나는 오직 당신을 영원히 사랑합니다. สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ©
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 ตุลาคม 2558
 
All Blogs
 

ตำนานรักเทพสวรรค์ 2

2 เชียนเหนียนถูกทำโทษโดยการกักบริเวณ จากมหาเทพ รวมถึง วิหคสวรรค์ที่ต้องเข้าไปอยู่ในกรงทอง ธิดาเทพ ส่งกระแสจิต ถึงมหาเทพ เรารู้ตัวแล้วว่าทำผิด ท่านมหาเทพ จะกักบริเวณเราแบบนี้ไปถึงเมื่อไร วิหคสวรรค์ก็ไม่ได้พบ ท่านเองก็ไม่มาให้เราเห็นอีก หมาเทพได้แต่เงียบฟัง เสียงตัดพ้อของธิดาน้อย โดยมิโต้ตอบกลับแต่อย่างใด นานๆครั้งมหาเทพจึง มองดูเชียนเหนียน ผ่านคันฉ่องส่องนภา เจ้าข้ามแดนลงสู่ชั้นเซียนได้ไม่ได้รับอนุญาติ แล้วยังเกือบทำให้ ทั้ง มาร เซียน และเทพ เกือบได้เห็น รูปลักษณ์ของเจ้า ทำผิดเช่นนี้ ก็ต้องรับโทษไปแต่โดยดี หากเจ้ายังละเมิดกฎ ทำผิดอีก เราคงต้องทำลายวิมานของเจ้าทิ้ง และเจ้าต้องมาอยู่กับเราบนนี้ เจ้าเป็นสิ่งที่เราสร้าง เจ้าจะต้องอยู่เคียงข้างเรา วิหคน้อย จ้องมองมหาเทพ ด้วยจิตก็ครุ่นคิด นี่ท่าน สร้างนางเพื่อมาเคียงข้างท่านอย่างนั้นหรอกหรอ กระแสจิต แรงกล้า ส่งตอบกลับมายังวิหคน้อย ใช่ คำตอบนี้ทำเอาเจ้าวิหค กระเด็นตกจาก กิ่งไม้ที่อยู่ในกรง เราอยู่บนนี้ รับรู้ มองเห็นทุกสรรพสิ่ง ทุกอย่างบนโลก ล้วนถูกสร้างมา ให้มีคู่ แล้ว เหตุใด ทำไม ข้างต้องอ้างว้างอยู่เพียงลำพัง แม้แต่เจ้าสวรรค์ของแต่ละชั้นฟ้า ยังมีคู่ ทำไม ทำไม ข้าเพียงองค์เดียวที่โดดเดี่ยว แต่เชียนเหนียน กำเนิดมาจากโลหิตของ ท่าน มันคือเลือดเนื้อ ส่วนหนึ่งของท่าน มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไรกัน วิหคกล่าวตอบ ได้สิ มันต้องได้ ข้าเป็นคนสร้างนางขึ้นมา แล้วนางยอมรับในสิ่งที่ท่านดำริได้หรือ นี่คือเหตุผลที่ท่าน ไม่ให้นางเรียกท่านว่า พระบิดา สินะ เจ้านี่ รู้มากจริง เจ้านกรู้...

