** Summer time in Greece**

ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในชีวิต

เดินบนภูเขาไฟ

นอนชิลล์ชิลล์ที่ชายหาดหินดำ

และการรอคอยกว่า 7 ชั่วโมงที่แอร์พอร์ต เพื่อเอาตัวมาอยู่ ณ ซานโตรินี

สวัสดีค่า กลับมาอีกครั้งกับ blog Greece ภาค 2 คราวนี้เราจะพาทุกคนไป ซานโตรินี เกาะในฝันของใครหลายๆคน ซานโตรินีเป็นหนึ่งในเกาะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในทะเลอีเจียน นั่งเครื่องบิน 1 ชั่วโมงจากเอเธนส์

..................

16 July 2016 l Day 1 in Santorini

หลังจากไฟลท์ดีเลย์กว่า 7 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศที่ลมแรงมาก เครื่องไม่สามารถบินไปได้ เราก็มาถึงสนามบินฟีร่า (Fira) ตอนประมาณบ่ายสาม โทรหาที่พักที่จองไว้ เค้าก็ส่งคนมารับค่ะ เราจองที่พักเป็นแบบวิลล่า 2 ชั้น ชื่อ Villa Toula 2 เราได้ชั่นล่าง ที่พักน่ารักดีมีเตียงใหญ่ 1 เตียงแล้วก็เตียงเสริม มีครัวเล็กๆให้พอทำอะไรทานได้ ที่พักอยู่ในใจกลางเมืองฟีร่าเลย พนักงานก็น่ารักดีเป็นธุรกิจครอบครัวค่ะ

สภาพที่เกท คนรอเยอะมาก ต้องคอยฟังประกาศตลอดเวลา นึกว่าจะไม่ได้ไปซะแล้วสิเรา (ความเศร้าในครั้งนี้ได้ตั๋วเครื่องบิน Aegean airlines ขาเดียว ไปที่ไหนก็ได้ มีอายุการใช้งาน 1 ปีมาเป็นของปลอบใจ)

สนามบิน Santorini ค่ะ

ที่พักสุดแสนน่ารักของเรา Villa Toula 2

หลังจากล้างหน้าล้างตาพักผ่อนให้หายเหนื่อยนิดหน่อยเราก็ออกไปเที่ยวกันเลย destination แรกของการมาซานโตรินีคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการไปชมพระอาทิตย์ตกที่เมืองเอีย (Oia) เมืองเอียตั้งอยู่สุดเกาะทางตอนบน ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากฟีร่าค่ะ

การเดินทางในซานโตรินี

หากเราจะเดินทางไปเมืองต่างๆบนเกาะ เช่น เอีย (Oia) สามารถเดินทางได้ง่ายๆเลยโดยรถบัสค่ะสถานีรถบัสกลางจะอยู่ที่เมืองฟีร่า หมายถึงว่าไม่ว่าเราจะเดินทางไปเมืองไหนๆเราก็ต้องมาเริ่มที่ฟีร่า เช่น จะเดินทางจาก Oia ไป Kamari ก็ต้องเดินทางจาก Oia มา Fira แล้วค่อย Fira ไป Kamari

หน้าตาสถานีรถบัสค่ะ จะอยู่ใกล้ๆกับโรงพยาบาล สามารถเดินไปถามที่เคาเตอร์ได้ว่ารถที่จะไปเมืองที่เราต้องการเบอร์อะไร ส่วนเงินค่าเดินทางจะจ่ายบนรถค่ะ

จาก Fira ไป Oia ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารคนละ 1.8 ยูโร ดูรายละเอียดราคาได้ ที่นี่

ถึงแล้วเมือง Oia มาถึงประมาณบ่ายสาม แดดยังแรงอยู่มากค่ะ ต้องรอให้แดดร่มลมตกกว่านี้ซักนิด จะเดินชมวิวได้ชิลล์ชิลล์เลย

แวะกินร้านอาหารดังของเมืองนี้กันซักหน่อย ร้านชื่อ Lotza สั่งอาหารเหมือนเดิม bean dip, greek salad, Moussaka, seafood plate อาหารอร่อยถูกปากบรรยากาศดีค่ะ ค่าสียหายมื้อนี้ค่อนข้างแพง 46 ยูโร 

บ้านเรือนพร้อมใจกันทาสีขาวฟ้า สวยดีค่ะ สามารถมองออกไปเห็นทะเลอีเจียนสีฟ้าเข้มสวยมากๆๆร้านค้าที่เมืองเอียยังถือว่าขายของไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่นะคะ ส่วนมากก็เป็นพวกของที่ระลึกกับเครื่องประดับ ที่เมืองนี้มีหลายมุมให้ถ่ายรูปมากๆ การจะได้มาซึ่งมุมสวยๆที่เห็นตามหนังสือหรือเวบมันช่างยากยิ่งนัก

คือเมืองมันเก๋มากอะ ไปสร้างอะไรกันบนภูเขาที่เป็นหินทั้งก้อน!!

