Group Blog
 
 
สิงหาคม 2556
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
Banoffee Pie

วันนี้ชวนอ้วนกันอีกแล้ววววววว  เจนขอนำเสนอ Banoffee Pie สามีรีเควสมาเลยจัดให้ ทำง่ายอีกแหล่ะ แต่หลายขั้นตอนนิดนึง รับรองอร่อยเหาะ ถูกใจคนชอบกินกล้วยหอมแน่นอนจ้ะ



สูตรวันนี้ไม่ใช้บิสกิตทำฐานนะจ้ะ สามีบอกอยากกินฐานที่เป็น Pasty (สร้างความยุ่งยากในการทำให้เมียอีก) อ่ะ...ขอมา...จัดไป แต่ใครจะใช้ฐานที่เป็นบิสกิตบดละเอียดก็ไม่ว่ากันเน้ออออ ตามสบายแล้วแต่ชอบจ้ะ แต่เจนบอกก่อนนะ Pasty ที่นำเสนอสวันนี้ อร่อยจริงไรจริง อยากให้ลองทำดู ไม่ยากจ้ะ

ไม่พร่ามล่ะ มาดูสูตร ส่วนผสม และวิธีทำกันเลยจ้ะ

ส่วนผสมของ Pasty

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์   300   g.
2. น้ำตาลทราย   50   g.
3. เนยสด (อ่อนตัว และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)   250   g.

ส่วนผสมของคาราเมล

1. นมข้นหวาน   4   tbsp.
2. เนยสด   30   g.
3. วิปครีม หรือนมข้นจืด   50   g.
4. น้ำตาลทราย   50   g.
5. ผงกาแฟ   1   tsp.

ส่วนผสมของซอสช็อคโกแลต

1. น้ำเปล่า   150   g.
2. นมข้นจืด   100   g.
3. น้ำตาลทราย   200   g.
4. ผงโกโก้   3   tbsp.
5. แป้งข้าวโพด   4   tbsp.
6. กลิ่นกล้วยหอม   1   tsp.
7. เนยสด   30   g.

ส่วนผสมหน้าบานอฟฟี่

1. กล้วยหอม   5   ลูก
2. ดับเบิ้ลครีม   280   g.
3. น้ำตาลไอซิ่ง   5   tbsp.


เรามาเริ่มทำ Pasty กันจ้ะ

วิธีทำ 



1. นำทุกอย่างใส่รวมกันในอ่างผม 



2. นวดให้เข้ากันด้วยมือจ้ะ



3. นำทุกอย่างใส่รวมกันในอ่างผามแล้วนวดให้เข้ากันด้วยมือจ้ะ




ระหว่างรอหมักแป้ง เรามาทำคาราเมลและซอสช็อคโกแลตเตรียมไว้ก่อนเลยจ้ะ

วิธีทำ คาราเมล



1. ใส่ทุกอย่างรวมกันในหม้อ ยกเว้นเนยสด แล้วกวนให้พอเข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน



2. รอให้คาราเมลเดือด ส่วนผสมงวด ข้น แล้วปิดเตาจ้ะ



3. ใส่เนยสดลงไปเลยจ้ะ



4. คนให้เนยละลายเป็นเนื้อเดียวกับคาราเมล แล้วทิ้งไว้รอจนคาราเมลเย็น



5. หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นๆ 



6. เอากล้วยคลุกกับคาราเมลให้ทั่วกัน คลุกเบาๆ อย่าให้กล้วยช้ำจ้ะ แล้วใส่ถ้วย แรปด้วยพลาสติก รอเวลาเอาไปแต่งบนฐาน pasty




เรามาทำะซอสช็อคโกแลตต่อกันนเลยจ้ะ

วิธีทำ



1. ผสมทุกอย่างลงไปในหม้ออีกเช่นเคยจ้ะ



2. คนทุกอย่างให้เข้ากันดี อย่าให้มีเม็ดแป้งเหลืออยู่



3. นำไปตั้งไฟกลาง ระหว่างนั้นคนด้วยตะกร้อมืออย่าหยุด คนไปเรื่อยๆ ซอสเดือด และข้น ดังรูปแล้วปิดเตาจ้ะ



4. ใส่เนยสดลงไป คนให้เนยสดละลายเข้ากันดีกับเนื้อซอส



5. รอให้ซอสเย็นลงซักพักแล้วค่อยเติมกลิ่นกล้วยหอมลงในซอส คนให้เข้ากันอีกรอบ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำซอสจ้ะ




เรามาต่อกันเลยดีกว่าจ้ะ วอร์มเตาไว้ก่อน ที่ 200 องศาซี นะจ้ะ

1. เมื่อหมักแป้งจนได้ทีแล้ว นำแป้งมาวางไว้ในพิมพ์แล้วใช้ฝ่ามือกรุแป้งลงในพิมพ์จ้ะ


2. กรุให้เรียบๆ สวยๆ แล้วแต่งลายขอบตัวพายเราด้วยด้ามช้อนนิดนึง


3. ใช้ส้อมเจาะเนื้อแป้ง เจาะเบาๆให้ทั่วฐานจ้ะ



4. จากก่อน ก่อนเข้าอบ ให้นำฐานพิมพ์เค้กกลม ขนาด 3 ปอนด์ (หรืออะไรได้ แบนๆ ให้มีน้ำหนักซักนิดนึง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว) ทับฐานพายไว้ก่อนเข้าเตาอบ เพื่อไม่ให้ฐานพายพองตัวมากเกินไปจนเสียรูปจ้ะ



