เรือนเจ้าจันทร์

<<
พฤษภาคม 2559
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 พฤษภาคม 2559
 

สาปแสงจันทร์ ตอนที่ 2



บทที่ 2

กลิ่นกำยานแกมอับโรยรินเข้ามาเป็นระยะ เสมือนใครคนหนึ่งเดินผ่านไปมาในระยะใกล้สายลมเย็นพัดผ่านแผ่นหลังยะเยือกจนหญิงสาวต้องหันมองรอบกาย

“มาพอดี…เชิญทางนี้ครับอาจารย์”

ฉันทะกะลุกขึ้นจากเก้าอี้มีผลให้คนที่นั่งใกล้ต้องขยับลุกตาม และทันทีที่เห็นผู้มาใหม่ถนัดตา

“คุณ…”

“อ้าว มอสรู้จักอาจารย์ภูวราชด้วยเหรอ?”

ฉันทะกะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“อืม…เพิ่งเจอกันเมื่อเช้าค่ะ”

“ผมเช่าเรือนเล็กที่บ้านของเธอครับ”

เสียงห้าวลึกกังวานเย็นเยือกบรรยากาศรอบลานกว้างมัวมนครึ้มลงทันที

“อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยตั้งเยอะ อาจารย์จะมาสอนหนังสือทันหรือครับ”

ฉันทะกะทักท้วงด้วยรู้ดีว่าบ้านของมัสลินอยู่คนละมุมเมืองกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้

“ระยะทางไม่เป็นปัญหาสำหรับผม ผมชอบบ้านหลังนั้นสงบเงียบ เหมาะที่จะทำงานศิลปะเป็นอย่างยิ่ง”

คำตอบเรียบนิ่ง ดวงหน้าคมคายแกมเหลืองมีเค้าเหี้ยมเกรียมอย่างประหลาดแววตาของมัสลินเมื่อทอดมองดวงหน้าของชายหนุ่ม ราวจะทบทวนความจำ

“คุณภูวราชทำงานศิลปะด้านไหนคะ

คำถามแฝงความใคร่รู้

“งานปั้น…แกะสลักหิน”

“ฝีมืออาจารย์ภูวราชเทียบเท่ากับที่นครวัดเลยทีเดียว ถ้ามอสได้เห็นจะชอบ”

ฉันทะกะชื่นชมจากใจจริงแม้อาจารย์บางท่านในคณะจะตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับอีกฝ่ายว่า ลึกลับ หาที่ไปที่มาลำบากเข้ามาเป็นอาจารย์พิเศษเพราะเส้นสายจากอธิการบดีหากชายหนุ่มก็ออกโรงปกป้องเรื่อยมา ถึงกระนั้นเขาเองก็ไม่ได้รู้จักภูวราชดีกว่าที่เคยรู้มาเท่าไรนักเขาแต่เพียงว่า

‘ศิลปินนักปั้น

แสงจันทร์สีนวลกระจ่างตา สาดส่องทะลุกิ่งก้านใบของต้นจำปาลงมาเกิดภาพเงาเป็นรูปร่างต่างๆ ทั่วบริเวณมีแต่ความเงียบเพราะเป็นเวลาค่อนดึกแล้ว จะมีก็เพียงเสียงลมแผ่วๆคลับคล้ายเสียงทอดถอนหายใจยามทุกข์ทน

หลังนำรถเข้าไปจอด มัสลินเดินย้อนไปล๊อคประตูรั้วพระจันทร์เต็มดวงประดับเด่นบนผืนฟ้าที่มืดสนิท ร่างระหงหยุดนิ่งแหงนหน้าขึ้นมอง กระแสลมเยือกเย็นพัดผ่านผิวกายจนหญิงสาวต้องห่อไหล่เงาดำๆของใครคนหนึ่งอยู่ระหว่างพุ่มต้นราชาวดี แสงไฟจากตึกใหญ่ส่องสว่างไปไม่ถึงทำให้ยากที่จะเห็นได้ชัด

