나는 오직 당신을 영원히 사랑합니다. สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ©
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2558
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ตุลาคม 2558
 
All Blogs
 

ตำนานรักเทพสวรรค์

เหนือ 6 ภพภูมิขึ้นไปนั้น ยังมี 16ชั้นฟ้า และ15ชั้นดิน อยู่ สูงสุดขอบชั้นฟ้านั้น คือที่พำนัก ที่ประทับของ มหาเทพ เจ้าแห่งเทพ ราชาแห่งเทวดาและ เซียนทั้งปวง มหาเทพ มีหน้าที่ควบคุมความเป็นไปตามกฎของ 6ภพภูมิ ให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ได้วางไว้ ไม่ให้ ทั้ง 6 ภพภูมิ มีการแตกแยก หากเกิดภัยอันจะกระทบ ต่อ 6 ภพภูมิ 16 ชั้นฟ้าและ 15 ชั้นดิน มหาเทพจะเป็นผู้ ชี้ขาดและตัดสินแต่ผู้เดียว กาลก่อน ได้เกิดเรื่องทำให้สั่นคลอนไปทั้ง 16ชั้นฟ้า และ 15ชั้นดิน สะเทือนไปถึงสวรรค์ เหล่าทวยเทพ เทวดา ต่างรู้ดี และได้ติดตาม เฝ้าระวัง อีกทั้งได้ส่งสัญญาณเตือนไปยัง ชั้นภูมิที่อยู่เบื้องล่างว่า มหาเทพได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และมีรับสั่งมาว่า หากชั้นภูมิที่อยู่เบื้องล่างลงไปจัดการ กับผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้ มหาเทพจะทรง จัดการเรื่องนี้ด้วยพระองค์เอง เทพองค์หนึ่งได้ส่งสานส์ ถึงวิมารของเซียนที่พำนักอยู่ สานส์นี้ยังส่งต่อไปยัง นรกภูมิอีกด้วย หากพวกจอมมาร หรือเหล่าสมุนปีศาจ ยังก่อความเดือดร้อน รุกราน เมืองมนุษย์ และสวรรค์ มหาเทพจะ สาดแสงพิฆาต มายังขุมนรก แผดเผา พวกเหล่าปีศาจให้ดับสูญไปทั้ง 15ชั้นดิน เมื่อกาลก่อนที่เกิดทำให้มารเทพหลุดออกมา จากการรวบรวมอาวุธเทพ ทั้ง10ชิ้น ได้ ทำให้มารเทพปรากฏ ทั่วพิภพสั่นสะเทือน แม้กระทั้ง 16 ชั้นฟ้าเอง ก็ยังรับรู้ได้ จากนี้ต่อไป จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เสียงอันทรงอำนาจดังผ่านสานส์ที่ส่งให้ไปยัง 6 ภพภูมิ
กาลเวลาผ่านไป นานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน รวมไปถึง 6 ภพภูมิ ต่างก็สงบสุข นับตั้งแต่ มหาเทพได้ ให้ ตัวแทนเทพ ส่งสานส์ไปในครั้งนั้น ท่านก็ได้เพียงแต่จับจ้องเฝ้ามองถึงความเป็นไป ผ่านม่านน้ำตก ที่อยู่ใจกลางสวนสวรรค์ ที่รายล้อมไปด้วยหมู่มวล ดอกไม้ สวรรค์นานา พันธ์ ส่งกลิ่มหอมอบอวลไปทั่วสวรรค์เบื้องล่าง นอกจากที่ประทับแล้ว ก็มีเพียงสวนสวรรค์แห่งนี้ ที่มหาเทพจะใช้เป็นที่พักผ่อน สำราญเบิกบานใจ อ่า...