เสียใจ
Blog นี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เมื่อสามเดือนก่อน เราไม่สบายใจเรื่องที่ทำงานว่าทำไม๊ทำไม ทำดีเท่าไหร่ นายก็ไม่เห็นซะที เจ้าเจี๊ยบ บัดดี๊ตลอดกาลเลยแอบเอา ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปี เกิด ของเราไปให้คุณพ่อของเพื่อนนั่งสมาธิดูให้ ว่ามันมีอะไรติดขัดนักหนา ก่อนจะได้รู้ว่า งานของเรามันมีอุปสรรคอะไร คุณพ่อได้ทักเรื่องส่วนตัวมาก่อนเลยว่า "ผู้หญิงคนนี้อาภัพเรื่องคู่นะ มีแฟน แฟนก็ตาย หรือจะต้องเลิกร้างกันไปทั้งที่เกือบจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ..... ชีวิตต้องอยู่คนเดียว ถ้าไม่แก้ไข" แป่ววววววววววววววววว เฮ้ย คุณพ่อรู้ได้ไง ว่าเราเคยมีแฟนตาย (เล็กไง) เลยโทรศัพท์ไป คุณพ่อบอกว่า "พ่อก็ไม่รู้หรอกนะ แต่นั่งสมาธิแล้วเห็นแบบนั้น ก็เลยทายไปแบบนั้น ... แล้วหนูหน่ะ มีใฝในที่ลับด้วยนะ" เฮ้ยยยยยยยยยยย ไปกันใหญ่แล้วคุณพ่อ เรื่องแฟนตายหน่ะใช่ แต่เรื่องใฝเนี่ยมั่วแล้ว "ไม่มีค่ะ ไม่มี" แต่คุณพ่อยังย้ำ "มี ไปดูใหม่" เออ เอาหล่ะสิ ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีนะ โทรถามแม่เลย "แม่แม่ ตั้งแต่หนูเกิดมาหนูมีใฝตรงนั้นป่าว" แม่ยืนยันว่าไม่มี ..... โธ่เห็นมั๊ยคุณพ่อ ไม่มีค่ะ ไม่มีจริงๆ แต่คุณพ่อยังย้ำ ไปดูใหม่ "มี" เฮ้อ เอาไงดีหล่ะ แต่เนื่องจากเราเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรแบบนี้เลยปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป
จนวันนึงเราไม่สบายใจมากมากอีกครั้ง ก็เลยนึกไปถึงที่คุณพ่อทักไว้ ทีนี้ตอนอาบน้ำ (เริ่มติดเรทแล้ววุ้ย) เลยขอเช็คดูอีกทีดีกว่า มันค้างคาใจยังไงไม่รู้ และแล้ววววววววว คุณคุณคะ ดิฉันมีใฝจริงๆด้วยค่ะ ทำไงหล่ะทีนี้ ละอายใจที่เถียงคุณพ่อเพื่อนไปแบบนั้น เลยโทรไปหาคุณพ่อที่บ้าน ไปสารภาพว่า "คุณพ่อคะ เจอแล้วค่ะ" คุณพ่อเลยอธิบายให้ฟังว่า "ตามความเชื่อโบราณ สิ่งนี้เป็นกาลากิณี เป็นตัวที่ทำให้ขัดทุกสิ่งทุกอย่างดีดีที่จะเข้ามาในชีวิตของลูก รวมถึงเรื่องคู่ครอง เพราะมันแรงมาก ทำให้คนที่เข้าใกล้ แพ้ลูก สู้ดวงลูกไม่ได้ ไม่เลิกร้างก็ตายจากกันไป" เราก็เศร้าเลย มิน่าใครๆก็ตายหนีตรูไปหมด ยังมีแอบคิดในใจ "สู้ดวงหนูไม่ได้ต้องถึงกับตายด้วยเหรอคะ.... แค่เลิกกันเฉยๆไม่ได้เหรอคะ" (ดูมัน มันยังทะลึ่ง มันยังไม่สำเหนียก มันยังมีแอบคิดในใจ ไอ้นี่ มันน่าเตะนัก)
เลยถามคุณพ่อว่าต้องทำไงกับสิ่งเหล่านี้ ต้องแก้ไขยังไง คุณพ่อให้สวดมนต์ ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า และทำพิธีฆ่าใฝ (อันหลังนี้ขอเป็นส่วนตัวนิดนะคะ ไม่สามารถอธิบายละเอียดที่นี่ได้ เพราะหลายขั้นตอนมากกกกกกกกกกกกก หากอยากรู้จริงๆหลังไมค์ได้ค่ะ) แต่คุณพ่อบอกว่า มันยังไม่ตายนะ มันแรงมาก โอยยยยย ทำไงหล่ะทีนี้ แย่จัง
