space
space
space
<<
ธันวาคม 2565
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
space
space
19 ธันวาคม 2565
space
space
space

สโลว์ไลฟ์ไปกับ รฟท กาญจบุรี-แม่น้ำแคว-ทางรถไฟสายมรณะ-เดย์ทริป

สถานที่ท่องเที่ยว : ทางรถไฟสายมรณะ, กาญจนบุรี Thailand
พิกัด GPS : 14° 13' 29.86" N 99° 3' 2.66" E



สโลว์ไลฟ์ไปกับรฟท กรุงเทพ-กาญจนบุรี-แม่น้ำแคว-ทางรถไฟสายมรณะ-เดย์ทริป

ทริปนี้เกิดขึ้นแบบไม่มีการเตรียมการมาก่อนใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากชีวิตของคนที่ปลดเษียนแล้วกิจวัตรประจำวันก็ตื่นขึ้นมาดูข่าวตอนเช้าตามปกติ พอดีวันนี้กทมฯเริ่มมีอากาศหนาวเย็นเป็นวันแรกๆของปลายปี 2565 พอเปิดประตูบ้านปุ๊บ ลมเย็นก็พัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าเป็นที่ชื่นใจยิ่งนัก พอเปิดข่าวเช้าดูพี่สรยุทธ์แกก็พูดถึงแต่อากาศหนาวในสถานที่ต่างๆของประเทศไทยพร้อมภาพประกอบ ภาคเหนือบนดอยอากาศหนาวหมอกลงสวยงามจริงๆ นั่งจิบกาแฟไปรู้สึกขึ้นมาว่าทำไมเราไม่ออกไปรับอากาศสบายๆกับเขาบ้าง ไปไหนใกล้ๆตอนนี้ทันไหมนะ ไม่ต้องไปไกล เพราะไม่ได้เตรียมตัว แค่ออกไปรับลมเย็น คิดแล้วสมองก็มาอย่างไว บ้านเราอยู่ใกล้สถานีรถไฟตลิ่งชั่นนิดเดียวแค่ขี่มอไซ10 นาทีถึง แล้วจากตลิ่งชันมีรถไฟไปไหนล่ะ ผมไปขึ้นรถไฟฟ้า MRT สายสีแดงที่สถานีตลิ่งชันเป็นประจำ ในตอนเช้าๆผมเห็นรถไฟไปกาญจนบุรี สุดทางที่สถานีน้ำตก เทียบที่ชานชลา เห็นรถเข้าชานชลาประมาณ7โมงกว่าๆ คิดแล้วก็อย่างไว เปิดกูเกิ้ลดูเที่ยวรถไฟออก 7.59 ได้เลย น้ำไม่ต้องอาบก็ได้ อากาศเย็นจะตาย ล้างหน้าแปรงฟันไม่ต้อง เตรียมอะไรมาก หยิบน้ำดื่มขวดนึงใส่เป้ รินกาแฟร้อนที่ดิปไว้แล้วใส่กระติกน้ำร้อนพกพา หยิบโทรศัพท์ สมอลทอร์ค โดดขึ้นมอไซดิ่งไปสถานีรถไฟตลิ่งชันในทันใด ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่มีการวางแผน ไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิน นี่แหละวิถีของคนวัยเกษียนที่ว่างพร้อมที่จะทำอะไรตามใจได้ทุกเมื่อ



บรรยากาศของสถานีรถไฟตลิ่งชันเป็นบรรยากาศที่ร่วมสมัย จากเดิมเป็นสถานีรถไฟชานเมืองออกจะบ้านนอกสักหน่อย แต่ปัจจุบัน เนื่องจากมีหมู่บ้านจัดสรรมากมายขึ้นกันเป็นดอกเห็ดเพราะมีถนนตัดใหม่ ทั้งถนนราชพฤกษ์ นครอินทร์ กาญจนาภิเษก บรมราชชนนี ทำให้พื้นที่แถบบางกรวย รวมถึง ตลิ่งชันกลายเป็นไข่แดง  ที่มีถนนล้อมรอบสามารถเดินทางไปได้ทุกภาคของประเทศ และมีรถไฟฟ้า MRT วิ่งเข้าเมือง สถานนีตลิ่งชันจากสถานีบ้านนอกก็อัพเกรดมาเป็นสถานีร่วมสมัยไปโดยปริยาย แต่ก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายของชานเมืองไว้พอเป็นสเน่ห์ให้กับสถานีรถไฟแห่งนี้



