สายฝนที่โปรยปรายลงมาตั้งแต่หัวค่ำทำให้ถนนสายเล็กๆนั้นยังชื้นแฉะ บางช่วงมีหลุมบ่อต้องคอยหลบหลีกอยู่บ่อยครั้ง หากคนขับก็อาศัยความเคยชินจึงตะลุยผ่านไปได้ตลอดสองข้างทางแม้จะมีบ้านเรือน แต่เงียบสงบเนื่องจากเป็นเวลาค่อนดึกแล้ว
สุดปลายทางรถเลี้ยวเข้าสู่ซอยตันค่อนข้างมืดเห็นกำแพงรั้วสีขาวเป็นเงามัวทอดเป็นแนวยาว คนขับชลอความเร็วลงจนจอดสนิทก่อนจะเปิดประตูรถก้าวลงมาประตูรั้วหนาหนักทำด้วยไม้เปิดแง้มไว้เพียงเล็กน้อยราวรอคอยการมาของใครคนหนึ่ง
อีกแล้ว
โดนฝนเข้าหน่อยก็ฝืดขึ้นมาเชียว
คนพูดออกแรงดันมากกว่าปกติ สภาพประตูรั้วกับตัวบ้านอายุขัยยาวนานกว่าคนเปิดหลายสิบปีบ้านตึก ที่แทรกตัวอยู่ทามกลางเงาไม้ครึ้ม สงบร่มเย็น ที่นี้ละม้ายวันเวลาจะหมุนช้า ขณะที่บ้านหลังอื่นแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงเองยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า คนอาศัยในบ้านตึกเป็นอย่างไรนอกจากคนเปิดประตูที่มักนำขนมฝรั่งมาแจกในเทศกาลปีใหม่ก็เท่านั้นเอง
คืนนี้กลับมาซะดึกเลยนะ
ร่างเล็กที่เดินออกจากตัวบ้านกางร่มคันใหญ่ดวงไฟสีนวลริมรั้วส่องกระทบร่างนั้นคลับคล้ายศิลาสลักที่เคลื่อนไหวได้
ลูกทัวร์ชวนกินข้าว ร้องเพลงนี่คุณย่าขึ้นนอนแล้วซิ
นอนตั้งแต่หัวค่ำแล้วจ๊ะ บ่นหนาว
วันนี้ตกทั้งวัน
คนพูดเปิดประตูให้กว้างความคุ้นเคยทำให้ไหลลื่นไปด้วยดีรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่จึงเคลื่อนเข้าจอด ณ ลานปูนหน้าบ้านกลิ่นของดอกราตรีขจรขจายตามสายลมยามดึก ร่างโปร่งระหงของมัสลินก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน ห้องกว้างปูด้วยไม้กระดานแผ่นโตขัดเป็นเงารอบห้องเป็นตู้ไม้แบบโบราณบรรจุงานฝีมือพื้นถิ่นแถบอีสาน ที่คุณทวด คุณปู่แม้กระทั่งบิดาของเธอได้รับราชการ ณ ดินแดนแถบนั้นเพื่อนหลายคนของหญิงสาวเมื่อได้มาเยี่ยม บ้านตึก มักกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า
เย็นยะเยือก วังเวง
หากสำหรับเธอแล้ว บ้านตึก คือโลกใบน้อยที่คอยโอบอุ้มเด็กหญิงกำพร้าให้เติบโตขึ้นมาสายโยงใยจากผู้เป็นย่าและบิดาทำให้เด็กหญิงไม่รู้สึกขาด
แม้ยามเป็นเด็กประโยคที่ถูกถามมากที่สุด
แม่ของมอสไปไหน?
แม่ของเราไปเที่ยวสวรรค์!