ขณะเดียวกัน เชียนเหนียน ใช้พลังหยั่งรู้ไร้ขอบเขต ส่งจิตลงไปเที่ยวเล่นยังเบื้องล่างเช่นเคย นางต้องใช้พลังกายทิพย์ไปมาก กว่าจะตบตามหาเทพได้ ว่านางนั่งสำนึกผิดอยู่บนวิมาน แต่จะตบตาท่าน เทพผู้ยิ่งใหญ่ได้นานแค่ไหนกันนะดวงจิต นางลอยผ่านวิมาน ของเทพ ที่อาศัยอยู่บนวิมาน ไกลลิบลับ ลอยผ่านไปโดยที่ท่านเทพเองก็ สังเกตไม่เห็น อ่า...ข้าอ่อนแรงเหลือเกิน ดวงจิตนางทะลุผ่าน เขตแดนสวรรค์ ชั้นแล้วชั้นเล่า จนลงมาหยุดที่แดนเซียน กึงแดนมนุษย์กับแดนสวรรค์ นางต้องกำหนดจิต และพลังเทพให้นิ่ง มากๆ เพราะที่นี่ มีเซียนที่กำลังก้าวผ่านเป็นเทพ ถ้าไม่ระวัง กายทิพย์นางอาจถูกเปิดเผย เหริงไป๋ มองไปรอบๆ อาศรม พยายามใช้ญาณ ของเขาแล้วแต่ ก็ตรวจไม่เจอสิ่งผิดปรกติ แต่.. กลิ่นนี้อีกแล้วหรือ เขาลุกจากที่นั่ง เปิดประตู ใช้สายตากวาดมองไปโดยรอบ แต่ก็ไม่เจอสิ่งใด เซียนเหนียน ถูกใจที่หลอกเซียนเทพได้ นางพาดวงจิตนางไปวน เวียนอยู่ใกล้ๆ แต่นางหารู้ไม่ว่า กลิ่นกายทิพย์ของนาง ไม่สารถปกปิดไว้ได้ กลิ่นกายของธิดามหาเทพ ฟุ้งจรุง ไปทั่ว ห้องของ เหริงไป๋ จนในที่สุด เขาจำต้องหลับตา เพิ่งสมาธิ ด้วยเพราะต้องการรู้ให้ได้ว่า มาร หรือ เทพ ตนใด กล้ามาล้อเล่นกับเขาแบบนี้ แต่ก็ไร้ผล เจ้าเป็นใครกัน สำแดงกาย ของเจ้าออกมาเดี๊ยวนี้ เหริงไป๋จำต้องเอ่ยออกไป จิตของ เซียนเหนียน หยุดนิ่ง อยู่เบื่องหน้า เซียนเทพ นั่นมัน ขนวิหคสวรรค์นี่ นางคิดที่จะขโมยเอาขนนก กลับคือน แต่ด้วยที่ใช้พลังญาณ มากเกินไป ไม่ได้การณ์แล้ว พลังเราเหลือน้อย เซียนเทพองค์นี้ รัศมีเทพของเขา เข้าใกล้มากไปจน เราอาจจะเผยกายทิพย์ต่อหน้าเขาแล้ว ดวงจิตของ เชียนเหนียนจึงรีบ ล่าถอยออกมา เหริงไป๋ จับความรู้สึกได้ในทันที เขารีบ เหาะตามความรู้สึกของเขาไป ข้าไม่รู้ ว่าเจ้าเป็นสิ่งใด มาร หรือ เทพ แต่มาล้อเล่นกับข้าแบบนี้ ข้าคงไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ อย่านะ อย่าตามข้ามา ธิดามหาเทพ รวบรวมพลัง เฮือกสุดท้ายที่มี ทะยานขึ้นสู่ชั้นฟ้า ทิ้งห่าง เหริงไป๋ ไปหลายเขตแดนสวรรค์ เหริงไป๋เอง ต่อให้ได้เป็นเทพเซียนเอง ก็มีขอบเขตของการเดินทาง ไม่อาจไปต่อได้ดั่งใจนึก จำต้องหยุดอยู่ที่เขตเชื่อมต่อชั้นขอบฟ้า หากล่วงผ่านไป โดยไม่ได้รับอนุญาต กายของเขาคงต้องตกสู่ 15 ชั้นดินเป็นแน่ ดวงจิตบังกายทิพย์นี้เป็นเทพ องค์ไหนกัน ทำไมผ่านขึ้นไปชั้นขอบฟ้าได้ เหริงไป๋เริ่มอ่อนแรงเช่นกัน เนื่องจากใช้พลังแทบจะทั้งหมดเหาะตามดวงจิต เชียนเหนียนมา เขาจำต้องล่าถอย ขนนกวิหคสวรรค์ มันขยับเคลื่อนไหว แสดงว่า วิหคสวรรค์ก็อยู่ที่นี่ด้วย งั้นสิ

