หมายเหตุ ท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม รบกวนดูตอนแรกก่อนนะครับ จะได้อรรถรสกลิ่นไอประวัติศาสตร์นะคับ

เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ในตอนแรกเริ่มสร้างบ้านทรงไทยด้วยไม้สักจากอยุธยาขึ้นหลังหนึ่ง ด้านหลังของวัง ใช้ชื่อว่า Thai house เพื่อใช้เป็นบ้านรับรองเพื่อนๆ นักเขียนของ ม.ร.ว.นริศรา หากใครที่มีโอกาสมาพักแล้วต่างก็ดื่มด่ำและหลงใหลในบรรยากาศของวังนี้ที่สงบร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย ยามเย็นสามารถนั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจากทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสวยงามจับใจ จากปากต่อปากบอกกันไป ทำให้มีเพื่อนๆ มาพักกันมากขึ้น จนในที่สุด คุณหญิง มีความคิดว่าวังนี้ตั้งอยู่ในจุดที่มีวิวสวยที่สุดในกรุงเทพฯ ทั้งทัศนีภาพของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา วัดอรุณราชวรารม ป้อมวิชัยประสิทธิ์ วัดกัลยาณมิตร ไม่มีสิ่งบดบังหรือทำลายทัศนียภาพอันสวยงาม อีกทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของวังจักรพงษ์ที่น่าสนใจ จึงตัดสินใจเปิดวังให้เป็นบูติคโฮเต็ลเล็กๆ โดยใช้ชื่อว่า “จักรพงษ์ วิลล่า” คือ จุดเริ่มต้น 8 ปี ที่ผ่านมา

สำหรับที่พัก ในวังจักรพงษ์แบ่งห้องพักเป็น 5 รูปแบบการออกแบบตกแต่งที่ไม่ซ้ำกันเลย คือ The Chinese Suite, The Riverside Villa, The Thai House, The Garden View และ BB สำหรับตัววังจักรพงษ์ เจ้าของบ้านขอเก็บเอาไว้เป็นที่พักยามช่วงกลับมาเมืองไทย โฮเต็ลเล็กๆ แห่งนี้จึงมีเพียง 7 ห้อง สำหรับแขกที่เข้าพักได้เพียง 16 คนเท่านั้นที่จะได้มีโอกาสสัมผัสกับความงดงามของวังแห่งนี้

นำเสนอด้านหน้าห้องพักแต่ละประเภทแล้ว ก็นำเสนอ ห้องพักแต่ละแบบบ้าง

จะเห็นว่าการตกแต่งภายในห้องพักแต่ละห้อง มัณฑนากร เลือก ตกแต่งห้อง ทุกห้องให้มีความต่าง ต่างด้วย เฟอร์นิเจอร์ ต่างด้วยเครื่องประดับตก ต่างด้วยโทนสี ไม่เหมือนกันสักห้องเลย แต่ทั้งนี้ไม่ต่างอารมณ์ ไม่ว่าเราจะอยู่ในห้องใดล้วนมีกลิ่นอายความเป็นไทยเจืออยู่ทั้งสิ้น พื้นห้องทุกห้องเป็นพื้นไม้ทั้งสิ้น ดังนั้นแขกผู้พักต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าห้อง อันเป็นการสอดแทรกวัฒนธรรมไทยด่านแรกให้ชาวต่างประเทศได้ซึมซับแบบไม่รู้ตัว

หากไม่พูดถึง Riverside Dining Pavilion ก็เหมือนกับมาไม่ถึงวังจักรพงษ์ สถานที่นั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศแบบ Private มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ และมีความโรแมนติกสุดสุด เทียนลอยสีบนโต๊ะอาหาร ศาลาริมน้ำทรงโปร่งแบบสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีกลิ่นอายแบบไทยปนตะวันตก ที่เรียกว่า แบบขนมปังขิง ใครสงสัยเป็นอย่างไร ก็ต้องตามไปดู วันเราไปโชคร้ายฝนตกตลอดช่วงเย็นทำให้อดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น แถมวันนี้วัดอรุณลืมเปิดไฟซะอีก ทำให้ผู้จัดการคนเก่งของเราต้องโทรไปบอกเจ้าหน้าที่ให้เปิดไฟ อาหารไทยเสริฟ์แบบเป็นเซ็ต แต่ยังคงรูปแบบการรับประทานตามวัฒนธรรมสำรับไทย คือจัดอาหารแบบ สำรับรวม และมี ช้อนกลาง

อาหารไทยแท้โบราณต้นตำรับวังจักรพงษ์ รสชาติร่ำลือของวังคือ แกงเผ็ดเป็ดย่าง นอกจากสัดส่วนของส่วนผสมน้ำพริกเครื่องแกงแบบถึงรสที่โขลกเองแล้ว ยังมีเครื่องปรุงช่วยชูรสสูตรเฉพาะเป็นผลไม้ที่ต้องใส่ลงไปอีก 2 ชนิด คือ สับปะรด และ ลิ้นจี่สด ในกรณีที่ไม่ใช่ฤดูลิ้นจี่ก็จะไม่ใช้ลิ้นจี่กระป๋อง แต่จะทดแทนด้วยองุ่นดำไร้เมล็ด นับเป็นการสืบต่อสูตรอาหาร นับเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมการรับประทานอาหารไทยอีกทางหนึ่ง เนื่องจากจักรพงษ์วิลล่าให้บริการอาหารในลักษณะ 'โฮม คิทเช่น' จึงรับแขกแบบจำกัดได้ไม่เกิน 20 คน หรือไม่เกิน 3 โต๊ะ เท่านั้นเอง !!!