น้ำทะเลสีสวยสุดๆ

ร้านหนังสือนี้น่ารักมาก

มุมนี้กว่าจะหาได้ยากมากๆ ต้องเดินและเล็งดีๆว่าถ่ายมาแล้วมันจะเห็นโค้งของเมืองที่สวยงามหรือไม่ สุดท้ายก็เจอค่ะ ทันแสงสุดท้ายของวันพอดีเลย

กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการชมพระอาทิตย์ตก ที่เมืองเอียมีจุดชมพระอาทิตย์ตกกับเค้าอยู่เหมือนกัน ดูสิคะ คนเยอะมากๆเลย

บางคนอาจจะคิดว่าพระอาทิตย์ตกมันจะพิเศษยังไง ขอบอกเลยว่าพระอาทิตย์ตกที่ซานโตรินีสำหรับเรามันเป็นการชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ความสวยจากฉากของเมืองแต่อย่างใด แต่มันเป็นความสวยงามของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆเลื่อนลงมาจนลับขอบฟ้าแบบเฉียบคมมากทำให้เราเข้าใจคำว่าเส้นขอบฟ้าได้อย่างดี วันนั้นพระอาทิตย์ตกประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆค่ะ

วันนั้นทุกคนที่ชมพระอาทิตย์ต่างใจจดใจจ่อ ดูพระอาทิตย์ค่อยๆเลื่อนลง และเมื่อมันสุดขอบฟ้า ปิ๊ง! แสงหายวับไปทันใดและทุกคนก็พร้อมใจกันปรบมือ.. ปรบมือให้กับปรากฎการณ์ธรรมชาติที่แสนวิเศษนี้

17 July 2016 l Day 2 in Santorini

วันนี้เราตั้งใจจะซื้อ tour ไปชมเกาะภูเขาไฟและชมพระอาทิตย์ตกบนเรือค่ะ ที่ Fira นี่มีทัวร์เอเจนท์ให้เลือกมากมาย หลังจาก survey ดูราคาและตารางเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็มาได้ของ Kamari tour ค่ะ โปรแกรมทัวร์เริ่มตอน 13.30 จบประมาณ 20.30 ประกอบด้วย Volcano– Hot Spring – Thirassia island – watching sunset on board

เราจะมาขึ้นรถบัสที่จุดนัดพบก่อน หลังจากนั้นรถบัสจะพาเราลงเขาไปขึ้นเรือ ผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้มีประมาณ 20 คนพร้อมกับไกด์ 1 คนค่ะ

สถานที่แรกเป็นการขึ้นไปปีนป่ายบนภูเขาไฟค่ะเกาะนี้จะอยู่ตรงกลางของเสี้ยวพระจันทร์เลย ชื่อเกาะมันคือ Nea Kameni เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อกว่า 2 ล้านปีก่อน ภูเขาไฟนี้ยังคง active อยู่นะคะ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งมีความเคลื่อนไหวคือเมื่อปี ค.ศ. 1950

ไกด์จะพาเราขึ้นภูเขาไฟแล้วก็เดินๆๆไปตามจุดต่างๆค่ะ เราจะสังเกตเห็นก้อนหินที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิของลาวาเมื่อแข็งตัว ทางเดินค่อนข้างจะยากอยู่นะคะ เดินขึ้นเนินเยอะอยู่ และร้อนมากๆ

หลังจากนั้นเรือจะไปหย่อนเราที่ hot spring ซึ่งเป็นจุดที่น้ำร้อนเพราะความร้อนจากภูเขาไฟ จุดนี้เรือไม่สามารถเข้าไปใกล้ๆได้ เราจะต้องว่ายน้ำเข้าไป ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ กว่าจะถึงจุดที่ยืนได้ก็ตรงกลางๆเลย ขอบอกว่าว่ายเหนื่อยมากและน้ำกลิ่นและรสชาติเหมือนสนิมสุดๆ เป็นผลจากซัลเฟอร์ สังเกตดูได้ว่าน้ำจะสีส้มๆเหลืองๆ

