Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
วันพระที่ 2

แปลกที่ความอึดอัดต่อการปฏิบัติตัวน้อยลงมาก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะครั้งที่ 3
แต่ฉันนับเป็นครั้งที่ 2 เพราะถือศีลล่วงหน้า ถือวันโกนไป ไม่นับแล้วกัน
การไม่ฟังเพลง การไม่ดูมหรสพใด ๆ การใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้าง
ก็มีความสุขดีนี่นา ... จิตใจปลอดโปร่งดี

การไม่กินเพื่อความคะนองกาย ทำให้ฉันไม่อึดอัด
ไม่รู้สึกอิ่มเกินไป หรือ ขี้เกียจจนเกินไป จริง ๆ ด้วย

การไม่ฟังเพลง ... ทำให้ฉันไม่ต้องคิดโยงเนื้อเพลงกับชีวิตจริง
อย่างกับนางเอกเล่น MV กับความเจ็บปวดที่ผ่าน ๆ มา

การไม่ดูมหรสพใด ๆ ... ทำให้ฉันไม่ต้องมีอารมณ์มากมายมากระทบใจ
ให้เกิดความว้าวุ่น ให้เกิดความโลภ เกิดราคะ เกิดโมหะ
ที่ไม่มีโทะส เพราะการดูทีวีแล้วโกรธไม่ค่อยเกิดขึ้นกับฉันเท่าไหร่นัก - -

การไม่นอนบนเตียงนุ่ม ๆ ... ทำให้ฉันตื่นเร็วขึ้น เพราะปวดหลัง แล้วรู้จัก
คำว่า พอเพียง ของชีวิต ว่า บางทีเราไม่ต้องซื้อความสะดวกสบายจนเกิน
ไปให้กับตัวเองก็ได้ ในเมื่อความสุขทั้งหมด อยู่ที่ใจของเราเอง

ถือศีล 8 เป็นปกติ จริง ๆ แล้ว ศีล คือ ความปกติของจิตนี่นา
ตื่นมา ก็เจ็บแขน เจ็บหลัง เช่นเดิม
เพราะว่า ระเห็ดมานอนพื้น และคิดว่า อาจจะอยู่ในห้องนี้ตลอดไป
ไม่กลับไปนอนข้างบนอีก ถ้าจะนอนดึก และ วันพระ
เพราะเป็นการรบกวนทุก ๆ คนที่นอนอยู่ในห้องรวม

วันนี้สิ่งที่เล็งไว้อยากจะทำมาก ก็คือ การพับดอกบัว
หลังจากเมื่อวันก่อนแวะไป B2S ครูพักลักจำ หนังสือการพับดอกบัวมา
กะว่าจะไปซื้อที่งานหนังสือ แต่ anyway ก็ต้องเสียเวลาเดินหาอีก
แม้จะได้หนังสือที่ถูกลง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่ารถ + การเบียดเสียดคน
วันไหนไป B2S อีกก็อาจจะซื้อเลย
หนังสือธรรมะที่ชอบ ที่ซื้อมาก็ยังอ่านไม่หมดด้วยซ้ำ
แถมช่วงนี้ อ่านกี่เล่ม ๆ ก็ได้แนวคิดเดิม ๆ ขาดอยู่แต่ก็การปฏิบัติ
และบนแผงหนังสือ ก็ไม่มีเล่มไหนแปลกใหม่เลย
เพราะส่วนใหญ่ มีที่บ้านเกือบหมดแผงแล้ว

จากที่เคยพับดอกบัวเป็นสามเหลี่ยม
วันนี้ ลองพับครึ่ง แต่ละกลีบ ตามภาพที่จำมา
ได้ดอกบัวอีกแบบนึงเลย จำได้ที่พับเสร็จดอกแรกแบบที่ไม่เคยพับมาก่อน
แล้วมันรู้สึก อิ่มใจ มีความสุข ยังไงไม่รู้
เมื่อรู้ว่า ของสิ่งนี้ จะถูกนำบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน
ไม่ใช่การพับ การประดิษฐ์เล่น เพื่อความสวยงามส่วนตัวแต่อย่างใด
เด๊วไว้คราวหน้า อาจจะทำ How to พับดอกบัว ^ ^
วันนี้ถ่ายรูปไม่ทัน มัวแต่อิ่มเอิบกับสิ่งที่ตัวเองทำ

