ธันวาคม 2561

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Christmas Market Hopping 2018 (Heidelberg/Baden-Baden) (1/3)
 
Christmas Market Hopping - เมื่อบอกสามีว่าอยากไปคริสต์มาสมาร์เกตที่สวยที่สุด
 

ทริปนี้น่าจะเป็นทริปที่ชิลล์ที่สุดของ Jellyjourney ตั้งใจว่าจะไม่มีแพลนอะไรมาก เราแค่ไปเดินเล่น ชมเมือง กิน เที่ยวคริสต์มาสมาร์เกต กลับมานอน เป็นทริปที่ถือได้ว่าไปพักผ่อนอย่างแท้ทรู หลังจากทำการค้นคว้าและปรึกษาคนใกล้ชิด ก็สรุปกันว่าเราจะไปคริสต์มาสมาร์เกตที่ประเทศฝรั่งเศสกัน ส่วนที่เราจะไปคือด้านพรมแดนตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ส่วนที่อยู่ริมแม่น้ำไรน์ ติดกับประเทศเยอรมัน ส่วนที่เค้าเรียกว่า แคว้นอัลซาส (Alsace) จะบอกว่าไปแล้วไม่ผิดหวังเลยเพราะมันสวยมากกก เมืองน่ารักมากกก และเป็นคริสต์มาสมาร์เกตที่สวยที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของโลกที่นึงเลยทีเดียว

การไปแคว้นนี้สามารถไปได้ทั้งจากปารีส หรือจะไปจากเยอรมันก็ได้ เราก็เลยเลือกที่จะไปจากเยอรมันแทน โดยขึ้นลงเครื่องที่เมือง Frankfurt และถือโอกาสเที่ยวเยอรมันไปด้วยเลย

ทริปนี้ใช้เวลา 6 วัน 6 คืน เที่ยวเยอรมัน 4 วันและฝรั่งเศส 2 วัน นั่งรถไฟในช่วงวันแรก และเช่ารถขับจากเมือง Baden Baden ขับเข้าฝรั่งเศส และไปคืนรถที่ Freiburg เพื่อนั่งรถไฟกลับ Frankfurt

Day 1: Frankfurt – Heidelberg

Day 2: Baden-Baden

Day 3: Strasbourg

Day 4: Ribeauville/Riquewihr/Colmar

Day 5: Freiburg

Day 6: Frankfurt

Day 7: Back home (from Frankfurt)

ตั้งใจจะมาคริสต์มาสมาร์เกตจริงๆ ทริปนี้เลยไม่มีแพลนอะไรล่วงหน้าเลยผิดวิสัย Jellyjourney มากๆ แต่ก็ทำให้รู้ว่าการมาทริปที่ไม่มีแพลนอะไรมา fix ตัวเรามันช่างชิลจริงๆ อย่างไรก็ดีเมืองที่ไปมันก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะ ออกแนวเดินเล่น ยิ่งมาหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกตั้งแต่ 4 โมงกว่าถ้ามีโปรแกรมอะไรมากมายคงจะเที่ยวไม่ทัน

แพลนของทุกวันจะเป็นเหมือนกันคือ ตื่น 7 โมง ทานข้าวเช้า เดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง เดินเที่ยวเล่น ทานข้าวกลางวัน เดินคริสต์มาสมาร์เกตกลับที่พัก นอน 3 ทุ่ม ...ก่อนจะไปดูรูปขอเล่าประวัติเพื่อเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆละกัน

Christmas Market ถือกำเนิดขึ้นในประเทศในประเทศเยอรมัน เป็นเหมือน street market จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส โดย Christmas market มีขึ้นมานานมากๆตั้งแต่ยุคกลางตอนปลาย พูดง่ายคือตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1200 เป็นต้นมา โดยในสมัยก่อนนั้นประเทศที่จัดงานนี้ก็จะเป็นประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน รวมถึงในแถบตะวันออกของประเทศฝรั่งเศสในปัจจุบันด้วยค่ะ เพราะสมัยนั้นก็อยู่ภายใต้การปกครองของเยอรมัน

ส่วนแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศสนี้ก็เป็นอีกแคว้นที่มีการแย่งชิงกันไปกันมาระหว่างเยอรมันและฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่ผลัดกันปกครองโดยทั้งสองประเทศในช่วงต่างๆ เช่น ตอนแรกก็ปกครองโดยเยอรมัน พอเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ก็เป็นช่วงที่แคว้นนี้อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส จนสุดท้ายในปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส แต่ก็ได้อิทธิพลอย่างมากๆจากฝั่งเยอรมันค่ะ

