Bloggang.com : ฝันราลีห์ : ท่านพ่อจตุคามหายไปไหน ท่านพิฆเนศมาแรงปีนี้ (ต่อ) เขียนเมือ กค 51

ท่านพ่อจตุคามหายไปไหน ท่านพิฆเนศมาแรงปีนี้ (ต่อ) เขียนเมือ กค 51

เหล่าประชาชาวไทยเป็นคนที่นับถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ตั้งแต่ กล้วยตานีออกลูกเป็นนิ้วมือ วัวสามขา ต้นไม้ใหญ่ ไปจนถึงวัตถุมงคลบูชาต่างๆ อันศักดิ์สิทธิ์ จนดินเมืองไทยราคา แพงที่สุด พระสมเด็จองค์นิดเดียวราคาหลายสิบล้าน และคำกล่าวติดปากว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”

ในปรากฎการณ์กระแสจตุคามฟีเวอร์ตั้งแต่กลางปี 48 ที่ทุกคนต่างตั้งคำถามกันว่า ทำไม หรือชาวไทยโหยหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วยทางใจ สามารถฟันธงได้เลยว่า ชาวไทยโหยหา “อิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ที่จะทำให้รวยและเงิน” อะไรที่บูมสุดๆทำเงินทำทอง ก็ทำสิ่งนั้น เราจึงมีจตุคามที่สร้างกันวันละรุ่นสองรุ่น ออกมาสร้างความร่ำรวยให้แก่ผู้จัดทำเฉกเช่นตลาดหุ้นที่คนเข้าก่อนออกก่อนฟันกำไรไป ส่วนแมงเม่ามือสมัครเล่นที่เข้าทีหลัง ก็ย่ำแย่ไปตามกัน ในสมัยที่ยังบูม พระอาจารย์หรือร่างทรง วิ่งรอกปลุกเสกจนไม่เป็นอันหลับอันนอน เราจะเห็นพระที่ทำตัวไม่ค่อยเป็นพระออกอากาศเดรฉานวิชา วัดต่างๆโดยเฉพาะวัดมหาธาตุที่นครศรีธรรมราชมีการปลุกเสกกันทั้งวัน จนมีข่าวพระธาตุทรุดเนื่องจากรถสิบล้อขนจตุคาม แม้กระทั่งแม่ค้าขายกับข้าวก็ยังตั้งโต๊ะขายจตุคาม การซื้อขายทางเน็ตที่ราคารุ่นดังๆขึ้นเอาๆ ยิ่งกว่าหุ้นบลูชิพ ชาวบ้านแย่งกันจนเหยียบกันตาย รวมถึงชื่อของรุ่นที่สนองความรวยอย่างไร้เหตุผลจนน่าตกใจ ของปลอมแถวท่าพระจันทร์ขายกันเกลื่อนกลาด เหล่านี้เป็นปรากฎการณ์ที่สร้างบทเรียนให้กับผู้ที่หวังรวยอย่างไม่มีเหตุผลได้ชอกช้ำระกำใจกันไปตามกัน

เมื่อ “ทุกสิ่งไม่จีรัง” เหตุผลอุปสงค์อุปทานทั่วไป ก็ทำให้ตลาดจตุคาม “วาย” ไปโดยรวดเร็วชนิดคนในวงการเองก็คาดไม่ถึง ตลาดเงียบสนิท ยังมีแต่รุ่นที่คนนิยมกัน ซึ่งเป็นรุ่นก่อน “ขุนพันธ์ฯ” จะสิ้น ที่ยังพอมีคนหาเช่าหาเก็บ แต่ราคาก็ลดลงไปตามสภาวะตลาด คนที่ห้อยจตุคามในปัจจุบัน มิได้ทำเป็นแฟชั่นอีกต่อไป หากแต่ศรัทธาด้วยใจจริง การจัดสร้างได้สกรีนมือสมัครเล่นที่หวังรวยเข้ามาเกาะกระแสฟีเวอร์ที่ทำงานไม่มีคุณภาพออกไป บางรายที่ใจหยาบบาปหนาไม่มีแม้พิธีปลุกเสก เท่ากับว่าคนแขวนๆ จตุคามที่เป็นปูนพลาสเตอร์ เท่านั้น จตุคามที่สร้างขึ้นในวันนี้จึงต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน พิธีกรรมที่ดี มวลสารดี และพุทธศิลป์ที่สวยงาม ต้องปรับกลยุทธ์และต้องมีทุนในระดับหนึ่ง จึงจะไม่มีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งที่สะท้อนใจเหล่าลูกองค์พ่อที่เอาจตุคามไปทิ้งตามที่ต่างๆอีก