ข้าต้องอยู่แบบนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ มันช่างเป็นชีวิตที่ยืนยาวหน้าเบื่อสิ้นดี มองไปรอบๆ ทั้ง 16 ชั้นฟ้า ที่นอกจากที่นี่แล้ว สวรรค์ชั้นอื่น คงไม่เงียบเหงา อย่างนี้ มันคงดีไม่น้อยถ้าหาก มีอะไรมาทำให้ข้าคลายเหงา และอยู่เพียงลำพังอย่างนี้ มหาเทพกำลังเคลิบเคลิ้มกับ เสียงของ วิหคสวรรค์ ที่ส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว ดังกังวานไปทั่ว วิหคตัวหนึ่ง จ้องมองที่ใบหน้าของมหาเทพในขณะที่ท่านหลับตาพริ้มอยู่นั้น มหาเทพช่างมีใบหน้าและรูปร่าง งดงามยิ่งนัก เป็นราชาแห่งเทพ แห่งเซียนทั้งปวง แต่ท่านช่างน่าสงสารที่ต้องอยู่โดยลำพังนานชั่วกัปชัวกัลป์ เพียงผู้เดียว แบบนี้แล้ว เกิดเป็นวิหคอย่างข้า ยังจะดีเสียกว่า ที่ได้โบยบินไปทั่วสวรรค์ มหาเทพค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ พร้อมกับเอามือคว้าเจ้าวิหคน้อย ไว้ได้ก่อนที่มันจะบินหนีไป หึหึ เจ้านี่.. ตอนนี้อยู่ในมือข้าแล้ว คงจะบินไปทั่วชั้นฟ้าไม่ได้อีก โอ๊ะ...ปล่อยข้าๆ เถิดท่านมหาเทพ ปล่อยเจ้ารึ มหาเทพทำท่าครุ่นคิด เจ้าจะต้องอยู่เป็นเพื่อนข้าบนนี้ นี่คือการทำโทษ ไม่นะ ไม่นะ ข้าต้องการบินตามฝูงเพื่อนของข้าไป วิหคน้อยยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้ว เหล่าฝูงวิหคที่บินวนเวียนรออยู่ ด้านบน ต่างก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะบินลงมาใกล้ รัศมีของมหาเทพ มหาเทพรูปงามแหงนขึ้นบนท้องนภา เห็นฝูงวิหค บินวนอยู่เช่นนั้น จำต้องปล่อย วิหคน้อยในมือไป เอ๊ะ!! นี่เจ้า.. ก่อนบินจากไป วิหคน้อยเผลอจิกไปที่พระหัตถ์ของมหาเทพ เจ้า!!! โลหิต หยดลงกระทบกับหยดน้ำก่อนจะหยดลงสู่พื้นซึ่งมี เหล่ามวลดอกไม้มารองรับหยดเลือดของมหาเทพไว้ไม่ให้ตกสู่พื้นดิน ทันใดนั้นเหล่าผีเสื้อสวรรค์น้อยใหญ่ต่างก็บิน กันมารวมตัวอยู่ใกล้ๆ มหาเทพกล่าว ขอบใจพวกเจ้ามาก ดอกไม้ต่างพากัน โน้มกิ่งก้านลงคล้ายเป็นการเคารพ แล้วมหาเทพก็พาร่างหายวับไป
เหล่าเทวดา นางฟ้า ต่างจับกลุ่มรุมล้อมกันอยู่ ว่าไงนะ เทวดานางฟ้า บางตนต่างรีบเหาะลงมาร่วมด้วย เพียงเพราะ อยากฟังคำบอกเล่าจากปากวิหคสวรรค์ มหาเทพ รูปงาม สุรเสียงก็ไพเราะ เป็นความจริงหรอเจ้าวิหคน้อย นางฟ้าที่นั่งฟังด้วยนั้น ใบหน้าของเหล่านางฟ้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางฟ้าองค์หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า ข้าอยากมีโอกาสได้เห็นพระพักต์ มหาเทพบ้าง จะขึ้นไปบนนั้น นั่นเท่ากับว่า ต้องถอดจากการเป็นเทพ เป็นเซียน แล้วต้องไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือหากทำผิด ก็ถูกส่งไป 15ชั้นดิน เจ้าต้องการแบบนั้นหรอ เทพองค์หนึ่ง เอ่ยขึ้น เจ้าวิหคน้อยเอ๋ย หากเจ้ายังนำเรื่องนี้บอกเล่าไปทั่ว 16ชั้นฟ้าอีก เห็นทีข้าต้องทำให้เจ้าขึ้นมาอยู่บนนี้เป็นเพื่อนข้า เจ้าต้องอยู่แต่ในกรงทองของข้าไปชั่วกัปชั่วกัลป์ เหล่า เทพ เทวดานางฟ้าต่างก็แตกตื่น จากสุรเสียงที่ได้ยิน เป็นใครไปไม่ได้ เสียงทีทรงพลังอำนาจแบบนี้ มีเพียงผู้เดียวคือ มหาเทพ ญาณทิพย์ของท่าน สามารถหยั่งรู้ไปยังโลกมนุษย์และ 15ชั้นดิน สุรเสียงของท่านกังวานก้องไปไกล ถึงชั้นเซียน วิหคน้อย ตกใจกับเสียงที่ได้ยิน ครั้นจะบินหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างวิหคน้อยหายวับไป ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่า เทพ และนางฟ้า
เจ้าสำนักชั้นเซียนที่ประจำอยู่แต่ละอาศรม รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าวิหคน้อย แสนรู้แสนซนนั่น ดูท่าแล้ว คงไม่ได้ออกมาบินโลดโผนโจนทะยานอีกแน่ เซียนท่านนึงกล่าว เช่นเคยที่สุรเสียงกังวานไปไกล ถึง 15 ชั้นดินรวมถึง นรกภูมิด้วย จอมมารครุ่นคิด วิหคสวรรค์ทำความผิด อะไรกัน มหาเทพ ถึงกับต้องจับตัวไป ความผิดที่วิหคสวรรค์ นำเรื่อง รูปลักษณ์ ของมหาเทพ ไปบอกกล่าวให้กับ เหล่าทวย เทพ เทวดา นางฟ้านั้น ถือว่าเป็นความผิดอันน้อยนิด แต่ที่ มหาเทพต้องจับตัววิหคน้อยมาเพื่อ ให้เจ้าสัตว์เทพ แห่งสรวงสวรรค์ได้รับรู้ว่า ความผิดอันใหญ่หลวงที่มันได้ทำไว้นั้น ร้ายแรงเพียงใด
หลังจากที่มหาเทพได้เข้าฌาน เก็บตัวอยู่หลายเพลา ท่านก็ลุกออกจากบัลลังก์ พากายท่านมาหยุดที่สวนสวรรค์ แต่วันนี้กลับไม่เหมือนวันก่อนๆ มหาเทพสังเกตเห็น ดงดอกบัวสวรรค์พันปี ที่วันนี้ดอกตูมชูดอกพ้นบ่อน้ำทิพย์ใหญ่กว่าปรกติ ท่านจึงเหาะไปดูใกล้ๆ พลันก็มีแสงสีทองเรืองรองระยิบระยับ เล็ดลอดกลีบดอกบัวพันปีออกมา อะไรกัน.. มันคือสิ่งวิเศษอะไรกันนะ มหาเทพ มองดูหมู่ ภมร ผีเสื้อ ต่างก็รุมล้อมอยู่ไม่ห่าง พวกเจ้าปกป้องสิ่งนี้อยู่หรือ มหาเทพเริ่มแปลกใจ ท่านโบกมือเพียงเบาๆ ดอกบัวทิพย์พันปี ก็ค่อยๆเผยกลีบออกอย่างช้าๆ หา...ท่านเอามือเข้าไปเขี่ย สิ่งที่อยู่ในดอกบัว อย่างนุ่มนวน แล้วก็เผยยิ้มอ่อนๆ ที่ไม่มีใครได้เห็นในรอบพันปีออกมา มหาเทพ ก้มกายลงไปอุ้มเอาร่างเด็กน้อยขึ้นจากดอกบัว พลันดอกบัวพันปี ก็หุบดอกใบแล้วจมหายไปยังก้นสระ มหาเทพอุ้มพาร่างเด็กน้อยเหาะกลับมายังที่ประทับ เจ้า..เป็นสิ่งวิเศษชนิดไหนกัน เด็กน้อยมองจ้อง เจ้าชีวิตของทุกสรรพสิ่ง เจ้าเกิดมาจากสิ่งใด มหาเทพได้แต่ครุ่นคิด แล้วก็มีเสียงจากจิตใต้สำนึกของ มหาเทพดังขึ้น สิ่งนี้เกิดจากเลือดในกายเจ้า ที่เกิดจากวิหคน้อยเผลอจิกเจ้าทำให้มีเลือดออก เสียงจากจิตใต้สำนึกบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น งั้น..