ครั้นเมื่อเติบใหญ่ทำให้เจ้าตัวรู้ว่า มนุษย์ ย่อมหนีไม่พ้นการพลัดพราก ช้าหรือเร็ว ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรม ความเคร่งครัดในพุทธศาสนาของผู้เป็นย่าได้เพาะบ่มความศรัทธาให้บังเกิดและนำมาดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย
คุณมอสจะกินข้าวอีกหรือเปล่าเดี๋ยวหนูจะอุ่นต้มจืดให้ป้าทองใบทำไว้เสียหม้อใหญ่
เด็กสาว ต้อยติ่ง ยังมีใจเอ่ยถามแม้หนังตาจะปรือจนแทบลืมไม่ขึ้น เพราะคำสั่งของคุณย่าเจ้าตัวมักจะขัดไม่ค่อยได้
ไม่ล่ะต้อยติ่งไปนอนเถอะดึกแล้ว
มัสลินก้าวขึ้นสู่ชั้นสอง ตัวบ้านหลังใหญ่ปลูกสร้างตั้งแต่สมัยคุณทวดหากดูแลรักษาเป็นอย่างดี ทำให้ไม่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ห้องนอนของหญิงสาวอยู่ทางปีกขวาของตัวตึกความเคยชินทุกคราวเมื่อย่างกายเข้าสู่ห้องส่วนตัว เธอมักเปิดหน้าต่างให้กว้างแสงสีนวลของดวงไฟเรืองรองจากห้องรับแขกของเรือนหลังเล็กที่ก่อนหน้านั้นคุณย่าได้ให้ครอบครัวอเมริกันเช่าอยู่หลายปี ก่อนจะย้ายออกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
เงาดำของใครคนหนึ่งทาบทับอยู่ตรงหน้าต่างระยะห่างหลายสิบเมตรจากบ้านตึกกับเรือนหลังเล็กทำให้มองเห็นไม่ชัดคนแลไปยังรู้สึกแปลกๆ เมื่อหยุดมอง เงา นั้นก็หยุดนิ่ง หากเมื่อมองซ้ำ เงา นั้นก็เคลื่อนจากไป
คงมีคนมาเช่าใหม่
มัสลินหมดความสนใจหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เดินไปเข้าห้องน้ำกว่าจะอาบน้ำขึ้นเตียงนอนก็ดึกมาแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวไม่เคยลืมเลย คำสั่งคุณย่า
สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนนะลูก อานิสงส์จะได้เจือจานถึงเจ้ากรรมนายเวร
หนักจะได้กลายเป็นเบา
และหญิงสาวก็ทำตามคำสั่งนั้นมาตลอดจะมีบ้างในค่ำคืนที่เหน็ดเหนื่อยจากงาน อาจทำให้บทสวดนั้นขาดหายไปเพราะความง่วงงุน
.ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นเช่นนั้น เสียงดนตรีอ่อนหวานท่วงทำนองแปลกหูมักจะลอยล่องเข้ามาในสมอง
บางครา
เมื่อหัวถึงหมอนเธอก็ดำดิ่งสู่นิทราอย่างรวดเร็ว
และเมื่อนั้นเธอจะอยู่ท่ามกลางเทวสถานขนาดใหญ่
ลวดลายสลักเสลาตามผนังศิลางดงามยิ่ง เสียงลำนำอ่อนหวานก้องกังวานหลายคราของความฝันเธอมักเห็นตัวเอง ในเครื่องแต่งกายแปลกตา กำลังร่ายรำตามจังหวะลำนำการย้อน กลับไปมาของความฝันทำให้เธอรู้
บางอย่างกำลังรอเวลา
แต่คืนนี้เธออยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง ลานกว้างโอบรอบด้วยศิลาทรายที่นำมาวางซ้อนกันเป็นรูปร่างต่างๆรอบกายคือพระพักตร์ที่ปั้นด้วยหินทรายนับสิบนับร้อย ที่สอดส่องลงมา ณ ตัวเธอ
มัญชุเกศี
ค เสียงนุ่ม ลึก กังวานก้อง
ชื่อใคร
ชื่อใครกัน
หากเธอกระมังที่ก้าวเข้าไปยืนใกล้เทวรูป กลิ่นกำยานลอยล่องมากับสายลมเงาดำ สูง ก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง
เธอเคยเห็นภาพเหล่านี้
แต่ที่ไหนล่ะ
จากนั้นภาพอีกอันก็ซ้อนทับขึ้นมา ภาพตัวปราสาทขนาดใหญ่งดงามยิ่งนัก เสียงลำนำเสียงหัวเราะดังแว่วสอดประสานกัน
สัจจอธิษฐาน!
