<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 กันยายน 2551
 

/*-*/*-*/*-*/ ไอเดียหนะเหรอ ไม่ตาย กรูก็คิดใหม่ได้ (เรื่อยๆ) เฟ้ย! /*-*/*-*/*-*/

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ออกจะแปลกสำหรับผมไม่น้อย

คือ มีคนติดต่อโยนหินถามทาง ว่าจะให้ช่วยงาน
แต่ผมกลับไม่อยากจะทำเสียดื้อๆ

ไม่ว่าจะเป็นเพราะงานนั้น ใหญ่เกินกว่าที่ผมจะแบกรับไว้ได้คนเดียว
ไม่ว่างานนั้น จะเป็นงานที่ผมไม่อยากทำ

งานเก่าก็ยังเคลียร์ไม่หมด
งานใหม่ ก็ไม่เดินเข้ามา
งานประจำที่ทำอยู่ ก็ต้องอดทนกันต่อไป
งานกิจการที่บ้านนั้นไซร้ เราก็ต้องเริ่มเข้าไปช่วยมากขึ้น

แต่งานกิจการที่บ้านตัวเองนี่แหละ คือสิ่งที่ผมเครียดกับมันอยู่
เพราะผมเจอปัญหาหนึ่งที่ไม่รู้ว่า จะมีศิลปินคนไหนในโลกนี้เจอบ้าง

นั่นคือ ความกลัวว่า ความคิดสร้างสรรค์ในหัวของเราจะหายไป
(Lost of creativity & new idea)

การนั่งทำงานกับตัวเลข หรือการต้องมานั่งเป็นคนตรวจสอบความถุกต้อง
เป็นเวลานานๆ มันอาจทำให้เราสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆไปได้อย่างน่ากลัวจริงๆ

ผมเข้าใจแล้วว่า ทำไม ในบริษัทใหญ่ๆ ฝ่ายบัญชีการเงิน ฝ่ายวิศวกรรม
มักจะต้องถกเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงสินค้าในฝันที่บรรดา
ผู้คนในฝ่ายออกแบบ พยายามจะนำเสนอมันออกสู่ตลาด

แต่กระนั้น ในหลายๆครั้ง ที่ผมมองเห็นสิ่งรอบตัวต่างๆ
หากไม่คิดอะไรไว้ในหัวตั้งแต่แรก จู่ๆ ผมมักจะได้แนวคิดอะไรสนุกๆเสมอ

หลายคนก็คงเคยเป็น แต่ก็อีกเช่นกันทื่หลายคน เหล่านั้น
ไม่รู้จะทำอย่างไรกับไอเดียเหล่านี้ เพราะในเมื่อตัวเอง
ไม่มีช่องทางที่จะทำให้ไอเดียที่ตนคิด มันกลายเป็นความจริงที่จับต้องได้
เลยปล่อยมันหลุดหลอยไปกับวินาทีก่อนหน้าที่เพิ่งผ่าน
เหลือเพียงความคิดของวันวานที่หายไปกับอากาศ

แต่ผม มีวิธี ที่จะแก้ปัญหาส่วนตัวของผมนี่อย่างเงียบๆ
แต่สนุกเป็นบ้า!

ในความโชคร้าย ผมก็ถือว่าโชคดีอย่างนึงที่มีคนโทรมาปรึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้บ่อยๆ
เรื่องเหล่านั้น มักไม่เกี่ยวข้องกับ งาน หรือรูปแบบชีวิตที่ผมทำอยู่
และการที่ฟังพวกเขาปรึกษา นั้น บางที หากเราช่วยหาคำตอบให้เขาได้
ใจเราก็จะเป็นสุขไปด้วย