แล้วมาวันนึง พี่สาวของพี่ชายคนนึง ที่รู้จักรักใครเคารพกันมาหลายปี แต่เราเองก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่เค้าและครอบครัวมาเป็นเวลานานมากแล้ว พี่สาวโทรมาบอกว่า "เจ น้องชายพี่เค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายนะ เพิ่งตรวจเจอ เค้ามีเวลาอยู่ได้อีกไม่นาน จริงๆ พี่ไม่อยากโทรมากวนเจให้คิดมาก แต่เจเป็นผู้หญิงที่เค้ารักมากที่สุด พี่อยากให้เจมาเยี่ยมให้กำลังใจเค้าเป็นครั้งสุดท้ายได้มั๊ย อะไรที่เค้าเคยทำไม่ดีกับเจหรือทำร้ายๆกับเจไว้ ยกโทษให้เค้าด้วยนะ พี่ขอร้อง" แล้วพี่เค้าก็ร้องไห้ .. เงียบ เราไม่รู้จะพูดอะไรตอนนั้น เราหลุดเลย ช๊อค ร้องไห้ พอตั้งสติได้บอกพี่สาวเค้าไปว่า "ไม่ต้องขอร้องเจหรอกนะคะ เจจะไปเยี่ยมไปช่วยดูแลให้กำลังใจนะคะ แล้วพี่เค้าก็ไม่ได้ร้ายอะไรกับเจ เค้าดีกับเจมาก ที่ผ่านมาเป็นแค่ความไม่เข้าใจกันและไม่ลงตัวระหว่างเราเท่านั้นเอง และเจก็เห็นเค้าเป็นพี่ชายคนนึงมาตลอด"
ตั้งแต่วันนั้นมา เรานึกย้อนไป เออหนอ คนที่เข้ามาใกล้เรา มารักเรา เค้าต้องมีอันเป็นไป สาเหตุเพราะเรานั่นเอง อย่างที่คุณพ่อเพื่อนทัก ไม่ได้ตลกนะคะ คิดมาก และเศร้าจริงๆ ยิ่งรับรู้ว่าอาการของพี่ชายคนนึงที่เรารักและเคารพ ไม่ดีขึ้นเลย ทรุดลงทุกวันทุกวัน วันสุดท้ายที่เราเจอพี่เค้า เรามีโอกาสได้ป้อนโจ๊ก พี่เค้าพยายามกินจนหมดถ้วย เรารู้ว่าพี่เค้าพยายามสู้ พยายามยื้อเวลา พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ แต่เพราะร่างกายพี่เค้าต้านโรคร้ายไม่ไหวแล้ว ..... และพี่เค้าก็จากไปอย่างสงบ ...............คราวนี้เราพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ....... ได้แต่โทษตัวเองตลอดเลยนะ ว่าเป็นเพราะเรา เป็นเพราะเรา
เศร้ามากมากเลยค่ะ กับชีวิตของเราที่ต้องมานั่งพับกระดาษเงินกระดาษทอง ต้องขึ้นทอดผ้าบังสุกุล ในงานศพของคนที่เรารักถึงสองครั้งสองคราในช่วงเวลาไม่กี่ปีของชีวิต ขับรถไปฟังสวดตอนเย็น ขับรถกลับบ้าน ขับรถไปร้องไห้ไปทุกวัน ร้องไห้ที่ทำให้คนที่เรารักและรักเราต้องจากไป ร้องไห้เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ครอบครัวเค้าต้องเสียใจ ร้องไห้เพราะเกลียดตัวเองและเหนื่อยใจกับชีวิตตัวเองที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้
ไม่อยากภาวนา ไม่อยากสัญญา ไม่อยากสาบาน ..... แต่ต่อไป...จะไม่รักใคร... ต่อไป...จะไม่ให้ใครมารัก... เพราะต่อไป...จะได้ไม่ต้องทำร้ายใครอีก
เล็ก.... พี่กิต..... เจขอโทษนะคะ
Create Date : 17 ตุลาคม 2550 |
|
5 comments |
Last Update : 12 ธันวาคม 2550 20:02:23 น. |
Counter : 1037 Pageviews. |
|
|
|
I'm sure they would not be happy if they knew you take the death of them as part of your fault.
They have gone in peace now. Let it go na ja. Live your life to the fullest and try to enjoy life as it comes (I say that to myself also) when life is down take a moment to learn when the tough time passed you will appreaciate what you have gone thru but never let it haunt you down.
Season is changing again....strom and thunder is over for you now let begin the winter with jouful and happy mind