|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความสุขเป็นอย่างนี้นี่เอง
ความสุขของฉัน ไม่ใช่มาจาก การได้ของทุกสิ่งที่อยากได้ ไม่ใชมาจาก การเรียนจบ หรือ คนอื่นมองว่าประสบความสำเร็จ ไม่ใช่มาจาก การขับรถราคาหลายล้าน และ ไม่ใช่มาจาก การมีเงินเยอะ ๆ อะไรเลย
วันนี้ ความสุขที่ทำให้ฉัน หยุดยิ้มไม่ได้ไปเป็น ชม. คือ ความสุขจากการให้ ให้โดยที่ ไม่ได้หวังอะไร และ ตัวเองก็ไม่ได้เดือดร้อน จากการให้ด้วย
วันนี้เอง ระหว่างที่ฉันตั้งใจจะประหยัดค่ารถมอเตอร์ไซค์ 20 บาท จากสถานีเอกมัย ถึง ม.กรุงเทพ ซึ่งห่างกันแค่ กิโล เดียว เพื่อไปเอารถที่จอดฝากไว้ แล้ว จะได้กลับบ้านซะที ฉันจึงตัดสินใจเดินเอา ทั้ง ๆ ที่ รองเท้าก็เหมือนจะกัด
เกือบจะถึงสี่แยก อยู่แล้ว อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึง เดินเข้ามาคุยกับฉัน มือข้างนึงของเค้าถือถุงยา ตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้น เริ่มพูดกับฉันว่า
"พี่ไม่ได้มาขายอะไรนะ คือพี่เป็นไวรัสตับอักเสบ แล้วมาหาหมอ แต่ยามันไม่ได้รวมอยู่ในบัตร 30 บาท น้องลองไปหาข้อมูลดูก็ได้ ว่ามียาตัวนึง ที่ไม่ได้รวมจริง ๆ"
ฉันงง ๆ กับคำพูดเหล่านั้น แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป คิดในใจ เผื่อว่า ถ้ามีทีท่าไม่ชอบมาพากล ฉันจะแอ๊บเป็น นศ. ต่างชาติ ฟังภาษาไทยไม่ออก 555 แม้หน้าฉันจะไทยเหลือเกิน
ฉันตอบเค้าด้วยการ เลิกคิ้ว เชิงว่า "แล้วยังไงต่อคะ"
ผู้หญิงคนนั้นพูดต่อว่า ... "คือพี่ก็อาย ไม่กล้าพูดกับใคร หมดค่ายาไป 300 กว่าบาท บ้านพี่อยู่คลองด่าน พี่มีลูกสองคน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ตอนนี้ไม่มีตังกลับบ้าน พี่อยากจะขอให้น้องช่วยค่ารถกลับบ้านหน่อยได้มั๊ย"
ฉันมองเข้าไปใน ตา ผู้หญิงคนนั้น หาความจริงใจในน้ำเสียง และ แววตา บอกตรง ๆ ว่า ฉันไม่ได้มีความสามารถในการอ่านคนเท่าไหร่หรอก คำ ๆ นึง ก็เลยหลุดออกไปว่า เชิงถามหาความจริงใจว่า "เท่าไหร่คะ"
พี่เค้าตอบมาว่า "คือถ้าพี่เดินจากตรงนี้ไปหน้าวัดธาตุทอง มันจะมีรถตู้ไป คลองด่าน คืองพี่จะนั่งไปลงสำโรง ก่อน ก็ได้ แต่ก็คงรอนานนิดนึง ชีวิตคนเราก็ต้องอดทน มัน 40 บาทน่ะ"
พอฉันได้ยินคำว่า 40 บาท ปุ๊ป ... ไม่ต้องถามหาความจริงใจอะไรแล้ว ฉันเปิดกระเป๋า หยิบแบงค์ร้อย ที่มี ให้พี่เค้าไป 1 ใบ
ภาพที่เห็น สะท้อนกลับมาสู่สายตาฉัน ก็คือ พี่เค้าเริ่มน้ำตาคลอ แล้วพูดว่า "โห มีคนแบบนี้ด้วยหว่ะ น้องเรียนที่ไหน พี่เรียนเป็นช่างเสริม สวยอยู่ตรงนี้ เด๊วพี่ทำงานแล้วจะเอามาคืนนะ ให้พี่ตายแทนได้ พี่ยอมเลย พี่อยากไหว้ แต่พี่ไม่กล้าไหว้น้องนะ เพราะกลัวน้องอายุสั้น"
"ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้เดือดร้อนอะไร จริง ๆ จากตรงนี้พี่นั่งรถเมล์ ออกไปตรงนู้นก็ได้ กลับบ้านดี ๆ นะคะ"
ฉันยิ้มและเดินจากไป ... เสียงแว่ว ๆ มาจากด้านหลังว่า
"เดินทางปลอดภัยนะน้อง เดินมองซ้ายมองขวาดี ๆ นะ ฯลฯ" (จำไม่หมด)
หันกลับไปยิ้มหนึ่งที แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ"
-----------------------------------------------------------------------------
