สิงหาคม 2553

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
14 สิงหาคม 2553
All Blog
บันทึกของแม่ : ไปเที่ยวเกาหลี วันที่ 3 Namsan Tower และระหว่างทาง
วันที่ 3 มิถุนายน 2553

วันนี้ตื่นขึ้นมาก็ 8 โมงเช้าแล้ว แม่อาบน้ำสระผมแต่งตัวเสร็จแล้วน้องจั่นก็ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและต้มโจ๊กเป็นอาหารเช้ากันคนละถ้วย แล้วออกเดินทางเวลา 10.10 น. พอออกเดินไปที่หน้าบ้านได้หน่อย น้องจั่นก็ขอกลับเข้าไปเปลี่ยนถุงเท้าอีก แม่ยืนรออยู่หน้าบ้านเลยถ่ายรูปเถากุหลาบที่ออกดอกสีแดงสะพรั่งไว้ดูเล่น

วันนี้จะไปเที่ยวที่นัมซานทาวเวอร์ จึงเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน นั่งไป 3-4 สถานี แล้วเปลี่ยนขึ้นรถอีกขบวนหนึ่งก็ถึง แต่ต้องเดินไปอีกหน่อยเพื่อไปที่สถานีรถกระเช้าไฟฟ้า

นัมซานทาวเวอร์ หรือหอคอยกรุงโซล เป็นหอคอยที่สร้างบนภูเขาสูงหน่อย สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้ แต่ถ้าไม่ค่อยมั่นใจในสมรรถภาพของตนเองก็ไปขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง ฃึ่งเราเลือกทางที่สองไปขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้า แต่กว่าจะเดินขึ้นไปถึงสถานีฯก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะ ต้องหยุดพักเหนื่อยตั้ง 2 ครั้ง เพราะต้องเดินขึ้นเนินเขานิดหน่อย พอถึงตัวอาคารสถานียังต้องเดินขึ้นไปบนชั้น 2 อีก เหนี่อยเลย น้องจั่นซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียว เพราะคิดว่าจะเดินลงมาแทนที่จะนั่งกระเช้า



นั่งรอสักครู่ก็ได้เวลาขึ้นรถ ยังต้องเดินขึ้นไปอีกชั้น เที่ยวนี้คนเยอะแน่นรถต้องยืนกันด้วย เลยไม่ได้เห็นวิวระหว่างทางสักเท่าไหร่ แม่ไม่ได้ถ่ายรูปด้วย


(อันนี้น้องจั่นถ่ายเอง มองออกไปนอกกระเช้า)

นั่งรถฯไปประมาณ 5 นาที ก็ถึง เมื่อลงจากรถฯแล้วต้องเดินเท้าไปที่หอคอยอีกประมาณ 100 เมตร



ที่หอคอยฯ ต้องซื้อตั๋วเข้าไปอีกทีนะ


ซื้อตั๋วเสร็จแล้วออกไปเดินเล่นที่บริเวณด้านนอกหอคอย


ปรากฎว่าที่รั้วรอบ ๆหอคอยมีกุญแจจำนวนมากมายล๊อคติดกับตาข่ายรั้ว เป็นกุญแจที่คู่รักเขียนชื่อติดไว้ที่กุญแจแล้วนำไปล๊อคติดกับรั้ว ซึ่งเชื่อกันว่าความรักจะสมหวังตลอดกาล แต่แม่กับน้องจั่นก็ไม่ได้ทำตามเขาหรอกนะ แล้วแต่บุญวาสนาที่ทำมาก็แล้วกัน ในชาตินี้เราก็ต้องทำบุญเพิ่มกันหน่อยนะ



ภาพเปรียบเทียบความสูงของหอคอยในที่ต่างๆ


ได้เวลาก็ไปขึ้นลิฟต์ไปชมวิวเมืองโซลบนหอคอย มองเห็นเมืองโซลทั้งเมืองรอบทิศทาง ซึ่งแออัดไปด้วยตึกสูงมากมาย อยู่กันเป็นกลุ่ม ๆ มองเห็นแม่น้ำฮันยาวเหยียดชัดเจน โซลเป็นเมืองหลวงของเกาหลี เป็นเมืองใหญ่ที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก น่าอิจฉาคนเกาหลีนะ