หลายเพลาผ่านไป เชียนเหนียน ต้องเก็บกายทิพย์ นั่งสมาธิ บำเพ็ญ ตะบะ เพื่อสั่งสมพลัง จนมหาเทพ แวะมา นางก็ไม่ยอมออกมาพบหน้า หรือว่าเราขังนานไว้นาน จนนางโกรธเราเข้าแล้ว เชียนเหนียน ๆ มหาเทพ ส่งกระแสจิต เรียนกหา แต่นางกลับไม่ตอบ ทำไมไม่ตอบเรา เจ้าเงียบแบบนี้ ยิ่งทำให้เราหงุดหงิด เรามาพบเจ้าแล้ว ออกมาจากวิมานเถอะ กายทิพย์ของมหาเทพ ลอยเคว้งคว้างอยู่นาน ก็ไม่ได้ยิน จิตของเชียนเหนียนตอบมา มหาเทพจะบุกเข้าไปหาเจ้าในวิมานของ เชียนเหนียนเลย พระองค์ทรงทำได้ แต่ไม่อยากทำ กลัวว่า นางจะโกรธมากขึ้นไปอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จนพระองค์ควบคุมจิตไม่อยู่ ส่งผลให้ ท้องฟ้า คำราม ดังกึกก้อง ก้มปนาทไปทั่ว พิภพ ธิดาเทพ ซึ่งอยู่ในวิมาน รับรู้ถึงจิตที่แรงกล้าของ มหาเทพ แต่นาง ผเชิญหน้าตอนนี้กับ เขาไม่ได้ ไม่งั้นมหาเทพต้องรู้แน่ว่า นางไปทำอะไรมา เราออกจาก เก็บกาย รีบรุดมาหาเจ้า ทำไมเจ้าทำแบบนี้ แล้วโสต ประสาทของมหาเทพ ก็ได้ยิน เสียงดนตรี ล่องลอยออกมา ทำให้กระแสจิตของ เจ้าแห่งชีวิต เริ่มอ่อนลง เมื่อจิตเริ่มเย็นลง นางจึงเอ่ยตอบ วิหคสวรรค์ ปล่อยออกจากกรงทองของท่านได้หรือไม่ มันเป็นแค่นก ถูกขังไว้แบบนั้น นานเกินไปแล้ว เรากลัวว่า มันจะบินไม่ได้อีก มหาเทพ เผลอ ยิ้ม เจ้าตอบเราแล้ว ได้ เราจะปล่อย ออกมาให้เราพบหน้าเจ้าก่อน เชียนเหนียน จำต้องปรากฏกายทิพย์ ต่อหน้าพระพักต์ มหาเทพ เมื่อได้พบกายทิพย์ ของนาง เขาก็เริ่มพอใจ แล้วหายวับไปต่อหน้า เชียนเหนียน ทันที หลังจากมหาเทพกลับวิมานของตนไปแล้ว กายทิพย์ ของเชียนเหนียน ก็สลายหายวับไป

เพราะแบบนี้รึเปล่านะ ท่านจึงกักตัวเราไว้อยู่เพียงแต่บนนี้ พลัง ตะบะที่ สะสมมา ต้องใช้ไปแทบไม่เหลือ แล้วพลังของท่าน จะมีมากมาย เหลือคณานับเพียงใด หากต้อง ดูแล คุ้มครองปกป้องทุกสรรพสิ่งในพิภพนี้