“นั้นใคร

หญิงสาวร้องถาม มือกำพวงกุญแจบ้านไว้แน่นหากไม่ชอบมาพากลอาจใช้สิ่งนี้ป้องกันตัวได้

“…ผมเอง ภูวราช”

เสียงห้าว ลึก ดังกังวานในความเงียบร่างสูงขยับออกมาจากพุ่มไม้ หากกระนั้นเงาดำก็ยังปกคลุมแลดูทะมึนไม่ต่างจากเทวาลัยขนาดใหญ่กลิ่นละม้ายรูปลอยล่องมากับกระแสลม

“อาจารย์ยังไม่นอนหรือคะ นี่ดึกมากแล้ว”

“ยังครับ…คืนนี้พระจันทร์สวยเกินกว่าจะเข้านอนแต่หัววันผมชอบคืนพระจันทร์วันเพ็ญมากกว่าวันไหนๆ ถึงแม้ว่าความงามของมันจะนำมาซึ่งความขมขื่นให้ใครหลายคนก็ตาม”

คนฟังขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“แสงจันทร์เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เหมือนแสงอาทิตย์ซึ่งเราต้องพบเห็นทุกวันอยู่แล้วดิฉันไม่เข้าใจว่าจะเกี่ยวข้องกับความขมขื่นของคนได้ยังไง

เสียงหัวเราะห้าวลึก ราวจะเยาะหยันบางสิ่ง

“เวลาที่ผ่านไปเนิ่นนาน อาจทำให้คนเราหลงลืมอะไรไปบ้างต้องใช้เวลาสักพักทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม”

“เราต้องเคยรู้จักกันมาก่อนแน่ๆ”

มัสลินเอ่ยย้ำ ความเคยคุ้นที่เลือนๆลางๆผ่านเข้ามาในสมองอีกครั้งแต่จะทบทวนสักกี่ครั้งความรู้สึกนั้นก็เหมือนม่านหมอกอันหนาทึบ

“ไม่ทราบครับ คุณอาจจะเคยผมเห็นตามท้องถนน ในหอศิลป์ ร้านอาหารหรือในความฝัน มนุษย์เมื่อพบเจอสิ่งใดบางครั้งก็จะนำกลับไปปะติดปะต่อในความฝันก็อาจเป็นได้”

“แล้วอาจารย์ละคะ…คิดว่าเคยเจอดิฉันที่ไหนบ้าง?”

น้ำเสียงของคนถามมีแววกระตือรือร้นบางทีคำตอบของเขาอาจทำให้เงาดำในหัวของเธอเลือนหายไปก็ไปเป็นได้… แต่คนตอบกลับนิ่งงัน

“ดึกมากแล้ว เชิญคุณมัสลินขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ อีกสักพักผมก็จะเข้านอนเหมือนกัน”

“…ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

ร่างดำในเงามืดยังนิ่งสงบราวรูปปั้นมัสลินจึงก้าวเดินเข้าสู่ตัวบ้าน สายลมเย็นพัดผ่านจนกิ่งไม้วูบไหว กระแสเสียงหนึ่งคลับคล้ายกระซิบกระซาบตามมา

“เราต้องได้พบกันอีกแน่

หญิงสาวชะงักเท้าหันไปมองพุ่มราชาวดีเมื่อครู่ …บริเวณนั้นว่างเปล่า

ร่างระหงในชุดนอนตัวยาว ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างด้วยความง่วงงุนเมื่อหัวถึงหมอนมัสลินก็หลับลึกในทันที ภาพสลัวสีขาวค่อยแจ่มชัดขึ้นภายในกำแพงหนาคือลานเรียบกว้าง มีกลุ่มดอกไม้ปลูกประดับคล้ายสวนหย่อม เสียงหัวร่อต่อกระซิบดังแว่วมาจากสระน้ำกว้างดรุณีหลายนางแหวกว่ายหยอกเย้ากันสนุกสนาน

“มัญชุเกศี…มัญชุเกศี”

เธอได้ยินเสียงเรียกทว่าครั้งนี้เป็นเสียงของสตรีมิใช่เสียงห้าวลึกดังเช่นทุกครั้ง ร่างงามระหงที่ก้าวขึ้นจากสระน้ำมีเพียงอาภรณ์ผืนใหญ่พันรอบกายเท่านั้น แสงที่สว่างวาบขึ้นเผยให้เห็นผู้มาเรียกชัดเจน

“แม่!”