ดังนั้นทริปนี้จึงถือได้ว่าเป็นการเที่ยว Christmas market จากเมืองที่เก่าแก่มากๆเลยทีเดียว ในปัจจุบันเพื่อนๆสามารถพบ Christmas market ได้ในหลายประเทศทั้งในยุโรปและทวีปอื่นๆเช่นกัน โดยส่วนมาก Christmas market จะจัดตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาสค่ะ (แต่ก็มีบางเมืองที่จัดถึงปลายเดือนธันวาคม) ดังนั้นใครอยากไปเที่ยว Christmas market ต้องแพลนดีๆนะคะ

เกริ่นมาพอสมควรแล้วเรามาเที่ยวด้วยกันผ่านรูปดีกว่า ขออนุญาตแบ่ง Blog ออกเป็นสามตอนนะคะ โดยตอนที่ 1 จะเป็น Heidelburg & Baden Baden ตอนที่สองจะเป็น Strasbourg & เมืองเล็กในแคว้น Alsace และตอนที่สามจะเป็น Freiburg & Frankfurt ค่า


SmileyHeidelberg

เมืองแรกของทริปนั่งรถไฟเพียงชั่วโมงเดียวจาก Frankfurt เป็นอีกหนึ่งเมืองที่สามารถทำ one daytrip จาก Frankfurt มาได้ จุดเด่นของเมืองก็จะมี Castle, Old Bridge,และold town

Heidelberg Castle

หลังจากเราลากกระเป๋าจากสถานีรถไฟไปโรงแรม เอากระเป๋าไปฝาก เราก็นั่งรถรางเข้าเมือง ลงที่ถนน Betriebshof แล้วก็เดินเล่นตามถนนมาเรื่อยๆ

เดินจนมาถึง Kornmakt เพื่อนั่ง Heidelberger Bergbahn funicular ขึ้นไปยังปราสาทขึ้นไปที่สถานีตรงปราสาท แล้วก็เดินเล่นรอบๆปราสาทค่ะ ไม่เสียค่าเข้าชมถ้าเกิดเราไม่เข้าไปดูข้างในปราสาท

Heidelberg Castle ช่างเป็นปราสาทที่น่าสงสารเพราะมันถูกสร้างขึ้นราวปี 12XX แต่ระหว่างทางก็โดนระเบิดไปหลายต่อหลายรอบนักมีการ rebuilt บางส่วนแล้วก็โดนระเบิดไประหว่างทางซึ่งก็เป็นผลพวงจากสงครามทั้งนั้นตอนนี้เลยออกแนวเป็นซากปรักหักพังซะมากกว่าค่ะแต่ก็เป็นซากที่ยิ่งใหญ่มากพอสมควรเลยนะ

ขึ้นมาเที่ยวปราสาทก็ทำให้เราได้ชมวิวเมือง Heidelberg แบบเต็มๆ เห็นทั้งสะพานและแม่น้ำ Neckar สวยมากเลยทีเดียวค่ะ

ลงมาจากปราสาทก็ถึงเวลาของ Christmas market พอดี

ได้ฤกษ์ในการดื่มไวน์ร้อนแก้วแรกของทริปนี้ สิ่งที่เพื่อนๆห้ามพลาดในการมา Christmas market คือการทานไวน์ร้อนค่ะ มันจะมีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว หรือบางร้านเราก็สามารถเติมเหล้าอื่นเข้าไปผสมได้ด้วย ราคาเครื่องดื่มจริงๆจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 ยูโรถึง 5 ยูโร และร้านค้าจะบวกค่าแก้วไปด้วยในราคา ถ้าเราเอาแก้วมาคืนเราก็จะได้เงินส่วนนี้คืนค่ะ ค่าแก้วมีตั้งแต่ 2 ถึง 5 ยูโร ตามความสวยงามและความไฮโซของแก้ว เช่น แก้วพลาสติก แก้วเซรามิค แก้วแบบใสๆสวยๆไปเลยก็โดนไป 5 ยูโรโดยลายของแก้วส่วนมากจะเหมือนกันหมดทุกร้านเพราะจะเหมือนกันทั่วทั้งตลาด เป็นลายของเมืองเมืองนั้น ...แน่นอน..ผู้หญิงอย่างเรา เก็บแก้วเป็นที่ระลึกสิคะ สรุปหมดทริปได้แก้วมาเต็มไปหมดเลย 55