ก็เท่ากับว่าเด็กนี่ คือเลือดเนื้อของข้าสิ ธิดามหาเทพได้จุติแล้ว มหาเทพยิ้มอ่อน ต่อไปนี้ข้าก็ไม่ต้องอยู่โดดเดียว ลำพังเพียงผู้เดียวอีกต่อไปแล้ว นอกจากเจ้าวิหคน้อย ที่อยู่ในกรงทองแล้ว ข้ายังมีเจ้าธิดามหาเทพอีก มหาเทพ ถึงกับเปล่งเสียงหัวเราะด้วยน้ำเสียงอันไพเราะออกมา เด็กน้อย ยิ้มละไม นี่เจ้ายิ้มให้ข้างั้นหรือ ฮ่าๆๆ เจ้าช่างเป็นสิ่งวิเศษ สำหรับข้าจริงๆ ท่านมหาเทพ จะไม่ตั้งชื่อให้เด็กน้อยคนนี้หรือ วิหคน้อยเอ่ย อืม..เกิดจากเลือดของข้า โตมากับดอกบัวพันปี งั้น..ฮวาเชียนเหนียน..ชื่อนี้คือเจ้า มหาเทพเรียกเอาปุยเมฆ มาเป็นที่รองรับร่างเด็กน้อย หยิบเอาดวงดาว มาร้อยห้อยเป็นโมบาย แขวน ต่อแต่นี้หน้าที่ของเจ้า คือดูแล เชียนเหนียน จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะปล่อยเจ้าออกจากกรงทอง วิหคน้อย ก้มหัวน้อมรับคำสั่ง สิ่งที่เจ้ารู้ เชียนเหนียนก็ต้องรู้เช่นกัน หากเชียนเหนียนผิด เจ้าก็ต้องถูกทำโทษ เจ้าคือนกรู้ รู้ใช่มั้ยว่าควรทำอย่างไร ข้าน้อยน้อมรับบัญชา เด็กน้อยเชียนเหนียน ด้วยชะตาที่ถูกกำหนดมาให้เกิดมาเป็นธิดามหาเทพ จากหยดเลือดของมหาเทพ มหาเทพจึง สะกดกายทิพย์ของ เชียนเหนียนไว้ ไม่ให้ร้อง ไม่ให้ เหล่าเทพ เทวดา นางฟ้า เซียน มาร ได้ยิน ได้กลิ่น รับรู้ ว่า มีนางมาจุติบน 16ชั้นฟ้า เชียนเหนียนจะโต้ตอบกับ มหาเทพ ทางญาณทิพย์เท่านั้น สวรรค์ชั้นขอบฟ้าที่เคยเงียบเหงามานาน นับพันนับหมื่นปี จะไม่เงียบเหงาอย่างที่เคยเป็นมาอีกต่อไปแล้ว มหาเทพครุ่นคิด หากเพียงแต่ว่า หยดเลือดของพระองค์ตกต้องลงบนพื้นหิน กรวดดินแล้วไซร์ มันจะเป็นเยี่ยงไรกันนะ จากธิดามหาเทพ คงได้เป็นโอรสมหาเทพแน่ๆ คงไม่ดีแน่หากต้องมีใครที่มีรูปร่าง หน้าตาเหมือน มหาเทพอีกองค์ มหาเทพได้แต่มอง เชียนเหนียนที่นอนหลับอยู่บนปุยเมฆ เจ้าเป็นสิ่งที่วิเศษ เหนือสิ่งใดทั้งปวง ชีวิต นิจนิรันด์ ชั่วกัปชัวกัลป์ ต่อไปนี้ของข้าจะต้องมีเจ้าอยู่เคียงข้าตลอดไป ฮวาเชียนเหนียน (ดอกบัวทิพย์พันปี)
เชียนเหนียนเติบโตขึ้นผ่านวันคืนไปอย่างรวดเร็ว มหาเทพ เนรมิต วิมานชั้นฟ้า ให้กับเธอ พร้อมกับกำหนดขอบเขตของเธอไว้ ไม่ให้พา กายเธอไปไกลกว่าวิมานที่ มหาเทพประทับอยู่ โดยมีวิหคน้อย บินคู่ไปกับเธอ หากแต่เชียนเหนียนตอนนี้ ยังพูดไม่ได้ ธิดามหาเทพ มีเหล่า สรรพสัตว์ที่อาศัยอยู่ใน สวนสวรรค์เป็นเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นดอกบัวสวรรค์ ต้นท้อพันปี และหญ้าปลุกชีพ กับหมู่ผีเสื้อราตรี ที่โบยบินไปมา เล่นเป็นเพื่อนกับเชียนเหนียน ธิดาน้อย ชะโงกมองไปยัง วิมานเบื้องล่าง แล้วมองไปยังวิหคสวรรค์ วิหคน้อยเอ่ยขึ้น ท่านออกไปพ้นเขตที่ท่านมหาเทพกำหนดไม่ได้หรอกนะ อย่ามองข้าน้อยเช่นนั้น ทำไมหรอ เชียนเหนียน ใช้ญาณโต้ตอบกับวิหคน้อย ทำไมบนนี้มีเพียงแต่ข้า กับมหาเทพ แล้ว เทพ องค์อื่นๆหล่ะ ไปประทับอยู่ที่ไหนกันหมด