การที่จตุคามบูมขนาดหนัก แม้พระที่มีชื่อเสียง ก็ออกมาเตือนประชาชน เป็นระยะๆ เช่น ท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว. วชิรเมธีนักเขียนชื่อดัง และ พระนักเทศน์อย่างพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก็ได้เปิดตัว คุกกี้จตุคำ รุ่น “ฉุกคิด 4 คำ รวยโคตร” บรรจุในกระป๋อง ปั๊มตัวหนังสือยันต์ อุ อา กะ สะ หร้อมลายเซ็นต์ เป็นที่ฮือฮากันไม่น้อย

ท่านพ่อจตุคาม นอกจากจะเป็นที่หวังพึ่งทางใจของเหล่าชาวประชาแล้ว จตุคามยังกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มบุคคลต่างๆ ทั้งสองฝ่ายที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือฝ่านพันธมิตรและฝ่าย นปก.

เป็นที่ทราบกันว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ที่มีความศรัทธาในท่านพ่อจตุคามมานานแล้ว โดยได้กล่าวในการจัดงานรำลึก 1 ปีกู้ชาติทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องดัง ASTV –News1 ว่า ได้พบกับ พล.ต.ท สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มสร้างจตุคามรามเทพรุ่นแรก ปี 2530 และได้พบกับจตุคาม ในปี 2537 ได้มีการจัดสร้างเหรียญพระนาคปรก 5 เศียร ท้าวจตุคามนั่งชันเข่าจำนวน 1200 องค์ เป็นการร่วมจัดสร้างระหว่าง นายสนธิ และ บริษัทคาวาซากิร้านนครฟ้า นครศรีธรรมราช ตามที่จตุคามแนะนำ หลังจากนั้น ได้พ้นหนี้สินต่างๆ โดยไม่คาดฝันและฟื้นฟูกิจการจนดีอีกครั้งจนมีความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้า และก็ได้ยอมรับว่าได้พกยันต์และแขวนจตุคามในคอตลอดเวลา ในห้องทำงานก็มีรูปหล่อเช่นกัน

...ผ้ายันต์ที่ใส่เอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ ส่วนที่ขึ้นคอก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ปกติจะแขวนพังพระกาฬ สำหรับปัจจุบันนี้ผมแขวนจตุคามรามพระผงนาคปรก 5 เศียร 3 องค์ สีดำ สีแดงและสีขาว....

ต่อมาในปี 2548 พล.ต.ท สรรเพชร ได้สร้างจตุคามรุ่นกู้ชาติ ปลุกเสกเข้าพิธีปลายปี 2548 และอ้างว่า ท่านพ่อจตุคามมีคำสั่งให้นำวัตถุมงคลมามอบให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ เพื่อขับไล่ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร โดยข้อมูลจาก “ผู้จัดการ” กล่าวว่า จตุคามได้สั่งให้นำดวงตราสุริยันจันทรารุ่นกู้ชาติ 4 ลูกไปวางที่สี่มุมด้านล่างของเวทีปราศรัยที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และอีก 1 ลูกไปวางด้านล่างตรงกลางเวทีเพื่อช่วยให้การชุมนุมไม่ให้เกิดความวุ่นวายรุนแรง นอกจากนี้ ได้จัดสร้าง “ธงพญาชิงชัย” ให้กับนายสนธิ เพื่อให้ขึ้นโบกบนเวทีกู้ชาติ ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ โดยมีความเชื่อที่ว่า พญาชิงชัยเป็นพระราชโอรสองค์สำคัญของจตุคามรามเทพ ไม่ว่ายกทัพที่ไหนจะได้ชัยชนะทุกครั้ง จะทำให้การกู้ชาติประสบผลสำเร็จในที่สุด ว่ากันว่าวันที่นายสนธิโบกธงบนเวที ได้เกิดปรากฎการณ์ลมพัดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเป็นที่อัศจรรย์ แม้กระทั่งการชุมนุมได้เปลี่ยนเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ท้องสนามหลวง ก็ได้มีการนำจตุคามไปวางตามจุดต่างๆเหมือนกัน โดยไม่มีเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นโดยมีผู้มาร่วมชุมนุมมากมาย ต่อมา เมื่อนายสนธิมีแนวคิดตั้งมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน จึงได้จัดสร้างจตุคามรุ่น “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ขึ้นมาเพื่อระดมทุนอีกด้วย ให้เป็นที่น่ากังขาในการชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์และแยกนางเลิ้ง ได้ทำพิธีแบบเดียวกันอีกหรือไม่