หากคนที่อยู่ในความฝันแม้ดวงหน้าจะใช่มารดาของเธอหากการแต่งกายในชุดผ้านุ่งชายช้อนกันตรงหน้าสีหมากสุก คาดเข็มขัดคล้ายโลหะลวดลายแปลกตาไม่สวมเสื้อ

“ขึ้นมาจากน้ำ! เผลอเป็นไม่ได้เชียวชอบลงมาเที่ยวซนเจ้าพวกนี้ก็เหมือนกันไม่คิดจะห้ามปรามกันสักนิด”

เสียงตวาดแกมบ่นระเรื่อยไปจนถึงกลุ่มเด็กสาวที่ทยอยก้าวขึ้นมาจากสระน้ำ หากคนถูกเรียกชื่อเมื่อครู่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงขึ้นสู่เรือนไม้ขนาดใหญ่

“เปลี่ยนผ้าเสีย แล้วออกไปหัดรำใกล้วันสำคัญเข้ามาแล้ว”

ร่างเล็กบางลับหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่งสักพักก็กลับออกมาในชุดผ้านุ่งผืนใหม่ เสียงพาทย์ เสียงพิณดังแว่วขึ้นพร้อมกับเสียงขับลำนำที่สอดคล้องกันอย่างเหมาะเจาะมัสลินเห็นตัวเองเริ่มร่ายรำในท่วงท่าหลากหลายตามเสียงขับลำนำของมารดา

“เนียง…บังคมกรอม”

“เนียง…อาตึสเตียน”

ภาษาไม่คุ้นหูแต่เธอรับรู้และทำตามได้อย่างถูกต้อง…เสียงมารดาหยุดขับลำนำก่อนจะบอกกับเธอว่า

“วันนี้พอแค่นี้แหละ มะรืนต้องออกเดินทางแต่เช้า …มัญชุเกศีลูกต้องรำให้สวยเหมือนอย่างวันนี้งานใหญ่ของบ้านเราต้องไม่มีสิ่งใดผิดพลาด”

“ลูกไม่อยากไป”

“อย่าดื้อ! เดี๋ยวจะเจ็บตัว

เสียงสั่งเฉียบขาดในภาพฝันเธอมิได้ปริปากพูดอีกแม้แต่คำเดียว

ห้องโถงกว้างประดับประดาด้วยดอกไม้และประทีปโคมไฟงดงามผู้คนนับร้อยนับพันเดินกันขวักไขว่ ก่อนทุกอย่างจะสงบนิ่งลง เมื่อเสียงหนึ่งดังกังวาน

“….พระราชาธิราชเสด็จ ก้มหัวลงห้ามเงยหน้า

มัสลินรู้สึกเหมือนมีมือของใครคนหนึ่งจับศีรษะของเธอกดลงจนหน้าผากแนบติดพื้น ในความฝันเธอกลัวจับหัวใจเหงื่อกาฬแตกพลั่กตราบจนเสียงทุ้มดังสะท้อนขึ้น

“อัปสราสำแดง…”

เสียงดนตรี เสียงลำนำคุ้นหูดังขึ้นอีกครั้ง เธอลุกขึ้นเยื้องกรายออกไปณ กลางห้องโดยมีเหล่านางรำคนอื่นก้าวเดินตามออกไป ไม่ต่างจากหมู่ผีเสื้อที่กำลังโบยบินไปตามท่วงทำนองอันพริ้วไหวของสายลมฉับพลันภาพเหล่านั้นก็ดับวูบลง ภาพที่ซ้อนขึ้นมาคือศาลาไม้เมื่อครู่มีแต่เปลวไฟสีแดงฉานกำลังลุกโพลงเสียงกรีดร้องอย่างตกใจของสตรีดังเซ็งแซ่ เสียงอาวุธ เสียงครวญครางคละเคล้ากับกลิ่นคาวเลือด