ลงจากหอคอยมาชั้นล่างเข้าชมเมืองโซลจำลอง ซึ่งมีหุ่นตัวเล็ก ๆ เป็นตัวแสดงเพื่อให้เห็นความเป็นมาก่อนที่จะเป็นเมืองโซล และสภาพความเป็นอยู่ การร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเมือง สร้างวัฒนธรรม และแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ในย่านต่าง ๆ ของเมือง เช่น ย่านธุรกิจ ย่านบันเทิง



และที่น่ารักที่สุด ก็เมื่อเราเดินมาดูแต่ละชุดการแสดง ตัวหุ่นเหล่านั้นก็จะมีการเคลื่อนไหวทำหน้าที่ตามบทบาทของตัวเอง พอเราผ่านไปก็หยุด



แม่ชอบการแสดงหุ่นการสร้างอาคารมาก พอเราเข้าไปดู หุ่นแต่ละตัวก็ทำหน้าที่ของตัวเองทันที บางคนช่วยกันตัดไม้ บางคนเลื่อยไม้ บางคนขนไม้ และช่างที่กำลังสร้างที่นั่งอยู่บนนั่งร้านก็ขยุกขยิกทำงาน ดูราวกับว่ากำลังทำงานสร้างอาคารกันจริง ๆ





มีกล้องและฉากเสมือนให้ได้เข้าไปถ่ายรูปเล่นด้วย


ออกจากนัมซานทาวเวอร์ ก็เดินเท้าลงบันไดมาเรื่อย ๆ ไม่ขึ้นกระเช้าไฟฟ้า แต่จะเดินชมวิวลงมาเอง ระหว่างทางก่อนที่จะลงบันไดมา เห็นคนผู้ชายแต่งตัวแบบทหารเกาหลีโบราณ 4 – 5 คนตีฆ้องเดินเข้ามาในบริเวณหอคอยและไปหยุดที่เขาสร้างไว้เหมือนเป็นประตูเมืองหรืออะไรสักอย่าง ดูรูปแล้วกันนะ แต่ละคนไปยืนประจำจุดต่าง ๆตามตำแหน่งของตน คนที่ยืนด้านหน้ามี 2 คน ถือดาบของ้าวยาว ๆ เดินไปเดินมาสลับกัน มีนักท่องเที่ยวไปขอถ่ายรูปด้วย แต่เราไม่ได้ไปถ่ายด้วย ที่จริงก็อยากถ่ายเหมือนกันนะ และที่บริเวณด้านหน้ามีการเอาชุดเกาหลีชายหญิงมาให้นักท่องเที่ยว
ใส่ไปถ่ายรูปกับทหารฟรีไม่คิดตังค่าชุด น้องจั่นสะกิดให้แม่ไปใส่บ้างจะถ่ายรูปให้ แต่แม่ไม่ไปหรอกเดี๋ยวจะติดใจทหารเกาหลี



จากนั้นก็เดินลงบันไดมาที่เชิงเขาด้านล่าง ทางลงเป็นบันไดหินกว้าง ๆ เดินกันแบบสบาย ๆ ไม่ได้รีบร้อน แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยน่าดูเพราะไกลมาก ๆ ระหว่างทางก็เห็นคนเดินขึ้นเดินลงแต่ไม่มากนัก คนที่เดินขึ้นก็หอบกันแฮ่ก ๆ คนเดินลงก็สบายหน่อย เหนื่อยนักก็แวะพักซื้อน้ำในตู้ข้างทางดื่มกัน เขามีที่นั่งพักไว้ให้ด้วย วันนี้แม่ใส่รองเท้าแตะก็เลยเดินได้สบาย ๆ แต่ก็เหนื่อยและเจ็บเท้าเหมือนกันนะ