ผมไปถึงสถานีตลิ่งชันตอน 7.30 ตีตั๋วรถไฟ โอย..เหลือเชื่อ ค่าโดยสารเที่ยวละ38 บาท แม่เจ้า ผมนั่ง MRT จากสถานีตลิ่งชันไปบางซื่อเที่ยวเดียวก็35บาทแล้ว ระหว่างทางมาสถานีรถไฟ ผมก็ไม่ลืมที่จะแวะข้างทางซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งติดกระเป๋ามาด้วย จึงมีเวลาพอที่จะรับประทานอาหารเช้ากับบรรยากาศเย็นสบายที่ 19องศาC หนาวแรกของปลายปี2565 จิบกาแฟกินหมูปิ้งรอรถไฟไปพลางครับ













เสร็จจากอาหารเช้าก็ใกล้เวลารถเข้าเทียบชานชลา เข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย เอาแล้วสิ จะเข้าไปชานชลายังไง เพราะปกติเราจะได้เหรียญโดยสารแสกนกับประตูมันก็จะเปิดให้เราเข้าไป แต่นี่เราไม่มีเหรียญ มีตั๋วกระดาษแต่มี QR โค้ด .. หรือเอา QR โค้ด แสกนเข้าไป อย่ากระนั้นเลย ถามพี่ซิเคียวริตี้ดีกว่า คำตอบคือให้เข้าอีกทางหนึ่ง มี 
อุโมงรอดเข้าไปสู่ชานชลา  ผมเดินตามเส้นทางพอโผล่ที่ชานชลาก็พบกับผู้คนจำนวนมาก รอขึ้นรถไฟอยู่ เหลือเชื่อเลยขนาดมาวันจันทร์ยังมีคนไปเที่ยวเยอะขนาดนี้ แถมมีกองถ่ายภาพยนตร์มีทีมงานเยอะแยะไปหมด ตะโกนกันโหวกเหวก เห็นว่ามีถ่ายทำภาพยนตร์กันบนรถไฟด้วย ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกว่า กองถ่ายสองโบกี้สุดท้าย ได้ยินเช่นนั้นผมรีบหนีขึ้นไปโบกี้ต้นๆไว้ก่อนเพื่อหลบจากความวุ่นวาย







มีจอ LCD บอกสถานะของรถไฟแต่ละเที่ยว แต่แหมแอบสงสัยครับ ทำไม่ทำเป็นสองภาษา ภาษาไทยฝรั่งอ่านไม่ออกครับ น่าให้มันอินเตอร์หน่อยเพราะรถไฟสายนี้ต้องรองรับนักท่องเที่ยวตั้งใจจะนั่งรถไฟไปกาญจนบุรี เขาจะลงเครื่องที่สนามบินดอนเมืองและนั่ง MRT สายสีแดงมาขึ้นรถที่ตลิ่งชันนี้แหละ เพราะมันขึ้นจากบางซื่อหรือหัวลำโพงไม่ได้ แต่เขาก้อออกตัวมาแล้วว่ากำลังเทสระบบ แหมขอบ่นนิดนึง 



รถเทียบชานชลาแล้ว เราก็จะถ่ายรูปแต่พี่เจ้าหน้าที่รถไฟไล่เราขึ้นรถไม่ให้ยืนเกะกะ เราก็ต้องเชื่อฟังพี่เค้านะครับ พอก้าวขึ้นรถก็สตั้นท์ไปชั่วขณะเลย เหมือนย้อนกลับในอดีต ผมเจอเข้ากับโบกี้ที่เป็นไม้ทั้งตู้ เก้าอี้ไม้ กลิ่นของไม้เก่าดึงผมย้อนกลับไปในอดีตหรือว่าจะย้อนไปถึงยุค โกโบริ-อังสุมารินก็ว่าได้ 555 และเราก็กำลังจะเดินทางไปบนเส้นทางรถไฟสายมรณะ ในยุคของโกโบริ ที่ญี่ปุ่นเกณฑ์เชลยศึกมาสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาย เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่มีนักท่องเที่ยวต้องการมาเยือน ผมเดินไปเรื่อยๆสำรวจมองหาที่เหมาะสักที่จะนั่งริมหน้าต่าง



 


