สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
วัดจิ้งหรีด (จริงๆ) Suzumushidera (officially : Kegonji) : Kyoto, Japan
วันพักผ่อนของเรา

ตอนเช้าตื่นสาย (ตลอดอ่ะ พอมานอนกลิ้งบ้านคนอื่น 55)
เนื่องจากเป็น plan การเที่ยวที่หละหลวมมาก
ครั้งนี้ หลังจากเพื่อนๆกลับบ้านเมืองกันไปหมดแล้ว ก็เหลืออิชั้นตัวคนเดียว
มานอนกลิ้งอยู่ที่บ้าน Nagai (บ้าน host family เดิมที่เคยมาเมื่อสองปีก่อน)

plan ก็คือ นอนกลิ้ง เดิน กิน ทำตัวเหมือนชาวเกียว เขาสักหน่อย
สักสี่ห้าวัน

ตอนเช้ากะว่าจะไป Shisendo วัดเล็กๆทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองใกล้ๆกับ Shugakuin ที่ไปมาวันก่อนน่ะแหละ
แต่เนื่องด้วย คุยกันไปๆมาๆแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดของ Satomi ลูกสาวคนโตบ้านนี้ และเขาก็เฉยๆกับ Shisendo
เราก็เลยมาหาที่ไปกันใหม่ ได้ความว่า เพื่อนของซาโตะที่อยู่โตเกียว เคยนั่ง shinkansen มาเกียวโตเพื่อมาเจ้าวัดจิ้งหรีดนี่ แล้วเดินทางกลับในวันเดียว

เราก็เลยสุมหัวกันสี่คน คิดว่า ไอ้วัดนี้มันต้องมีอะไรดีแน่ๆ

แล้วก็เปลี่ยน plan ซะงั้น


ตอนเช้าซาโตะ ปั่นจักรไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อไปเจาะหู
ที่ญี่ปุ่น โรงเรียนที่เกียวโตนี่มีกฏว่าจะให้เจาะหูได้หลังจากอายุ 15 แล้วเท่านั้น
ริเอะ ลูกสาวคนกลางของบ้าน ขอเจาะตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ตอนไปโรงเรียนต้องเอาผมมาปรกหูตลอด เพราะกลัวถูกจับได้ คุณแม่ก็ลุ้นไปด้วยทุกๆวัน 555

ดังนั้น การที่เราเจาะหูตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจของที่นี่
จำได้ว่าตอนเด็กๆ ขอแม่ไปเจาะเองด้วยซ้ำ

ตั้งแต่อายุ 5 ขวบเนี่ยนะ

สงสัยก่อนหน้านั้น ยังไม่รู้จักความเจ็บปวด เหอ เหอ

สมัยนั้นใช้วิธีเอาปืนยิงเจาะหู ยิงเอา

ที่นี่ จะเจาะเองก็ได้ หรือว่าไปเจาะที่ รพ. ก็ได้ เขาก็จะใส่เป็น plastic ให้เป็นแท่งๆ คิดว่าที่จริงมันก็น่าจะเ็ป็น medicut เหมือนตอนเราเจาะเลือดให้น้ำเกลือมั้ง มีปลอกพลาสติกหุ้มเข็มอยู่ พอเอาเข็มออกก็ยังเหลือปลอก plastic อยู่
สะอาดและ สะดวกดี

ตอนแรก ซาโตะบอกว่า กลัว ก็เลยจะเจาะข้างเดียวก่อน
แต่สรุป ก็ได้มาสองข้างละนะ หูบวมมาเลยทีเดียว

เราไปนัดเจอกันที่สถานี Hankyu Katsura อะไรสักอย่าง
แล้วก็เดินกันต่อไปจากนั้น
เนื่องจากเป็นวัดเล็ก ทางเดินก็เลยเล็กตาม ต้องเดินผ่านหมู่บ้าน และนู่นนี่มากมาย คือกะว่า ถ้าไม่มี google map นี่คงมาไม่ถึงอ่ะ

พอถึงหน้าวัด.. มีป้ายรถเมล์สุดสายอยู่หน้าวัดซะงั้น (ตรูไม่รู้นีหว่า..)


วัดนี้อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกียวโต แถบใกล้ๆกับ ที่ประทับหลวง Katsura

ปกติที่ญี่ปุ่น จิ้งหรีดเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฤดูร้อน แต่สำหรับที่นี่ มีจิ้งหรีดร้องตลอดทั้งปี และตรงทางเข้าวัด มีหินแกะสลักนักบวช ที่ปกติจะเดินเท้าเปล่า แต่ที่นี่ ใส่รองเท้า กลายเป็นของหาดูได้ยาก จึงมีชื่อเสียง.

ทางเข้าวัด
เป็นถนนเล็กๆขนาดรถเข้าได้สองคันแบบเบียดๆ
ด้านซ้ายมือ มีสถานที่เหมือนเป็น museum หรือเป็นอะไรสัักอย่างเกียวกับ เจ้าหญิงที่เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ (จำชื่อไม่ได้แล้ว) แต่ตอนที่เราไปกันนั้น มันปิด ก็เลยไม่ได้เข้าไปดู
เดินผ่านด้านข้างไป ซาโตะบอกว่า ข้างในน่าจะมีไผ่หลายๆแบบให้ดูละมั้ง เดาเอาน่ะ



เดินผ่านด้านข้างก็โฉบซะหน่อย


แล้วก็เดินไปอีกสักร้อยเมตรได้มั้ง ก็จะถึงทางเข้าวัดจริงๆแล้ว

เย่



มีทางบันไดขึ้นต่อไปอีกหน่อย เป็นทางหินเก่าๆเลย ดูลื่นได้ง่าย ถ้าฝนตกเดินระวังหน่อยแล้วกันนะคะ