พอถึงตีนเขาเห็นมีรถแท็กซี่จอดอยู่หลายคัน แม่แอบดีใจนึกว่าจะได้นั่งรถแท็กซี่แล้ว แต่ผิดคาด น้องจั่นมีแผนเดินเท้าต่อ เห็นเดินแยกไปถามคนที่อยู่ที่ป้อมแล้วหันมากวักมือเรียกแม่ .....ไปต่อครับผม.....ทีนี้เป้าหมายไปหมู่บ้านเกาหลีโบราณ เดินเลี้ยวขวาไปครับผม.. น้องจั่นถามแม่ว่าไหวไหม ก็ต้องไหวซิน่า ไม่งั้นเสียชื่อแย่แน่เลย ระยะทางที่เขาบอกมาก็ตรงกับที่ป้ายริมถนนบอกไว้ ระยะทาง 1 กม.เศษ ๆ แต่เดินมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่ถึงเสียที ป้ายระยะทางก็ยังบอกเท่าเดิม เดินกันจนเหนื่อย ทั้ง 2 คน สะโหลสะเหลกันทั้งแม่ทั้งลูก ก็ยังดีที่มีน้ำใส ๆไหลเย็นในร่องน้ำข้างถนนและดอกไม้สวย ๆ ริมทางให้ดูพอชื่นใจหน่อย พอเหนื่อยนักก็นั่งพักที่เก้าอี้ที่เขาจัดวาง
ไว้ริมทางให้พอหายเหนื่อย ก็ยังดีที่มีเพื่อนร่วมทาง ก็หลายคนอยู่ มีทั้งที่ไปและกลับ
แต่ดู ๆ เหมือนเขามาเดินออกกำลังกายกัน แต่ก็ช่างเถอะ สรุปว่ามีเพื่อนเดินทางก็แล้วกัน
ถนนเขาทำดีมาก เป็นถนนคนเดินไม่มีรถวิ่ง มีทางให้คนพิการเดินด้วย ริมถนนทำเป็นร่องน้ำหิน มีน้ำใสไหลเย็นตลอดสองข้างทาง ดอกไม้ริมทางก็หลากหลายชนิด หลายสีให้ชมความงามได้ตลอดทางเหมือนกัน
เดินกันจนเหนื่อยมากแล้วแต่ก็ไม่ถึงซะที น้องจั่นก็เดินไปดูป้ายระยะทางเรื่อย ๆ ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมเขาจึงบอกระยะทางเท่าเดิม เดินไปบ่นไป หรือว่าเราจะหลงทางรึเปล่านะนี่.....แต่เราก็เดินตามป้ายบอกนี่นา........เดินไป ...เดินไปจนถึงเทศบาลเมืองนัมซาน คิดว่าน่าจะหลงแน่แล้ว แต่คนที่เดินมาก่อนหน้าเรายังเดินต่อไปผ่านหน้าเทศบาลไปอีก เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหน เป้าหมายจะเป็นที่เดียวกับเรารึเปล่าก็ไม่รู้ แต่เราก็เดินตามไปด้วย พอเดินตามไปได้สักครู่ก็มีทีท่าว่าจะมาถูกทางแล้ว เฮ้อ...

ก็ไปถึงเป้าหมายจนได้แหละนะ



หมู่บ้านเกาหลีโบราณ เป็นบ้านที่รัฐบาลจำลองมาไว้ให้ดูกัน (รึเปล่า ต้องถามน้องจั่นอีกที) บ้านเขาทำแข็งแรงมาก ใช้ไม้เป็นต้น ๆ โดยเฉพาะหลังคา น้องจั่นบอกว่าต้องทำแข็งแรงเพราะต้องรับน้ำหนักของหิมะในหน้าหนาวด้วย บานประตูใหญ่โตมาก ฝาพนังเป็นปูน คานเป็นไม้ ในบ้านจะจำลองของใช้และการแบ่งสัดส่วนการใช้ประโยชน์ของบ้านไว้ด้วย ส่วนบริเวณลานหน้าบ้านจำลองของเล่นสำหรับเด็กในสมัยโบราณไว้ ซึ่งแต่ละอย่างก็เท่าของจริงและเล่นได้จริง



ช่วงที่เราไปดูมีคุณครูพาเด็กนักเรียนเล็ก ๆ ชั้นอนุบาลไปเล่นกันอยู่แล้ว ดูเด็ก ๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานเจี๊ยวจ๊าวกันตามประสาเด็ก ทำให้ดูบ้านโบราณมีชีวิตชีวาขึ้นมากทีเดียว



ซึ่งนอกจากเด็ก ๆ แล้วก็มีนักท่องเที่ยว ทั้งจีน ฝรั่ง และญี่ปุ่นมาเที่ยวกันเยอะเหมือนกันรวมทั้งไทยด้วย ....เราเอง
เดินชมกันจนบ่ายโมงกว่า ๆ แล้ว รู้สึกหิว จึงเดินออกไปทางประตูอีกด้านหนึ่งก่อนถึงประตูทางออก เห็นนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปกับรูปชุดเกาหลี โดยไปยืนโผล่หน้าที่ช่องรูปหน้า เวลาถ่ายออกมาก็จะเห็นเจ้าของหน้าใส่ชุดเกาหลี น้องจั่นก็ถ่ายกับเขาด้วยโดยมีแม่เป็นตากล้อง