เอาละ วันนี้ ขออวดสิ่งที่คิดออกมา บ้างสักวันนะครับ คงไม่ว่ากันนะ ^_^

-----------------------------

เรื่องแรก


- 5 ทุ่มครึ่ง คืนวันศุกร์ ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน

จัดรายการวิทยุอยู่ มีน้องคนหนึ่ง (ขอสงวนนาม)
โทรศัพท์เข้ามาในรายการ ปรึกษาเรื่องซื้อรถ SUV
ไม่สิ ต้องเรียกว่า PPV ถึงจะถูก

พอวางสายไปแล้ว น้องคนเดิมคนนี้ ก็พยายามโทรกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงพักโฆษณา

ปรึกษาว่า เจ้าตัวโดนอาจารย์มัดมือชกให้เข้าร่วมประกวดแผนการตลาด เข้าแข่งขัน
ในรายการหนึ่ง

ซึ่งมีจุดประสงค์ เพื่อดันยอดขายรถยนต์รุ่นนี้ ให้ฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง
หลังจากที่ฟุบหายไปเลย เมื่อเจอรถยนต์รุ่นที่สดใหม่กว่าจากคู่แข่ง

แต่เมื่อโทรมาในเวลาแบบนั้น ตอนจัดรายการอยู่
เลยได้แต่บอกไปว่า เรื่องแบบนี้ต้องคุยยาวๆ
เลยให้เบอร์มือถือกับน้องเขาไป

พอรายการจบปุ๊บ
ตั้งแต่ออกจากห้องส่งฯ จนเข้าห้องนอน
มือก็ถือโทรศัพท์ ปากก็คุยกับน้องเขาไปเรื่อยๆ

พอล้มตัวลงนอนกลิ้งบนเตียงได้ปุ๊บ แผนแคมเปญงานโฆษณา ก็เริ่มหลั่งไหลออกมาจากสมอง
ผ่านออกมาทางปากผมราวกับลาวาจากปล่องภูเขาไฟที่เพิ่งปะทุ

คิดให้เสร็จสรรพ ตั้งแต่ แนวคิด หนังโฆษณา 3 เรื่องรวด
เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันหมด กิจกรรมการตลาดแบบที่
ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในวงการรถยนต์บ้านเรา
ไปจนถึง Proposal คิดแม้กระทั่ง รูปแบบการนำเสนอใน Power Point
รับประกันว่า งานนี้ ตอบโจทย์ได้ครบ นอกจากจะช่วยดันยอดขาย
อันเป็นภาระกิจหลักแล้ว ยังจะช่วยสร้าง Brand Image ในด้านต่างๆ
อย่างที่ปกติค่ายนี้เขาตั้งใจจะสื่อออกมาอย่างครบถ้วน
คิดไปคิดมา ยังเผลอตัวคิด Script สป็อตวิทยุ 30 วินาที แถมให้ไปอีก 1 ชิ้น

แถมแคมเปญนี้
ยังถือได้ว่า แหกกฎ และฉีกรูปแบบโฆษณาสไตล์อนุรักษ์นิยม
อันสุดจะโคตรน่าเบื่อ ที่เอเจนซีเดิมของพวกเขา
ทำยัดเยียดส่งให้ลูกค้า อย่างค่ายรถค่ายนี้
จนอนุมัติออกมาให้เห็นเป็นประจำ อย่างสิ้นเชิง

นี่ถ้าตีค่าเงินออกมาแล้ว แคมเปญนี้
ถ้าตามหลักทั่วไปที่เขาเสนองานกันจริงๆ
คิดว่า น่าจะมีเป็นหลักแสนบาทกันบ้างแล้วละ

แต่นี่ คิดเสร็จ พูดเสร็จ เล่าเสร็จ ร้อยเรียงเรื่องเสร็จ ยังไม่พอ
ตบท้ายด้วยวลีเด็ด แถมให้อีก 1 ดอก

"เอาไปเลยน้อง พี่ยกให้ทั้งหมด เอาไปเลย เอาไปฟรีๆ มึงเชื่อกู!"

ร้องซะดังลั่นบ้าน อย่างสะใจ โดยไม่แยแสเลยว่า
นาฬิกา มันชี้บอกเวลาว่าตอนนั้น ตี 2 ครึ่ง!

