| |
ความในใจของคนขี้เกียจ ........... เรื่องนี้ก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 1ปีกับอีก 4เดือนกว่า... เราเป็นคนอ้วนมาตั้งแต่เด็กแล้ว จำได้มาเมื่อเข้ามหาลัยปีหนึ่ง เราก็มีน้ำหนัก 80 กก.แล้ว พอจบมหาวิทยาลัย เริ่มทำงานก็ทำน้ำหนักเข้าไป 84 กก แถมความสูงก็ต่ำกว่าเด็กมัธยมสมัยนี้เสียอีก..ตอนเริ่มทำการใหม่ๆพี่ที่ทำงานก็พยายามที่จะบังคับให้พยายามลดน้ำหนัก..เราก็พยายามได้อยู่พักเดียวเอง... ..............และแล้วก็มีอันต้องออกจากงานที่ทำอยู่มาทำงานอยู่ที่บ้าน .. คราวนี้แรงจูงใจในการลดน้ำหนักก็หายไป แถมกิจวัตรประจำวันที่ต้องตื่นแต่เช้า แล้วการออกกำลังกายโดนการโหนรถเมล์ไป-กลับ ระหว่างที่ทำงานกับบ้านก็หายไป..มีเวลาว่างมากขึ้น ก็เลยมีเวลารับประทานเยอะตามไปด้วยสิค่ะ...ที่นี้ยอดตัวเลขน้ำหนักก็พุ่งขึ้น ไปตามวัยที่พุ่งขึ้นเหมือนกัน... ....จนเมื่อปีที่แล้ว ไม่สบายเป็นไข้หวัด..ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล แล้วต้องขึ้นตาชั่งนี้สิค่ะ..ตกใจเอามากๆมาทำไม น้ำหนักตรูถึงขึ้นตัวเลข 90ได้หล่ะนี้...เพราะโดยปกติแล้วรู้ว่าตัวเองเป็นคนน้ำหนักเยอะอยู่แล้วก็พยายามจะไม่ให้น้ำหนักมันมีตัวเลขเกิน85 เป็นอันขาด..ที่นี้พอถึง90นี้สิ.. ถึงได้มีความสำนึกได้ด้วยตัวเองว่า.."ตรูสมควรจะเริ่มหันมาสนใจเรื่องลดน้ำหนักแบบจริงๆจังๆเสียที" ...ที่นี้ก็เลยเริ่มที่จะหาข้อมูลในการลดน้ำหนักจากในอินเตอร์เนต โดยเริ่มจากเรื่อง อาหารที่จะต้องทานในช่วงลดน้ำหนักว่าเราสามารถทานอะไรได้บ้าง เพราะด้วยตัวเองเป็นคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย เวลาออกกำลังกายทำได้อย่างดีสุด ก็ คือการตีแบดมินตัน ที่บนถนนหน้าบ้านเท่านั้นเอง... ที่นี้ก็มาดูวิธีการลดน้ำหนัก ของเรา ที่เราทำอย่างนี้มาเป็นเวลากว่า 1 ปีกัน เราเริ่มด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานของตัวเอง.. 1. เรา งดรับประทานของหวานทุกชนิดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือของเทศ ใครชวนให้ทานของจำพวกนี้ก็ปฏิเสธไปเลย 2. เรา งวดอาหารจำพวกแป้งทุกชนิด ขนมปังก็ไม่ทานไม่ว่า จะเป็นชนิด ขาว หรือโฮมสวีต ข้าวขาวไม่ทาน จะทานเฉพาะข้าวกล้องอย่างเดียว 3. เรา งดไปทานอาหารนอกบ้าน แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงไม่ได้ก็จะสั่งเฉพาะอาหารที่เราสามารถเลือกทานได้ 4. เรา งดน้ำอัดลม น้ำเปรี้ยว ทุกชนิด 5. เราทานน้ำกระเจี๊ยบโดยใน 1วันจะทานน้ำกระเจี๊ยบให้ได้ 4ขวดน้ำโพลลิตรขนาด 1.5 ลิตร (โดยน้ำกระเจี๊ยบนี้ไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือเกลือนะค่ะ) 6. การรับประทานของเราในแต่ละวัน เริ่มจาก ตื่นนอนขึ้นมาก็ เริ่มด้วยทานน้ำกระเจี๊ยบ 1/2 ขวด(ขวดน้ำขนาด 1.5ลิตร หรือ 