Olay -  White Radiance Cellucent  white essence water




Water essence จากแบรนด์แมสอย่างโอเลย์
ที่มาพร้อมกับราคาไม่ค่อยจะแมสซักเท่าไหร่
แต่อย่างไรก็ตามความน่าเชื่อถือด้านส่วนผสมของโอเลย์ยังคงมีอยู่
ดูจากผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ที่มาวางขายซึ่งส่วนใหญ่จะใส่สารแอคทีฟ
ที่มีประโยชน์ใส่มาด้วยเสมอ  สารหลักที่ใช้คงหนีไม่พ้น Niacinamide
วิตามินที่มีสรรพคุณมากมาย รวมถึง Cellucent white essence water
ขวดสารหลักก็ยังคงเป็น Niacinamide อีกเช่นเคย  



ชื่อเต็ม ๆ ของมันอาจยาวไปหน่อยหลายคนจึงตั้งชื่อเล่นให้มันใหม่ว่า
“น้ำป้าอ้อม” เลียนแบบน้ำป้าเจี๊ยบนั่นแหละ  เพราะยังไงเสีย
Olay ก็เป็นแบรนด์ในเครือ P&G เช่นเดียวกับ SK-II นั่นแหละ






Water, Butylene Glycol, Niacinamide, Pentylene Glycol,
Dipropylene Glycol, Benzyl Alcohol, Glycereth-25 PCA Isostearate,
Methylparaben, Panthenol, Tremella Fuciformis (Mushroom) Extract,
Ethylparaben, Glucosyl Hesperidin, Fragrance,
Undecylenoyl Phenylalanine, Triethanolamine,
Butylphenyl Methylpropional, Morus Alba Root Extract



สารแอคทีฟหลักที่น่าสนใจมี 4 ตัวนั่นก็คือ Niacinamide อยู่ในลำดับที่ 3
นั่นหมายความว่ามันน่าจะใส่มาเกิน dose ที่เพียงพอต่อการเป็นสารไวท์เทนนิ่ง
(ที่จริงแค่ 2% ก็เห็นผลแล้ว นี่ยังแอบลุ้นให้ใส่มาถึง 5% เพราะจะสามารถ
ช่วยเรื่องริ้วรอยได้ด้วย)  ตามมาด้วย Penthenol หรือวิตามินบี 5
สาร anti oxidant แก่ผิวที่เคยเห็นเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของ olay อยู่บ้าง
เช่น olay total effect ที่เคยฮอตฮิตกันในบ้างเรามาแล้ว  
แต่อย่างไรก็ตาม olay total effect ก็มีราคาที่ถูกกว่า อยู่พอสมควรเลยทีเดียว



มีสารสกัดจากเห็ดที่ใส่มาก่อนลำดับของน้ำหอม  เคาท์เตอร์แบรนด์บางตัว
นำสารตัวนี้ไปเป็นสารแอคทีฟหลักแต่ความเข้มข้นที่ใส่มาในน้ำตบขวดนี้
คงไม่ได้เข้มข้นมากนัก  มาดูสารอีกตัวที่น่าสนใจมากกว่าดีกว่าครับ
Undecylenoyl Phenylalanine หรือ Sepsiwhite ไวท์เทนนิ่งที่
เป็นตัวชูโรงของ Olay Pro-x และไวท์เทนนิ่งของวิชชี่
ลำดับที่ใส่มานั้นอยู่หลังลำดับของน้ำหอมจึงทำให้เริ่มไม่แน่ในซะแล้ว
ว่าสามารถประสิทธิภาพของสารตัวนี้จะออกมาดีแค่ไหนถ้าอยากได้
sepsiwhite ที่เข้มข้นกว่านี้ลองไปหาในตัวเซรัมในไลน์เดียวกันนี่ดีกว่า
ส่วนผสมที่หลากหลายแต่เมื่อดูที่ความเข้มข้นแล้วคงมีแค่ B3 และ B5
เท่านั้นที่ใส่มามากพอคะแนนส่วนผสมจึงให้ไปที่ 7/10 คร้าบบ




ในช่วงแรกที่ซื้อมานั้นยอมรับเลยว่าเป็นไอเท็มนึงที่ไม่ค่อยได้นำมาใช้เท่าไหร่
อาจเป็นเพราะตอนนั้นใช้เซรัมของโอเลย์ในไลน์เดียวกันอยู่ มันเลยมีความรู้สึกว่า
ส่วนผสมที่ได้จากทั้งสองตัวนั้นมันทับซ้อนกันมากไปหน่อย  และอีกอย่าง
เซรัมมันมีความเข้มข้นของสาร Sepsiwhite ที่มากกว่า  



แต่พอเข้าหน้าร้อนเท่านั้นแหละมันกลายเป็นน้ำตบอีกตัวที่หยิบมาใช้บ่อยมาก
ด้วยเนื้อที่บางเบาบวกกับ niacinamide สารชูโรงหลักของโอเลย์ทุกตัว
ที่มีผสมอยู่ในขวดนี้ด้วยเช่นกัน  แต่อย่าหวังเรื่องความชุ่มชื่นนะครับ
เจ้าตัวนี้แทบไม่ได้ช่วยเลยถึงความชุ่มชื่นจะเป็นอีกหนึ่งคำเคลมก็เหอะ