ช่วงอาทิตย์สองอาทิตย์มานี้ ... ไปยืมหนังสือ กรรมพยากรณ์ มาอ่านให้จบ
จริง ๆ อ่านจบไปแล้วตอนนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับเนื้อคู่
แต่ตอนนี้ ชื่อตอน เลือกเกิดใหม่
คือ จริง ๆ เคยยืมมาแล้ว พออ่าน ๆ ไปพบว่าเป็นเรื่องราวของเด็กม.ปลาย
ก็ไม่ค่อยสนใจ เพราะมันอาจจะไม่ตรงกับชีวิตตัวเอง
แต่นึกยังไงไม่ทราบ ไปหยิบมาอ่านใหม่ ยืมมาวันพฤหัสที่แล้ว
ใช้เวลาอ่านเกือบอาทิตย์นึง ตอนนี้ใกล้จบเล่ม แล้ว
อยากเขียน Review มาก แต่ก็คงรอให้จบก่อน
เนื้อหาที่ว่า จะเป็นเกี่ยวกับเด็กม.ปลาย นั้น ผิดคาดมาก
เรื่องราวกลับกลายเป็นค่อนข้างแรง และส่วนใหญ่ สอนถึง
การมีเซ็กซ์ที่ผิด โดยเหตุมาจาก การเข้าข้างตัวเอง

อ่านแล้ว ระลึกเรื่องกฏแห่งกรรม ได้ดีมาก
ทำให้การใช้สติของแต่ละวันของชีวิต ระวังการกระทำของตนเองมากขึ้น
เพราะกลัวกฏแห่งกรรมสนองตอบกลับมา
วิบากกรรมไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แน่นอน

เช่น เมื่อวาน พูดไม่ค่อยดีกับพ่อ ของตัวเอง
หลังพูดจาแบบนั้นเสร็จไป ก็ระลึกได้ว่า
จิตใจ แฝงอยู่ด้วย ความดูถูก ความไม่ชอบ ในตัวบุพการี แบบนี้
ผลสนอง ก็คงจะเป็น การโดนดูถูก และ การโดนเสียดสีจากคนรอบข้างแน่
และก็คงจะปวดแสบปวดร้อนทางใจเป็นทวีคูณ
แต่ทำไปแล้ว ก็คงต้องก้มหน้ารับผลของกรรมที่จะตามมา
อย่างเลี่ยงไม่ได้ ... ทำกับใครไม่ทำ ทำกับ บุพการี เฮ้อ
ก็แค่ระวังกาย ระวังใจ ระวังวาจา อย่าให้เกิดขึ้นอีกอย่างจริงจัง
ต่อไปนี้ จะสร้างแต่กรรมขาวเท่านั้น
จะว่าอินกับเรื่องราว ก็ไม่เชิง แต่อินกับสิ่งที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องมากกว่า

จะตอบแทนผู้เป็นพ่อ นั้นทำไมช่างยากเย็นเสียอย่างนี้
พ่อไม่เคยเปิดใจฟังธรรมะสักเท่าไหร่
วัน ๆ หมกมุ่นแต่การเมือง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้จะเกี่ยวกับจิตใจกับชีวิตเราโดยตรง
แม้จะเกี่ยวโดยทางอ้อมก็ตาม แต่มันคือสิ่งที่ไม่น่าใส่ใจ
แต่ยังไงก็ตาม ... ความสนใจของคนเราแตกต่างกัน
หวังว่า พ่อจะคิดได้สักวันนึง ไม่มากก็น้อย

ชีวิตหนึ่ง ๆ เหมือนความฝัน ที่วนเวียนอยู่ไม่รู้จบรู้สิ้น
การที่ชีวิตมาลงเอยแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะ เคยสร้างกรรมอะไรมาไว้
การทำดีนิด ๆ หน่อย ๆ ในความคิด ส่งผลมากมายมหาศาล
และก็เช่นเดียวกับ การทำชั่วนิด ๆ หน่อย ๆ ที่คิดว่าไม่ผิด
ก็ส่งโทษมากมายมหาศาลถึงขนาดเปลี่ยนภพไปอบายภูมิได้เลยทีเดียว

กรรมในชาติก่อน ๆ ส่งผลมาเป็นพื้นดวงในชาติปัจจุบันก็จริง
กรรมในชาติก่อนเซตทาง ลุยทาง ถางหญ้า ถางพง มาให้เรียบร้อยแล้ว
บอกแล้วแต่ว่า เราจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แต่ท้ายสุดแล้ว เราเองเป็นคนเลือกเดินว่า จะถูกกรรมให้ซัดพาไป
หรือว่า จะเลือกทางใหม่ ทางที่ไม่มีการถางหญ้า ถางพง ให้มาก่อน
แต่เป็นทางที่จะนำไปสู่ชีวิตใหม่ ๆ ที่เราจะสามารถลิขิตกรรมของตัวเองได้
ไม่ใช่ให้กรรมมาลิขิตตัวเรา ...