ขอไม่บอกนะครับว่า คิดอะไรให้น้องเขาไปบ้าง
ไม่บอกว่ารายละเอียดในแผน เป็นอย่างไร
เดี๋ยวคนเขาจะรู้หมดว่า แผนเป็นอย่างไร ไม่ดี ไม่งาม

น้องเขาก็วางหูไปอย่างอึ้งๆ และ งงๆ
มีโทรกลับมาปรึกษาเพิ่มเติมอีก 2-3 ครั้ง
ว่าอาจารย์เขามองว่ามันเป็น Coporate Ad. มากไป
ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วอาจารย์เขาเสนอไหมว่า
ความคิดของเขา เป็นอย่างไร

น้องตอบมา.."อาจารย์เค้าเสนอแนวคิดว่า น่าจะทำออกมาในแบบ..
" ทำไมคุณถึงเลือกซื้อ.....ทั้งที่แพงกว่า"

ไวเท่าความคิด ผมก็สวนฉับเข้าไปเลยว่า
"เฮ้ย ตรงๆนะ แคมเปญแบบนี้ มันถูกนำมาใช้กันเกร่อแล้ว
นี่ อย่างรถ.........ก็เคยใช้ แล้วตอนนี้ ........ และ ...........ก็ เอามาใช้
ขนาด...................... เค้าก็ยังมาใช้ นี่พูดตรงๆนะ ว่าแนวคิดนี้ มาวันนี้
ทุกคนเขาใช้กันหมดแล้ว ตอนแรกๆ มันเวิร์คอยู่ แต่หลังๆ มันไม่เวิร์คแล้ว
มันไม่ช่วยดันยอดขาย"

"อย่าลืมว่า โฆษณาที่ดี หน้าที่สำคัญสุดของมันคือ อย่างที่คนโฆษณาก็รู้กันดีคือ
มันต้องช่วยดันยอดขาย เพราะถ้ายิงออกไป ยอดขายไม่เดินไปกว่าเดิม มันจะกลายเป็นแค่
ผืนผ้าใบ Canvas ให้พวก อาร์ตไดฯ ระบายเล่น ส่งไปชิงโชค ชิงรางวัลกันที่เมืองนอก ก็แค่นั้น"

. . . . . . . . .

หลังจากนั้น 2 สัปดาห์
น้องเจ้าของโครงการ ก็โทรมาบอกผมยามบ่ายวันหนึ่งว่า
"พี่ครับ ตกลงว่า งานที่พี่ช่วยคิดมา ผมส่งไปหมดแล้วนะครับ
และส่งไปทั้งดุ้นเลย มีเพิ่มเติม เฉพาะแผนกิจกรรมการตลาดนิดหน่อย...

...และ...ผ่านเข้ารอบแรกแล้วนะพี่"

อ้าว เว้ยเฮ้ย ชักสนุกซะแล้วสิ
อยากรู้แล้วละว่า สิ่งที่เราคิดให้น้องเขาไป
มันจะเข้าไปอยู่ในรอบลึกๆได้แค่ไหน

และสมมติเล่นๆว่า
ถ้าเกิด เขาตัดสินได้รางวัลใดรางวัลหนึ่ง
หรือว่า หยิบเอาไปใช้ทำงานจริงขึ้นมา

แล้วสมมติว่า มีใครบางคน หลุดไปให้ผู้บริหารบริษัทรถค่ายนั้นรู้เข้า
เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้วหลังจากนั้น

อยากจะรู้จังเลยว่า เขาจะทำหน้ายังไง กับคนที่เขามักจะมองข้ามมาตลอดอย่างผมหนะ


--------------------------------------------

เรื่องต่อมา


ก่อนหน้านั้น เมื่อราวๆ 1 เดือนก่อน
ผมโทรไปพูดคุยกับ พี่ที่คุ้นเคยกัน คนหนึ่ง (ขอสงวนนามอีกแล้ว)