พอไปถึงตรงกลางก็ร้อนดีค่ะ สามารถแช่ได้ซักพัก ถ้าใครจะว่ายเข้าไปต้องมั่นใจว่ามีแรงพอทั้งไปและกลับนะคะ หรือไม่งั้นก็พกห่วงยางหรือชูชีพไปก็จะดีกว่า

หลังจากว่ายน้ำมาอย่างเหนื่อย ทัวร์ก็จะพาเราไปแวะเกาะ Thirassia เพื่อรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย เกาะนี้เป็นเกาะใหญ่อยู่นะแต่ไม่มีอะไรให้เที่ยวเท่าไหร่ มีร้านอาหารและร้านกาแฟไม่กี่ร้าน แต่บรรยากาศรอบๆก็ดีค่ะ

กิจกรรมสุดท้ายคือการล่องเรือไปดูพระอาทิตย์ตก เรือทุกลำบริเวณนั้นจะทยอยมุ่งไปสู่เมืองเอียเพื่อให้ฉากในการชมพระอาทิตย์ตกติดเมืองเอียด้วย บรรยากาศการดูพระอาทิตย์ตกบนเรือนี่ก็ดีไม่แพ้อยู่บนบกเลยค่ะ ลมแรงมากๆพอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เรือทุกลำก็พร้อมใจกันบีบแตร เป็นอันจบ half day tour ในครั้งนี้

เรือใบเท่ห์ๆ

เรือใหญ่ก็มีนะคะ สวยมากเลย

18 July 2016 l Day 3 in Santorini

วันสุดท้ายชิลล์ชิลล์ก่อนเดินทางกลับในตอนเย็น เราก็แวะไปดูชายหาดซะหน่อย ที่ซานโตรินีนี่มีหลายชายหาดให้ไปนะคะ ทั้ง red beach, white beach ที่เมือง Akrotiri และหาดหินดำที่เมือง Kamari เราเลือกที่จะไป Kamari ที่เดียวค่ะ นั่งบัส 1.8 ยูโรไปเหมือนเดิม

Kamari เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก เป็นเมืองชายหาด มีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่ตั้งใจมานอนเมืองนี้เลยเพราะจะเล่นน้ำ รถบัสมาส่งและเราต้องเดินผ่านร้านค้าเก๋ๆมาอีกนิดก็จะถึงชายหาด

ชายหาดที่เมืองนี้เป็นหินสีดำค่ะ ไม่มีทราย หินล้วน ร้อนมากๆ ความดีงามของมันอยู่ที่เก้าอี้ชายหาดที่เราจะนั่งตรงไหนก็ได้ ไม่มีใครมายุ่ง แล้วแต่ละเก้าอี้ก็อยู่ห่างกัน ทำให้มองเห็นวิวได้ชัดเจนสวยงาม ชิลล์มากๆ

สั่งคอกเทลมาจิบสวยๆ นั่งตรงนี้มองเห็นเครื่องบินขึ้นลงชัดเจนมากค่ะ

น้ำทะเลที่นี่ก็เย็นอยู่นะคะ คลื่นแรงพอสมควร ก่อนลงน้ำต้องถอดรองเท้า วิ่งฝ่าหินร้อนๆอย่างเร็วไปที่ทะเล...หากใครจะเข้าห้องน้ำก็ข้ามถนนไปเข้าที่ร้านอาหารได้เลย สะดวกสบายมาก เราสังเกตได้ว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนมากก็เป็นฝรั่งนี่แหละค่ะ แต่มาจากเมืองและประเทศอื่นๆในยุโรป ถ้าหน้าตาเอเชียแบบเราๆจะไม่ค่อยจะมีซักเท่าไหร่

นั่งๆนอนๆเล่นน้ำจนสบายใจก็นั่งรถกลับ Fira จ้างเจ้าของที่พักที่ Fira ขับไปส่งที่สนามบินและต่อเครื่องที่เอเธนส์ตรงกลับกรุงเทพฯเลยค่ะ

---

เป็นอันจบทริบ กรีซ เอเธนส์-ซานโตรินี ของ Jellyjourney แล้ว หวังว่าข้อมูลในการท่องเที่ยวครั้งนี้คงจะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจในการออกไปท่องเที่ยวของทุกคนนะคะ