ทันใดนั้นเอง เจ้านกน้อย พาเชียนเหนียนกลับไปวิมานได้แล้ว เสียงมหาเทพ ลอยมาเข้าโสตประสาทของทั้ง เทพ และนก ได้ยินแล้วใช่มั้ย ไปกันเถอะ วันนี้เล่นสนุกแค่นี้ก่อน ตายจริง ข้าลืมไปว่า ไม่ใช่เพียงแค่ข้าที่ใช้ญาณได้เท่านั้นกับท่าน ท่านมหาเทพ ... ยังไม่รีบพาเชียนเหนียนกลับวิมานอีกหรอ รีบกลับกันก่อนที่ท่านจะจับข้าเข้ากรงทอง ไปกันเถอะ เชียนเหนียน จำต้องเหาะกลับวิมานพร้อมกับวิหคน้อย
เชียนเหนียเอ๋ย ข้าหวังเพียงแต่ว่า ให้เจ้าวิ่งเล่นมีความสุข อยู่เป็นเพื่อนข้าบน วิมานชั้นขอบฟ้านี้ ข้าไม่ต้องการให้ เทพ เซียน มาร ตนไหน รู้ว่าเจ้าได้จุติมา แน่นอน ว่ามันย่อมผิดกฎ ต่อ16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน แค่เพียงไม่มี เทพ เซียน มาร ตนใด รู้เรื่องของเจ้า และให้รู้ไม่ได้ว่าข้า เป็นผู้สร้างเจ้าขึ้นมา อยู่ใต้ข้าเพียงองค์เดียว แต่เหนือกว่าทุกสรรพสิ่ง มหาเทพ มองทอดสายตายาวไปนอกวิมาน หากข้าทำผิด ที่สร้างเจ้าขึ้นมา ขอให้ความผิดทั้งหมด มาตกอยู่แก่ข้า มหาเทพแต่เพียงผู้เดียว เจ้าจะต้องอยู่แต่บนชั้นขอบฟ้านี้ ข้าจะเนรมิตทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ไม่ว่า ดาว หรือ เดือน ขอเพียงแต่อย่าไปจากข้า
เซียนเหนียน ในแต่ละวันเวลาที่หมดไปกับการ เข้าฌาน นั่งก้มฐาน กำหนดจิต เพ่งกสินทำให้นาง มีอำนาจ หยังรู้ไร้ขอบเขต สามารถรับรู้ ทั้งหมด ไปได้ไกลถึงแดน โลกมนุษย์ แต่ ไม่อาจก้าวล่วงไปยังชั้นนรกภูมิได้ นั่นเพราะฌาน ตะบะ นางยังสะสมบำเพ็ญเพียรศีลไม่เพียงพอ แดนนรก นั้นพลังทำลายล้างรุนแรงนัก จิตของ เชียนเหนียน จึงไม่สามารถ ผ่านลงไปทั้ง 15 ชั้นดินได้ มหาเทพ หยังรู้ เรื่องนี้ จึงใช้พลัง ดึงจิตของนาง กลับขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า เจ้าซนมากเกินไปแล้ว ที่แห่งนั้นไม่ใช่ที่วิ่งเล่นของเจ้า ไม่มีอะไร หรือสิ่งไหนที่ มหาเทพไม่ล่วงรู้ ท่านล่วงรู้ ทุกเรื่องทุกสิ่ง ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน เพียงแต่ว่า ท่านจะยอมให้เรื่องไหน เข้ามาสู่จิต ของท่านรึเปล่าเท่านั้น
วิหคน้อย เจ้าฟังข้าให้ดี 2 3 เพลานับจากนี้ จะมีการจัดประชุม ชั้นเทพ และเซียน จงเฝ้าดู เชียนเหนียนให้ดี อย่าให้ เหาะลอยไป มา ให้ เทพ เซียบ องค์อื่นๆได้พบเห็นเป็นอันขาด น้อมรับพระบัญชา มหาเทพ วิหคน้อยรับคำ การประชุม เหล่าเซียน เทพในครั้งนี้ เป็นงานใหญ่ในหลายรอบ พันปี ผู้เข้าร่วมงาน จะเป็นเหล่า เซียนที่ก้าวผ่านข้ามขั้นมาเป็นเทพ และมนุษย์ที่ก้าวผ่านชั้นมาเป็นเซียน ทั้งเหล่า เทพธิดา และนางฟ้า ที่สถิตอยู่ ทั้ง 16 ชั้นฟ้า ต่างก็ต้องใช้พลัง ตะบะ ที่สั่งสมมานับร้อย นับพันปี เหาะพา ร่าง