1.2 ลิตร) มื้อเช้า จะเป็นพวก ซีเรียล+น้ำถั่วเหลืองไม่ใสน้ำตาล ซึ่งก่อนทานมื้อเช้านี้เราจะดื่มน้ำกระเจี๊ยบ1แก้วใหญ่ก่อน ซึ่งมื้อเช้าเราจะทานให้เสร็จเรียบร้อยก่อน 8โมงครึ่ง พอสักประมาณ 10โมง เราจะถึงดื่มกาแฟดำไม่ใส่ครีมไม่ใส่น้ำตาล ระหว่างมื้อเช้า ถึง กลางวัน ถ้าหิวเราจะใช้วิธีดื่มน้ำกระเจี๊ยบแทนไป กลางวัน ข้าวกล้อง 1 ทัพพี กับข้าวก็เป็นพวกผัดผัก แกงจืด ช่วงบ่ายๆถ้าหิวโหยก็จะดื่มน้ำกระเจี๊ยบ+ผลไม้อะไรก็ได้(ยกเว้นทุเรียนหรืออะไรที่มันจะไปทำลายการลดน้ำหนักของเรานะค่ะ) มื้อเย็น ก็เต็มเลย สลัดผักผลไม้+น้ำสลัดสำหรับคนลดน้ำหนัก 1ชาม มื้อเย็นนี้เราจะทานให้เสร็จก่อน 6โมงครึ่ง(เย็น) และต้องไม่มีรอบดึกโดยเด็ดขาด คือหลังจาก 1ทุ่มไปแล้วเราจะไม่ทานอะไรอีกเลย นอกจาก น้ำกระเจี๊ยบ เราทำอยู่ประมาณนี้มาตลอดระยะ 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ส่้วนการออกกำลังกายก็จะมีทำบ้าง แล้วแต่ความขยันจะเอื้ออำนวยนะค่ะ และ ณ.ปัจจุบัน น้ำหนักก็ลงมาอยู่ที่ 77 กก..ไม่อยากบอกว่าความขี้เกียจในการลดน้ำหนักมันเริ่มมาอีกแล้วนี้นะสิ... หมายเหตุ วิธีไดเอทของเรานิดนะค่ะ 1. น้ำกระเจี๊ยบนี้เราจะดื่มแทนน้ำไปเลย และเราข้อกำหนดในการไดเอทของเราคือ เราจะต้องดื่มให้ได้ 4 ขวดน้ำ(ขนาด 1.2 - 1.5 ลิตร) ภายใน 1วัน 2. เวลาออกไปเที่ยวข้างนอก จะต้องมีน้ำเปล่า ขนาด 1 ขวดโพลลิตรขนาดกลางติดกระเป๋าไว้เสมอ 3. ก่อนทานอาหารทุกมื้อเราจะดื่มน้ำกระเจี๊ยบ 1 แก้วใหญ่ก่อนเสมอ ภาพเครติดจาก //www.cpallnews.com/ 
สวัสดีค่ะ
เก่งนะคะ 1 ปีน้ำหนักหายไป 10 กว่า กก. ต้องทำต่อไปค่ะ เวลาอ้วนเรายังใช้เวลาตั้งนานเลยนะ ถ้าอยากลดน้ำหนัก ต้องไม่ขี้เกียจค่ะ อาจจะเป็นบางวันได้ แต่ต้องกลับมาออกกำลังกาย และไดเอทต่อไป มาถูกทางแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ โดย: ญ.
 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:16:26:17 น.ตอบคุณ ป้าฯ นะค่ะ กระเจี๊ยบมีสรรพคุณ ในการลดไขมันและคลอเรทเตอรอล นะค่ะ แล้วก็เป็นยาระบายด้วยนะค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ ญ.ขอบคุณด้วยค่ะสำหรับกำลังใจ คงต้องเดินหน้าต่อไป.. แรกๆที่เริ่มลด นน.ลดลงค่อนข้างเยอะเลย จนที่บ้านบอกว่า ดูหน้าเหี่ยวไปเลย ที่บ้านว่าให้พอแล้วแค่นี้ก็พอ แต่เราก็ยังอยากลงอีก ก็เลยยังคงทำกิจกรรมนี้อยู่ โดย: jdear
วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:17:19:47 น. เก่งจังค่ะ ความอดทน พยายามสูงมาก นับถือ อ๋อ น้ำกระเจ๊ยบ...แบบนี้นี่เอง ขอลอกมั่งนะ  โดย: ดินสอสีม่วง
วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:12:00:29 น. |
Jdear
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] |
||||||||||||
แบบว่าจะขอเลียนแบบอ่ะคะ