ปกติ เราจะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเบื้องลึกวงการรถยนต์กัน
บทความ Spyshot บางชิ้น ต้องขอบคุณพี่เขา เพราะถ้าไมได้การยืนยันจากพี่ชายคนนี้
ผมก็คงไม่กล้าพูดอะไรเต็มปากได้อย่างที่เป็นอยู่

แต่คราวนี้ เขามาปรึกษาผมบ้าง เพราะเร็วๆนี้ จะมีห้างสรรพสินค้า เปิดใหม่
อยู่ในต่างจังหวัด เขตแดนสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ และเขาต้องการทำงานเปิดตัว
ให้ยิ่งใหญ่ Talk of the town

ที่สำคัญ "งบไม่อั้น"
ได้ยินดังนั้น ผมก็หูผึ่งสิ!
โอ้ งบไม่อั้นใช่ไหม??

งั้นนี่เลย เอาเฮลิคอปเตอร์ แบกผู้บริหารมาจากสำนักงานใหญ่ มาเปิดฮอลล์เลย
จับถ่ายทอดสด ทั้งรถ O.B แถมนักข่าว บินประกบตามติด ฮ.ผู้บริหารมาด้วย เปิดสักช่องนึงไว้เลย
กิจกรรม แฟชันโชว์ จัดให้เต็มที่ คอนเซพท์อลังการ งานนี้คาดว่า นายแบบนางแบบ คงเดินกันลิ้นห้อยแน่ๆ
แถมยังได้ผิวสีแทนกลับบ้านไปเป็นของแถมชัวร์ป้าด

มีพาเหรด รถสปอร์ตชั้นนำ จาก กรุงเทพฯ ไปให้คนที่นั่นได้สัมผัสกันเป็นบุญตา

แต่นั่นไม่สะใจเท่ากับว่า

ผอยากจะให้ วู้ดดี้ มิลินทจินดา ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารห้างนี้ ด้วยวิธีที่เมามันส์มาก
คือ เตรียมกันไว้กับตำรวจและทหาร รปภ ทั้งหมด ทุกหน่วย ทุกสังกัด
ว่าจะให้วู้ดดี้ เป็นไอ้โม่ง ถือปืน(ปลอม) มาลักพาตัวผู้บริหาร เข้าไปคุยในห้าง
และให้มีการถ่ายทอดสด ออกข่าวไปทั่วประเทศ

พอเกิดขึ้นจริง ก็ให้พาเข้าไปในห้าง ไปเจรจากันอยู่สัก 1 ชั่วโมง
ให้คนทั้งประเทศ ได้ช็อคกับข่าวด่วนนี้ทางทีวีกันก่อน
แล้วค่อย เปิดผ้าคลุมหน้าเฉลยว่าเป็น วู้ดดี้ มิลินทจินดา ในอีกชั่วโมงต่อมา
ข่าวด่วน ทีวี ช่องอื่นๆ ก็จะได้รายงานว่า มันเป็น Gimmick การตลาดรูปแบบกวนส้นตีน

แต่ท้ายที่สุด ต้องให้จบลงว่า ตำรวจท้องที่ ต้องเชิญตัววู้ดดี้ ไปลงบันทึกประจำวันจริงๆ
เพื่อให้ได้เห็นว่า คนทำผิดแบบนี้ ก็ต้องโดนตำรวจรวบตัวไปท้ายที่สุด
เอาแค่ลงบันทึกประจำวันพอ ไมได้ไปนอนคุกให้เสียประวัติเล่นแต่อย่างใด

แน่นอน คุณอาจโดนด่า แต่เชื่อเถอะว่า งานนี้ ดังได้ โดยไม่ต้องเน้นขาย Sex Appeal ด้วยนางแบบโชว์บีกินี
อันน่าเบื่อ และเป็นวิธีเรียกร้องความสนใจทางการตลาดที่โคตรจะสิ้นคิด ของพวกนักการตลาดมือใหม่ทั้งหลาย