หรือ กายทิพย์เหาะขึ้นมาบนชั้นขอบฟ้า ไม่เว้นแม่แต่ จอมมาร แน่นอนว่าจอมมารเอง ย่อมต้องใช้พลัง ตะบะ บำเพ็ญมากกว่า เทพ หรือเซียน องค์อื่นๆ เพราะต้องผ่านทั้ง 15 ชั้นดิน และยังต้องเหาะข้าม 16 ชั้นฟ้าขึ้นมาบน ชั้นสุดขอบฟ้าอีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นถึง ฌาน ที่สั่งสมมา มีไม่น้อยเลย จะรองก็แต่ มหาเทพผู้เดียวเท่านั้น
ถัดไปยัง วิมาณที่อยู่ไกลลิบลับ มีเพียงเทพองค์หนึ่ง ที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเทพ ในครั้งนี้ ท่านนั่งเฝ้า วิมานแห่งนี้ อยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรนัก นั่นก็เพราะเป็นคำสั่งของมหาเทพ ที่ยกเว้นเพียงเทพองค์นี้ ที่ไม่ต้องเข้าร่วมประชุม นั่น วิหคสวรรค์นี่ บินอยู่กับ นางฟ้าองค์ไหนกัน แล้วกำลังจะไปไหนกันนะ ว่าแล้ว เทพหนุ่มรูปงามจึง ปรากฏกาย อยู่ตรงหน้า วิหคน้อย และขวางไว้ เจ้า!!! กำลังรีบร้อนไปไหนรึ วิหคสวรรค์ เทพหนุ่มชายตามอง นางฟ้าที่ลอยตัวเหนือปุยเมฆ อยู่ข้างๆ ข้า..กำลังนำทาง นางฟ้าองค์นี้กลับไปยังวิมานเบื้องล่าง นางฟ้าลืมของวิเศษ งั้นรึ เทพหนุ่มกล่าวตอบ โปรดหลีทางให้เราด้วย โอ๊ะ นี่ เจ้ากำลัง คุยกับข้าด้วยจิตงั้นรึ เทพหนุ่มจ้องมอง เชียนเหนียน เราต้องรีบไป หลีกทางให้ด้วย นางเอ่ย ฌานตะบะ นางฟ้าองค์นี้ แข็งแกร่งยิ่งนัก เป็นนางฟ้าอยู่วิมาน ไหนกัน ท่านเทพ หากเข้าร่วมประชุมไม่ทัน เกรงว่า ... เอาหล่ะๆ อย่าเอ่ยนาม มหาเทพ มาขู่เรา เชิญ เทพหนุ่มจึง หลีกทางให้
เชียนเหนียน เจ้ากำลังทำอะไร จะไปไหน เสียงของมหาเทพ ดังเข้ามาในจิต ธิดามหาเทพตกใจ ไม่มีอะไรที่ มหาเทพองค์นี้จะไม่รู้จริงๆหรอเนี่ย ข้าจะรอให้เจ้ากับ วิหคสวรรค์ กลับมารับโทษ เจ้าฉลาดล้ำ มาก ที่เลือกเอา เพลา นี้ เที่ยวเล่นซุกซน รอให้จบการประชุมเสียก่อน เจ้าทั้งคู่ ต้องอับเฉา อยู่บนวิมาน ของเจ้าแน่เชียนเหนียน วิหคสวรรค์ได้ยิน เยี่ยงนั้นแล้ว ขนตามลำตัวตั้งชัน ขนปีกข้าจะร่วงหมดแล้ว ธิดาน้อย เรากลับกันตอนนี้ยังทันนะ วิหคน้อยเอ่ย ไม่นะ อีกไม่ไกลก็จะถึงแล้ว เราอยากรู้ว่าเบื้องล่างต่างจากข้างบนอย่างไร ท่านไม่กลัวว่าข้าจะกลายเป็น นกย่าง งั้นรึ เชียนเหนียน ชีวิตน้อยๆของข้า ข้ายังอยากโผบินไปทั่ง 16 ชั้นฟ้าอยู่นะ เรากลับกันเถอะ เชียนเหนียน รำคาญเจ้านกน้อย จึงใช้ พลังสะกดให้วิหค น้อยหยุดพูดชั่วขณะ อ่า… สบายหูขึ้นเยอะเลย เงียบๆแบบนี้ไปก่อนนะ แล้วธิดามหาเทพก็เหาะลงมาหยุดที่ชั้นเชียน
