ตุลาคม 2549

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
# ไปเที่ยว ไปอ่านหนังสือ #
ไปเที่ยวไกลๆทีไรจะต้องนำกระเป๋าเกินน้ำหนักสูงสุดกลับมาทุกที
ส่วนใหญ่น้ำหนักที่เกินมาจะเป็นหนังสือ
ไม่รู้เป็นไงชอบซื้อหนังสือที่ต่างประเทศ
บางทีก็ได้หนังสือที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์กลับมา บางเล่มไม่ได้หยิบออกมาอ่านเลยก็มี
พอเห็นหนังสือถูกเข้าหน่อยก็จะเอาละ ซื้อกวาดๆๆ เหมือนเวลาไปงานหนังสือแห่งชาติน่ะแหละ
ช่วงสามสี่ปีหลังมานี้ก็เลยไม่ค่อยได้ไปงานหนังสือ
เพราะรู้ว่าไปทีไรก็มักจะได้หนังสือที่มาวางกองทิ้งไว้โดยที่ไม่ได้อ่านเป็นประจำทุกที

ไปครั้งหลังที่ไปญี่ปุ่นนี้ ระมัดระวังตัวมาก ไม่ให้ซื้อหนังสือมากเกินควร เพราะว่าเดินทางคนเดียว
และเปลี่ยนที่เกือบจะทุกวัน
การแบกการเป๋าเดินเนี่ยมันเหนื่อยมาก
หนังสือที่เอาไปเป็นไกด์บุค และพวกพจนานุกรม
ส่วนหนังสืออ่านเล่นนั้นไปหาเอาที่นู่นเลย

ทริปนี้ อ่านหนังสือระหว่างเที่ยวไปสองเล่ม (ที่อ่านจบแบบจบจริงๆน่ะนะ)
คือ Blink! ของ Malcolm Gladwell
และ Howl’s moving castle ของ Diana Wynne Jones



เรื่องแรก เป็น audiobook ขายดีของ audible อยู่พักนึงเลย
เราก็เลยได้ยินชื่อมาบ้าง ตั้งแต่ก่อนไปเห็นเล่มจริง
เป็นหนังสือเกี่ยวกับว่า ทำไมเราถึงได้ตัดสินใจอะไรไปในชั่ววินาทีได้อย่างชัดเจน
ว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
หรือว่าอะไรใช่ หรือไม่ใช่
โดยที่บางทีก็ไม่รู้ว่าทำไม
คนเขียนมีข้อมูลที่แน่นมาก อ่านเพลิน และรู้สึกตามไปด้วยว่า เออ จริงแฮะ
อ้อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
อ่านไปแล้วก็เข้าใจว่า หนังสือขายดีนี้มันต้องเขียนเป็น อย่างนี้นี่เอง (55555)

ส่วน Howl’s นี่ อันที่จริงเราเป็นคนไม่ชอบปกหนังสือแนวนี้มากๆ
แต่ว่าเลือกมาเพราะได้ยินมาว่า หนัง กับหนังสือ ไม่เหมือนกัน
หนังที่ว่าคือ การ์ตูนอนิเมะของสตูดิโอ จิบลิ ชื่อเดียวกันกับหนังสือเลย
ดูหนังไปแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยต้องมาหาหนังสือไปอ่านอีกรอบ
แต่กลับกลายเป็นว่า ...
ราวกับมันเป็นคนละเรื่องกัน
ในหนังสือ เรื่องจะออกหม่นๆมากว่า นึกภาพตามสีจะทึมๆ
ฟ้าครึ้มๆหน่อย
พระเอกก็ไม่ได้ดูดีและนิสัยเหมือนในหนัง
อ่านจบยิ่งไปกันใหญ่
รู้สึกเหมือนเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

มันก็เข้าใจอยู่หละนะว่า หนังกับหนังสือ การวางองค์ประกอบมันจะต่างกัน
ตัวละครตัวนี้ตัวนั้นจะต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ จึงจะดึงความน่าสนใจของเรื่องเอาไว้ได้ในหนัง
แต่ว่า ต่างกันขนาดนี้มันก็เกินไปหน่อย
อีกย่าง ในหนังวาง background เรื่องครอบครัวของนางเอกไว้น้อยมาก
ซึ่งเป็นบทแรกๆของหนังสือเลย
ที่จะทำให้เราเข้าในนิสัยของนางเอกตอนที่เปลี่ยนร่างเป็นคนแก่ได้ดี
แต่ในหนังแทบไม่มีเลย
เป็นหนังที่ดูยากเรื่องนึงเลย ..

กลับมาที่เรื่องหนังสือ
หนังสือภาษาอังกฤษที่ขายที่ญี่ปุ่นจะมีการติดไว้ด้วยว่า เหมาะกันคนอ่านที่มีความรู้ระดับไหน
เช่น Toeic 730 อย่างเล่มนี้
ก็ดีเหมือนกัน เมืองไทยน่าจะมีบ้าง

ส่วนอันนี้เป็น book jacket ของที่ญี่ปุ่น



เท่าที่สังเกต จะเป็นแบบกระดาษทึบเรียบๆแบบนี้มากกว่าแบบใสอย่างที่บ้านเราใช้กัน
(อันนี้ของร้าน meishodo)
ใส่ไปก็จะไม่เห็นปก
ไม่เห็นว่าแต่ละคนอ่านหนังสืออะไรอยู่
ก็แสดงให้เห็นความต่างของวัฒนธรรม ที่ไม่ก้าวก่ายกัน ของคนญี่ปุ่นได้ดี แต่ว่า ก็ทำให้รู้สึกว่า ห่างเหิน จัง

อันที่จริง เราก็เป็นคนไม่ชอบห่อปกหนังสือนะ เพราะรู้สึกว่า ปกมีไว้ให้จับ
บางเล่ม ทำปกแบบด้านๆ เวลาจับจะรู้สึกดีมาก
ถ้าห่อปกพลาสติกแล้วความรู้สึกเวลาเปิดอ่านจะต่างออกไป
รู้สึกเหมือนหนังสือเป็นเครื่องประดับมากกว่าเป็นหนังสือจริงๆ
แต่ว่า พอที่ร้านบอกว่า ห่อให้ เราก็โอเคทุกที
(ด้วยความงก...)



Create Date : 18 ตุลาคม 2549
Last Update : 18 ตุลาคม 2549 1:51:08 น.
Counter : 737 Pageviews.

1 comments
  
ดีจังค่ะ

อ่านหนังสือภาษาอังกฤษได้ด้วยง่ะ

ดีจังๆๆๆ


เป็นคนที่ถ้าเดินทางแล้วคิดว่าตัวเองมีเวลานะคะ ก็จะพกหนังสือไปอ่านเหมือนกันค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 ตุลาคม 2549 เวลา:18:10:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

blueschizont
Location :
ประจวบคีรีขันธ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



รักญี่ปุ่น