เสร็จแล้วก็ไปหาข้าวกินกัน นั่งรถไฟใต้ดินไปกินที่ทงแดมุน (ประตูตะวันออก)
อาหารที่แม่เลือกเป็นข้าวเปล่าคลุมหน้าด้วยถั่วเหลืองงอกลวก มีน้ำซุปให้ 1
ถ้วย และน้ำอะไรไม่รู้เป็นโถวางไว้ที่โต๊ะให้ตักเอาตามชอบมาราดคลุกข้าว (เห็นคนเกาหลีที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ เขาราดคลุกข้าวเลย) ก็พอกินได้แก้ขัด ของน้องจั่นเป็นข้าวเปล่า 1 ถ้วย เหมือนเกาเหลา 1 ถ้วย มีกิมจิให้แกล้ม 1 ถ้วย น้องจั่นบอกว่ามื้อนี้ถูกสุด 2 คน 5.000 วอน



เมื่ออิ่มหนำสำราญแล้วก็มีแรงไปเดินดูของในตลาดทงแดมุนต่อ
ที่นี่เป็นทำเลขายส่ง มีของขายมากมาย ดูลานตาไปหมด มีทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าชนิดต่าง ๆ สิ่งของเครื่องใช้นา ๆ ชนิด มีให้เลือกทุกประเภท มีคนเดินสั่งของกันขวักไขว่ แต่ละคนเดินกันอย่างรีบเร่ง เราต้องเดินเบียดเสียดกับผู้คนไป แม่ต้องเล็งน้องจั่นไว้ให้ดี ไม่งั้นแล้วอาจหลงกันได้ แล้วจะหายากเป็นที่สุด แต่จะอย่างไรก็ตามแม่ได้บอกน้องจั่นเอาไว้แล้วว่า ถ้าหลงกันแม่จะอยู่ที่เดิม จะไม่เดินไปไหน ให้น้องจั่นเป็นคนหา แต่ก็โชคดีเราไม่พลัดหลงกันเลย เกาะกันเหนียวแน่นมาก

จากนั้นเราก็ออกมาจากห้างฯเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินไปช๊อปปิ้งต่อที่ห้างสรรพสินค้า LOTTE ขึ้นไปที่ชั้นดิวตี้ฟรี เพื่อซื้อของที่อาจารย์ฝาก ซื้อแล้วของต้องไปรับที่สนามบิน
ของที่ขายที่นี่เป็นสินค้าแบรนด์เนม เช่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า กระเป๋า ก็ดูเป็นขวัญตาเท่านั้นนะ ไม่กล้าซื้อใช้หรอก เพราะกระเป๋าแต่ละใบราคาไม่ต่ำกว่า 2 -5 หมื่นบาท บางใบราคาเป็นแสน แต่คนเกาหลีเขาซื้อใช้กันเป็นว่าเล่นเลยนะ แม้กระทั่งเด็ก ๆ ก็ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมกัน คนเกาหลีนี่นอกจากจะรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณดีแล้ว ยังแต่งตัวดีด้วย ใช้ของดีมีราคา ถ้าใครจะหาแฟนเกาหลี
ก็ต้องคิดให้ดีนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ออกจาก LOTTE ก็ไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับไปที่เมียงดง เดินช๊อปปิ้งต่อ ก็อีกนั่นแหละ น้องจั่นเข้าร้านขายเครื่องสำอางค์หาซื้อของที่เพื่อน ๆ ฝากซื้อ ก็ได้มาถุงใหญ่อีกตามเคย วันนี้แม่ใส่รองเท้าสวมเดินมากจนรองเท้าบีบหัวแม่เท้าเจ็บไปหมดเลยแต่ก็ต้องทน เมื่อน้องจั่นซื้อเสร็จแล้วก็ไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับที่พัก



Create Date : 14 สิงหาคม 2553
Last Update : 29 กันยายน 2553 20:28:53 น.
Counter : 2082 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blueschizont
Location :
ประจวบคีรีขันธ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



รักญี่ปุ่น