ที่นี่ที่ไหน.. เชียนเหนียน คลายมนต์สะกดวิหคสวรรค์ ทันที ชั้นเซียนชั้นนี้ ว่ากันว่าเซียนชั้นนี้กำลังจะก้าวผ่านไปชั้นเทพ ผู้ที่กำลังบำเพ็ญ ตะบะ ก้าวผ่านชั้นเซียน คงจะเป็นเจ้าสำนัก ธิดาเทพ ท่านต้องทำตัวให้กลมกลืน กับพวกเซียนด้วย วิหคน้อยกล่าว ทันใดนั้น เชียนเหนียน ก็จำแลงแปลงกลาย เป็นเซียนน้อย ทันที อ่ะ เจ้าช่วยดูที เรา แตกต่างจากพวกเขาเหล่านั้นมั้ย.. วิหคน้อย บินวนไปมา แล้วเอ่ยขึ้น เห้อยย หากท่านยังใช้จิต สนทนากับข้าเช่นนี้ ก็คงจะต่างจากเซียนพวกนั้นเป็นแน่ จะให้ทำยัไงได้ มหาเทพ สะกดจิตเราไว้แบบนี้ ไม่ยอมคลายมนต์สะกดเสียที แบบนี้ก็ไม่สนุกแล้วหล่ะ วิหคน้อย กรอกตาไปมาก่อนเอ่ยขึ้น งั้นเรากลับวิมานของเรากันเถอะ ยังก่อน เราเพิ่งมาถึงที่นี่ จะรีบกลับไปไหน ว่าแล้ว ธิดามหาเทพก็รุดหน้าวิหคน้อยไป เชียนเหนียน เหาะเหิน ไปแอบดูตามอาศรม ต่างๆ ที่บางห้อง มีเซียนกำลังนั่งเรียน กันอยู่ เราอยากนั่งเรียนแบบนั้นบ้างจัง นางได้แต่คิด ทำไม อยู่ข้างบน วันเวลาหมดไปกับ ท่านมหาเทพอยู่องค์เดียว เราอยากมีเพื่อนร่วมเรียน สรรพวิชาแบบนี้บ้าง เอ๊ะ.. นั่นพวกเขากำลังเรียนวิชา บังคับกระบี่อยู่หรอ น่าสนุกจัง วิหคน้อยได้แต่บินตาม จนปีกแทบหัก รอข้าน้อยด้วย เชียนเหนียน นก 1 ตัว กับ ธิดามหาเทพแสนซน เหาะเหิน บินร่อนไปมาจนทั่วชั้นเซียนแล้ว จึงมาหยุดอยู่ ที่อาศรมแห่งหนึ่ง ซึ่งช่างดู เงียบเหงา และวังเวง นางยืนอยู่ที่หน้าอาศรม ก่อนจะพูดออกมาว่า ที่แห่งนี้ ทำไมทำให้ข้ารู้สึก เศร้า เหงา ทุกข์ ระทมจัง ทั้งๆที่ ทั่วอาศรม รายล้อมไปด้วย ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ลำธาร มัน ร่มรื่น แต่ก็ไม่อาจทำให้ชุ่มชื่นหัวใจได้เลย เอ๊ะ!! นั่น บัวสวรรค์นี่ ใครที่นำมาปลูกในที่แห่งนี้ได้ต้องไม่ใช่ เทพ หรือ เซียน ธรรมดาแน่ อ่า... ตรงนี้ ร่มรื่นจัง วิหคน้อย บินอยู่รอบๆ พร้อมกับเอ่ยว่า จวนได้เวลากลับแล้ว ท่าน เรารู้แล้ว ของีบเก็บแรง เหาะกลับวิมานสักครู่นะ วิหคน้อย ว่าแล้ว เชียนเหนียนก็ล้มตัว ฟุบหลับไต้ต้นไผ่ทอง ที่เมื่อกิ่งไผ่ต้องลมแล้วพริ้วสไว ส่องแสงระยิบระยับไปทั่ว วิหคน้อยจำต้องให้ธิดาเทพหลับฟุบ อยู่ตรงนี้ โดยมัน ทำหน้าที่ อารักขา เกาะอยู่บนกิ่งไผ่ใกล้ๆ หลับสักงีบก็ดีเหมือนกัน ปีกข้า คงต้องหัก แน่ๆ ถ้าไม่ได้พัก ว่าแล้ว เจ้านกน้อยก็หลับตาลงอย่างช้าๆ
มิอาจรอดพ้นพระเนตรของมหาเทพไปได้ มหาเทพจ้องมอง ทั้งวิหคน้อยกับ เชียนเหนียน ผ่านคันฉ่องส่องนภา เหาะลงไปเยี่ยงนั้น หมดปราน ก็เป็นปรกติ เอาหน่ะ ถ้าเจ้าตื่นขึ้นมา แล้วเหาะกับวิมานเจ้าไม่ไหว เราจะพาเจ้ากลับมาที่ ของเจ้าเอง นางคงเบื่อที่จะอยู่กับเราบนนี้ เลยไปเที่ยวเล่นซุกซนทั่ว 16 ชั้นฟ้า เราคงต้องยอมเจ้า ให้อยู่ห่างสายตาเราบ้างก็คงไม่เป็นไร
