไหลเป็นที่สุด ตรงกันข้ามกับต้น
ต้นไม่น่ารักแต่ให้ดอกสวยราวราชินี จากนั้นก็เริ่มหาและเก็บ ราคาเริ่มต้นที่หลักร้อย จะกี่ร้อยขึ้นอยู่กับขนาดของลำต้น ชำหน่อหรือไม้เมล็ด ลองเด็ดหน่อปักชำล่อรากเอง น่าจะติดแต่โตช้ามาก
รูปล่างสองต้นก็เป็น โคเปียโป ไฮโบเกีย ได้มาเก็บไว้สองต้นล่าสุด เป็นไม้เมล็ดรอดอกมาค่ะ
ชุดที่สิบสอง
1 และ 2.พาโรเดีย สายพันธุ์แรก ๆ ที่รู้จัก ชอบตรงดอกสีสดสวย บางทีให้ทีละหลายดอก ดอกใหญ่สวยงามสะดุดตา ต้นแรกให้ดอกตลอดเวลาเลยค่ะ
3.หนามดินสอ (ไม่ทราบสกุล)
4.หนามกระดาษ หรือ โอพันเทีย อาร์ติคูลาตา
มีหนามดินสอแล้วต้องมีหนามกระดาษด้วย จะได้คู่กัน
ชุดที่สิบสาม
รีบูเทีย เป็นสกุลที่เลี้ยงง่าย ให้ดอกตลอดปี ดอกมีหลายสี สีชมพู สีส้ม สีแดง ดอกสีขาวจะราคาถูกว่าสีอื่น
ลำต้นไม่ใหญ่ แตกหน่อเป็นฟอร์มกอ ขนหนามสีขาวอ่อนนุ่มไม่แข็ง ยกให้เป็นหนึ่งในแคคตัสสายน่ารัก
ดอกรีบูเทียค่ะ รูป 1-2 เป็น รีบูเทีย คานิวาส รูป 3 เป็น รีบูเทีย มาร์โซเนรี และรูปที่ 4 เป็นรีบูเทีย ดอกขาว รีบูเทียดอกขาวเป็นของเพื่อนค่ะ นำมาประกอบเพื่อให้บล็อกวันนี้สมบูรณ์
Credit : รูปดอกรีบูเทียสีขาว (4) Photo by Panchanok Boonmawong
ชุดที่สิบสี่
ซันคอรีบูเทีย เป็นอีกสกุลที่มีหนามสวย สีสันของต้นก็แปลกตา จขบ.มักจำสับสนกับสกุลรีบูเทีย บางต้นคล้ายกัน
เคยเลี้ยงซัลคอรีบูเทีย จีโรเซนิลิส(6) ขนยาวรุ่มร่ามมา 2 ต้น ตายเรียบไม่รอด ไม่รู้ทำไมแต่ก็ไม่ละความพยายาม ต้นนี้เป็นต้นที่สาม
ชุดที่สิบห้า
ดิสโกแคคตัส เป็นอีกสกุลที่ จขบ.ชอบตรงที่หนามสวย เหมือนรังนกสานกันแน่นแทบไม่เห็นลำต้น หนามสีเหลืองนวล ไม่แหลมคมตำมือ ต้นแรกหลายเดือนสองต้นหลังเลี้ยงมาได้เกือบสองปีแล้ว
ต้นแรกเป็น ดิสโกแคระ ต้นที่สอง ดิสโก buanekeri ต้นไม่โตมากก็ให้ดอกแล้ว สองต้นนี้เป็นน้องใหม่เพิ่งทำความรู้จักไม่นาน
ชุดที่สิบหก
เฟรเลีย เป็นแคคตัสต้นเล็กน่ารัก ลำต้นสีเขียวหรือสีน้ำตาล ไม่แตกหน่อ ดอกสีเหลือง สามารถผสมพันธุ์ในดอกตูมอัตโนมัติติดฝักแล้วให้เมล็ดเลย
ต้นแรกเป็น เฟรเลีย คัสตาเนีย ไนเทน มีลายเส้นสวยกว่าต้นอื่น ส่วนต้นที่สามเป็น เฟลเลีย แมมมิเฟอรา ขนทอง