“นี่มันอะไรกัน…เกิดอะไรขึ้นช่วยด้วย

มัสลินตะโกนก้องหากเสียงมิได้หลุดพ้นออกจากลำคอเลยสักนิดและภาพเหล่านั้นก็ยิ่งแจ่มชัดมากขึ้น ร่างกายเหมือนถูกตรึงให้อยู่กับที่ หญิงสาวกำมือแน่นฝืนตัวเองให้หลุดพ้นจากแรงยึดเหนี่ยวนั้น

“นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ”

ร่างระหงทะลึ่งพรวดขึ้นจากที่นอน ถอบหายใจถี่กระชั้นเหงื่อเม็ดเล็กๆซึมทั่วใบหน้า มือทั้งสองยังข้างกำแน่นจนเกร็ง ก่อนจะคลายออก

“เอ๊ะ!”

มัสลินอุทานด้วยความแปลกใจเมื่อมีวัตถุหนึ่งร่วงลงสู่พื้นห้องหญิงสาวจึงเลื่อนตัวลงจากเตียงก้มลงเก็บสิ่งนั้นขึ้นมาพิจารณาใกล้ๆ

“ตุ้มหู…”

ลวดลายที่สลักเสลาเป็นช่อดอกไม้ดูอ่อนช้อยงดงามแม้จะมีขนาดใหญ่มากกว่าตุ้มหูที่เคยเห็นในปัจจุบัน หากก็ดูเจนตาอย่างบอกไม่ถูก มัสลินลูบคลำวัตถุชิ้นนั้นอย่างทะนุถนอม…เสมือนได้ของรักกลับคืนมากระนั้น

ทางเดินโล่ง เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นอาคารเป็นจังหวะเท่านั้น ภาคเรียนในช่วงบ่ายนักศึกษาคงทยอยกลับกันเกือบหมดแล้วภายในมหาวิทยาลัยจึงดูว่างเปล่า ร่างระหงในชุดเสื้อกระโปรงติดกันสีอ่อน ก้าวเท้าช้าลงเมื่อแลเห็นป้ายชื่อเจ้าของห้อง

“นึกว่าจะไม่มาเสียอีก กำลังจะโทรศัพท์ไปตามพอดี”

เจ้าของห้องเอ่ยขึ้นทันที เมื่อประตูห้องเปิดออก

“รถติดแถวทางขึ้นสะพานเลยช้าไปนิดค่ะกลัวพี่ฉันท์จะรีบกลับเหมือนกัน พอลงมาได้เหยียบเต็มที่เลย”

คนพูดลากเก้าอี้ออกมาเล็กน้อยก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม

“ไหน จะเอาอะไรมาให้พี่ดู”

มัสลินเปิดกระเป๋าสะพายหยิบถุงผ้าใบเล็กส่งให้อีกฝ่าย

“ตุ้มหูค่ะ แต่มีข้างเดียว”

ฉันทะกะรูดปากถุงที่ผูกเชือกไว้ออก หยิบวัตถุที่มีน้ำหนักเล็กน้อยขึ้นมาพิจารณาเนื้อทองคำดูขมุกขมัวลวดลายที่สลักเสลาลงบนเนื้อทองแม้จะดูหนาหากก็ประณีตแสดงถึงฝีมือของคนทำที่เชียวชาญกับงานชนิดนี้

“ไปได้มาจากไหน?”