มหาเทพเพียงองค์เดียวที่สามารถ มองเห็นกายทิพย์ของเชียนเหนียน ไม่นับ จอมมาร ที่ได้เห็นแต่ภาพกายทิพย์ที่เลือนลาง เราจำต้องสะกดกาย เจ้าไว้แบบนี้ ไม่เคยคิดเลยว่า กายทิพย์เจ้า จะงดงามยิ่งกว่า เซียนหญิง นางฟ้า ทั้ง16 ชั้นฟ้ารวมกัน ก็คงเทียบกับเจ้ามิได้ มหาเทพ โบกมือ ผ่านกรงทอง ทำให้ประตูกรงเปิดออก วิหคน้อยเลยได้ โผบินอีกครั้ง ไปซะ ไปทำหน้าที่ของเจ้า เฝ้า ดู เชียนเหนียนให้ดี อยู่ๆ วิหค ก็เกือบจะร่วงตก ดีที่พระหัตถ์มหาเทพรับร่าง นกน้อยไว้ได้ ท่านจึงใช้รัศมีเทพของท่าน ส่งพลังให้ ร่างวิหคน้อยกลับมา กระฉับกระเฉง ปีกกระพรือ ขึ้นลงได้อีกครั้ง นี่เราขังเจ้าไว้นานไปใช่หรือไม่ ท่านโยนวิหคน้อยขึ้น สู่ท้องฟ้า วิหคน้อยกลับมาบินทะยานได้อีกครั้ง ข้าน้อยขอบินไปรวมกับฝูงเพื่อน สักครา แล้วจะกลับไปหา ธิดามหาเทพ วิหคน้อยเอ่ย อืม ได้สิ เรา อนุญาต มหาเทพกล่าวตอบ เจ้าคงรู้ใช่มั้ย อะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด วิหคน้อยรับคำ ข้าน้อยรับทราบ พระบัญชา มหาเทพ ใช้คันฉ่องส่องนภา ก็ได้เห็นว่าเมื่อครู่ที่ ระงับจิตไม่อยู่ ได้ทำให้เกิดภัยพิบัตต่อ แดนมนุษย์อย่างไรบ้าง แผ่นดินไหวในหลายท้องที่ แถมยังมี ดินถล่มตามมาด้วย เกือบไปแล้ว ถ้าเราคุมจิตไว้ไม่อยู่แบบนี้ คงต้องทำลาย มนุษย์โลก ล้มตายไปเป็นจำนวนมากแน่ๆ เราขอโทษพวกเจ้าด้วย ว่าแล้วก็ฉายแสงสีทองส่องไปทั่วท้องที่ ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ให้มีการสูญเสีย แต่คงเลี่ยงการบาดเจ็บไม่ได้ เราทำมากกว่านี้ไม่ได้ ไม่งั้นจะฝึนกฎที่วางไว้ ถ้าพวกเจ้าต้องตายก็คือตาย อยู่ก็ต้องอยู่ เราไม่อาจชุบชีวิตใครได้ตามอำเภอใจเราไม่ ด้วยแรงพิโรธ ของมหาเทพส่งผลให้ นรกภูมิเองก็ได้รับผลพวง นี้ด้วย สั่นสะเทือนไปทั้ง 15 ชั้นดิน จนเหล่าสมุนปีศาจต่างก็แตกตื่น หนีตายกันอลหม่าน จอมมารเองก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จนแดนนรกของเขาเองก็วุ่นวาย นี่..มีสิ่งใดที่ทำให้ มหาเทพโกรธาได้ถึงเพียงนี้ ท่านทรงช่วยเหลือมนุษย์ จากภัยที่เกิดจากน้ำมือของท่าน แล้ว 15 ชั้นดินที่ข้าปกครงเล่า ทำไมท่านจึงเมินเฉยต่อความเสียหาย เสียงตอบจากจิต มหาเทพส่งมา เจ้าต้องการให้เราทำสิ่งใด นรกเป็นที่อยู่ ของ มาร ปีศาจ ล้มเจ็บ ล้มตายไปบ้าง ก็สมควรแล้ว กระแสจิตที่ตอบกลับมา เป็นเหมือนอาวุธมีควมที่ทิ่มแทง กลางใจของ จอมมาร อี้หงยิ่งนัก ข้าเองปกครอง ที่นี่ก็ย่อมไม่อยากเห็น สมุน มาร ปีศาจ ของข้าต้อง ดับสูญ เฉกเช่นที่ท่าน ปกป้อง มนุษย์ เซียน และเทพ ก็เช่นกัน ถ้าไม่มีคนชั่ว ปีศาจ จะเกิด คนดี เซียน เทพได้อย่างไร กันเล่า คำกล่าวนี้ทำเอามหาเทพ นิ่งงันไป ชั่วขณะ ถึงอี้หง จะได้จุติไปเป็นมาร แต่ชาติภพก่อนเขาก็คือเทพสวรรค์ องค์นึงที่มีอำนาจ พลังเหนือ เทพเซียนทั้งปวง แต่ด้วยเพราะทำความผิด ร้ายแรง ด้วยสาเหตุใด มหาเทพเองก็หารับรู้ได้ จึงถูกถอดจากความเป็น เทพสวรรค์ แล้วถูกแสงขาว ส่งให้ลงไปอยู่ที่ 15 ชั้นดิน แต่เพราะกายทิพย์ ยังเป็นเทพเซียนอยู่ ทำให้ อี้หง จุติกลายเป็นจอมมาร มานับแต่บัดนั้น