วันนี้ก็มีชาวต่างชาติเดินทางมากับรถขบวนนี้หลายคน มาเจอโบกี้ไม้ เสียงรถไฟร้องอยู่ตลอดเวลาว่า ..ถึงก็ช่าง..ไม่ถึงก็ช่าง..กับอากาศที่เย็นสบายว่าไปมันก็ฟินไปอีกแบบหนึ่ง พอได้ที่นั่งแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาเพลิดเพลินไปกับการเดินทาง ใส่หูัฟังเปิดเพลงจิบกาแฟ ดูวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตของผู้คน นี่คืออีกหนึ่งที่เป็นสเน่ห์ของการเดินทาง



วิถีการทำงานแบบเดิมๆยังคงอยู่ นายตรวจตั๋วกับดีเซลรางเก่าๆตู้ไม้ ทุกอย่างเหมือนหยุดเวลาไว้ในอดีต นายตรวจพูดกับผมว่า ทิกเก็ต..ทิ๊กเก็ต..อ่าวพี่ผมคนไทย แกคงนึกว่าผมเป็นคนจีนกระมัง เป็นเพราะว่ารถไฟนี้มีชาวต่างชาติขึ้นเยอะ และอีกอย่างผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมไม่ใส่หน้ากากนั่นเอง คนต่างชาติส่วนใหญ่จะไม่ใส่หน้ากาก คนไทยเกือย100%  ใส่หน้ากากทั้งนั้น ผมเพิ่งนั่งจิบกาแฟและไม่มีใครนั่งใกล้ก็เลยถอดหน้ากาก อีกทั้งอากาศก็โปร่ง ว่าแล้วก็รีบใส่หน้ากากในทันใด 555

















สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทางโดยรถไฟคือแม่ค้าขายอาหารของว่างและเครื่องดื่มบนรถไฟจะเดินทางจากสถานีหนึ่งไปอีก1-2 สถานี้เพื่อขายสินค้าและจะเดินทางกลับไปกับรถไฟขบวนล่อง  



ข้าวราดแพนงหมูราคากระทงละ10บาทยังมีอยู่จริง ทดลองชิมดูรสชาติใช้ได้ทีเดียวแต่ถ้าจะให้อิ่มคงต้องสักสามกระทง นี้ชิมแค่พอให้มีไรกินเล่นเพลินๆระหว่างเดินทาง 




เมื่อสโลว์แบบนี้ก็หลับดีกว่าครับ เพื่อนร่วมทางที่นั่งเก้าอี้ตรงข้าม.. ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง



ภาพสาวๆถ่ายรูปกับป้ายยังมีให้พบเห็นทั่วไป ผมก็อดเขียนแซวไม่ได้ ก็เพราะผมเองเที่ยวคนเดียวก็เลยไม่มีใครถ่ายรูปให้ ถ้าเซลฟี่ตัวหนังสือมันก็จะกลับด้าน ไม่งั้นคงได้ถ่ายรูปกับป้ายบ้าง

ไม่นานเราก็เดินทางมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ที่สถานีกาญจนบุรีค่อนข้างคับคั่ง นักท่องเที่ยวที่พักในตัวเมืองและที่ขับรถมาก็จะมาขึ้นรถไฟที่นี่เพื่อที่จะเดินทางไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแคว คือแค่สถานีเดียว เพื่อให้ได้บรรยากาศของการนั่งรถไฟ และได้ไปถ่ายรูปที่สะพาน อีกส่วนหนึ่งมก็จะเป็นชาวต่างชาติ นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตก บ้างก็ไปเดย์ทริป บ้างก็ไปค้างคืน พวกเดย์ทริปจะซื้อทัวร์มาและมีไกด์นำทาง มีการจัดอาหารให้พร้อมอำนวยความสะดวก เสียงไกด์ตะโกนโหวกเหวกหาที่นั่งให้นักท่องเที่ยว ส่วนบางพวกมาเองจะเป็นพวกแบกเป้หาข้อมูลทางอินเตอร์เนต จ่ายค่ารถไฟแค่หลักสิบบาทเท่านั้น