นอกจากฟากพันธมิตรจะมีการใช้จตุคามเป็นกำลังใจแล้ว ฟากตรงกันข้าม คือ กลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ ในยุคความเบ่งบานของ คมช. ช่วงที่รอคอยผลการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมในคดียุบพรรคสะท้านประวัติศาสตร์การเมืองไทย ได้จัดสร้างจตุคามรุ่น “1 บาทปราบกบฎ” โดยได้มีการแจกให้กับประชาชนในราคาองค์ละ 1 บาท พร้อมสมุดปกม่วงโจมตี พล.อ เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แจกใบปลิวผลงานของ พ.ต.ท ทักษิณ โดยมีประชาชนมารับของเป็นจำนวนมาก จนช่วงบ่ายมีข่าวว่า ได้ถูกปั่นราคาจาก 1 บาทเป็น 300 บาท ก็เป็นที่ฮือฮาไม่น้อย

แต่ตามเน็ตต่างๆ ที่ส่งต่อๆกัน ได้มีการส่งโจ๊คที่ พ.ต.ท ทักษิณ อาจขำไม่ออก เนื่องจากเป็นจตุคามรุ่น “หน้าเหลี่ยม” โดยมีมวลสารเป็นคดีต่างๆที่ยังอยู่ในการสอบสวนของ คตส ประกอบพิธีปลุกเสก....

เมื่อกระแส “ขาลง” ของจตุคามที่ทุกคนคาดว่าจะเกิดขึ้น แต่ “ไม่คาดคิด” ว่าจะ “เร็ว” ขนาดนี้ การขายใบจอง แบบโฆษณาบ้านจัดสรร เริ่มไม่เป็นผล เนื่องจากการจัดสร้างบางรุ่น ที่ทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิกสวยหยด แต่พอเสร็จแล้วออกมา คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมากจนทั้งเน็ตกระหน่ำด่ากันจนเน็ตเกือบล่ม พร้อมมีคำครหาว่าผู้จัดสร้างซึ่งเป็นทนายความนำเงินไปใช้ส่วนตัว ทำให้ผู้บริโภครอดูของจริงที่ทำเสร็จแล้ว ฝ่ายจัดสร้างจึงต้องระดมเงินทุนเอง แทนที่จะเอาเงินจองมาใช้ดังเช่นแต่ก่อน ส่งผลกระทบกับ “นักเก็งกำไร” ตามตู้พระและประชาชนทั่วไป ที่กว้านซื้อไว้ทีละมากๆ พร้อมข่าวลบของเกจิผู้ปลุกเสกที่มีปัญหากับมหาเถรสมาคม และการฟ้องร้องกันระหว่างผู้จัดสร้างและวัดที่ออกมาเปิดเผยว่าส่วนที่ทำบุญเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของการขายน้อยนิด บวกกับการปั่นราคากันเกินความเป็นจริงส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง หากแต่รุ่นแรก 2530 และรุ่นอื่นๆ ที่ก่อนท่านขุนพันธ์ฯ จะสิ้นบุญ ยังมีผู้สนใจเช่าหากันเป็นปกติ แม้ราคาจะไม่สูงขนาดตอนที่ตลาดบูมก็ตาม