เลี้ยงมาหลายเดือนไม่เคยได้เห็นดอกเค้าเลยค่ะ พอดอกตูมก็ติดฝักให้เมล็ดตลอด แทบจะถอดใจในการเฝ้าดูดอกเค้าละ ลองเอาเมล็ดมาเพาะก็ติดง่ายขึ้นพรึบพรับ
ชุดที่สิบเจ็ด
เฟโร หรือ เฟโรแคดตัส เป็นแคคตัสสกุลที่ให้หนามดุ ถ้าใครชอบหนามดุดัน สีสันสวยงาม เฟโรแคคตัสถูกใจคนชอบหนามแน่นอน
หนามมีหลายสี เช่น สีแดง สีเหลือง สีเทา ดำ ลักษณะหนามจะยาวโค้งงอ บางต้นเรียกกันว่า เฟโรหนามเหยี่ยว ราคาไม่แพงมาก ขึ้นอยู่กับลักษณะและสีสันของหนาม
ชุดที่สิบแปด
ชุดนี้เป็นแคคตัสสกุล เทโลแคคตัส 1 และ 3 เรียก ไบคัลเลอร์ สะดุดตาตรงที่หนามเค้าค่ะ หนามสีแดงเรียวยาวสวย ขนานไปกับลำต้น เลี้ยงโดนแสงหนามจะให้สีสวย
2.จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ รู้แต่ว่าเป็นสกุลเทโลแคคตัส คล้ายไบคัลเลอร์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเทโลผิดกำมะหยี่ เดาล้วน ๆ ค่ะ
ชุดที่สิบเก้า
1.กลีบกระทง หรือ โอบรีโกเนีย ลำต้นกลม มีหนามคล้ายกลีบกระทง ไม่แตกหน่อและเติบโตช้ามาก ดอกยังไม่มาทักทาย ได้จากเพื่อนมีไว้ลุ้นดอกสองต้นค่ะ
2.คลื่นสมอง หรือ อิชิโนฟอสซูโลแคคตัส ลักษณะเด่นของเค้า คือ ลำต้นเป็นสันเรียงกันเหมือนเกลียวคลื่น เลยเป็นที่มาของชื่อ ยังไม่เคยเห็นดอกเช่นกันค่ะ รอลุ้นอยู่
3.ฮาโมโตะ หรือ เทโลแคคตัส เซติสไปนัส ลำต้นเค้าแปลกดีค่ะ ลองเลี้ยงไว้สองต้น ราคาไม่แพงหลักสิบ
ดอกสีเหลืองใหญ่ ที่เลี้ยงไว้ยังไม่ให้ดอก ได้แต่ชื่นชมดอกของคนอื่นไปก่อน
ชุดที่ยี่สิบ
ช้าง หรือ โครีแฟนทา มีหลายสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยงมาก เป็นสกุลที่เลี้ยงจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เค้ามีโรคประจำตัวคือ ราสนิม พูดง่าย ๆ คือ ช้างทุกต้นมีราสนิมในตัว เวลาที่เจออากาศชื้นก็จะมา
จขบ. ชอบ ช้างญี่ปุ่น (1-3) เพราะหนามสวยเล็กบางปกคลุมลำต้น มีลักษณะหนามที่แตกต่างกันไปแต่ละต้น สวยคนละแบบ เลี้ยงช้างญี่ปุ่นไว้ห้าต้น รอลุ้นดอก
รูปล่างนี้ต้นแรกเป็นช้างไฮบริด น่าจะช้างแคระน่ารักตะมุตะมิดี ส่วนอีกต้นไม่แน่ใจว่าเป็น ช้างทันชิหรือบูแมมมา