มัสลินสะดุ้งตื่นเหงื่อเหนียวๆซึมทั่วร่าง ความฝันประหลาดที่พักหลังมักจะเกิดขึ้นซ้ำซาก จนเจ้าตัวเองจดจำชื่อเรียกนั้นได้อย่างแม่นยำ
มัญชุเกศี!
แสงสว่างจากภายนอกส่องทะลุผ้าม่านเนื้อบางเข้ามาทำให้คนบนเตียงจำต้องลุกขึ้นพร้อมกันนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็ดังรัวตามมา เจ้าตัวจึงเอื้อมมือไปกดรับ
พี่โทรมาปลุกครับ
ตื่นพอดีค่ะ
วันนี้มีโปรแกรมทัวร์ที่ไหนครับช่วงบ่ายพี่อยากให้มอสแวะมาเยี่ยมมหาลัยพี่หน่อยมีอะไรอยากให้ดู
เสียงทุ้มของคนปลายสายทอดอ่อนหวานเฉกเช่นทุกครั้งยามเจ้าตัวต้องการเอาใจ
อืม
วันนี้ว่างทั้งวันค่ะ แต่ขออยู่ทานมื้อเที่ยงกับคุณย่าก่อนนะคะไม่อยากให้คนแก่งอนอีก
สายสัมพันธ์ของเครือญาติห่างๆทำให้ความใกล้ชิดมีมากพอที่จะพูดคุยหยอกเย้ากันได้
เชิญ
บ่ายสองเจอกันที่ลานอโศก อยากให้พี่ไปรับที่บ้านไหม?
อย่าเลยค่ะมอสขับรถไปเองสะดวกกว่า
หลังวางสายหญิงสาวใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงสำหรับอาบน้ำแต่งตัว
บ้านมักเงียบสงบเสมอได้ยินเสียงเพลงหมอลำดังแผ่วเบามาจากห้องครัวด้านหลังเมื่อมัสลินเดินเข้าไปจึงเห็นแม่สาวต้อยติ่งกำลังเตรียมอาหารเช้าอย่างขะมักเขม้นกลิ่นไข่เจียวหอมฟุ้งไปทั่วห้อง
หนูคิดว่าคุณมอสจะลงมาสายเลยไม่รีบหิวหรือยังคะ?
งาน ที่ไม่เป็นเวลาทำให้คนในบ้านคาดเดาเวลาตื่นของมัสลินลำบาก
วันนี้มันตื่นก่อนเวลาไปหน่อยเลยลงมาไว
ฉันขอกาแฟหวานๆเข้มๆแก้วเดียวก็พอ
มื้อเช้าอันคุ้นชินอาจไม่เป็นที่ถูกใจคุณย่ามากนัก
คุณค่าอาหารมันน้อยกว่าน้ำพริกปลาทูเสียอีก
แม้จะเกษียณจากข้าราชการครูมานานหลายปีหากผู้เป็นย่ายังฝั่งจิตวิญญานของ ครู มาใช้กับคนในบ้านอยู่เสคมอและเมื่อนั้นมัสลินก็มักหลบเลี่ยงได้บ้างไม่ได้บ้าง
ทางเดินไปสู่สวน
อาณาเขตด้านหน้าปลูกประดับด้วยไม้ไทยหลากชนิดส่งกลิ่นหอมโรยรินมากับสายลมอยู่เสมอ คุณย่ามักปรารภว่า
บ้านที่ไร้ต้นไม้ ดูยังไงก็ร้อนรุมถึงจะติดแอร์ทั้งหลังก็เถอะ
ดังนั้นรอบบ้านจึงร่มรื่นด้วยพรรณไม้ใหญ่น้อย จำปาจำปี เคียงคู่กันอยู่หน้าบ้าน สลับกับไม้พุ่มที่มีกลิ่นหอมชื่นใจอย่างบุหงาสาหรีสวนด้านข้างทอดเชื่อมระหว่างบ้านตึกกับเรือนหลังเล็ก ทางเดินปูด้วยอิฐมอญเป็นระยะต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านก่ายเกยกันจนร่มครึ้ม