คุณผู้อ่านรู้มั๊ยคะว่า แค่เงิน 100 บาท ที่เราเห็นมันว่าไม่ค่อยจะมีค่าอะไร มันสามารถทำให้คน ๆ นึง ปลื้มใจซะจน น้ำตาจะไหล ได้เลย แล้วความสุขนั้น มันสะท้อนกลับมาหาฉันเดี๋ยวนั้นเลยด้วย
คำพูดของพี่เค้า มันวน ๆ ๆ ๆ อยู่ในหัว แววตา รอยยิ้ม ทุกอย่าง สามารถทำให้ฉัน นั่งยิ้ม ขณะขับรถกลับบ้าน ยิ้มไปตลอดทาง ฉันอยากจะอวดพ่อกับแม่ว่า ฉันทำความดีมานะ อยากให้แม่กับพ่อมีความสุขกับฉันด้วย
แต่ยังไงก็ตามทุกวันนี้ ฉันไม่ได้ทำงาน ... เงินที่ฉันใช้อยู่ตอนนี้ คือ เงินของพ่อกับแม่ ฉะนั้น ... พ่อกับแม่ก็คงจะได้บุญจากสิ่งที่ฉันทำแน่นอน
ขณะขับรถกลับบ้าน ฉันคิดอะไรหลายอย่าง ว่าถูกแล้วเหรอ ที่ฉันให้เค้าไปแค่ 100 บาท คิดดูดี ๆ รายได้ประจำของฉัน มีมูลค่า 2 ชม. 500-800 บาท แล้วทุกวันนี้ ฉันไม่ได้ทำงาน ฉันใช้เงินพ่อกับแม่ ในกระเป๋าตังฉันมีอยู่ 400 ได้ ... การให้ไป ร้อยนึง ไม่เดือดร้อนจริง ๆ
ฉันเคยคิดว่า ถ้าฉันทำงานได้เดือนละเป็นแสน ฉันคงรู้สึกเฉย ๆ ที่ถ้ามีใครเดือดร้อนแล้วมาแบบนี้ แล้วฉันควักตัง พันนึง ให้ ให้เปล่า ๆ โดยไม่หวังหรอกว่า จะต้องเอามาคืน
แต่ฉันจะมีอย่างนั้นไปเพื่ออะไรล่ะ ในเมื่อวันนี้ ชั่วโมงนี้ จากการให้เพียงแค่ 100 บาท มันทำให้ฉันมีความสุขมาก
สิ่งที่ฉันเรียกได้ว่า ความสุข ชั่ววูบ ที่ผ่านมาในชีวิต มีไม่มากนัก ก็คือ 1. เวลามีความรัก ที่เวลานึกถึงกันทีไร ก็ยิ้มกับคำพูดธรรมดา ๆ ที่พูดกัน และ 2. การที่เราได้ทำสิ่งดี ๆ เพื่อคนอื่น แบบ ไม่หวังผลตอบแทนเลย
ความสุขตอนนี้มันล้นซะจน บอกไม่ถูกเลย คิดถึงเหตุการณ์นั้นทีไร รู้สึกหัวใจพองโต ที่มาพร้อมกับ รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า
อีกคำอวยพรนึง "ขอให้น้องได้แฟนรวย ๆ นะ" 555 แอบขำ แต่จะอวยพรอะไรดีล่ะ สำหรับสาวอายุ 22 อย่างฉัน คือชีวิตผู้หญิง เอาจริง ๆ แล้ว ถ้าไม่มีสามีรวย ก็ดูจะลำบาก คิดง่าย ๆ ตามหลักชาวบ้านทั่วไป
แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ฉันอยู่ได้ ฉันมีครอบครัว มีพ่อ มีแม่ มีตัวฉันเอง ฉันคิดว่า ฉันเลี้ยงทุกคนได้ การมีสามีรวย ไม่ใช่ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันหรอก
หวนมาคิดเรื่องเนื้อคู่ที่ว่า ศีล ปัญญา จาคะ ต้องเสมอกัน จาคะ คือ การให้ ... แสดงว่า คน ๆ นั้นของฉัน ก็คงจะมีจิตใจระดับนี้เช่นกัน คิดอย่างนี้ไม่มีความสุขอะไรเลย นอกจากความสบายใจ ^ ^
-----------------------------------------------------------------------------
Create Date : 16 เมษายน 2552 |
Last Update : 16 เมษายน 2552 19:48:44 น. |
|
4 comments
|
Counter : 504 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Suvamarn Punyarnun Kalisz IP: 85.82.239.144 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:3:00:03 น. |
|
|
|
โดย: อัสติสะ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:17:22:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ อาจะไม่เห็นได้ด้วยตา ฉันได้ฝากเอาไว้อยู่บนพื้นดิน และ ท้องฟ้า มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ...
|
|
|
|
|
|
|
From Copenhagen Denmark