เมื่อ “ตลาดวาย” เทพฮินดูที่มีเศียรเป็นช้างงาเดียว กายาอวบอิ่มสมบูรณ์ โอรสของพระศิวะและพระนางอุมา ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของบุคคลในสายศิลปะ ก็ได้มีกระแสมาแทนที่ แม้ว่าไม่บูมสุดขีดเหมือนองค์จตุคามก็ตาม อันที่จริงคนไทยนับถือเทพเจ้าฮินดูองค์ต่างๆ มานานแล้ว นับตั้งแต่พระพรหม ที่มีศาลอยู่เกือบทุกตึกสำนักงานที่ใหญ่ๆ และที่ดังระดับโกอินเตอร์ก็คือ ศาลพระพรหมที่เอราวัณซึ่งโดนคนโรคจิตทุบจนเสียหายและหลังจากนั้นผู้ทำก็โดนประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต เป็นลางที่ส่อเค้าไม่ดีในสมัยรัฐบาลทักษิณ ส่วนพระพิฆเนศก็เป็นที่นับถือมานานแล้ว อีกทั้งเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยศิลปากรและกรมศิลปากร ซึ่งก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลพระพิฆเนศจำนวนหลายรุ่น สวนทางกับที่อินเดียที่หาวัดพระพรหม หรือพระพิฆเนศโดยตรงได้น้อยมาก องค์พระพิฆเนศส่วนใหญ่จะรวมอยู่ในวัดของเทพเจ้าองค์อื่นๆที่เป็นหลักมากกว่า

เมื่อเบอร์หนึ่งของรายการควิซโชว์และเกมส์โชว์แบบ นายปัญญา นิรันดร์กุลและบริษัทเวอร์คพอยท์ของเขา ได้จัดสร้างพระพิฆเนศวรด้วยความเลื่อมใสศรัทธาส่วนตัว เพื่อไว้สักการะหน้าบริษัทฯ และวัตถุมงคลออกให้เช่า ก็ทำให้พระพิฆเนศปางมหาเทพของเวอร์คพอยท์ ก็ขึ้นแท่นเป็นรุ่นดังด้วยรุ่นหนึ่งทีเดียว "เสี่ยตา" ผู้ซึ่งที่คอมีเหรียญพระพิฆเนศวร ปางมหาเทพแห่งศิลปะของแผ่นดิน รุ่นเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา บอกในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” ครั้งหนึ่งว่า

..ชีวิตที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมาได้ทุกวันนี้ ต้องบอกว่า มาจากความศรัทธาที่เกิดจากองค์ พระพิฆเนศ ไม่ว่าจะทำอะไรก็สำเร็จอยู่ตลอดเวลา ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ตรงนี้เป็นความเชื่อและความศรัทธา ปัจจุบันก่อนออกจากบ้าน จะต้องสักการะบูชาพระพุทธรูป พระอริยสงฆ์ ภายในห้องพระที่บ้าน รวมทั้งสิ่งที่จะต้องกราบไหว้ทุกวันเช่น คือ องค์เจ้าแม่กวนอิมหลายสิบปาง ที่ตั้งบูชาอยู่ด้านขวามือของห้องพระ ส่วนด้านซ้ายมือจะบูชาองค์ พระพิฆเนศ ซึ่งยังมีการไหว้ชุดใหญ่ในวันพฤหัสบดี เพราะถือเป็นวันครู ทุกครั้งก่อนทำการแสดงภาพยนตร์ในอดีต หรือมาทำหน้าที่พิธีกรในวันนี้ลืมไม่ได้เลยที่จะต้องไหว้องค์ พระพิฆเนศ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเราทุกครั้ง กระทั่งมาเปิดบริษัท คิดว่าอยากสร้างพระอะไรสักองค์ เพื่อเอาไว้กราบไหว้ในบริษัท ตรงนี้ได้คิดอยู่ที่จะสร้างองค์พระพิฆเนศวร พอมีแนวคิดแบบนี้ จึงศึกษาเกี่ยวกับประวัติขององค์พระพิฆเนศ ว่าเป็นเทพมหาเทพ จนได้ออกแบบมาเป็น ปางมหาเทพ วันนี้ได้นำมาประดิษฐานองค์ท่านไว้ด้านหน้าบริษัทเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทุกคนสักการบูชา ขณะเดียวกัน อยากให้ทุกคนแยกความศรัทธากับความมัวเมาที่อยู่ใกล้กันมากด้วย เพราะบางคนหลงใหลในความศรัทธา แล้วไปปั่นองค์พระให้มีมูลค่ามากขึ้น แบบนั้นไม่ดี แต่ถ้าเราทุกคนศรัทธาพระเครื่อง บูชาแล้วดีกับชีวิต ก็สามารถบูชาองค์เดียวได้...