ที่เหลือจาก 5-6 ต้นในรูปนี้ อาการน่าเป็นห่วง กำลังสร้างภูมิต้านทานสู้กับราสนิมอยู่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะมีแต่บาดแผล
ชุดที่ยี่สิบเอ็ด
1.ฮาคุโจ หรือ อิชินอปซิส ฮาคุโจ ต่างจากอิชินอปทั่วไปคือตรงสันพูเป็นหน้าตัดสีขาวตลอดแนว น่ารักไปอีกแบบ ราคาไม่แพง หาง่ายทั่วไป
2.กลีบมะเฟือง หรือ พาโรเดีย แมกนิฟิกา เห็นน่ารักดี เลี้ยงมาตั้งแต่กอเล็ก ๆ ตอนนี้หัวโตคับกระถาง
3.แมมลูทิอาย หรือ แมมมิลลาเรีย ลูทิอาย หนามสีขาวแตกเป็นพุ่มเล็กน่ารัก แต่เลี้ยงยาก เน่าง่าย
ต้นในรูปนี้ สังเวยความไม่รู้ของ จขบ.ว่าเค้าบอบบาง เน่าตายไปเรียบร้อย เสียใจเสียดายมาก ค่อยหามาใหม่^^
ชุดที่ยี่สิบสอง
เรนโบว์แคคตัส หรือ อิชิโนซีรีอุส ริจิดิสซิมัส รูบิสไปนัส สองต้นนี้เป็นรุ่นแรก ๆ ที่เลี้ยงเลยค่ะ โตช้ามากแทบไม่เห็นการเติบโตของเขา ที่เห็นเปลี่ยนคือหนามด้านบนจะออกสีบานเย็นเข้มสวยมากขึ้น
ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่เคยเห็นดอก อ่านในหนังสือบอกว่า จะให้อากาศหนาวเย็นกระตุ้นตาดอก รอลุ้นว่าฤดูหนาวนี้จะออกดอกให้ชื่นใจมั้ย
ชุดที่ยี่สิบสาม
ยิมโนด่าง หรือ ยิมโลคาไลเซียม มิฮาโน เสน่ห์ของยิมโนด่าง คือ สีสันของต้นหลากสีสวยงาม เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากและราคาสูงมากที่สุดในท้องตลาดตอนนี้
จขบ.เพิ่งแหย่ขาไปห้าต้น ได้ราคามิตรภาพจากเพื่อนสามต้น เริ่มเลี้ยงจากต้นเล็ก ๆ เพราะราคาจะเบากว่าต้นใหญ่ มาเลี้ยงเองให้โตและลุ้นสีที่เปลี่ยนไปเอา
ยิมโนด่างกับยิมโนหัวสี แตกต่างกัน ราคาก็คนละเรื่องเลยค่ะ สนใจลองเข้าไปอ่านในลิ้งค์นะคะ ทำลิ้งค์ให้แล้ว
ชุดที่ยี่สิบสี่
คางคก หรือ ซูโดไลทอส มิกิเออร์ทินัส ตอนแรกที่รู้จัก ไม่ชอบเลย เป็นแคคตัสต้นที่อัปลักษณ์ที่สุด แต่พอเห็นดอกในร้านหนึ่งที่ตลาดต้นไม้ กับต้นตอนโตเค้าเหมือนคางคกยืน
ดูแล้วก็ตลกดี แปลกตา และดอกสีแดงเลือดนกสวย เห็นแบบนี้ราคาไม่ธรรมดานะเออ
ชุดที่ยี่สิบห้า
โลโฟโฟรา เป็นแคคตัสไร้หนาม ที่คนนิยมเลี้ยงกันไม่แพ้สกุลแอสโตรไฟตัม แอสทีเรียส รูปทรงจะน่ารักคล้ายซาลาเปา แลดูตะมุติมิ จขบ.ลองเลี้ยงไว้สามต้น เลือกเลี้ยงตั้งแต่ต้นเล็กราคาเบาเอื้อมถึง ยังไม่ออกดอกค่ะ
ชุดที่ยี่สิบหก