ลู่เหริงไป๋ เก็บตัวอยู่ภายในอาศรม นั่งกำมะฐาน จำศีล บำเพ็ญ ตะบะ อยู่ระยะเวลานึง ศิษย์ของ ศิษย์พี่ก็ส่งเสียงเรียกอยู่หน้าอาศรม เขาได้แต่เพียงส่งเสียงบอกผ่านลมออกไปว่า ไม่ต้องการให้ใครรบกวน จนในภวังค์ มีเทพเซียนองค์หนึ่งปรากฏกายขึ้น แจ้งกำหนดการณ์ที่ เหริงไป๋จะต้อง ย้ายขึ้นไปอยู่วิมาน เหนือขึ้นไปอีก 5 ชั้นฟ้า หลังจากนี้ นับไป 3 เพลา เมื่อเห็นดาวเทพปรากฏ ท่านจะต้อง ตามดาวเทพขึ้นไป อีก 3ชั้นฟ้าทันที กล่าวเสร็จ เทพเซียนก็ หายวับไป กลางหมอกควันจางๆ

ที่วิมาน ตัดอดีต ลืมปัจจุบัน สู่อนาคตที่ว่างเปล่า เทพสวรรค์ หม่าเหริ่งจิ้งได้รับแจ้ง จากดาวเทพว่า จะมีเทพเซียนข้ามชั้นฟ้าขึ้นมาที่ระดับ 5 ชั่วพริบตา ภูมิชะตา ชาติกำเนิดของ ลู่เหริงไป๋ ก็ปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าเขา อืม..ไม่เลวเลยทีเดียว ประวัติขาวสะอาด เป็นศิษย์เอกของสำนักเซียนที่อยู่บนยอดเขาซูซัน บำเพ็ญศีล ตะบะ ทำความดี จากมนุษย์ธรรมดาคนนึงจนได้เป็นเซียนเพียงเวลาไม่กี่ร้อยปี หาได้ยากนัก เอาหล่ะข้าจะบันทึกประวัติของเจ้าไว้ เทพสวรรค์รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงออกมาที่เบื้องหน้า วิมาน ก็พบกับ เทพสงคราม คุมตัว เทพองค์นึงมาด้วย เทพสงครามแจ้งความผิดที่เทพองค์นี้ได้ก่อขึ้น กับ เหริ่งจิ้งฟัง พร้อมกับส่ง สานส์แจ้งจาก มหาเทพ ลงโทษให้ เทพเซียนผู้นี้ กลับลงไปชดใช้กรรมที่ โลกมนุษย์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เวียนว่าย ตายเกิด คำกล่าวนี้ ใช้ได้ทุกภพภูมิ อืม..ข้าเข้าใจละ เทพสงครามส่งตัว เทพที่ทำความผิดให้ เราจำต้อง ถอดรูปเทพเซียนของท่าน แล้วล้างความจำของท่านด้วย หากท่านมีวาสนาบำเพ็ญศีล ตะบะแก่กล้าพอ ยามลงไปจุติที่แดนมนุษย์แล้ว หากคิดดี ทำดี และเลือกที่จะเป็นเซียน ท่านก็จะได้บุญที่เหลือส่งให้เป็นเซียนได้เร็วขึ้น เหริ่งจิ้ง สะกดให้เทพหลับลงอย่างสงบ อาจจะเจ็บปวดอยู่บ้างตอนที่ลบความจำทั้งหมดของท่านออก แต่วางใจเถอะ เมื่อมันว่างเปล่า ก็จะไร้ซึ่งความเจ็บปวด จากนั้นเทพเซียนองค์นั้น ก็กลายเป็นดวงไฟเล็ก อยู่ในกำมือของ เทพสวรรค์ ข้าขอส่งท่านให้ลงไปจุติที่ แดนมนุษย์ ณ บัดนี้ ดวงไฟดวงนั้นก็พุ่งตรงผ่านบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ลงสู่เบื้องล่างทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกขั้นตอน เชียนเหนียน ได้รู้ได้เห็นอยู่ ห่างๆ ทำไมเราถึงรู้สึกเศร้าจัง ที่แท้ เทพสวรรค์องค์นี้ เห็นเงียบๆแบบนี้ ช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน ถ้าเกิด เราพลัดตกลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ นั่น จะเป็นเยี่ยงไรหนอ รู้แบบนี้แล้ว ท่านเชียนเหนียน ก็อย่าได้เที่ยวเล่นซุกซนไปทั่วสิ หากตกลงไปบ่อน้ำนั่นจริง คงจะมีแต่มหาเทพ เพียงองค์เดียวเท่านั้น แต่ถ้าท่านทำ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินคงถล่ม ทั่วพิภพต้องสั่นสะเทือนแน่ เชียนเหนียน เหลือบมอง วิหคน้อย กลัวหล่ะสิ วิหคน้อยเอ่ย เราไปให้ห่างจาก วิมานท่านเทพ เหริ่งจิ้งกันเถอะ