อีกหนึ่งคนดังที่เป็นที่รู้กันว่านับถือองค์พิฆเนศเป็นพิเศษ มีสะสมบูชาเป็นจำนวนกว่า 100 องค์ ก็มีช่างผมชื่อดัง ศุภกิจ แมฆอำนวยชัย หรือ “ ป๊อก เชลซี” ที่กล่าวยืนยันว่า ความสำเร็จในชิวิตเกิดจากความศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ โดยเป็นที่รู้กันว่า ป๊อกจะมาที่ร้านที่ชาญอิสระตอนบ่ายๆ และต้องบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้จบกระบวนการเสียก่อน จึงจะเริ่มตัดผมให้ลูกค้าได้ คนที่ต้องการฝีมือระดับเขา จึงต้องรอด้วยความ “ใจเย็นๆ” ป๊อกได้เขียนหนังสือพ๊อคเก็ตบุ้คเกี่ยวกับมหาเทพองค์นี้ในนาม “พระศรีคเณศ มหาเทพแห่งความสำเร็จยิ่งใหญ่” ออกจำหน่ายเป็นเบสต์เซลเลอร์และยังมีคอลัมน์ในนิตยสารอีกด้วย

เมื่อตลาดไปทางนั้น คณะผู้จัดทำก็ได้ทำการปรับตัวตามกระแส เช่นการสร้างจตุคามรุ่น “ราชาเทพ” ก็ได้นำทั้งสององค์มาไว้ในเหรียญเดียวกันแบบทูอินวัน ใกล้เคียงกับแบบวัดห้วยมงคลในรุ่นก่อนๆ ที่จัดสร้างจตุคามและหลวงพ่อทวดไว้ในองค์เดียวกันหน้าหลังเป็นต้น

เมื่อท่านพ่อจตุคามรามเทพเป็นเทพราชโพธิสัตว์ผู้บันดาลโชคลาภความมั่งมีศรีสุข ที่สร้างความร่ำรวยปฎิหาริย์แบบ “ขอได้ไหว้รับ” “มีกูมึงไม่จน” ฉันใด องค์พระพิฆเนศก็คือเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ผู้ขจัดปัดเป่าทุกอุปสรรค ก็ฉันนั้น ในสถานการณ์ที่คุกรุ่นอยู่ทุกวันนี้ เหล่าคนไทยก็ได้แต่วิงวอนกราบไหว้เทวดาอารักษ์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและมหาเทพทุกพระองค์ให้วิกฤติการณ์ชาติที่กำลังดำเนินอยู่ ลุล่วงผ่านพ้นไปด้วยดี โดยไม่มีเหตุการณ์ใดที่เสียเลือดเนื้อคนไทยด้วยกันเอง เฉกเช่นคำทำนายของโหราจารย์ทั้งหลายอีกเลย สา..ธุ

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 22:15:13 น.

2 comments

Counter : 1090 Pageviews.

พระดี..เพราะคน รู้ปฏิบัติ

คนตระบัตย์สัตย์ พระดี ก้อหนีหาย

พระดี .. แต่ประพฤติ เป็นคนร้าย

ตอนตาย..แม้แต่พระ..คงไม่ไยดี

อมิตพู๊ดดดด

อิอิอิ

โดย: เขาชื่อกานต์ IP: 125.25.156.96 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:02:06 น.

ยิ่งเหนียวยิ่งดี จะได้รวยๆหนังก็เหนียวด้วยฮ่าๆๆๆ
ถ้าเลือกทำในสิ่งดี คุณความดีจะคืนและคุ้มรอง
......จุ้....บุ...ๆๆๆๆๆ

โดย: นะโมทุดทายะ IP: 223.206.25.26 วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:17:00:58 น.