   
อีกละตรงนี้ต้องขอเขียนแซว ป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวสักนิด ป้ายเขาทำมาอย่างสวยเลยพี่เอาป้ายโฆษณาร้านก๋วยเตี๋ยวไปแขวน เสียฟิลลิ้งของคนที่ชอบถ่ายรูปกับป้ายหมดเลย...วอน ททท ช่วยมาดูบ้างครับ
และเราก็มาถึงหนึ่งไฮไลท์ของทริปคือการนั่งรถไฟข้ามแม่น้ำแคว สะพานประวัติศาสตร์ ที่ใครๆก็อยากมา สถานีนี้คนเยอะมาก โดยเฉพาะต่างชาติ คนที่พักในตัวเมืองกาญจน์จะมาถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้เต็มไปหมด





ภาพสะพานข้ามแม่น้ำแควนี้เป็นภาพในอดีตที่เก่ามากๆที่ผมเคยไปมาหลายปีแล้ว ดูความเก่าได้จากสีภาพ เนื่องจากการนั่งรถไฟข้ามแม่น้ำแคว เราจะมองเห็นทิวทัศน์จากบนรถไฟไปที่แม่น้ำ เราไม่สามารถมองเห็นรถไฟบนสะพานได้ แต่ให้ไว้เพื่อประกอบคำอธิบาย และช่วงข้ามสะพานผมถ่ายเป็นวิดิโอ เลยเอามาให้ดูไม่ได้ แต่แอบอัพโหลดไว้ในติ๊กต๊อก เดวแปะลิ้งค์ให้ดูท้ายคลิปครับ

ภาพขณะที่รถไฟกำลังข้ามแม่น้ำแคว



พอข้ามสะพานแม่น้ำแคว ทิวทัศน์ก็เริ่มเปลี่ยนไปจากพื้นที่ราบทำการเกษตรมาเป็นป่า เขา แม่น้ำ ลำธาร มากขึ้น









แม่น้ำแควน้อยมีแพที่พัก รีสอร์ทอยู่ทั่วไป ท่านที่จะมานอนค้างกินบรรยากาศริมแม่น้ำแควน้อย ต้องมาลงที่สถานีถ้ำกระแซที่รถกำลังจะเทียบเร็วๆนี้






อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญคือขณะที่รถไฟกำลังวิ่งลัดเลาะอยู่บนหน้าผ้าที่ถ้ำกระแซ ที่นี่ขอเน้นทุกท่านว่า ในเที่ยวขาไปให้นั่งอยู่ทางริมหน้าต่างซ้ายมือจะมองเห็นรถไฟกำลังเลาะหน้าผาและด้านล่างเป็นแม่น้ำแควน้อย ถ้านั่งด้านขวามือจะเป็นหน้าผา ผมพลาดไปเพราะมีแดดส่องเลยเปลี่ยนไปนั่งด้านขวา ทั้งๆที่ตอนอยู่ที่สถานีกาญจนบุรีได้ยินไกด์แจ้งลูกทัวร์ให้นั่งด้านซ้าย เพราะเหตุนี้เองบางครั้งการมีไกด์เป็นของตัวเองก็ดีอย่างนี้ ส่วนภาพด้านบนนี้ผมเก็บได้ตอนขากลับ (ขากลับต้องนั่งด้านขวา)



หลังจากที่รถไฟวิ่งผ่านหน้าผาข้ามแม่น้ำแควน้อย เหมือนกับเส้นทางจะจบสิ้นที่นี่ นักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดลงที่สถานีนี้ เพราะที่นี่มีรีสอร์ทมากมายริมแม่น้ำแควน้อย และมีร้านอาหารสำหรับเดย์ทริปที่มาจากกาญจนบุรี อีกทั้งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เป็นจุดที่มองเห็นรถไฟวิ่งลัดเลาะไปตามหน้าผา อันที่จริงขอแนะนำว่าถ้าท่านทำเดย์ทริปมาจาก กทมฯ ควรจะลงที่สถานีนี้ เพราะจะมีเวลาพอที่จะทานอาหาร  เก็บภาพสวยงามที่ริมแม่น้ำแคว เนื่องจากทริปที่เราทำนี้จะเน้นการ sightseeing คือนั่งรถไฟชมวิว ดังนั้นถ้าเราลงที่จุดนี้จะเป็นจุดที่เราได้มีเวลาที่จะลงไปชมบรรยากาศสวยงามข้างล่างมากกว่านั่งอยู่แต่บนรถ แต่ถ้าท่านไปจนสุดทางถึงสถานีน้ำตก ท่านจะมีเวลาเพียงไม่กี่นาทีรถก็จะออกเดินทางกลับ ดังนั้น สำหรับเดย์ทริปจาก กทม ขอแนะนำให้ลงสถานีนี้ดีกว่าครับ




