Bloggang.com : weblog for you and your gang
การรอคอยการถึงของความเจ็บปวดที่แสนสุข
ฉันร่างเธอ 3 (แล้วนะ)
หวาดดีทุกคน เขียนจบแล้วล่ะ แต่มันยาว เอ่อเป็นเรื่องสั้นที่มีขนาดยาวนั่นเอง 555 เอาเป็นว่าเอามาลงเป็นตอนๆให้ลงแดงกันดีกว่านะ (ใครเค้าเข้ามาอ่านเรื่องที่แกเขียนกันบ้างวะน่ะ )
ม่ายเป็นไร อยากเอามาลง 555
เริ่มได้
3.
ความคิดชั่วร้ายดังกล่าวเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวไม่กี่เดือนก่อนที่ฉันจะตาย เราไปเที่ยวกันสองคนที่เขมร นครวัดนครธมที่เปรยเอาไว้นานว่าจะไปให้ได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะแยกกันเพราะการศึกษาจบลง เราจึงหนีไปเที่ยวด้วยกัน
เราสองคนมักจะเป็นอย่างนี้บ่อยๆ เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้วมักจะชวนกันทำอะไรแผลงๆ ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องผิดแผกอะไรเลย เพราะเป็นสิ่งที่คนเราต้องทำทั้งนั้น แต่คนเราเหล่านั้นไม่กล้าทำเท่านั้นเอง
แต่เมื่อเราอยู่ด้วยกัน มันเหมือนกับว่าโลกทั้งโลกว่างเปล่า มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่บนโลกอันเน่าเฟะในความคิดของฉัน
ในขณะที่ภายในใจของเธอคงจะเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นหอมหวานของความรัก เรามักจะใส่รองเท้าคนละข้าง ของฉันข้างนึงของเธอข้างนึงซึ่งมันมีสีต่างกันออกไป ใครๆต่างมอง แต่เราไม่ได้มองพวกเขาเหล่านั้น เป็นพอ
เหตุการณ์ตอนที่ไปเที่ยวกันที่เขมรนั้นเป็นความทรงจำอันเลือนราง มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ฉันจำได้ขึ้นใจ
เที่ยงวันแสนอบอ้าว ฝุ่นที่เกิดจากดินแดงปลิวเข้าจมูกทุกครั้งที่สายลมร้อนพัดมา รู้สึกแสบจมูกแทบจะจามออกมา ระหว่างที่ปายอาสาจะเข้าไปซื้อน้ำที่ร้านขายน้ำที่ตลาดกลางเมือง ภายใต้กรอบแว่นที่มีไอน้ำเกาะอยู่ฉันเหลือบไปเห็นแผงขายหนังสือเล็กๆข้างทางแดง
ด้วยสัญชาตญาณของเจ้าหนอนหนังสือภายในตัว จึงเตร่เข้าไปสังเกตการณ์ หนังสือที่วางขายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือภาษาขอม ซึ่งแน่นอนฉันอ่านไม่ออก ฉันไล่สายตาไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน
เจ้าของร้านร่างผอม ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา มองฉันแวบเดียวผ่านกรอบแว่นที่เอียงกระเท่เร่ ก่อนจะหลุบตาลงอ่านหนังสือเล่มเขื่องในมือของเขาต่อ
อ๊ะมีหนังสืออย่างงี้ด้วยเหรอ เสียงปายดังขึ้น ไม่รู้ว่าเธอกลับมาตอนไหน เธอทำท่าตื่นเต้นอยู่มากเหมือนกันขณะที่หยิบหนังสือเล่มเก่าเล่มหนึ่งขึ้นมาพิจารณา
สลับร่างสร้างรัก เขาเขียนไว้ว่าอย่างนี้ล่ะจ๋า ฉันว่าเราลองเอาไปทำบ้างดีกว่านะ ปายพูดอะไรสักอย่างกับพ่อค้าชาวเขมรคนนั้น ฉันสังเกตเห็นคราบขี้ไคลที่ขอบแขนเสื้อเชิ้ตแสนยับสีขาวของเขา คงเพราะเป็นมนุษย์พันธุ์โฮโมซาเปียนด้วยกัน และยิ่งไม่แปลกเลยที่ปายจะสามารถสื่อสารกับพ่อค้าชาติพันธุ์เดียวกันได้ เพราะเธอเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว
หนังสืออะไรน่ะ ฉันถามหลังจากที่รับถุงน้ำอัดลมมาไว้ในมือทั้งสองถุง ที่นี่เขายังใช้ถุงใส่น้ำแข็งแล้วเทน้ำอัดลมลงไป ก่อนจะรัดที่มุมถุงด้านบนด้วยยางสติ๊กถึงสองเส้นเพื่อกันยางขาด แต่ฉันเห็นยางที่ใช้รัดถุงนั้นเกือบจะยุ่ยแล้ว