แอริโอคาร์ปัส เป็นอีกหนึ่งสกุลที่ให้ความสนใจไม่แพ้เทอบิและโคเปียโป เหตุเพราะศึกษาในหนังสือแคคตัสแล้วเห็นดอกโครตสวยสุดอลังการ ซึ่งผิดกับหน้าตาของต้นมาก เลยอยากเลี้ยงไว้เชยชมดอก
ค่อนข้างโตช้าและราคาสูง โดยเฉพาะต้นที่เพาะพันธุ์มาจากเมล็ด ต้นเล็กเริ่มต้นที่หลักร้อย ต้นที่ 2 และ 4 ได้มาจากเพื่อนในราคามิตรภาพ อีกสองต้นเป็นไม้กราฟตัดลงดิน ราคาเบากว่าไม้เมล็ดเยอะ
แต่ก็ลุ้นอยู่ว่าจะเลี้ยงรอดไปจนถึงมีดอกให้เห็นมั้ย จากที่สังเกตุไม้เมล็ดจะโตไวกว่าและดูแข็งแรงกว่าไม้กราฟตัดลงดินมาก
ชุดที่ยี่สิบเจ็ด
ปิดท้ายด้วย มะพร้าวทะเลทราย เป็นไม้สะสมที่ จขบ.ชอบมากอีกเช่นกันค่ะ ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 20 บาทไปถึงร้อยกว่าบาท
เลี้ยงง่าย โตช้า ใบสวย และชอบตรงโขดสวยนี่แหละค่ะ มีทั้งใบกลม ใบเรียว ใบหยิก ใบขน ใบสีเขียว ใบสีน้ำตาลเข้มและใบด่าง ที่แพงกว่าเพื่อนคือ มะพร้าวใบเงิน ใบจะเรียวยาวแฉกสีขาวตัดกับสีเขียวสวยมาก
จบเอนทรี่นี้แล้ว ขอพักยกเกี่ยวกับเรื่องราว JinnyTent Cactus& Succulent กันก่อน ทำบล็อกแคคตัสสามบล็อกติด ๆ กัน ดูดพลังและเวลาไปเยอะมาก
โอกาสหน้าค่อยมาพูดถึงสกุลที่เป็นที่รู้จักกันในท้องตลอดนอกเหนือจากแมมมิลลาเรีย นั่นคือ ยิมโนคาไลเซียม, เมโลแคคตัส, โลบีเวีย และแอสโตรไฟตัม แอสทีเรียล และเก็บตกแคคตัสอื่น ๆ ถ้าเวลาเอื้ออำนวยค่ะ
หมายเหตุพิเศษ
ข้อมูลในบล็อกนี้ เป็นการเรียบเรียงจัดหมวดหมู่โดยความชอบส่วนตัว ชื่อที่นำมาบอกกล่าวเป็นชื่อเรียกในท้องตลาดทั่วไป
ส่วนชื่อสกุลทางการได้อ้างอิงมาจากหนังสือ : 1) แคคตัส โดย ภวพล ศุภนันทนานนท์ สำนักพิมพ์บ้านและสวน และ 2) Let's grow Cactus ตกหลุมรักแคคตัสจังเลย โดย ปวธวรรณ สีนาคล้วน
ส่วนรูปภาพประกอบเนื้อหาบล็อกครั้งนี้ โดยเจ้าของบล็อก ถ่ายจากแคคตัสที่สะสมมาตลอดตั้งแต่เริ่มเลี้ยง
Create Date : 15 กันยายน 2561 |
|
37 comments |
Last Update : 18 กันยายน 2561 17:50:46 น. |
Counter : 57963 Pageviews. |
|
|
|
ความสุขที่ได้ทำ ที่ได้เพาะเลี้ยง
ยิ่งมีเยอะ ยิ่งสุขเนาะ
ได้รู้จักชื่อต่างๆ มีความรุ้รอบตัวมากขึ้นด้วยพี่จิน
รินนี่ เรียกแมมอย่างเดียวเลย อิอิ