สุดทางที่สถานีน้ำตก 12.35น ผมมีเวลาเพียงไม่กี่นาที รถจะออกจากสถานีตลิ่งชันเวลา 12.55 มีรถสองแถวบริการวิ่งไปน้ำตกคนละ20 บาท แต่สำหรับเดย์ทริปจาก กทม คงไม่ทัน แต่สำหรับท่านที่ทำเดย์ทริปจากกาญจนบุรี จะมีรถอีกเที่ยววิ่งกลับกาญจนบุรีตอน 15.30 ก็สามารถทานอาหาร และนั่งสองแถวไปเที่ยวน้ำตกได้ เมื่อต้องทำเวลา ผมรีบซื้อตั๋วกลับ และเดินหาซื้ออาหารกลางวัน ร้านอาหารละแวกนี้เป็นร้านอาหารรับทัวร์ที่ไกด์พามาเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะสั่งอาหารทานเกรงว่าจะไม่ทัน ไม่มีอาหารจานด่วน ไม่มีข้าวแกง ตามร้านสะดวกซื้อจะหาขนมปังสักก้อนไม่มีเลย มีร้านกาแฟ แต่เราไม่มีเวลาที่จะละเลียดจิบ สุดท้าย ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า หาอะไรทานบนรถ เดวก็มีจะอะไรมาขายบนรถเอง ผมรีบขึ้นไปจับจองที่ด้านขวา เมื่อถึงถ้ำกระแซจะได้ถ่ายรูปแก้มือ ไม่นานรถก็ออกเดินทางกลับสู่กทมฯ 

 
ขากลับก็จะหิวสักนิด กว่าจะมีอะไรมาขายบนรถไฟต้องรอไปถึงกาญจนบุรี สำหรับท่านที่จะมาเดย์ทริปจาก กทม เบื้องต้นต้องทราบว่าเป็นทริป sightseeing คือนั่งชมวิวเป็นหลัก ควรเตรียมแซนวิส ข้าวเหนียวหมูทอด ของพกพาง่ายๆติดกระเป๋าไว้ อย่างผมคิดว่าเมื่อถึงสถานีน้ำตกคงจะมีพวกข้าวเหนียวไก่ย่าง ข้าวแกง อาหารอะไรกินแบบรวดเร็วได้บ้างหรือซื้อไปกินบนรถไฟขากลับ แต่แล้วก็พลาดต้องแขวนท้อง อีกทังเวลาเดินทางกระชั้นชิดมาก

ถ้าลงที่สถานีถ้ำกระแซ ที่นั้นมีร้านอาหารมากกว่า และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีเวลามากกว่าด้วย การนั่งมาจนสุดทางถึงสถานีน้ำตกนั้นเวลาน้อยไปไหนก็ไม่ทัน และไม่มีวิวทิวทัศน์อะไรให้ชมเลยถ้าไม่เช่ารถไปน้ำตก

อย่างไรก็ตามทริปนี้ผมถือว่าคุ้มค่า ผมใช้เงินไปน้อยมากค่าตั๋วรถไฟไป-กลับ 38X2=76 บาท เหนียวหมูย่าง 30บาท ข้าวแกงกระทง 10 บาท รวมเป็น 116 บาทเท่านั้นเปรีบเทียบกับการใช้เวลา 1 วันไปกับการชื่นชมธรรมชาติและวิถีชีวิต และการเรียนรู้ ผมว่าคุ้มค่ามากครับ ผมเดินทางกลับมาถึงสถานีตลิ่งชันเวลา 17.30น อากาศยังเย็นอยู่เลยทริป นี้เหงื่อไม่ออกทีและจบลงด้วยความสุข อีกครั้งกับการเดินทางไปกับตัวเองครับ.

**วิดิโอคลิปเก็บตกจากการเดินทางตามลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยครับ**


https://vt.tiktok.com/ZS8YcQraT/




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2565
1 comments
Last Update : 21 ธันวาคม 2565 14:27:57 น.
Counter : 565 Pageviews.

 

เขียนได้ละเอียดมากเลยค่ะ ไว้จะตามรอยการเที่ยวค่ะ

 

โดย: rantee IP: 49.228.233.23 21 ธันวาคม 2565 20:07:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 7005369
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 7005369's blog to your web]
space
space
space
space
space