Bloggang.com : jejeejajar : หาข้อมูลเตรียมตัวและมาบินลัดฟ้าสู่มหานครลอนดอนกันดีกว่า

หาข้อมูลเตรียมตัวและมาบินลัดฟ้าสู่มหานครลอนดอนกันดีกว่า

สวัสดีค่ะ จากเอนทรี่ที่แล้วที่บอกว่าจะมา "แชร์ประสบการณ์ระทึก เมื่อเดินทางไปถึงวันแรก" ต้องขอพับไปก่อน เพราะนึกได้ว่าควรจะแชร์ข้อมูลที่เราเคยหา เคยค้น เคยเจอ เคยรู้มาก่อนเดินทางน่าจะดีกว่า แต่ยังไงๆเราต้องมาเล่าประสบการณ์ระทึก เมื่อเดินทางไปถึงวันแรกของเราแน่นอนค่า

ท่าอากาศยานที่ลอนดอน
ที่ลอนดอนมีท่าอากาศอยู่ด้วยกัน 5 แห่ง นั่นก็คือ Heathrow, Gatwick, London City Airport, Luton และ Stansted ดังนั้นก่อนที่จะเลือกสายการบิน เพื่อนๆควรรู้จุดหมายปลายทางที่เราจะไปลงกันก่อนนะคะ เพราะแต่ละสนามบินตั้งอยู่ต่างที่กัน และมีวิธีการเดินทางเข้าตัวเมืองต่างกันด้วยค่ะ โดยเครื่องบินที่บินมาจากกรุงเทพ เครื่องบินมักจะมาจอดที่สนามบิน Heathrow

จากกรุงเทพ...ไปลอนดอน
ปัจจุบันมีสายการบินมากมายจากบ้านเราบินไปลอนดอน มีทั้งแบบบินตรง หรือต่อเครื่อง โดยแต่ละสายการบินก็มีราคา สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการแตกต่างกันออกไปนะคะ

ตอนเราไป บอกตามตรงว่าเราตัดการบินไทยออกไปก่อนเลย เพราะว่าราคาแพงมั่กๆ แล้วเหมือนมีความคิดไม่รู้ถูกหรือผิดว่าถ้าบินตรงแล้วคงแพงมากๆ แล้วลองไปอ่านกระทู้ที่เค้าไปเที่ยวแถบอังกฤษส่วนใหญ่ก็จะพูดถึงสายการบินทางตะวันออกกลางซะส่วนใหญ่ เพราะมีราคาถูกและเรื่องการบริการก็โอเค ณ ตอนนั้นก็จำๆสายการบินที่อ่านเจอในพันทิพ ก็ลอง search ราคาดู ก็ไม่แพงจริงๆด้วย

เราใช้บริการจากเอเจนซี่ที่เคยซื้อตั๋วตอนไปเม็กซิโก เพราะตอนนั้นเราเป็นโรคขี้กลัวการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตมากมาย (บ้าเกิ๊น) และอีกอย่างเคยใช้บริการกันอยู่ เค้าก็ไม่ได้คิดแพงเว่อร์มาก (มั้ง) และยังมีบริการส่งถึงที่ จะรูดบัตรเครดิตก็มารับถึงที่อีกต่างหาก

ตกลงเราเลือกไปสายการบิน ETIHAD โดยต้องไปต่อเครื่องที่ ABU DHABI รอเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ราคาที่ไป ณ วันนั้น (วันที่ 22 Oct 2008) ประมาณ 41,xxx บาท เราจ่ายโดยบัตรเครดิตโดนชาร์จเพิ่มเล็กน้อยประมาณ 3%

ทำไมเราเลือก ETIHAD ทั้งๆที่ต้องต่อเครื่อง เพราะตอนนั้นราคาไม่แพง และการต่อเครื่องไม่ใช่ปัญหาของเรา อีกทั้งระยะเวลาในการรอต่อเครื่องก็ไม่นานมาก ที่สำคัญเราเคยอ่านเจอว่าสายการบินนี้เป็นเลิศทางด้าน entertainment เค้ามีจอภาพส่วนตัวทุกที่นั่ง และเท่าที่อ่านมาไม่ค่อยมีข้อเสียอะไรมาก เราก็เลยตัดสินใจเลือกสายการบินนี้ทันที

แต่ ณ วันนี้ที่ราคาเงินปอนด์ถูกมากๆ เพื่อนๆก็ลองหาราคาเปรียบเทียบดูกันอีกทีก็ได้นะคะ แต่เรื่อง entertainment สำหรับ EITIHAD นี่เราคอนเฟิร์มมมม

