เป็ดอบแบบตามใจฉัน

มีน้องชายที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันอยู่คนนึงค่ะ รักกันมากเลย ก่อนที่ติ๊กจะต้องย้ายไปนั่งที่สิงค์โปร์เนี่ย partitionที่เรานั่งทำงานก็อยู่ติดกันค่ะ ติ๊กเป็นผู้ชายที่ทำกับข้าวสนุกมากคนนึงนะคะ พ่อก้อยชอบผัดสะตอฝีมือติ๊กที่สุด เวลาที่พวกเราต้องไปทำงานที่สิงค์โปร์เนี่ย บ้านติ๊กแล้วก็บ้านปาด (น้องอีกคนนึง) จะเป็นบ้านที่พวกเราชอบแวะเข้าไปทำอาหารกินกัน แล้วก็สังสรรค์กันค่ะ เพราะว่าทั้งคู่เป็นคนที่ชอบสะสมไวน์มากๆ ... เสร็จเรา

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาติ๊กกลับบ้านที่กรุงเทพ (ที่จริงก็กลับมาเกือบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว) เราก็เลยนัดทานข้าวเย็นกันค่ะ คิดถึง...อยากแวะเข้าไปทักทายน้องแฟนติ๊ก แล้วก็น้องสุกี้...หลานที่อีกไม่กี่เดือนคงจะได้เจอหน้าเจอตากันกับป้าก้อย ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาก็อีเมลล์โต้ตอบกันว่าจะกินอะไรดี ..... สุดท้ายก็มาลงตัวที่ เป็ดอบแบบตามใจก้อยค่ะ เพราะว่าอยากกินเป็ดมาก เห็นน้องแพรทำอกเป็ดมายั่ว คุณแก้วเสมอกลางก็ทำเป็ดอบน้ำผึ้งมายั่ว ไม่ไหวแล้วค่ะ



ได้เป็ดเชอรี่จากเอ็มโพเรี่ยมค่ะ ตัวนี้ประมาณสองโลครึ่ง ซื้อแต่เป็ดอย่างเดียวนะคะ เครื่องปรุงอื่นคิดว่าหาๆเอาที่บ้านก็ได้ ก็เพราะเป็นเป็ดอบแบบตามใจตัวเองนั่นเองค่ะ



พอบ่ายๆวันเสาร์ก็เริ่มทำเป็ดแล้วค่ะ เพราะกะว่าจะอบไฟอ่อนๆซักสองชั่วโมง ก่อนอื่นก็เลยเอาเป็ดมาหมักกับเกลือแล้วก็พริกไทยเอาไว้ก่อนค่ะ ก้อยใส่เกลือเยอะเหมือนกัน ทาๆถูๆที่หนังเป็ด โรยพริกไทยด้วย ส่วนด้านในท้องเป็ดก็อย่าลืมด้วยนะคะ พักเอาไว้ซักชั่วโมงนึงค่ะ



มาเตรียมพวกที่จะยัดท้องเป็ดตอนอบดีกว่า ก้อยใช้ หอมแดงประมาณ 7 หัว กระเทียม 1 หัว (หั่นขวาง) แล้วก็ขิงแง่งยาวๆซักแง่งนึง ขิงเนี่ยก็เอาไปปั่นใน blender ให้พอหยาบๆนะคะ



มีใบเสจ (Sage) อยู่ในตู้เย็น...เอามาใช้ซักหน่อย



ขยี้ๆแล้วก็เอาไปรวมไว้กับพวก หอม กระเทียม ขิง



ก้อยมีส้มซันคิสอยู่ในตู้เย็นค่ะ คิดว่าถ้าจะเอามายัดเป็ดตอนอบเนี่ยคงจะหอมมากเลย ก้อยใช้แค่ลูกเดียวนะคะ แล้วก็หั่นส้มเป็นชิ้นๆ



คลุกทุกๆอย่างเข้าด้วยกัน...ตอนเนี่ย...กลิ่นขิงออกมาแรงสุดเลยค่ะ สงสัยเป็นเป็ดอบขิงซะแล้ว



ยัดเข้าไปที่ท้องเป็ดเลยนะคะ โชคดีสัดส่วนขนาดนี้ ยัดได้เต็มท้องเป็ดพอดีเลยค่ะ ไม่เหลือให้เสียดาย แล้วก็ไม่น้อยเกินไปจนยัดไม่พอ



ก้อยใช้ไม้จิ้มฟันมาจัดการเย็บปิดก้นเป็ดซะหน่อย เวลาอบ ข้างในจะได้ระอุ กลิ่นหอมของเครื่องจะได้เข้าไปอยู่ในเนื้อเป็ดค่ะ