นี่รู้ไหมว่าเขมรน่ะมีชื่อเรื่องไสยศาสตร์ไม่ใช่น้อยเลยนะ เธอเอ่ยขณะที่ตัวเองยังง่วนอยู่กับหนังสือที่ฉันอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะตัวหนังสือยึกยือเหล่านั้นไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของฉัน ถึงจะเป็นภาษาของมนุษย์ชาติพันธุ์เดียวกันก็เถอะ
เธอเล่าสิ่งที่หนังสือเล่มนั้นเขียนไว้ มันเป็นหนังสือคาถาสลับร่าง มีวิธีทำที่ทำง่ายเกินกว่าจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง และก็เพราะว่าเราคิดกันอย่างนั้น เราทั้งสองคนจึงลองทำกันเมื่อกลับบ้านในวันถัดมา
เราแยกกันหลังจากเรียนจบ เพราะฉันต้องกลับบ้าน ฉันไม่ได้เป็นหมอย่างที่ใครๆต้องการเพราะว่าฉันลาออกจากหมอ แล้วมาเรียนศิลปะแทน เพียงเท่านี้ก็เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างใหญ่หลวงแล้วสำหรับพ่อแม้ของฉัน พวกท่านบอกว่า แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ยากที่ต้องบอกการตัดสินใจของตัวเองครั้งนี้
แต่เพราะฉันมีปายอยู่ด้วยฉันถึงได้กล้าตัดสินใจ พ่อกับแม่และคนในหมู่บ้านไม่ยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้ของฉัน แต่ฉันไม่สนใจอีกแล้ว จากนี้ไปฉันจะเป็นอย่างที่ฉันอยากจะเป็น รู้สึกอย่างที่ฉันอยากรู้สึก
ก่อนที่จะแยกจากกันเราได้ทดลองกระทำการอย่างหนึ่ง ตามที่หนังสือจากแดนสนธยานั้นได้ระบุไว้
คืนนั้นเราอยู่ด้วยกันในห้องของเธอ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลการปิดภาคเรียน เพื่อนร่วมห้องของเธอจึงกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดกันหมด เหลือเพียงเธอคนเดียว ความจริงแล้วเธอเองก็หมดสิทธิที่จะเข้าอาศัยอยู่ในหอพักนั้นตั้งแต่เมื่อวานเพราะเรียนจบแล้ว
แต่เธอยังแอบอยู่ได้ อีกอย่างฉันเองก็ยังแอบขึ้นมาบนห้องของเธอได้โดยที่ยามไม่รู้ ง่ายนิดเดียวแค่ให้ปายโทรเข้าเบอร์หอพักแล้วขอสายยาม
เมื่อยามลุกจากที่นั่งประจำไปรับโทรศัพท์ ฉันซึ่งทำท่าเป็นดูป้ายโน่นนี่แถวๆนั้นก็แอบขึ้นไปทางบันไดโดยต้องผ่านหน้าโต๊ะของยามไป ในขณะที่ยามเดินไปรับโทรศัพท์ที่เค้าท์เตอร์ของอีกฟากที่ต้องหันหลังให้โต๊ะของตัวเองเมื่อรับสาย
เมื่อรับสายปายก็จะทำทีเป็นถามโน่นนี่ จนกว่าฉันจะขึ้นไปยังห้องของเธอค่อยวางสาย จากนั้นเราก็นอนตัวขดเพราะกลั้นหัวเราะกันจนท้องแข็ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก
เรามาเริ่มกัน เสียงเล็กๆที่เปล่งออกมาจากกล่องเสียงของเธอนั้นกำลังฉายแววความตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ในหนังสือบอกว่าเราต้องทำให้ตัวเองตายเสียก่อน จึงสามารถเปลี่ยนร่างกันได้ ดังนั้นเราสองคนจึงเลือกที่จะกลั้นหายใจในน้ำ เราตักน้ำใส่กะละมังคนละใบ
จากนั้นก็นับสามแล้วจุ่มส่วนหัวของเราลงไปในน้ำ ด้วยกลัวว่าเราจะทำไม่สำเร็จ เราทั้งสองจึงนัดกันว่าจะช่วยกันกดหัวของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้โผล่หัวขึ้นมาเพื่อหายใจ
ระหว่างที่กลั้นหายใจในน้ำนั้นจะต้องนึกถึงคู่ของร่างที่ตัวเองอยากจะเข้าไปสิงสู่ด้วย ไม่ใช่คิดถึงธรรมดาหรือแค่นึกถึงใบหน้าเท่านั้น แต่ต้องจำรายละเอียดของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ทุกอย่าง ทุกอย่าง