อ่อ...และก่อนเดินทาง "อย่าลืม!!! ทำประกันภัยการเดินทาง" กันไว้ด้วยนะคะ
เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิด/ไม่คาดฝัน/ไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็อาจจะเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ

ลองพิมพ์คำว่า "ประกันภัยการเดินทาง" ลงใน google รับรองว่ามีลิงค์ขึ้นมาให้เพื่อนๆคลิ๊กเข้าไปเลือกแผนประกันภัยมากมายตามระยะเวลาที่เราเดินทางไป มีหลานแพคเกจให้เลือกสรร โดยหลักๆของแต่ละแพคเกจก็คือจำนวนเงินเอาประกันที่จะได้ในกรณีเจ็บป่วน/เสียชีวิต/อื่นๆ

สำหรับเรา เราเลือกแค่ Economy Plan สำหรับช่วงเวลา 61-90 วัน ตอนนั้นราคาเบี้ยประกันภัยของแพคเกจนี้เพียง 1,248 บาท เอง ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกมากๆ และคุ้มมากๆหากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับชีวิตของเรานะคะ

list มาให้ดูคร่าวๆถึงสิทธิประโยชน์ที่เราได้รับ
1. การรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย = 500,000 บาท
2. การเสียชีวิต หรือ การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือ ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุ = 1,000,000 บาท
3. การเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน และ การเคลื่อนย้ายกลับประเทศ = สูงสุด USD 1,000,000
4. ค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรืออัฐิกลับประเทศ = สูงสุด USD 1,000,000
5. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก = 1,000,000 บาท
6. การยกเลิกการเดินทาง = ไม่คุ้มครอง
7. ความล่าช้าในการเดินทาง = 10,000 บาท
8. การพลาดการต่อเที่ยวบิน = 3,000 บาท
9. การลดจำนวนวันเดินทาง = ไม่คุ้มครอง
10. การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง = ไม่คุ้มครอง
11. ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อกระเป๋าเดินทาง หรือ ทรัพย์สินส่วนตัว = 5,000
12. ความสูญเสียหรือความเสียหายของเงินส่วนตัว = ไม่คุ้มครอง
13. การสูญหายหรือเสียหายของเอกสารการเดินทาง = ไม่คุ้มครอง
14. การเยี่ยมไข้ = ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด
15. การส่งผู้เยาว์กลับประเทศ = ตั๋วเครื่องบินกลับชั้นประหยัด (One-way
16. การขยายระยะเวลาโดยอัตโนมัติ (สูงสุดไม่เกิน 15 วัน) = คุ้มครอง
17. การชดเชยเงินสดค่าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน อันเนื่องจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย = ไม่คุ้มครอง

จากการคุ้มครองที่ได้ แค่นี้เราว่าพอเกินพอแล้ว สำหรับเรานะ แต่ถ้าใครอยากได้การคุ้มครองทั้งหมด และได้วงเงินในบางอย่างที่สูงกว่า ก็เลือกแพคเกจที่สูงกว่านี้ได้ค่ะ อย่าง Delux plan คุ้มครองหมดเลย เงินบางตัวสูงกว่าหลายเท่า ราคา 3,649 บาทเอง อืม...พอมาเขียนแล้วก็งงตัวเองทำไมไม่เลือกแบบ delux หว่า

อ่อ...นึกออกแล้ว...เพราะเราซื้อตั๋วเครื่องบินโดยใช้บัตรเครดิตไปแล้วไง...ดังนั้นเราก็จะได้สิทธิคุ้มครองบางอย่างจากบัตรเครดิตแล้วนั่นเอง เช่น ...

- ประกันเครื่องบินล่าช้าหรือยกเลิกเกินกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป*

- ประกันกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือกระเป๋าเดินทางล่าช้าเกินกว่า 24 ชั่วโมงโดย สมาชิกบัตรที่ชำระตั๋วเครื่องบินด้วยบัตรเครดิต xxx สามารถนำบัตรฯ ไปซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็นอันเนื่องจากเหตุดังกล่าวในวงเงินสูงสุด 5,000 บาท

- ได้รับวงเงินประกันสูงสุดถึง 10 ล้านบาท กรณี เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงท่านชำระค่าเดินทางเต็มจำนวนด้วยบัตรเครดิต xxx

อืม...แต่อ่านไปอ่านมา...สงสัยซื้อประกันภัยการเดินทางจะคุ้มกว่าจ่ายค่าตั๋วทางบัตรเครดิตนะเนี่ยยยย แต่เอาน่า คิดซะว่าได้สะสมแต้มแล้วกัน

พอเตรียมตัว เตรียมใจ สำหรับการเดินทางแล้ว ... พอถึงวันเดินทาง ก็ออกเดินทางไปสนามบินกันเล้ยยยค่า ...แอบเอารูปที่ครอบครัวไปส่งมาลงไว้ด้วยเลยแล้วกัน

31 ตุลาคม 2551
พวกเราเดินทางออกจากบ้านย่านสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิกันตอน 5 โมงเย็น เพราะเครื่องออกประมาณ 20.15 น.

กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 25 โลกว่าๆ เป้ใส่โน้ตบุค หนังสือของใช้ต่างๆ และกระเป๋าสะพายข้างใส่กระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต เอกสารสำคัญๆ อีก 1 ใบ

พอถึงสนามบิน ก็มุ่งหน้าตรงไปเช็คอินก่อนเลย แน่นอน คนแขกเยอะมากกก แต่ไม่ใช่สายการบินที่เราไป

เช็คอินเสร็จแล้วววว ไปหาข้าวกินกัน (ทั้งๆที่กินมาบ้างแล้ว)

พวกเราไปกิน S&P กัน กินไป คุยไป มื้อสุดท้ายที่บ้านเรา

กินเสร็จก็หาซื้อของเพิ่มเติมนิดๆหน่อยๆ แล้วก็ถึงเวลา...บอกลากับที่บ้านแล้วววว

ถ่ายรูปกัน สองบ้าง สามบ้าง หมู่บ้างงงง

ครอบครัวของเรา....

ได้เวลาบอกลา-กอดลากัน...กับน้องสาวสุดที่รัก...เรานอนห้องเดียวกัน หลังจากวันนี้ น้องต้องไปนอนกับคุณพ่อคุณแม่แล้ววว

น้องมากอดแล้วก็ร้องไห้...แม่ก็มากอดทับกันสามคน...แล้วก็ร้องไห้...เราก็ร้องไห้...ไปกอดพ่อกับน้องชาย...สองคนนี้ไม่ร้อง...กลั้นไว้ลูกผู้ชายต้องอดทน ฮ่าๆ

ก่อนไป...ขอรูปคู่อีกสักหน่อย

ตอนกอดลากับคนในครอบครัว...อยากเข้าไปกอดผู้ชายคนนี้ด้วย...แต่เกรงใจพ่อกับแม่

แต่แอบได้ยินนะ!!! แม่ยุว่า...กอดพี่กวางหน่อยๆ แต่ไม่อ่ะ กอดกวางก็ต้องร้องไห้อีกรอบแน่ๆเลย

แล้วเราก็เดินหันหลังเข้าไปด่านตรวจคนเข้าเมือง ... มีแอบหันมามองแว้บๆ ที่บ้านก็ยังมองดูเราตลอด เราหันไปเมื่อไหร่ก็จะโบกมือและยิ้มให้ อ่อ แล้วชูสองนิ้วด้วย ทำเอาเราจะร้องไห้อีกรอบ แล้วเหมือนทุกคนจะตัดสินใจเดินกลับออกไป เพราะคงกลัวเราน้ำตาแตกอีกรอบ แต่ตอนที่เดินผ่านทางเข้าก็ยังหันมาบ๊ายบายยย และยิ้มให้อีกกกกก

จากนั้นเราก็จัดการต่อแถวผ่าน ตม. ให้เรียบร้อย เดินๆๆไปแสกนของ มุ่งหน้าไปยัง gate เพราะใกล้เวลาแล้ว ก่อนจะขึ้นหล่ะ เครื่องก็ยังโทรหาแม่ กับแฟนอีก เกือบร้องไห้อีกแว้วววว และในที่สุดเราก็ก้าวขาขึ้นเครื่องบิน ซึ่งคนเยอะม๊ากกกกก แล้วปิดโทรศัพท์ เตรียมลัดฟ้าสู่มหานครลอนดอนจร้า....

ป.ล. อันนี้เป็นเรื่องราวที่เราเตรียมตัวเดินทางเมื่อประมาณปี 2008 นะคะ จริงๆตอนไปก็โตแล้วแหละ แต่เป็นคนขี้แงมากๆ อย่างว่านะ...จากบ้านจากเมืองมาไกลขนาดนี้ เดินทางไปคนเดียวด้วย มันก็มีหลากหลายอารมณ์ประดังเข้ามาจริงๆ

แล้วอย่าลืม...ติดตามอ่าน...ตอนต่อไปนะคะ

Create Date : 06 ตุลาคม 2553

Last Update : 3 มกราคม 2554 2:20:38 น.

2 comments

Counter : 1151 Pageviews.

มาติดตามแล้วพี่จ้า จะติดตามตอนต่อไป

โดย: ว่าน IP: 118.174.187.216 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:22:18:26 น.

ติดตามด้วยคน

โดย: แดง IP: 161.200.91.76 วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:12:36:56 น.