ใครจะก๊อปไป ก็เอาไปเลยนะครับ
เชื่อแน่ว่า งานนี้ ดังชัวร์ป้าด
และเผลอๆ ดังไปไกลถึงเมืองนอกด้วย
เพราะเท่าที่ทราบมา
ยังไม่เคยมีใครที่ไหนในโลก
บ้าพอจะเปิดห้างสรรพสินค้าของตัวเอง
ด้วยการให้ Celebrity มาลักพาตัวเอง
เอาตัวเองไปเสี่ยงชีวิตเล่นๆ ขำขำ แบบนี้

นี่ ถ้า คุณ ซิกเว่ แห่ง DTAC มาอ่านเข้า
จะเอาไปทำเล่นไหมวะเนี่ย เอิ๊กๆๆๆ

แต่ต้องทำให้ได้ดี และเจ๋ง อย่างรอบคอบ รัดกุม
และห้ามผิดพลาดเลยแม้แต่นิดเดียวเชียวละ ไม่งั้น บานปลายแน่ๆ!


--------------------------------------------

เรื่องสุดท้าย

- เมื่อ ชั่วโมงก่อน เพิ่งวางหูจากน้องที่กำลังคบหาดูๆกันอยู่
เจ้าตัวกำลังเรียนอยู่ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
โซนใกล้บ้านน้องแพน V.Putin เพื่อนผมนั่นเอง

เจ้าตัวทะยอยเคลียร์งานส่งอาจารย์ไปเยอะแยะแล้ว

แต่กำลังปวดหัวกับ การจัดทำ ข่าวสำหรับออกอากาศโทรทัศน์ ในเวลา 2 นาที
แต่ต้องพูดถึงเรื่องปัญหา เด็กขาย ขายบริการทางเพศ ที่หลังวังสราญรมณ์
ซึ่งเริ่มมีอายุลดน้อยลงเรื่อยๆ และล่าสุด เท่าที่ทราบมา อายุ 14-15 ปีก็เริ่มมาขายตัวกันแล้ว

ผมมองปัญหานี้อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆมานาน
เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีช่องทางจะทำอะไรเพื่อ
ช่วยแก้ปัญหานี้ได้เลย

จนกระทั่ง วันนี้แหละ!!

เลยคิดไอเดียให้ไป ว่า

ภาพแรก เปิดมาเลยนะ น้อง อายุ 16 คนนั้นหนะ เดินขึ้นรถที่มาจอดซื้อเด็กไปเลย
จนรถแล่นออกไป ปล่อยไปเลยนะ เอาภาพสดๆจริงๆจากจุดเกิดเหตุ
ระหว่างนั้น พอถึงวินาทีที่ 2 ควรเปิด Script ไปเลยว่า

"ภาพนี้คงจะชินตาผู้คนที่ผ่านไปมา ในย่านพระบรมหาราชวัง ยามค่ำคืน
แต่ ถ้าจะบอกว่า เด็กที่พึ่งขึ้นรถคันนี้ไปกับลูกค้ารายแรกของเขาในคืนนี้
เป็นเด็กอายุแค่ 16 ปี และเป็นไปได้ว่า อาจเป็นลูกชายของคุณละ?" (14 วินาที)

ผ่านไปแล้ว 16 วินาที เว้นสัก 1 วินาที ภาพยังเดินต่อ จนตัดภาพ
สลับไป-มา เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของเด็กคนที่เห็น สั้นๆ
ตัดภาพสลับไป-มา นิดหน่อยว่า

" เอเป็นเด็กอายุ 16 ปี ที่มีลูกน้อยอายุ 4 เดือนแล้ว เด็กสาว วัยเดียวกัน
ที่อยู่กินกันฉันท์สามี ภรรยา ก็รับรู้ว่า เอ มาทำงานแบบนี้ ด้วยความจำเป็นบังคับ
โดยที่ผู้ปกครอง ที่ต่างจังหวัด ยังไม่รู้" (15 วินาที)