นอกจากไวน์ร้อนแล้วก็จะมีขนมนมเนยต่างๆมากมาย เครปและวาฟเฟิลเป็นร้านยอดฮิต นูเทลล่านี่ยอดขายคงพุ่งกระชุดในเทศกาลนี้แน่นอน นอกจากนั้นก็จะมีของคาว เช่น ไส้กรอก และอาหารพื้นเมืองอื่นๆ ร้านขายของต่างๆส่วนมากก็จะขายของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเราก็ไม่ได้ซื้อเท่าไหร่ แต่แค่ดูก็เพลินมากๆเลย

SmileyBaden Baden

เรานั่งรถไฟจาก Heidelberg มาที่เมือง Baden Baden ที่เลือกมาเมืองนี้เพราะมันอยู่ระหว่างทางจะเข้าไป Strasbourg พอดีก็เลยอยากแวะ และได้ข่าวมาว่าที่นี่เป็นเมืองพักผ่อนอาบน้ำแร่แช่น้ำนมของคนที่นี่กัน แต่สรุปมาถึงก็ไม่ได้ไปแช่น้ำแร่อะไรเลยค่ะ เดินเล่น ล้วนๆ

เนื่องจากเราเช่ารถที่นี่เลยถือโอกาสแวะไปฝากกระเป๋าที่ AVIS ก่อนจะกลับมาเอารถอีกทีตอนเย็น หลังจากฝากกระเป๋าก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ Lichtentaler Allee อากาศดีมาก มีแดดนิดๆ แต่จะบอกว่าในทริปนี้ Baden Baden เป็นเมืองที่อากาศเย็นที่สุดเลยค่ะ อยู่ช่วงประมาณ 3 องศาเซลเซียส

หลังจากนั้นเราก็มาเดินเล่นในเมืองค่ะ บ้านเมืองเมืองนี้จะค่อนข้างดูหรูหราเหมือนมาจากในยุคโรมัน

ด้านหน้าของสปาชื่อดังค่ะ

เรามาเร็วไปหนึ่งวันค่ะ Christmas market จัดหลังจากวันที่เราไป 1 วัน! แต่ยังดีที่พอมีบรรยากาศคริสต์มาสในเมืองค่ะ

ที่พักคืนนี้แนะนำมากๆสำหรับใครที่ผ่านมาแถวนี้ ที่พักเราชื่อ Geroldsauer Muhle

เป็นอาคารสร้างด้วยไม้สนทั้งหลัง ด้านล่างเปิดเป็นซุปเปอร์มาร์เกตขายของเพื่อสุขภาพ มี Coffee Shop มี Beer Garden มีร้านอาหาร ส่วนด้านบนทำเป็นห้องพักค่ะน่าจะมีทั้งหมดไม่เกิน 10 ห้อง

บรรยากาศในห้องกรีดร้องหนึ่งที มันน่ารักมาก ให้อารมณ์ห้องใต้หลังคา ทั้งหมดนี้ในราคาคืนละ 4 พันบาท ไม่รวมอาหารเช้านะจ๊ะ ขับรถเพียง 10 นาทีจาก ตัวเมือง Baden Baden แนะนำเลยค่ะ

วันรุ่งขึ้นไปไหนไม่รอดต้องทานอาหารเช้าที่โรงแรม ตกคนละประมาณ 15 EUR บรรยากาศห้องอาหารน่ารักมาก แบบไม่ไหวแล้ว

เสร็จแล้วก็ได้เวลาขับรถเข้าฝรั่งเศสไปเมือง Strasbourg กันค่ะ เราใช้เส้นทางสาย 500 ซึ่งจะตัดผ่านเชตป่าดำหรือ Black Forest นั่นเอง ตั้งใจจะขับมาเส้นทางนีเพราะเค้าบอกกันว่าสวยมากค่ะระหว่างทางก็เป็นป่าสน และแน่นอน Jellyjourney ไปทีไหนฝนตกที่นั่น แต่ก็ไม่วายลงจากรถไปเก็บภาพบรรยากาศสวยๆระหว่างทางมาฝากค่า


เป็นไงกันบ้างคะตอนแรกของเรา นี่เพิ่งแค่น้ำจิ้มเท่านั้น รอติดตามตอนหน้าที่เราจะพาไปเที่ยวเมืองในแคว้นอัลซาสสุดน่ารัก และเชื่อแน่นอนว่าคงเป็นที่ใฝ่ฝันของหลายๆคน
 
** ต่อตอนสองเลย ที่นี่ Smiley**
 
ติดตามชมรูปได้ก่อนใครผ่านทาง Instagram: Jellyjourney นะคะ ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่า



Create Date : 09 ธันวาคม 2561
Last Update : 11 พฤษภาคม 2562 15:51:47 น.
Counter : 1937 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++