เป็ดเนี่ย...น้ำมันจะเยอะนะคะ ก้อยใช้ตะแกรงรองไว้ที่ถาดอบ น้ำมันจะได้ตกลงถาดค่ะ แถมหนังเป็ดจะได้สีสวยเสมอกันทั้งตัวด้วย ก้อยอบไฟอ่อนค่ะ ใช้ไฟ 170 C ประมาณสองชั่วโมง ถ้าใครเตาอบเล็ก แล้วส่วนหน้าอกเป็ดจะใกล้ไฟบนของเตาเกินไป ก็ใช้กระดาษฟอล์ยฉีกเป็นชิ้นยาวๆ แปะหน้าอกเป็ดเอาไว้นะคะ



ก้อยให้เขาตัดคอเป็ดแยกออกมาค่ะ เลยเอามาต้มทำน้ำซุป ใส่ตับ หัวใจ กึ๋น เป็ดลงไปต้มด้วย ใส่เกลือนิดหน่อย แล้วก็กระเทียมซักสี่ห้ากลีบค่ะ



ช่วงที่รอเป็ดสุก ก็เลยมาทำของหวานดีกว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วน้องแพรเพิ่งทำ Chocolate Self-Saucing Pudding มาให้ดูกันนะคะ ก้อยทำบ้างดีกว่าแต่เป็นคนละสูตรกับของน้องแพร สูตรก้อยไม่ได้ใส่ sour cream ค่ะ เพื่อความสะดวกเวลาทานก็เลยใช้ ramekin อบเอาค่ะ จะได้ทานเป็นที่ๆต่อคนได้เลย

ให้สูตรไว้นะคะเผื่อใครจะลองทำดู อันนี้เป็นของ Bill Granger เชฟชาวออสเตรเลียค่ะ

Chocolate Self-Saucing Pudding (ไฟ 180 C)
=============================
แป้งอเนกประสงค์ 125 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ผงฟู 3 ช้อนชา
ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลขาว 120 กรัม
เนยละลาย 85 กรัม
นม 1 ถ้วยตวง
ไข่ตีให้พอเข้ากัน 2 ฟอง
วานิลา 1 ช้อนชา

Topping
น้ำตาลทรายแดง 185 กรัม
ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเดือด 1 ถ้วยตวง

ส่วนเนื้อพุดดิ้ง ก็ร่อนส่วนผสมแห้งให้เข้ากันนะคะ แล้วก็ใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไปให้หมด คนด้วยตะกร้อมือจนเข้ากันดี ตักใส่ถ้วยขนาด 250 ml ได้สี่ถ้วยค่ะ (ถ้วยขนาดที่ก้อยใช้จะได้ห้าถ้วยค่ะ) ส่วน Topping ก็ผสมน้ำตาลทรายแดงกับผงโกโก้เข้าด้วยกัน ตักหยอดหน้าขนม แล้วก็ค่อยๆเทน้ำเดือดลงไปบนน้ำตาลนะคะ เอาเข้าอบประมาณ 25 นาทีค่ะ



ส่วนน้ำตาลกับช๊อคโกแลตที่เอาไว้โรยหน้า...น้ำตาลยังเป็นเม็ดโตๆอยู่เลยค่ะ แต่ไม่เป็นไร



ค่อยๆเทน้ำลงไป



พยายามที่สุดให้น้ำคลุมน้ำตาลให้ทั่ว แต่ก็ไม่สำเร็จค่ะ



อบเสร็จแล้ว...ที่เห็นเป็นขุยๆ นั่นคือส่วนที่น้ำคลุมน้ำตาลไม่ทั่วค่ะ



เอาไปที่บ้านติ๊กแค่สามอัน ที่เหลือแบ่งไว้ที่บ้านส่วนนึง เมื่อวันอาทิตย์น้องเล่กับซ่าก็ได้ทานไปหนึ่งอันค่ะ
...อันนี้ของเด็กที่บ้าน หยอดวิปครีมลงไปหน่อย



กลับมาดูเป็ดกันต่อค่ะ ก้อยอบไปสองชั่วโมง แล้วก็เร่งไฟขึ้นเป็น 220 C อีกซัก 20-30 นาที เพื่อเป็ดจะได้เหลืองสวยค่ะ



แล้วก็จัดการแงะเอาใส้ที่ยัดไว้ออกมาไว้ที่ถาดอบค่ะ



ห่อเป็ดเพื่อเตรียมเอาไปบ้านติ๊ก



เอาถาดที่อบเป็ดตั้งเตาเลยนะคะ เราจะทำน้ำเกรวี่กัน
ก้อยราดเหล้าเชอรี่ลงไปหน่อย ... หอมดีค่ะ




ขูดพวกที่ติดๆถาดออกให้หมด ... ของอร่ิอยอยู่ตรงนี้ค่ะ ก้อยตักน้ำซุปที่ต้มไว้ลงไปเพิ่มด้วย