"เอ เป็นหนึ่งในเด็กผู้ชาย อายุ 13-18 ปี ซึ่งมาขายบริการทางเพศ ที่บริเวณวังสราญรมณ์มาได้พักใหญ่
ในช่วงระยะหลังๆมานี้ จากตัวเลขของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนของเด็กผู้ชาย อายุ 13-18 ปี
ที่ต้องเข้าสู่วังวนแห่งการค้าประเวณี มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าวิตก ทั้งด้วยปัจจัยต่างๆมากมาย (20 วินาที)

(ตัดสัมภาษณ์ ไปยังเด็ก อายุ 18 ปี ที่มาทำอาชีพนี้คนหนึ่ง ณ ที่นั้น
ซึ่งทราบมาจากน้องคนทำงานชิ้นนี้ว่า เปรี๊ยวปรี๊ดนิดนึง พุดคุยคล่องปากหน่อย
ให้น้องพูดถึง ชีวิตตนเอง สาเหตุที่มาทำงานอย่างนี้ ซึ่งก็คือ มีปัญหาทะเลาะกับที่บ้าน
เรื่องเป็นเกย์ แล้วที่บ้านไม่ยอมรับ จนต้องออกมาเช่าห้องอยู่ตามลำพัง
มาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และในเมื่อยังเรียนอยู่ ก็ต้องหาเลี้ยงตัวเอง ส่งตัวเองเรียน
ในโรงเรียนพาณิชยการแห่งหนึ่ง ซึ่งก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ทั้งในทางบวก และลบ
จากการแนะนำ ของพี่แถวๆห้องพักคนหนึ่ง ซึ่งก็เคยมายืนที่หลังวังฯ นี้มาก่อน)

ผ่านไปอีก 15 วินาที รวมแล้ว ถึงตรงนี้ ก็ประมาณ 67 วินาที หรือ 1 นาที 7 วินาที
อีก 43 วินาที ที่เหลือ ไม่ยากเลย

"ปัญหานี้ ใช่ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนิ่งนอนใจ" (5 วินาที)

ถึงตรงนี้ ตัดสัมภาษณ์ ไปยัง ตำรวจ สน.พระราชวัง ผู้เกี่ยวข้อง สัก 15 วินาที

แล้วภาพ ก็จะตัดกลับมายังผู้รายงานข่าว ก็คือน้องผม คนทำข่าวนี้เองแหละ
พูดไปเลยว่า "ที่ผ่านมา มีความพยายามจะแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีมากมาย แต่สุดท้ายก็ไมได้ผล
งั้นเราลองมาฟัง น้อง เอ ผู้ที่ทำอาชีพนี้กันดูว่า ถ้าตัวเอง มีอำนาจในการแก้ปัญหาเด็กขายบริการทางเพศ
เขา จะทำอย่างไร?" (13 วินาที)

ที่เหลือ เราจะปล่อยน้องเอ ได้พูดในสิ่งที่ตัวเองเคยคิดไว้ แล้วอยากจะพูด ใจจะขาด แต่ไม่เคยมีใครฟังปัญหา
และแนวคิดในการแก้ปัญหาของเขา ต่อสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ อยากด่าผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
อึดอัดใจจะขาดด่าไปเลยน้อง เต็มที่โลด! แต่จะได้ออกอากาศหรือเปล่า อีกเรื่องนะน้อง ฮ่าๆๆ (10 วินาที)

ที่เหลือ ไปปรับเอาตามอัธยาศัย

งานส่งอาจารย์ ได้ขนาดนี้ ก็ น่าจะได้อย่างน้อย B ขึ้นไปแล้วละมั้ง เนาะ อาจารย์เนาะ