ลู่เหริงไป๋ ต่อให้เจ้าจะมี พลัง ญาณตะบะ แกร่งกล้า เทียบเท่ากับอี้หง เจ้าก็คงได้อยู่แค่ระดับนั้น จิตใต้สำนักของมหาเทพซึ่งไม่เคยปรากฎออกมาเลยนับตั้งแต่ เซียนเหนียนได้จุติ เพลานี้กลับมาอีกแล้ว ท่านแยกเขาออกจากกันได้ไม่นานหรอก 3 ชะตาที่ ท่านลิขิต ในไม่ช้า จะได้ผเชิญหน้ากัน ในระหว่างที่มหาเทพปิดกั้นญาณ เพื่อตอบโต้กับจิตใต้สำนึกของตนอยู่นั้น ก็ไม่สามารถจับความเคลื่อนไหวของ เชียนเหนียนได้ ธิดาน้อย หลบหนี มหาเทพ แอบลงมาที่ชั้นเซียนอีกแล้ว ประจวบกับเหล่า มาร ปีศาจ ที่รอจังหวะและโอกาสนี้ ที่ เหริงไป๋ จะได้ไปสถิตที่ แดนสวรรค์ สำนักเซียบไร้ ซึ่งเจ้าสำนัก ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่จะโจมตี และโค่นล้มสำนักเซียน จึงยกกองทัพมาร เข้าบุกโจมตีตั้งแต่ เชิงเขาซูซัน จนในที่สุด ก็มาถึง สำนักเซียนบนยอดเขา หากยึดที่นี่ได้ สวรรค์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า สำนักเซียนไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูก กองทัพมาร ถล่ม เซียน และมาร บาดเจ็บล้มตาย เป็นจำนวนมาก ศิษย์พี่และศิษย์น้อง ก็ยืนหยัดสู้ โดยหวังแค่เพียง เหริงไป๋ จะได้ไปสถิต ที่แดนสวรรค์ เชียนเหนียน เหาะมาใกล้จนรู้สึกของ พลังอาฆาต ทำไมแรงอาฆาต ถึงได้ มีรัศมีแจ่มจ้าแบบนี้ ทาเอากายทิพย์ที่นางซ่อนไว้ จำต้องเปิดเผย วิหคสวรรค์เอง ก็มิอาจช่วยเหลือนางได้ ด้วยพลังแห่งเทพ ที่มีไม่ถึง ร่างมันร่วงตกลงสู้พื้นดินทันที ยามเมื่อถูก รัศมีของจอมมาร เจ้า!!!! วิหคน้อย เชียนเหนียนก็เช่นกัน กายทิพย์ถูกเปิดเผย ร่างนางร่วงลงสู้พื้นดินทันที เหล่าเซียนต่าง สังเกตเห็น จอมมารก็เช่นกัน นั่นมัน..รัศมีเทพของเทพ องค์ใดกันเล่า ศิษย์พี่ ขณะที่กำลังสู้รบกับพวกสมุน ธิดาเทพที่ล้มฟุบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติ เชียนเหนียนจึงพยุงตัวขึ้น แย่แล้ว สำนักเซียนคงต้านพวกมารไว้ไม่ได้แน่ นางคะเนด้วยสายตา มีเซียน บาดเจ็บล้มลงเป็นจำนวนมาก จะเอาอะไรไปสู้กับ มาร ปีศาจได้เล่า แรงอาฆาตพวกนี้ สูงกว่า ตะบะของเซียนบางตน ซะอีก ถ้าไม่ช่วยไว้ พวกมารคงได้ขึ้นไปยึดสวรรค์แน่ๆ เชียนเหนียน ท่านกำลังทำอะไร ไม่นะ ถ้าท่านใช้พลังที่มหาเทพปิดผนึกไว้ หากไม่มีเกราะกำบัง ร่าง มาร เซียนต้องดับสูญ ไม่ได้จุติ อีกเลยนะ อย่านะ หากใช้พลังหมด เราจะกลับขึ้นวิมานไม่ได้ ช่วยชีวิตมนุษย์ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง อี้หง ปรากฏร่างต่อหน้าเชียนเหนียนทันที อ้อ... รัศมีเทพคราวก่อนนั่น คือเทพสวรรค์องค์นี้เองหรอ ศิษย์น้อง คุ้มกันเทพสวรรค์ด้วย ห๊ะ... ข้าหรอ พลังวัต ญาณเจ้าเหนือกว่าข้า ช้าอยู่ใย แต่ศิษย์พี่ นั่นเทพสวรรค์นะ ไปเดี๊ยวนี้ จอมมารหันไปทาง หยาง หลิว เฟิง เพียงแค่โบก ฝ่ามือเบาๆ ร่างของ หลิว เฟิง ก็รอยกระเด็นไป หลายสิบลี้ ไง เจ้าใช้พลังไปมาก จะเหาะกลับสวรรค์ได้มั้ย หรือว่า จะไปพร้อมกับข้าดี เชียนเหนียน ขบฟัน หากไม่เพียงแต่นางรอรวมรวบปราน นางจะฟาดฝ่ามือใส่ อย่าแตะต้องนางนะ เสียงวิหคสวรรค์เอ่ย เจ้านกน้อยเอ๋ย หากไม่อยากกลายเป็นนกย่าง ชู่วส์ๆๆๆ เชียนเหนียนเปิดผนึกของมหาเทพได้ ก็ปล่อยพลังปราน ทั้งหมดออกไป แสงเรืองรองสะท้อนไปไกลทั่วถึง ทั้ง16 ชั้นฟ้า ทุกแดนสวรรค์ สั่นครืน มหาเทพ ใช้เวลาไม่นาน ก็ลงมาจุติที่แดนเซียน นางไม่รู้หรืออย่างไร ผนึกพลังที่ข้าปิดไว้ หากนางนำมาใช้ ร่างนางจะดับสูญ