มัสลินเดินช้าๆเสียงนกร้องเสนาะใส ให้ความเพลิดเพลินจนลืมสังเกตบรรยากาศรอบตัวเริ่มแปรเปลี่ยน ท้องฟ้าเบื้องบนปกคลุมด้วยผืนเมฆสีดำขนาดใหญ่ สายลมเย็นเยือกพัดวูบ
ในความเงียบ
สงบ
ภาพที่เห็นเริ่มพร่าเลือนราวม่านหมอกหนา เสียงอะไรอย่างหนึ่งแว่วมาไกลแสนไกลไม่ใช่เสียงรถจากถนนหน้าบ้าน
เสียง
คลับคล้าย
ล้อเกวียนบดเบียนกับพื้นหิน เสียงอึงอลของภาษาที่ไม่คุ้นหู แต่เธอกลับรับรู้อยู่ในสมอง
ไป๊
ไปให้ไวล่มแล้วเมืองสวรรค์
ร่างที่เบาหวิวคล้ายจะปลิวปลิดตามกระแสลมเสียให้ได้นั้นเซซบอิงแอบกับต้นไม้ หากภาพเลือนลางเบื้องหน้า เริ่มเด่นชัด ร่างสูง กำยำผิวเนื้อเหลืองนวลในชุดเครื่องแต่งกายแปลกตา ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มประหนึ่งยินดีหากแววตาล้ำลึก เหี้ยมเกรียม
ใครล่ะ?
หญิงสาวยกมือขึ้นลูบใบหน้า เหงื่อซึม ใจสั่นระริกพยายามตั้งสติเพ่งมอง
เป็นอะไรรึ หน้าคุณซีดเหลือเกิน
ร่างสูงสมส่วนในเครื่องแต่งกายสุภาพ ดวงหน้าละม้ายศิลาสลักคิ้ว สันจมูกกับริมฝีปากรับกันราวปั้นแต่ง หากดวงตาล้ำลึกอย่างประหลาด
คลับคล้ายจะเคยพบ
แต่ไม่เคยพบ
มัสมินรู้สึกเหมือนโลกจะหมุนกลับมาที่เดิม
เปล่าค่ะ
แค่พักผ่อนน้อยเกินไป
ผมเป็นผู้เช่าใหม่เพิ่งย้ายเข้ามาบ้านหลังนี้ไม่กี่วัน
มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วย
เสียงอย่างนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนสมองของมัสลินเริ่มคิดค้น หากทุกอย่างมืดมนไร้คำตอบ
ค่ะ
ขาดเหลืออะไรก็บอกกับต้อยติ่งได้ฉันคงต้องขอตัวก่อน
เมื่อคล้อยหลังมัสลินระบายลมหายใจแผ่วเบาคล้ายผ่อนคลายความรู้สึกเมื่อครู่ราวถูกจองจำ
กลีบผการ่วงหล่นเกลื่อนพื้นเท้าที่ก้าวย่างเร่งรีบเร็วขึ้น กลิ่นกำยานอบอวลลอยล่อง
ลานกว้างร่มรื่นด้วยกิ่งก้านของต้นอโศกที่แผ่ขยายออกไปทั่วเสียงพูดคุยสั่งการคละเคล้ากับกลุ่มผู้คนหลากหลายที่กำลังตระเตรียมสถานที่
มอสทางนี้
บุรุษเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ให้สัญญานมือกับหญิงสาว
งานแสดงอะไรคะพี่ฉันท์?
มัสลินเอ่ยถามพลางทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่อีกฝ่ายเลื่อนมาให้
ระบำอัปสรา
ระบำโบราณของเขมรเคยดูหรือเปล่า?