--------------------------------------------

ถึงที่ผ่านมา บทความทดลองขับรถใหม่ ใน //www.caronline.net
หรือบทความรถยนต์อื่นๆ ในนิตยสาร THAIDRiVER (//www.thaidriver.net)
ผมจะค่อนข้างหวงแหนต่อการนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ
เพาะกว่าจะคิด กว่าจะเขียนออกมา มันยากลำบากมากๆ
มันต้องใช้อารมณ์ ใช้ความรู้สึก และใช้สัมผัสพิเศษในใจบางอย่างมาช่วยกระตุ้น

แต่...
ผมไม่ค่อยหวงรูปที่ผมถ่าย
เพราะใครๆก็ถ่ายได้ ถ่ายให้ดีหรือเจ๋งกว่าผม ก็มีมากมาย
แต่ถ้าจะเอาไปใช้ ก็ช่วยขึ้นเครดิตให้หน่อยแล้วกัน

ผมไม่ค่อยหวงไอเดียเท่าไหร่
ออกกำลังสมอง ไปเรื่อยๆ อย่างนี้
คิดอะไรฟรีๆ ใครได้ใช้ประโยชน์จากมันไป ผมก็ดีใจ

เพราะ ถ้าผมยังไม่ตาย ผมก็ยังคิดอะไรใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ เสมอ

ดังนั้น ต่อไปนี้ จะปรึกษาอะไรผมนั้น
ไม่ต้องเป็นเรื่อง รถยนต์ เสมอไปนะครับ
บางที ผมก็ยอมรับนะว่าเบื่อ
แต่ยังยินดีจะตอบ เพราะคุณไม่รู้ว่าผมอยู่ในห้วงอารมณ์ไหน
ดังนั้น คุณไม่ผิดนะครับ และผมเองก็ควรต้องปรับตามคุณในวินาทีนั่นอยู่แล้ว

แต่ ผมจะดีใจมากกว่า ถ้ามี แบบฝึกหัดลับสมองแบบนี้
มาให้ผมช่วยคุณคิดเล่นๆ แบบนี้อยู่บ่อยๆ

และถ้าเกิดว่า มันประสบความสำเร็จละก็
อยากเอาเครดิต ก็เอาไปได้นะครับ ถ้าคุณไม่พร้อมจะให้เครดิตกับผม
ด้วยว่า กลัวตัวเองจะเสียความเชื่อถือ หรือตำแหน่งการงานอะไรก็ตาม

แค่ เจียด ก้อนเค้กส่วนแบ่งรายได้ของคุณนิดนึง ให้ผมสักนิดตามธรรมเนียมก็แล้วกัน!!!

อันหลังนี้ ผมซีเรียสจริงนะเอ้า!

^_^



Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 12 กันยายน 2551 3:43:41 น. 6 comments
Counter : 910 Pageviews.  
 
 
 
 

ลงชื่อก่อนว่าอ่านจบแล้ว

Blog นะเฮีย ไม่ใช่ร่างสุนทรพจน์ ยาวจริง
 
 

โดย: cookiecompany วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:3:35:04 น.  

 
 
 
อืมมมมมม

เชื่อแล้วค่ะ ว่าอัดอั้นตันใจจริง ๆ

ว่าแต่ไอเดีย จขบ สุดยอดจริง ๆค่ะ นับถือ..นับถือ

ท่าทางจะเป็น creative มือหนึ่งแน่เลย
 
 

โดย: แค่คนหนึ่งคน วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:15:52:39 น.  

 
 
 
ชอบความคิดของคุณจริงๆ
ตรงๆ อย่างนี้เราชอบนะ..


 
 

โดย: ColaGirl วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:19:06:54 น.  

 
 
 
เข้ามาแวะชมครับ..

^_^
 
 

โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:17:07:22 น.  

 
 
 
o_o
 
 

โดย: Noumy วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:14:54:49 น.  

 
 
 
พี่จิมมี่สวัสดีครับ

ผมมี่ ลูกค้าร้านพี่รุ้งน่ะครับ
 
 

โดย: Privatepassion วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:21:58:35 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

JIMMY
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add JIMMY's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com