เหริงไป๋ ต้านพลังของจอมมารไว้ได้ ก่อนที่ เชียนเหนียนจะใช้พลังที่ปิดผนึกไว้ เธออ่อนแรงล้มลง ท้องฟ้ามืดครื้ม เสียงฟ้าคำรน ดังกึกก้องก้มปนาทไปทั่ว มหาเทพจำต้องหยุดอยู่ทีสวรรค์ชั้น 5 ไม่สามารถก้าวล่วงลงไปยังแดนเซียนได้ ด้วยรัศมีเทพ จะทำให้มี สิ่งมีชีวิต ล้มตาย กายทิพย์ของมหาเทพ จะต้องไม่มี มาร เทพ เซียน ผู้ใดได้พบเห็น นี่เป็นกฎ ก่อนที่ เชียนเหนียนจะถูกทำให้กลายเป็นดวงไฟเล็กๆ เหริงไป๋ ได้เห็นกายทิพย์ของนางแค่เพียงชั่วครู่ ดวงจิตของนางก็ถูก เรียกกลับไป













 

Create Date : 22 ตุลาคม 2558
1 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2559 21:54:50 น.
Counter : 653 Pageviews.

 

ไม่มีคอมเม้นท์ก็ดีใจ ไม่เป็นไร แค่ได้เข้ามาส่อง

 

โดย: primmavista 22 ตุลาคม 2558 19:38:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


fanrongjaing
Location :
Taiwan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






blogger analyzer
New Comments
Friends' blogs
[Add fanrongjaing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.