1. แป้งสาลี 1 ถ้วย
2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
4. เกลือป่น 1 ช้อนชา
5. น้ำปูนใส 1 + 1/ 2 ถ้วย
6. น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันแล้วร่อนก่อน จากนั้นเติมส่วนผสมที่เหลือลงไป
แล้วใช้ตะกร้อมือคน ๆ หรือใช้มือขยำจนแป้งไม่เป็นเม็ด แล้วกรองด้วยกระชอนก่อน
จากนั้นเทน้ำมันใส่กระทะก้นลึกหรือหม้อ น้ำมันให้พอท่วมพิมพ์แล้วตั้งไฟ
กลาง ๆ
รอให้น้ำมันร้อนจัด ๆ นำพิมพ์จุ่มลงไป รอจนพิมพ์ร้อนแล้วยกพิมพ์ขึ้นมาสะหลัดน้ำมันออก
จากนั้นนำพิมพ์จุ่มพอให้ติดแป้งแต่ภายนอก แล้วยกมาจุ่มในน้ำมันพอแป้งเริ่มอยู่ตัวแล้ว
ให้กดก้นพิมพ์ลงก้นหม้อ จะทำให้ก้นกระทงทองแบนแล้วยกขึ้นมาทอดจนเหลือง
แป้งหลุดออกจากพิมพ์เอง ช้อนขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน พักตัวกระทงให้เย็น
ส่วนผสมไส้กระทง
1. เนื้อไก่ 500 กรัม
2. เนื้อกุ้ง 500 กรัม
3. พริกไทยเม็ด 20 เม็ด (มากน้อยตามชอบ)
4. กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ
5. ผงกระหรี่ 1 ช้อนชา
6. ซีอิ้วขาว 1-2 ข้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
9. แครอทหั่นลูกเต๋า - ถั่วลันเตา ข้าวโพด
หมายเหตุ - เปลี่ยนจากเนื้อไก่/เนื้อกุ้ง เป็นเนื้อหมูสับล้วน ๆ ก็ได้
ส่วนผสม(เครื่องปรุงชนิดต่าง ๆ) ระยะหลังฉันต้องตวงส่วนผสมต่างๆ ใส่ในถ้วยแบบนี้
คือเตรียมไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะลืมใส่เครื่องปรุงบางอย่าง นึกได้เมื่อทำเสร็จเรียบร้อย
ดังนั้นถ้าใครรู้ตัวว่า สว. (แก่แล้วหลงลืม) ฉันแนะนำให้ทำวิธีนี้เพื่อป้องกันการลืมนะคะ
วิธีผัดไส้
*โขลกกระเทียมและพริกไทยให้ละเอียด เสร็จแล้วพักส่วนนี้ไว้ก่อน
*สับเนื้อไก่ ฉันใช้เนื้อไก่ส่วนสันใน โดยสับเนื้อไก่ก่อน แล้วตามด้วยเนื้อกุ้ง
* ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟเตาอ่อน ๆ นำพริกไทยกับกระเทียมที่โขลกไว้
ลงไปผัดให้สีเหลืองนวล ๆ (อย่าเปิดไฟแรงเพราะจะทำให้กระเทียมไหม้เกรียม)
แล้วใส่เนื้อไก่ลงไปผัดก่อนแล้วยีๆๆ เนื้อไก่ให้กระจาย อย่าให้จับตัวกันเป็นก้อน
เมื่อไก่สุกดีแล้ว เขี่ยไปไว้ตรงขอบกระทะแล้วใส่เนื้อกุ้งสับลงไปผัดให้แค่พอสุก
ใส่สามเกลอลงไป สามเกลอก็คือ แครอท - ถั่วลันเตา - ข้าวโพดหวานทั้งเม็ด
ตามด้วยผงกระหรี่ลงไป ผัดคลุกเคล้าทั้งหมดให้เข้ากัน (กลิ่นมาแล้ว)
* ปรุงรสด้วยซอสน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย (ชอบกลิ่นหอมของซอสปรุงรส
ใส่เพิ่มไปได้) แล้วชิมรสอีกครั้ง ชิมให้ได้รสหวานนำ เค็มตาม ได้รสถูกใจแล้วดับไฟ
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการผัดไส้ พักส่วนไส้ไว้แล้วไปเตรียมทำอาจาดแตงกวากันต่อ
เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะ รอไว้ ไปต่อกันที่ อาจาดแตงกวา
กระทงทองส่วนใหญ่ที่ทำขายจะไม่มีอาจาดแตงกวา แต่ของบ้านฉันจะต้องมีคะ
อาจาดเป็นตัวเพิ่มความจี๊ดจ๊าดให้กับกระทงทอง ตัดความเลียนของเมนูทอดได้
รสชาติน้ำอาจาดจะออกหวานและเปรี้ยว มีรสเผ็ดจากพริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูซอย
ได้กลิ่นฉุนและหอมจากหอมแดงซอย รสเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มสายชูใส่น้ำตาล
แต่ถ้าไม่มีอาจาดแตงกวาก็ต้องซอยพริกชี้ฟ้าสีต่าง ๆ หรือพริกขี้หนูซอยร่วมด้วย
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
บ่งบ๊ง Food Blog ดู Blog
..........................
กระทงทองกับอาจาด ทั้งน่ารักและน่ารับประทานมากค่ะพี่บี๊
ขั้นตอนการทำกระทง พี่บี๊พิถีพิถันได้กระทงสวยงามมากค่ะ
ขอบคุณพี่บี๊สำหรับสูตรของว่างสวยๆและน่าอร่อยนี้นะคะ