อีกอย่างต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่อยากจะหลุดออกจากร่างเดิมของตัวเองและอยากจะไปสิงสู่ร่างนั้นเป็นที่สุด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ฉันกลั้นลมหายใจนานจนรู้สึกว่าตัวเองต้องตายเสียแล้ว และรู้ว่าฉันทำไม่ได้ เมื่อจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสูดเอาอากาศนั้น มือแข็งแรงของปายก็กดหัวฉันลงไปอีก ในขณะเดียวกันเธอก็เอื้อมมือมาคว้ามือของฉันเพื่อช่วยกดที่หัวของเธอบ้าง
ความรู้สึกขณะนั้นฉันกลัว กลัวมาก ไม่ใช่กลัวตาย แต่กลัวช่วงเวลาที่กำลังจะตาย เพราะช่วงเวลานั้นความรู้สึกยังคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างความรู้สึกอึดอัดและความเลอะเลือน หรือจะเรียกว่า ความรู้สึกตัวและไม่รู้สึกตัวนั่นเอง ฉันรู้สึกเหมือนท้องไส้กำลังปั่นป่วนอยากอาเจียน
ไม่รู้ว่าขณะนั้นฉันกลืนกินน้ำเข้าไปมากแค่ไหน ฉันกลัวความรู้สึกสับสนที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมๆกันแบบนี้ แต่เมื่อนึกถึงว่าทำไมฉันถึงอยากจะออกจากร่างเดิมนี้ของตนเองนักหนามันก็ทำให้ลืมเลือนไปเสียว่าตัวเองไม่ได้กำลังหายใจ
ความรู้สึกสุดท้ายคือรู้สึกถึงเส้นเอ็นที่มือข้างที่กดหัวของปายนั้นปูดโปนและเกร็งจนเจ็บปวด
เมื่อรู้ตัวอีกที เราก็เปลี่ยนร่างกันแล้ว มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจนเราสองคนเองก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะความปรารถนาอันแรงกล้าของเราสองคนที่ออยากออกจากร่างเดิม สิ่งเหลือเชื่อจึงเกิดขึ้นกับเรา
ความรู้สึกตอนที่อยู่ในร่างของปายนั้นโล่งโปร่ง ฉันเข้าใจว่าคงเพราะว่าร่างของปายนั้นสูงใหญ่กว่าวิญญาณของฉันซึ่งตัวเล็กกว่า แต่เมื่อปายบอกเล่าถึงความรู้สึกเมื่อได้อยู่ในร่างของฉันว่าโล่งสบายเช่นกัน ฉันก็ชักไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสิ่งใดกัน
หน้าตาฉันเป็นน่าเกลียดอย่างนี้เองเหรอเสียงปายดังออกมาจากปากสีซีดของฉัน มันแปลกที่ต้องมานั่งดูปากของตัวเองขยับและเสียงของตัวเองดังออกมาทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ
อะไรกันฉันสิหดหู่กว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะหน้าเหมือนศพอย่างนี้ เป็นคำพูดของฉัน แต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นเสียงใสที่เปี่ยมไปด้วยรักของปาย
แต่เมื่อต้องกลับคืนร่างเดิมฉันกลับรู้สึกหดหู่หายใจไม่สะดวก ไม่อยากกลับไปเลย แต่ต้องรีบกลับเพราะหนังสือเตือนไว้ว่าห้ามเปลี่ยนร่างกันเกิน 24 ชั่วโมง นั่นก็คือเรามีเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่เราเปลี่ยนร่างกันได้เพียง 10 กว่าชั่วโมง
แต่ต้องรีบหาทางกลับเพราะเกรงว่าจะต้องใช้เวลานาน กันไว้ก่อน ดีกว่าแก้ ยิ่งต้องมาแก้เรื่องอย่างนี้ออกจะเสี่ยง อีกอย่างในหนังสือนั่นบอกว่าถ้าไม่กลับร่างเดิมของตัวเองก่อนเวลาที่กำหนดจะไม่สามารถกลับร่างตัวเองได้อีกเลย
การกลับคืนร่างของตัวเองเป็นเรื่องแปลก คือหนังสือจะบอกว่าจะต้องทำร้ายตัวเองจนหมดสติแล้วร่างก็จะกลับคืนสู่ร่างของตัวเองในที่สุด แต่เรื่องทำร้ายตัวเองนี่เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก เพราะเราต่างคนต่างก็กลัวเจ็บ
