Bloggang.com : บ่งบ๊ง :

❤ ต้มส้มปลา สูตรโบราณ ❤

คุณพี่เปรยขึ้นมาว่า ฉันอยากกินแกงต้มส้มปลาทู หากินยากจัง สงสัยเค้าต้องชวนพรรคพวก
พากันไปกินแถวสมุทรสงคราม ฮ่วยย อยากกินแล้วต้องไปไกลถึงโน่น น้องทำให้กินเองก็ได้
แม่ครัวบอกคุณพี่ไปว่า วันนี้ทำได้เลย พอดีไปตลาดแล้วได้ลูกมะดันเปรี้ยวมา แต่ไม่มีปลาทูสด
ไม่มีปลาทูสดไม่ใช่ปัญหา เรามีเนื้อปลาอินทรีสดมาก คุณพี่ซื้อมาจากตลาดเช้าที่ อ.บางเสร่
เมื่อทุกสิ่งพร้อมมาก จัดได้ ต้มส้มปลาอินทรี แบบโบราณ ใส่มะดันเปรี้ยวจะให้สีแกงสวยงาม

ต้มส้มปลาทู จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เหมาะกับคนรักสุขภาพที่ไม่ชอบทานแกงกะทิ
แกงต้มส้มมีกลิ่นหอมของสมุนไพร พริกไทย ขิง หอมแดง สมุนไพรบรรเอาอาการหวัด
ขิง มีรสเผ็ดร้อน เป็นสมุนไพรพื้นบ้านแก้หวัด และจากการศึกษาพบว่า สารสำคัญในขิง
ingerol และ Gingerol สามารถแย่งจับกับตำแหน่ง main protease ที่ช่วยยับยั้งการ
แบ่งตัวของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2019 (Covid19) สรรพคุณเยี่ยมยอดของ...ขิง

ต้มส้มปลาโบราณ - สูตรใส่มะดันเปรี้ยว
วัตถุดิบและเครื่องปรุงรส
เนื้อปลาสด ... เลือกปลาตามชอบ
ขิงอ่อนซอย ½ ถ้วยตวง
รากผักชี 5 ราก
พริกไทย 1 ช้อนชา
หัวหอม 10-15 หัว (ขึ้นกับขนาดของหอม)
กะปิ 1-2 ช้อนชา
เกลือหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
มะดันดิบ 3 - 5 ลูก (ไม่มีมะดัน ใส่น้ำมะขามเปียก)
ต้นหอม / ผักชี หั่นรวมกันสองถ้วย

หมายเหตุ
ต้มส้มในแบบฉบับคุณบี๊ห์ ใส่เพิ่มพริกแห้งคั่วเพื่อให้น้ำแกงมีรสเผ็ดและมีกลิ่นหอม
ยังช่วยลดกลิ่นคาวปลา ต้มส้มแบบโบราณปรุงน้ำแกงไม่มาก เป็นแบบน้ำขลุกขลิก
แต่ผู้คนที่บ้านเราชอบซดน้ำแกง ตอนปรุงจึงต้องใส่เพิ่มน้ำในปริมาณมากกว่าปกติ

วิธีทำต้มส้มปลา
ควักไส้ปลาออกให้หมด ล้างน้ำให้สะอาด ล้างด้วยเกลือผสมกับน้ำมะขามเปียกให้สะอาดเกลือและมะขามเปียกช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้มาก ล้างแล้วบั้งด้านข้างตัวปลาข้างละ 2 บั้ง

ขิงอ่อน ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นฝอย เตรียมไว้

เตรียมเครื่องแกงต้มส้ม ใส่พริกไทยเม็ดในครก ตำพริกไทยให้ละเอียด
ใส่รากผักชีซอยลงไปตำก่อน ใส่หอมแดงซอยลงไปตำรวมกันให้ละเอียด
สุดท้ายใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากัน ตักเครื่องแกงใส่ในถ้วย พักรอไว้