เชียนเหนียน เราต้องกลับวิมานแล้ว วิหคน้อยกระซิบที่ข้างหู ธิดามหาเทพ เจ้าของอาศรมกลับมาแล้ว เราต้องรีบกันแล้วนะ อืม..เชียนเหนียนลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาเบาๆ พร้อมกับยืดมือเหยียดเท้า เร็วเข้า นั่นเจ้าของอาศรม เหาะลอยมาใกล้ แล้ว ท่าน เชียนเหนียน หันมองไปเบื้องหน้า ก็พบกับร่างของ เซียนเทพหนุ่ม รูปงาม ผมยาวสลวย ชายเสื้อขาวยาวโบกพลิ้วสไว เชียนเหนียน เสียงทรงอำนาจเหมือนจะเตือนและปลุก ให้นางตื่นจากภวังค์ ชั่วอึดใจ นางพาร่างเหาะลอยขึ้น ผ่าน หน้าเซียนเทพไปอย่างรวดเร็ว เซียนเทพเองรู้สึกถึงพลัง นั้นได้ จึงหันมอง แต่ด้วยสายตาเซียนเทพเองก็ไม่สามารถมองเห็นร่างของ ธิดามหาเทพได้ เซียนเทพหนุ่ม ลอยลงมาหยุดที่ต้นไผ่สีทอง เขาสังเกตุเห็นบางสิ่ง จึงก้มลงหยิบ ขนนก วิหคสวรรค์นี่..ทำไมมาตก ร่วงหล่น อยู่ที่นี่ได้ เซียนเทพ สูดลมหายใจลึกๆ กลิ่นนี้. มันกลิ่นดอกไม้ชนิดไหนกันนะ ลู่เหริงไป๋ ได้แต่ครุ่นคิด แล้วพลังประหลาดที่ผ่านหน้า ข้าไปเมื่อครู่หล่ะ เซียนเทพเก็บขนนกวิหคสวรรค์แล้วเดินเข้าอาศรมไป ท่านเจ้าสำนักๆขอรับ 2 เซียนรอท่านเจ้าสำนักอยู่ที่โถงใหญ่ขอรับ เหริงไป๋ เก็บขนนกไว้กับตัวแล้ว รีบลุกจากห้อง ตรงไปโถงใหญ่ทันที เซียน ศิษย์พี่ และศิษย์น้อง ต่างก็รอฟัง ท่านเจ้าสำนัก บอกเล่าเรื่องราวกับการเข้าร่วมประชุมกับบรรดา เทพ เซียน นางฟ้า กับ ชั้นขอบฟ้า สูงสุดจาก 16 ชั้นฟ้า เราคงประมาท จอมมารไม่ได้เสียแล้ว ตงซานเกา ศิษย์พี่เอ่ย พลังของจอมมาร ที่สามารถ เหาะข้าม 15 ชั้นดินขึ้นไปสู่สุดขอบฟ้าได้ ถ้าหากวันใดจอมมารยกกองทัพมา คิดว่า เชิงเขา ซูซันก็คงต้านไว้ไม่อยู่ หรือเจ้าคิดว่าไง หยางหลิวเฟิง
ขณะที่จอมมาร กำลังเหาะพาร่างกลับยัง 15 ชั้นดินนั้นเอง เอ๊ะ.. นั่นเทพหรือเซียน องค์ใดเล่าถึงได้มีพลังปราณ ที่ทรงพลังเช่นนี้ ถึงแม้จะมองไม่เห็นแจ่มชัดนัก แต่ด้วยกำลังปราน ของจอมมาร ก็พอจะเพ่งมองได้ นางฟ้ากับ วิหคสวรรค์งั้นหรอ เพียวอี้หง หากไม่เพราะข้าต้องรีบกลับ แดนนรกก่อน พระอาทิตย์ตก คงต้องตาม นางฟ้าองค์น้อยกับวิหคนั่นไปแน่ๆ จอมมารหนุ่ม หันหลังกลับไปมอง พร้อมกับ รวบรวมสมาธิ เร่งเหาะกลับ แดนนรกไป ระหว่างเดินทาง ก็ได้แต่ครุ่นคิด ถึงแม้เจ้าจะซ่อนกายทิพย์ไว้ ภายใต้รูปของเซียนน้อย เจ้าตบตา ข้าไม่ได้หรอก อี้หงได้แต่รำพึง อยู่ในใจ




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2558
0 comments
Last Update : 21 ตุลาคม 2558 21:27:26 น.
Counter : 508 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


fanrongjaing
Location :
Taiwan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






blogger analyzer
New Comments
Friends' blogs
[Add fanrongjaing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.