แล้ววิธีที่สามารถทำให้เราทั้งคู่หมดสติได้นั้นมันออกจะเสี่ยงเกินไป แต่อย่างไรเราก็ต้องทำเพราะเราต้องกลับร่างของตัวเอง
ดังนั้นเราจึงเลือกวิ่งเอาส่วนหัวชนผนังปูน และมันก็ได้ผล มีทั้งเลือดและแผลที่สองร่างเพราะแรงกระแทกอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเราต้องวิ่งชนผนังกันอยู่หลายครั้งกว่าจะหมดสติ
ทำลงไปได้ยังไงเนี่ยอูย... ฉันโอดครวญเมื่อเห็นแผลตัวเองในกระจก
สนุกดีออก วันหลังเราทำอีกนะ ไม่อยากจะเชื่อว่าปายยังทำเสียงสดใสอยู่ได้ถึงขนาดนี้ ฉันหันไปมองเธออย่างหวั่นๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
................................................................
เอาล่ะจบไปอีกตอน ทนหน่อยน้า55555
Create Date : 27 มกราคม 2550
Last Update : 27 มกราคม 2550 13:37:30 น.
2 comments
Counter : 363 Pageviews.
Share
Tweet
แล้วมีทั้งหมดกี่ตอนอ่ะครับ จะได้รอลุ้นถูก
โดย:
ดีสุดขั้วชั่วสุดขีด
วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:23:41:49 น.
โห่ะๆ ดีสุดขั้ว รอม่ายไหวเหรอ
ความจริงอีกตอนเดียวมันก็จบแล้วล่ะ
เพราะงั้นติดตามกันหน่อยนะคร้า
โดย: jengkiss4 (
jengkiss4
) วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:10:43:20 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
jengkiss4
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Group Blog
โต๊ะเขียนหนังสือข้างหน้าต่าง
ชั้นหนังสือการ์ตูนข้างห้อง
เครื่องพิมพ์ดีดจิ๋วลิ่วกับนิยายน้ำเน่า
เฉดสี
เครื่องชั่งน้ำหนักปิศาจ
YY Source
โดจินชิ
อุ่นรักละมุน
สมุดบันทึกสีฟ้า
แต่งบ้านสวยด้วยผ้าม่าน
มกราคม 2550
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
27 มกราคม 2550
ฉันร่างเธอ 3 (แล้วนะ)
All Blogs
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 8: ดอกไม้บาน)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 7: ช่วงเวลาแห่งความสุข)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 6: วานซืน)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 5: ต้นกล้า)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 4: ความทรงจำสีฟ้า)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 3: ข้อความ)
ความทรงจำสีจาง (ฉบับที่ 2: สิ่งใดที่สำคัญ)
ความทรงจำสีจาง (การมาเยือนของจดหมายสีแดง)
ฉันร่างเธอ 4 (มันเหมือนจะจบแล้วล่ะนะ)
ฉันร่างเธอ 3 (แล้วนะ)
ฉันร่างเธอ 2
ฉันร่างเธอ (เรื่องสั้นเน่าๆ)
Friends' blogs
ดีสุดขั้วชั่วสุดขีด
ปลายปัญญา
หนอนหนังสือตัวเป้ง
cyberx
CleOluS
coolancelot
Overtime
Gogman
Boyne Byron
สายลมอิสระ
แม่สลิ่ม
kisara
Jinsee
ถ่านหินจำศีล
ShioRamen
walkin
กาแฟดำไม่เผ็ด
Crazy Victoria
ลิด้า
hasu*lotus
MR.NIWUT SHOW
สถาปน๊อต
nature-delight
lurano
สมองถั่วเขียว
นางฟ้าของชาลี
tastypastry
breathtakingspeed
ranangmai
Chill up
vr_molecule
Kala-ก้นครัว
lalabel
exdecor
matabamania
amskye
lylinh
littelchaina
Webmaster - BlogGang
[Add jengkiss4's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.