|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ไปหาหมอ
เขียนหัวข้อแบบนี้ ไม่ได้ว่าผมไปหาหมอเองหรอกนะ เพราะว่าผมเจอหมอทุกวันอยู่แล้ว ไม่ค่อยอยากไปหาอีก แต่ที่อยากจะมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่ได้คุยกับน้องคนหนึ่ง แล้วเขาประสบการณ์ที่น่าตื้นเต้นของเขาให้ฟัง
น้องเขาเล่าว่า เขาพาพี่สาวไปหาหมอคนหนึ่ง สมมติว่าชื่อ คุณหมอ ก. ด้วยอาการปวดท้อง หมอ ก. ตรวจแล้วบอกว่าสงสัย ไส้ติ่งอักเสบ จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด แต่ด้วยความกลัวผ่าตัด หรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ผู้ป่วยก็ได้ไปตรวจกับคุณหมอคนที่สอง สมมติว่าชื่อ คุณหมอ ข.
คุณหมอ ข. ก็ตรวจพี่สาวของคุณน้องเขาอย่างดี และบอกว่าไม่เป็นอะไร ให้ยาไปกิน และสุดท้าย ก็หายปวดท้องโดยไม่ต้องผ่าตัด
น้องเขาเล่าให้ผมฟังอย่างตกใจว่า พี่สาวเขาเกือบโดนผ่าตัดไปแล้ว หมอ ก. วินิจฉัยผิดแน่เลย
ผมฟังแล้วก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ไม่มีความแปลกใจครับ ตกใจ ที่ทำไมน้องเขาคิดว่า หมอ ก. วินิจฉัยผิด ไปเคืองหมอ ก. แต่ไม่แปลกใจเลยล่ะ เพราะเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้ โดยไม่มีใครผิดใครถูกที่แท้จริง
การตรวจและการวินิจฉัย เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันได้ ตามแต่อาการ ระยะของโรค และสิ่งที่ตรวจพบในขณะนั้น ภาษาอังกฤษก็เรียกเป็นศํพท์หรูๆ ว่าเป็น Dynamic ไม่ใช่เมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน ปวดท้องตรงนี้ และอีก 1 ชั่วโมงถัดมา จะต้องปวดท้องที่เดิม
ยกตัวอย่าง อย่างกรณีนี้เลยแล้วกันนะ การวินิจฉัยโรคไส้ติ่งอักเสบ วินิจฉัยโดยใช้จากอาการ ตำแหน่งการปวดท้อง การตรวจร่างกาย ระยะเวลาการปวด และอะไรๆ อีกหลายอย่าง แต่ไม่ได้วินิจฉัยจากการเจาะเลือด หรือการตรวจปัสสาวะ การตรวจเพื่อช่วยยืนยันอีกเล็กน้อย แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยในการตัดสินการรักษา ถ้าแค่เพียงสงสัย อาการและสิ่งต่างๆ เข้าได้กับไส้ติ่งอักเสบ คุณหมอส่วนใหญ่ก็มักไม่รอรี ที่จะให้ผู้ป่วยงดน้ำงดอาหาร เตรียมตัวผ่าตัดทันที ซึ่งถ้าผ่าไปแล้วพบว่าไส้ติ่งไม่ได้อักเสบรุนแรง แต่ส่วนใหญ่ก็จะพบว่าไส้ติ่งอักเสบเล็กๆน้อยๆ เสมอ ก็ยังดีกว่า ละเลยไม่ได้ผ่า แล้วปล่อยให้แตกทีหลัง ซึ่งต้องผ่าตัดใหญ่มากขึ้น
ผมก็เข้าใจว่า คุณหมอ ก. วินิจฉัยจากอาการ และการตรวจร่างกายเป็นอย่างดีแล้ว น่าสงสัยไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งอาการขณะนั้นน่าจะคล้ายจริงๆ แต่เวลาผ่านไป อะไรๆก็เปลี่ยนไปได้ พอไปเจอคุณหมอ ข. อาการต่างๆก็คงไม่ค่อยเหมือนไส้ติ่งอักเสบแล้ว คุณหมอ ข. ก็เลยรักษาอีกแบบ
การแพทย์เป็นเช่นนี้ในหลายๆเรื่อง ไม่มีคนไข้คนไหนเดินเข้ามาพร้อมป้ายชูว่าเป็นโรคอะไร คุณหมอก็ต้องใช้ประวัติการเจ็บป่วย สิ่งที่ตรวจร่างกายพบ และถ้าจำเป็นก็ต้องตรวจเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่เข้าได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงกันได้
คุณหมอทุกคน ก็อยากรักษาคนไข้ให้หายทุกคนนั่นแหละครับ คนไข้หายเราก็สบายใจ สุขใจ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็อยากให้เขาสบายกาย สบายใจมากที่สุด ถ้าเป็นโรคที่รักษาไม่ได้
ทุกอย่างเป็นตามหลักไตรสิกขา อนิจจัง - ทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน ทุกขัง - ทุกอย่างล้วนเป็นทุกข์ อนัตตา - ทุกอย่างล้วนไม่มีตัวตน
Create Date : 13 สิงหาคม 2549 |
|
3 comments |
Last Update : 13 สิงหาคม 2549 19:42:18 น. |
Counter : 586 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: chompoo (เเสงตะวัน ) 15 สิงหาคม 2549 11:34:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผึ้ง (manasanan ) 24 สิงหาคม 2549 14:19:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
จนหมอบอกว่า ไม่ต้องรักกันมากขนาดนี้ก็ได้
ก็ไปที่มันพาร่างไร้เรี่ยวแรงมาทุกที
ขอบคุณ
คุณหมอที่ดูแลหนูมาตลอดคะ