ไม่เคยค่ะ
เป็นไกด์ยังไงไม่รู้จักระบำเขมร แล้วจะอธิบายลูกทัวร์ได้รึ
ด้วยพื้นของคนถามคือนักวิชาการประวัติศาสตร์บางคราอาจดูคร่ำเคร่ง
ลูกทัวร์มอสสนใจแต่จะเล่นกอล์ฟกับร้องคาราโอเกะมากกว่าค่ะ
คนตอบกลั้วหัวเราะสดใส
เสียงดนตรีบรรเลงเริ่มดังระรัวขึ้น เหล่านางรำในเครื่องแต่งกายงดงามแปลกตาเริ่มเคลื่อนออกจากหลังต้นไม้ใหญ่ท่วงทีอ่อนช้อย พริ้วไหวไปกับท่วงทำนองดนตรีแสนแปลกหู กลุ่มหมอกควันสีขาวลอยล่องภาพตรงหน้าเริ่มสลัวลางคล้ายถูกบดบังด้วยม่านหมอกสีขาว มัสลินกระพริบตาถี่ร่างกายเบาหวิวราวไร้น้ำหนัก
ครั้นเมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งภาพตรงหน้าแจ่มใสชัดเจน จะผิดแผกก็สถานที่ลานคอนกรีตใต้ต้นอโศกเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเทวาลัยขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นลานกว้าง กระแสลมพัดวูบไล้ผิวกายจนเย็นเยียบ
ที่ไหน?
คำถามดังก้องอยู่ในหัวสะท้อนกลับไปมาหากไร้ซึ่งเสียงกระซิบตอบร่างงามระหงที่เคลื่อนย้ายตามจังหวะลำนำ เริ่มเด่นชัด ผมสีเข้มตอนบนมุ่นเป็นมวยปักแซมด้วยดอกไม้ชนิดหนึ่ง ตุ้มหูพวงใหญ่ห้อยระย้า สวมกำไลต้นแขน ภูษาสีอ่อนกับผ้านุ่งชายซ้อนงดงามจับตาดวงหน้านวลกระจ่างตาระบายยิ้มยวนยั่ว
เหมือนตัวเรา!
ในความมัวมนระหว่างกึ่งฝันกึ่งจริง เจ้าตัวยังรำพึง
มัญชุเกศี
เจ้ามันโลเล
เสียงตัดพ้อละม้ายเสียงใครผู้หนึ่ง ในความรู้สึกล่องลอยคล้ายเคลิ้มฝันนั้นดูเหมือนเสียงนั้นจะสะท้านสะท้อนราวผู้พูดขุ่นเคืองนักหนา มัสลินพยายามตั้งใจจับสำเหนียงแห่งเสียงนั้นให้ชัดหากแล้วก็แผ่วหายจากไป
ใครกัน!
หญิงสาวหลุดปากออกไปอย่างหงุดหงิด
เป็นอะไรหรือมอส?
คำถามนั้นทำให้มัสลินสะดุ้งเบิกตากว้างขึ้นทันที
เปล่าค่ะ
เปล่ายังไงเสียงดังขนาดนั้น หรือผีนางรำเข้าสิง!
ฉันทะกะหลุดปากออกไปพลางหัวเราะสนุก หากมัสลินเริ่มมีคำถามให้กับตัวเองภาพและเสียงเมื่อครู่เกิดขึ้นได้ยังไงกัน แม้ยามหลับก็ยังตามติดเฉกเช่นเงา
มอสคงพาลูกทัวร์ไปวัดบ่อย จินตนาการเลยเต็มหัวไปหมด
หญิงสาวบอกปัดไปแต่เธอจะบอกเล่าให้ใครฟังได้ว่าความฝันประหลาดที่เกิดขึ้นซ้ำๆซากๆนั้น มันบั่นทอนชีวิตประจำวันของเธอมากน้อยแค่ไหนมัสลินเคยคิดจะไปพบจิตแพทย์ หากแล้วก็เปลี่ยนใจ
เรายังไม่บ้า!แค่เห็นโบราณสถานมากไปเท่านั้น
แต่แล้วความฝันเหล่านั้นก็ยังดำเนินต่อไปเหมือนภาพยนต์ที่ฉายซ้ำกลับไปกลับมาเช่นเดิม
อาการย้ำคิดย้ำทำ