คนพิจารณาตั้งคำถาม ด้วยงานที่ค้นคว้ามักเกี่ยวเนื่องกับวัตถุโบราณอยู่บ้าง

“ติดมือมาตอนนอนหลับแล้วฝันถึงเมืองโบราณ”

คนนั่งอยู่โต๊ะทำงานตัวใหญ่เงยหน้าขึ้นมาในทันทีประกายในดวงตาขบขันมากกว่าจะเชื่อถือในสิ่งที่ตนได้ยิน

“เมาหรือเปล่าเนี่ย? เพ้อเจ้อเกินไปหรือเปล่ามอสใครมันจะหยิบของในความฝันของตัวเองออกมาสู่โลกของความจริงได้มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยล่ะ”

มัสลินไม่ตอบในทันที หากเอนหลังพิงผนังเก้าอี้ ไม่ใช่แค่คนอื่นที่ตั้งคำถามเช่นนี้เธอเองก็ตั้งคำถามข้อนี้กับตัวเองเหมือนกัน …ก็แล้วใครเล่าจะให้คำตอบกับเธอได้

“มอสเข้าใจค่ะ ว่าเรื่องมันดูเลอะเทอะไม่น่าเชื่อถือไปเล่าให้ใครฟังเขาก็คงหัวเราะ…แต่มอสได้สิ่งนี้มาจากความฝันจริงๆนะคะพี่ฉันท์”

หญิงสาวยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“เอาล่ะ…จะให้เชื่อก็ดูจะตะขิดตะขวงใจไปหน่อยเอาเป็นว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลแล้วกันนะแต่ขอเวลาศึกษาอีกที จากลวดลายและวัสดุที่ใช้ ก็น่าจะมีอายุนานอยู่ แต่จะสมัยไหนนั้นอาจต้องพึ่งนักโบราณคดีถ้าในความเห็นส่วนตัวพี่นะน่าจะอยู่ในสมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยาไม่น่าใช่เพราะเนื้องานดูหยาบกว่ากัน”

“งั้นมอสฝากไว้กับพี่ฉันท์แล้วกันค่ะได้คำตอบยังไงโทรบอกด้วยนะคะ”

“ช่วงนี้ไม่มีลูกทัวร์เหรอ เห็นว่างๆไปไหนมาไหนได้”

“เงียบๆค่ะ… แต่พรุ่งมีกรุ๊ปทัวร์ญี่ปุ่นไปอยุธยา”

“คุณย่าสบายดีนะ พี่ว่าจะหาเวลาว่างไปเยี่ยมเสียหน่อยรู้สึกนานล่ะที่ไม่ได้ไปบ้านตึก”

“พี่ฉันท์ว่างเมื่อไรก็เชิญเถอะค่ะมอสขอตัวกลับก่อนนะคะ ฟ้าครึ้มๆเหมือนฝนจะตกไม่อยากรถติดอยู่บนถนนนานๆ น่าเบื่อ”

หญิงสาวลุกขึ้นสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าทีท่านั้นดูทะมัดทะแมงสมกับเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ทำให้แววตาของคนที่นั่งอยู่มีประกายลึกซึ้งฉายชัดขึ้นมาแวบหนึ่ง

“ขับรถดีๆล่ะ เดี๋ยวพี่ก็จะกลับเหมือนกัน”

มัสลินยิ้มอ่อน ก่อนจะผลักบานประตูก้าวเดินออกไป ทั่วบริเวณตึกนั้นเงียบสงัดลำแสงสีอ่อนของดวงอาทิตย์เริ่มล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็วทำให้บรรยากาศดูขมุกขมัวลงทันตากลิ่นหอมบางอย่างโชยอ่อนมากับสายลมเย็นเยือกเงาดำๆมืดครึ้มทามทับลงไปหลังเหลี่ยมของระเบียงยาว ก่อนจะไหววูบตามหลังหญิงสาวไป




Create Date : 09 พฤษภาคม 2559
Last Update : 9 พฤษภาคม 2559 14:23:41 น. 2 comments
Counter : 743 Pageviews.  
 
 
 
 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:15:44:48 น.  

 
 
 
ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาทักทายกัน
 
 

โดย: เอริชา วันที่: 11 พฤศจิกายน 2560 เวลา:16:39:44 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

เอริชา
 
Location :
พระนครศรีอยุธยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้หญิงเขียนฝัน และเพ้อเจ้อจนเป็นเรื่องราว
[Add เอริชา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com