ใส่ผักสองสามอย่างก็พอแล้ว มะเขือเปราะ มะเขือพวง ถั่วฝักยาว
ทุกวันนี้สั่งแกงป่ามากิน ตามร้านใส่ผักมาสารพัดสิ่ง เห็นแล้วเพลียใจ
แกงป่าแบบโบราณเขาไม่ใส่ข้าวโพดอ่อนน๊ะจ๊ะ แม่ครัวโปรดทราบ
* พริกแห้งเม็ดใหญ่ 4 เม็ด แช่น้ำเปล่าจนนุ่ม
* พริกขี้หนูเม็ดเล็กสีเขียวและแดง 15-20 เม็ด
* ข่าแก่หั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
* ตะไคร้ซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
* ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
* กระเทียมไทยกลีบเล็ก 15 กลีบ
* หอมแดงซอย 3 หัว
* กะปิ 1 ช้อนชา
หมายเหตุ - ส่วนพริกแกงถ้าชอบเผ็ดมากก็ใส่พริกสดเพิ่มไปได้
1. โขลกส่วนผสมน้ำพริกแกงป่าทั้งหมดเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ผัดน้ำพริกแกงป่ากับน้ำมันพืชในกระทะด้วยไฟกลางๆ พอหอม
เติมน้ำเปล่าลงไปประมาณ 1/2 ถ้วยตวง ผัดต่อจนน้ำเริ่มขลุกขลิก
3. เติมน้ำเปล่าส่วนที่เหลือ เร่งไฟให้แรงจนน้ำเดือด แล้วหรี่ไฟลงกลาง ๆ
ใส่เนื้อปลาลงไป (ใส่เนื้อปลาแล้วห้ามคนเด็ดขาด คนแล้วกลิ่นปลาจะคาว)
เมื่อปลาเริ่มสุก เนื้อขาวๆ ก็ใส่ถั่วฝักยาวหั่น ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวง
โรยกระชายซอย ฉีกๆ ใบมะกรูดใส่ โรยพริกไทยสด ใส่พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบลงไป
ปรุงรสด้วยผงซุปไก่ ใส่น้ำปลา ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น รอจนแกงเดือดอีกครั้ง
ใส่ใบกะเพราะ หรือใบโหระพา หรือกะเพราควาย(ใบยี่หร่าสด) ปิดไฟเตาได้
ตักแกงป่าปลาใส่ในถ้วย ยกเสิร์ฟขณะที่ยังร้อน ๆ พร้อมข้าวสวย หรือขนมจีน
ใส่ถั่วฝักยาวหั่น ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวง กระชายซอย ฉีกใบมะกรูดใส่ โรยพริกไทยสด
ใส่พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบลงไป ปรุงรสด้วยผงซุปไก่ ใส่น้ำปลา ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่น
รอจนแกงเดือดอีกครั้ง ใส่ใบกะเพราะ หรือ ใบโหระพา หรือ ใบกะเพราควาย (ใบยี่หร่าสด)
ปิดไฟเตาได้ เป็นอันเสร็จ ตักแกงป่าใส่ถ้วย เสิร์ฟขณะร้อน ๆ พร้อมข้าวสวย หรือขนมจีน
เนื้อปลาขาวจั๊ว ความที่ปลาสดมาก แกงแล้วเนื้อไม่เละ
โรยใบมะกรูด โรยกระชายซอย เพื่อดับกลิ่นคาวปลา
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในแกงป่าทุกชนิด กระชายซอย พริกไทยอ่อน
ขึ้นชื่อว่า "แกงป่า" รสชาดต้องเผ็ดร้อน จึงจะอร่อย
พริกแกงโขลกเองหอมกว่าซื้อ ส่วนใหญ่ใส่สารกันบูด
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบล๊อกอาหารและขนมนะคะ
พบกันใหม่ในบล๊อกต่อไป จะเป็นอาหารหรือขนมคงต้องติดตามกันต่อ