วิธีปรุงต้มส้มปลา
* เทน้ำเปล่าใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งเตา เปิดไฟแรง รอให้น้ำเดือด ใส่เนื้อมะดันสับลงไปต้ม
ตามด้วยเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปละลาย (คุณบี๊ห์ใส่เพิ่มหอมแดงซอย) รอให้น้ำดือด

* น้ำเดือดแล้วปรุงรสก่อน (ใครจะใส่เนื้อปลาก่อนแล้วปรุงรสทีหลังก็ได้) แต่เราปรุงรสก่อน
ใส่ปลาทีหลัง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ ใส่เกลือ(ดอกเกลือ) (เราไม่ใส่น้ำปลา กลัวกลิ่นคาว)
แต่ถ้าชอบน้ำปลาก็ใส่ไป ลองตักน้ำแกงชิมดู แกงต้มส้มต้องมีรสเปรี้ยวและหวานเสมอกัน
(การปรุงรสให้เสมอกันเป็นเรื่องยากมาก) วัดฝีมือการปรุงแกงให้อร่อยในขั้นตอนปรุงนี้ อิอิ

ปรุงรสแล้วรอให้น้ำแกงเดือดอีกครั้ง จึงใส่เนื้อปลาลงไปต้ม ใส่ปลาแล้วห้ามคนแกงนะคะ
ไม่เช่นนั้นจะมีกลิ่นคาว รอให้เนื้อปลาสุกดี ชิมอีกครั้ง ขาดรสใดปรุงเพิ่ม เปรี้ยว หวาน เค็ม

สุดท้ายใส่ขิงซอย ใส่ต้นหอมและผักชี คนให้ทั้งหมดเข้ากัน ใส่ผักชีต้นหอมแล้วไม่ต้อง
ต้มให้ผักสุกมาก ปิดไฟเตาทันที เป็นอันเสร็จสิ้นการทำแกงต้มส้มปลา พร้อมทานเจ้าค่ะ

สมุนไพรและผักที่ใส่ไป ล้วนให้กลิ่นอาโลมา หอมสดชื่น อาโลฮามาก
ทำไปก่อนหน้าใส่กะปิเยอะไป คุณพี่บอกกลิ่นกะปิแรงมาก แรงเกิน
รอบนี้ลดกะปิลง คุณพี่บอก...โอเคนะคะ อร่อยแล้ว แจ่มมาก ชอบ ชอบ

สูตรโบราณไม่ใส่พริกแห้ง เผ็ดร้อนจากพริกไทย
แต่เราใส่เพิ่มพริกแห้งคั่วเพื่อให้น้ำแกงมีความเข้มข้น
พริกแห้งที่ใส่ไปยังช่วยให้แกงหอม ลดกลิ่นคาวปลาได้ด้วย
น้ำแกงมีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทย พริกแห้งให้กลิ่นหอมและออกรสเผ็ด

ปลาอินทรีสดมาก เนื้อแน่นๆ กลิ่นคาวน้อยกว่าปลาทู

คุณพี่สาวและหลานชายไม่ชอบกินขิง แม่ครัวจึงต้องซอยขิงให้ฝอยมาก ๆ บางสุดๆ
และใส่ขิงแก่ทุบให้แตกลงไปต้มพร้อมกับเนื้อมะดัน ได้กลิ่นขิงแก่หอม ๆ ในน้ำแกง

แกงต้มส้มปลา จัดเป็นของหากินยาก เจอที่ทำแล้วมีกลิ่นคาวปลาแรง
ฉะนั้น อยากกินต้มส้มปลารสชาติอร่อยและไม่มีกลิ่นคาว คงต้องลงมือทำเอง

Create Date : 01 สิงหาคม 2565

0 comments

Last Update : 1 สิงหาคม 2565 16:46:02 น.

Counter : 4658 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณอุ้มสี, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**, คุณทนายอ้วน