แล้วก็จัดการกรองซะ



ช่วงนี้ส้มเยอะค่ะ ... เลยคว้าส้มสายน้ำผึ้งบีบลงไปสองลูก ชิมดู...ก้อยอยากให้รสจัดขึ้นอีกนิดก็เลยเติมเกลือ แล้วก็แถมด้วยน้ำตาลทรายแดงลงไป (น้ำตาลซักครึ่งช้อนช้าก็พอค่ะ เดี๋ยวจะหวานไปซะ)



ทีนี้เนี่ย...มีตับ กึ๋น หัวใจ ที่ต้มรวมอยู่ในน้ำซุป ก้อยเสียดายค่ะ ... ตับชิ้นสวย



กึ๋น



ก็เลยหั่นทั้งหมดเป็นชิ้นเล็กๆลงไปเคี่ยวในน้ำเกรวี่ด้วย ปรากฎว่าออกมาดีเลยค่ะ ตับเป็ดไปเพิ่มรสชาติให้น้ำเกรวี่ ให้มีรสเข้มข้นขึ้นอีกต่างหาก



ไปถึงบ้านติ๊ก...วันนี้น้องจัดโต๊ะเอาไว้สวยรอท่าอยู่ค่ะ



น่ารักจัง



เชิงเทียนสวย แต่หาเทียนไม่เจอค่ะ ติ๊กโทรไปหาก้อย ก้อยก็มัวแต่ยุ่งๆทำเป็ดอยู่เลยไม่ได้ไปค้นเทียนให้



ไปถึงก็จัดการเอาเป็ดลงจานเลยค่ะ



น้ำเกรวี่...เอาไปอุ่นซะหน่อย



ก้อยทำบร๊อคโคลี่เป็น side dish นะคะ ทำง่ายๆ ลวกน้ำร้อนให้พอนุ่มแล้วก็คลุกน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย



ก้อยโทรไปบอกติ๊กให้ซื้อผักสลัดไว้ ได้ rocket ทานกับน้ำสลัดที่ก้อยทำไปค่ะ



วันนี้ติ๊กเสริฟไวน์แดงตัวนี้ึ้ค่ะ Beaune เป็ดวันนี้มีกลิ่นออกจีนๆหน่อยนะคะ อาจจะเป็นเพราะกลิ่นขิงสับ พอทานกับไวน์แล้ว...อร่อยค่ะ



ก้อยแล่ส่วนอกให้น้องแฟนติ๊กกับตัวก้อยเอง ที่เหลือส่วนสะโพกแล้วก็ขา ยกให้ติ๊กหมดเลยค่ะ



ส่วนอก...จะเห็นว่าในน้ำเกรวี่ที่ราด มีชิ้นเล็กชิ้นน้อยของพวกเครื่องในปนอยู่ด้วยค่ะ



ทานกับผักนุ่มๆได้เยอะเลยค่ะ วันนี้เรามีแค่นี้ค่ะเป็นจานหลัก



ทานขนมกัน... เอาเข้าไมโครเวฟซะหน่อย กินแบบอุ่นๆค่ะ ติ๊กเสริฟไวน์หวานที่ทานกับขนมด้วยค่ะ ลืมถ่ายรูปมาให้ดู



พอเสร็จของหวานแล้วก็นั่งคุยกันต่อค่ะ ... ทานชีสกับไวน์กันดีกว่า ติ๊กหอบมาจากโน่น ถูกกว่าที่ซื้อที่เมืองไทยค่ะ ... อันแรกบลูชีส



อันนี้ติ๊กชอบ



ส่วนอันนี้...ก้อยรีเควสค่ะ บรี นั่นเอง ... รู้สึกว่าจืดไปนิดนึง ยี่ห้อนี้



ทานกับขนมปัง ... มีขนมปังหัวกะโหลกด้วย ติ๊กบอกว่้า ขนมปังฝรั่งเศสเหลือแค่สองชิ้นเท่านั้น กลัวพี่ก้อยไม่อิ่ม เลยเอาขนมปังหัวกะโหลกมาด้วย



แล้วก็ยังมีองุ่นด้วยค่ะ ... คุยกันสนุกสนานถึงเรื่องเก่าๆ ก็คงจะเป็นเพราะเริ่มแก่แล้วมั๊งค่ะ ก้อยรำลาน้องๆทั้งสองก็ประมาณสี่ทุ่มกว่าๆแล้ว คนท้อง ก้อยก็อยากให้น้องพักผ่อนเยอะๆค่ะ

Create Date : 30 มกราคม 2549		8 comments
Last Update : 30 มกราคม 2549 20:42:04 น.
Counter : 3481 Pageviews.
Share Tweet