หลังใช้ไปได้ครึ่งขวดความรู้สึกมันก็คล้าย ๆ กับโอเลย์ส่วนใหญ่ที่เคยใช้นั่นแหละ
กระจ่างใสขึ้นเล็กน้อยแต่สังเกตว่าจุดด่างดำมันไม่ได้ช่วยเท่ากับตัวเซรัม
แต่ด้วยเนื้อที่น่าใช้และเหมาะกับอากาศร้อน ๆ แบบนี้ทำให้เราอยากใช้
มันอยู่เรื่อง ๆ ไม่ขี้เกียจทาสกินแคร์  ในส่วนนี้ขอหักคะแนนตรงน้ำหอม
ที่กลิ่นแรงมาก แต่เรื่องความไบรท์ยังให้อยู่บ้าง คะแนนจึงอยู่ที่ 7/10 ครับ




ราคาเต็ม 999 บาทต่อปริมาณ 150 ml ถ้ามองว่าเป็นโทนเนอร์
ที่เทใส่สำลีแล้วเช็ดหน้าถือว่าราคาสูงในระดับหนึ่ง แต่ถ้านำมาใช้เป็นน้ำตบ
ก็ถือว่าราคาสมเหตุสมผลถึงจะแอบรู้สึกว่ามันแพงไปนิดก็เถอะ
ยังไงซะก็ไม่เคยซื้อในราคาเต็มอยู่แล้ว  แอบกระซิบไว้นิดนึงว่า
ขวดนี้ผมได้มาตอนลดราคาเหลือแค่ 499 บาทเท่านั้น
หรือจะนำมาทำทิชชู่มาส์คก็ดูไม่เลวทีเดียว (แต่แอบเปลืองนะวิธีนี้)



ถึงแม้จะมีส่วนผสมที่มีประโยชน์อยู่ก็จริงแต่ส่วนผสมบางตัวโดยเฉพาะ
Sepsiwhite ที่ใส่มาน้อยเกินไปทำให้รู้สึกไม่ว้าวเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ
จำนวนเงินที่ต้องเสียไปในราคาเต็ม  

ในมุมมองของไอเท็มน้ำตบแล้ว คะแนนในส่วนนี้ได้ไปที่ 7/10 ครับ
ถึงจะจัดโปรโมชันอยู่บ่อย  ๆ แต่ยังไงคะแนนก็ต้องให้ตามราคาเต็ม
ที่ทางแบรนด์ตั้งไว้ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในราคาเรทเดียวกัน
แต่ส่วนผสมที่ได้มามันก็คุ้มที่จะจ่ายอยู่เหมือนกัน
(ถ้าซื้อมาในราคา 499 เหมือนผมผมให้ 9-10 เลยล่ะ 55)




เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเบาจนแทบจะเป็นน้ำเปล่า แต่กลิ่นน้ำหอมแรงใช้ได้
ใช้เพื่อเตรียมผิวก่อนการบำรุงจะใช้คู่กับฮาดะหรือน้ำป้าเจี๊ยบก็ได้ไม่มีผลอะไร
แพคเกจทำมาได้ดีเหมือนน้ำตบทั่ว ๆ ไป ตัวขวดเป็นสีเขียวโปร่งแสง
ทำให้เห็นได้ว่าเหลือปริมาณให้ใช้อีกเท่าไหร่  ถึงจะมีสีเขียวคอยกรองแสงอยู่บ้าง
แต่ก็แนะนำให้เก็บในที่พ้นแสงจะดีกว่า
คะแนนส่วนนี้ให้ไปที่ 9/10 ครับ


สรุปคะแนน 

คะแนนรวมของน้ำป้าอ้อมขวดนี้ได้ไปที่ 72% ครับ
(ถ้าซื้อในราคา 50% คะแนนจะเพิ่มขึ้นเป็น 76% เลยล่ะ )
ไม่เลวทีเดียวสำหรับน้ำตบตัวแรกของโอเลย์ที่นำเข้ามาขายในไทย
(ปัจจุบันมีน้ำตบตัวอื่นของโอเลย์นอกจากตัวนี้อีกครับ)








คะแนนพิศวาสตอนแรกจะตัดเกรดให้น้อยกว่านี้  แต่คงต้องขอบคุณ
หน้าร้อนที่ทำให้หยิบใช้บ่อยขึ้น  จนหลัง ๆ ใช้เกือบทุกวัน เวลาใช้จะถือว่า
เป็นสกินแคร์ที่เน้น niacinamide เพียงตัวเดียวในการบำรุงไปเลย 



ทำให้ในการบำรุงแต่ละครั้งจะไม่มีสกินแคร์ที่เน้น niacinamide ตัวอื่นอีกเลยนอกจากตัวนี้
เพราะปกติเวลาบำรุงผิวแต่ละครั้งจะมีผลิตภัณฑ์ที่มี niacinamide อยู่เสมอ
แต่ในอากาศที่ร้อนแบบนี้จะเปลี่ยนมาใช้น้ำตบตัวนี้แทน  ขอตัดเกรดที่ B- ครับ