บางคนเกิดมาหน้าตาธรรมดา ๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นดูไม่ได้
แล้วคิดว่า ตัวเองหน้าตาแย่ ทำให้เกิดทุกข์ทางใจเพราะอะไรกัน
แค่เกิดเป็นมนุษย์ มีปัญญาพอจะเข้าใจ สัจธรรม
และเลือกทำความดีได้ ก่อนจะตายในชาติหนึ่ง ๆ แค่นั้นก็เกินพอ
บางคนเกิดมาเจอกับความร้ายกาจแห่งโชคชะตา
แล้วบ่นว่า เลือกเกิดไม่ได้ ... อันนี้ถ้าอิงหลักกฏแห่งกรรม
ดูเหมือนจะเป็นการปลอบใจตัวเองอย่างหลอกตัวเองไปวัน ๆ
ทุก ๆ สิ่ง ล้วนเป็นผลแห่งการกระทำของตัวเองทั้งสิ้น
ถ้าหันมาเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองจริง ๆ จัง ๆ
เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีดำเนินชีวิต สร้างแต่กรรมขาว
แล้วชีวิตนี้ยังไม่ดีขึ้น ก็ให้รู้กันไปว่า กรรมดำที่ทำมายังไม่หมด
แต่เชื่อได้ว่า ทำดีแล้ว อนาคตข้างหน้าดีแน่
เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง แล้วลบคำที่ว่า ก็เลือกเกิดไม่ได้นี่

การเกิดมาในชาตินี้ของฉันเอง โชคดีนัก
คุณสมบัติถึงจะสู้ใคร ๆ หลาย ๆ คนไม่ได้ แต่ฉันร่างกายสมบูรณ์ดี
สติปัญญาฉันเปิดรับพุทธศาสนาดี และเชื่อในวิบากกรรมที่สุด
ฉันฝักใฝ่ในทางธรรมะ แค่นี้ การเกิดมาชาตินึงอาจจะยังไม่พอกับการหยุด
หยุดวงเวียนชีวิต ท่องเที่ยวในวัฎฎะนี้ แต่อย่างน้อย
สิ่ง ๆ นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้น อย่างน้อย ฉันก็ไม่ได้ มาสว่างและจะไปมืดแน่นอน
การลงอบายภูมิจากการเป็นมนุษย์ มันไม่ใช่การเริ่มนับ 1 ใหม่
แต่มันคือการมีจิตวิญญาณติดลบ กี่พันแสนกี่พันล้าน ไม่รู้
ก็บริหารความเสี่ยง อยู่ภพมนุษย์ กันต่อไป


Create Date : 18 มีนาคม 2552
Last Update : 18 มีนาคม 2552 11:02:28 น. 4 comments
Counter : 591 Pageviews.

 
เห็นด้วยครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:18:58:21 น.  

 
ลืม ไป ๆ upblog วันไหนก็บอกกันบ้างนะครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:18:59:46 น.  

 
วันนี้เขียนยาวเชียวนะ
จริง ๆ เราว่าถือศีลก็ดี
ไม่มีอะไรมากระทบใจ ไม่คิดมากดี ...
ชอบที่เจนเขียนตรงนี้


โดย: แพนด้า500 IP: 125.27.54.247 วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:1:23:07 น.  

 
การไม่ฟังเพลง ... ทำให้ฉันไม่ต้องคิดโยงเนื้อเพลงกับชีวิตจริง
อย่างกับนางเอกเล่น MV กับความเจ็บปวดที่ผ่าน ๆ มา

^
^
^

ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ
เวลาฟังเพลง เจอเพลงไหนโดนใจ ก็ชอบเอามาโยงกับชีวิตจริงทุกทีสิน่า
ถ้าเป็นเพลงที่มีความสุข ก็ฟังแล้วยิ้มได้
แต่ถ้าเป็นเพลงเศร้า ก็เศร้าไปด้วยเลย


โดย: Cherry (ความสวยเปล่งประกายในสายลมหนาว ) วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:15:59:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenniepoko
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ อาจะไม่เห็นได้ด้วยตา ฉันได้ฝากเอาไว้อยู่บนพื้นดิน และ ท้องฟ้า
มันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ...

Friends' blogs
[Add jenniepoko's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.