5. จากนั้น นำเข้าอบเลยจ้ะ ใช้ไฟ 200 องศาซี นาน 20 นาทีจ้ะ



6. เมื่ออบฐานพายเสร็จแล้ว วางฐานพายบนตะแกรง รอให้เย็น แล้วค่อยงัด ฐานพิมพ์เค้กกลม ที่ทับหน้าฐานออกอย่างเบามือ



7. ฐานพายเย็นแล้ว เราก็ราดซอสช็อคโกแลตลงไปบนพาย เคลือบให้ทั่วหน้าฐานพายจ้ะ



8. นำกล้วยที่เคลือบชุ่มด้วยคาราเมลวางเรียงทับซอสช็อคโกแลตให้ทั่วทั้งพาย




ขั้นตอนการตีครีมแต่งหน้า Banoffee Pie จ้ะ



1. เทครีมลงในอ่างผสม แล้วตีด้วยความเร็วสูง ระหว่างนั้น ก็เติมน้ำตาลไอซิ่ง ลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ



2. ตีไปเรื่องจนครีมแล้วฟูและตั้งยอดแข็งอย่างในรูป ก็ปิดเครื่องตีได้เลยจ้ะ



3. นำครีมมาแต่งหน้าพายได้เลยจ้ะ ใครจะโปะครีมลงแล้วปาดๆ หรือจะให้ถุงบีบแล้วบีบแต่งหน้าพาย ก็ไม่ว่ากันจ้ะ ตามสะดวก แต่ใส่ถุงบีบแต่งหน้าพายง่ายกว่าเยอะ อิอิ



4. แต่งหน้าเสร็จ นำไปแช่ตู้เย็น ซัก 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมของเราเซ็ตตัว



5.  เมื่อบานอฟฟี่พายของเรา เช็ตตัวดีแล้ว ก็นำมาถอดออกจากพิมพ์ แล้วจึงค่อยนำออกมาตัดกินจ้ะ




แท่นน...........แท้นนนนน...........แท๊นนนนนนนน



กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ทำทั้งของคาวของหวานในเวลาพร้อมๆกัน สนุกจ้ะ ผ่านไปอีกวัน กับขนมและอาหารฝีมือเรา ขอให้ทุกคนสนุกกับการทำขนมจ้ะ

สำหรับวันนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และทุกคอมเม้นท์จากเพื่อนๆ ทุกคนจ้ะ 

Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley



Create Date : 05 สิงหาคม 2556
Last Update : 5 สิงหาคม 2556 1:32:54 น. 3 comments
Counter : 1956 Pageviews.

 
มันน่ากินมากๆคราบบบบบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:6:55:09 น.  

 
น่าทานจังเลยค่ะ ทำซะสวยเลยทั้งการบีบครีมและการทำขอบพายด้วยด้ามช้อนแบบนี้ ไว้ยืมทริคนี้ไปทำบ้างนะคะ


โดย: ไม่ต้องหวานซึ้ง...ก็นึ่งได้ วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:9:44:51 น.  

 
น่าทานค่ะ แม้จะยุ่งยากหลายขั้นตอน แต่ความอร่อยก็คุ้มค่ากับการทำจ้า..


โดย: เนินน้ำ วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:10:24:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วันนี้วันพระ
Location :
Wolverhampton United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]





Copyright (c) 2009
Aunt'Jen All Rights Reserved.
สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ. 2539
ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพและรูปวาดบทความ
ใน Blog ไปใช้เผยแพร่
ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์
โดยไม่ได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร
จะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


ชีวิตนี้..เจนไม่คิดตัวเองต้องออกจากงานดีๆมั่นคงๆ แล้วกลายมาเป็น เจ้าของกิจการเล็กๆ ทำขนมขาย แต่มันเป็นชีวิตที่มีความสุขไปอีกแบบ....แบบที่ไม่เคยเจอตอนใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ...แบบที่ไม่ได้สนุกกับการไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์...แต่กลับสนุกกับการทำขนม...แบบที่ไม่ได้สนุกกับการเป็นผู้ช๊อปตามห้างสรรพสินค้าทุกครั้งที่มีสินค้าลดราคา....แต่กลับสนุกกับการขุดดิน..ถากหญ้า..ดูพืชผักที่ปลูกได้ผลิดอกออกเป็นแล้วได้สนุกกับการเป็นแม่ค้าที่เก็บผักที่ตัวเองปลูกดูแลเอาใจใส่ไปขายตามตลาดสด...สลัดเครื่องสำอางบนหน้าทิ้งไป...แต่มีความสุขกับการเอาหน้าสวยๆไปอยู่หน้าเตาอบขนม...คิดว่าจะอยู่บ้านนอกไม่ได้ซะล่ะ...ที่ไหนได้ชีวิตกลับมีความสุขไปอีกแบบ แบบที่หาไม่ได้ตอนอยู่ที่กรุงเทพ~~

ชีวิตผกผันอีกครั้ง เมื่อต้องเลิกกับแฟนคนไทย ซึ่งคบกันมากว่า 11 ปี ด้วยเหตุที่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายไม่สามารถยอมรับฐานะทางบ้านเราได้ เราเลยต้องเลิกกันทั้งๆที่เรายังรักกันอยู่ หลบรักษาแผลใจช่วงนึง หลังจากนั้นก็มีฝรั่งตาน้ำข้าว เข้ามาในชีวิต สร้างนิยมความรักให้เราใหม่ ตกลงปลงใจแต่งงาน ทิ้งงานที่ตัวเองรัก มาเป็นแม่บ้านเต็มเวลา ดูแลสามี เราตั้งใจว่า ถ้าเราพร้อม เราจะกลับเมืองไทย ไปทำร้านขนมเล็กๆ อย่างที่เคยทำมา หวังว่าวันนั้นคงอีกไม่นาน...

 
free counters
Friends' blogs
[Add วันนี้วันพระ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.