มาถึงด้านบน ก็จะมีรูปสลักหินของพระท่านนี้



ว่ากันว่า ถ้ามาขอพรแล้วต้องบอกชื่อและที่อยู่ไปด้วย ไม่งั้น ท่าน(ใส่รองเท้า คงเดินสะดวก)จะเดินไปเคาะประตูหาถึงที่บ้าน.. เหอ เหอ
ซาโตะบอกว่า ถ้าจั่นไม่บอกที่อยู่ ท่านคงเดินไปหาถึงไทยละมั้ง 555 เอาสิ คงใช้เวลาน่าดูเลยทีเดียว


โชคดีที่มากับคนญี่ปุ่น ไม่งั้นเราก็คงไม่รู้ว่ามันพิเศษยังไง



ขอพรแล้วก็เข้าวัดซะ
เป็นวัดที่เล็กจริงๆ แต่คนเยอะมากกกก จนไม่น่าเชื่อ
ตอนแรกคิดว่ามีแต่ชาวญี่ปุ่น ที่ไหนได้มีฝาหรั่งมากันด้วยแฮะ



เข้าไปแล้ว จะไปเดินเล่นเลยก็ไม่ได้ มีการกักตัวไว้ก่อนในห้องนี้ ให้ฟังพระท่านบรรยาย (เรื่องอะไรก็ไม่รู้) อยู่เป็นนานสองนาน.. ตอนแรกเราคิดว่า คนญี่ปุ่นคงรู้เรื่องละมั้ง ปรากฏว่า.. คุณแม่ มากิโกะซัง มาหัวเราะบอกเราเอาตอนท้ายว่า ท่านพูดไรก็ไม่รู้ อู้อี้ๆ ฟังช่วงแรกๆก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน 555



แต่สรุปตอนท้าย บอกว่า ปีนี้เป็นปีชง ของคนเกิดปีนี้ๆๆๆ นะ ให้ซื้อเครื่องลางไปแก้เคล็่ด (ขายของซะงั้น!)


ปีของญี่ปุ่นที่อ้างอิง เรื่องอายุ เป็นแบบเดียวกับปีจีนและเกาหลี คือต้องบวกกับอายุจริงหลังคลอดของเราไปอีกหนึ่งปี.

ในห้องนี้มีขนมและน้ำชาให้ด้วย แต่เนื่องจากนั่งฟังไปซะนาน ชาเขียวของเราเลยเย็นหมด



ท่านแอบหยอดมุกเล็กๆว่า ไอ้ดำๆที่เห็นในขนมน่ะ คือจิ้งหรีดสับ...
หลังจากทุกคนอึ้งไปสามวิ .. ก็หัวเราะแล้วบอกว่า .. อำน่ะ 5555
(ท่านคะ สำรวมจิ๊ดนึง!)

จบจากห้องแล้ว เราก็เดินไปด้านหน้าของห้อง เพื่อชื่นชมกับเจ้านี่

จิ้งหรีด!
อาหารที่เขาให้ ส่วนใหญ่เป็นมะเขือม่วงแฮะ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจิ้งหรีดกินมะเขือม่วง



และแล้ว เราก็ได้ออกไปเดินเล่นที่สวนกัน
สวนที่นี่เล็กมากๆจริงๆ
คนส่วนใหญ่ เดินออกไปซื้อเครื่องรางแก้เคล็ดปีชงแล้วก็กลับกันเลย
(คาดว่า วัดนี้อาจจะมีชื่อเรื่องเครื่องรางด้วยละมั้ง ไม่งั้นคนจากที่ไกลๆเขาคงไม่ดั้นด้นมากันขนาดนี้)



ถ้าให้วิจารณ์เรื่องการดูแลสวนที่่นี่ คงต้องบอกว่าด้อยกว่ามาตรฐานเกียวโตอยู่บ้าง เพราะไม่ได้สะอาดสะอ้านอย่างที่ควรจะเป็น และไม่ได้สวยงามนัก จุดเด่นคือ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีแมลงนู่นนี่มากมาย รวมถึงจั๊กจั่นที่มีคราบอยู่เต็มไปหมด และมีต้นไผ่หลากชนิดให้ได้ดู ตั้งแต่ ไผ่สีทอง ไผ่สีดำ ไปจนถึง ไผ่สามเหลี่ยม และไผ่สี่เหลี่ยม
ไอ้พวกไม่เคยเห็นอย่างเราก็ต้องถ่ายรูปสินะ



ไผ่สามเหลี่ยม


มีหนักกว่าเราคือ มาสลักชื่อไว้
ทำแบบนี้ได้ง๊ายยยย



และมีต้นเมเปิ้ลที่ปกติจะแดงเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง แต่นี่ แดงแล้ว..



แล้วก็ได้เวลากลับกัน



เดินออกมาทางออก เจอป้ายอันนี้...

Kokedera(Saiho-ji) หรือวัดสวนมอส อยู่ใกล้ ๆ นี่เอง
จำไว้ ๆ เพราะเราจะมาแน่นอน.. ขอเวลาเตรียมตัวและเงินก่อนนะ วัดมอสที่รัก



บาย บาย สำหรับวันนี้ ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่นะ
แต่เราชอบบรรยากาศวัดเล็กๆในเกียวโตแบบนี้ด้วย ก็เลยขอแทรกเข้ามาร่วมกับสาระของ blog ในวันอื่นๆ

เพราะรู้สึกเลยว่า บางคนอ่าน blog เราแล้วคงเบื่อๆ ประมาณว่า ไอ้นี่จะใส่ข้อมูลนู่นนี่รายละเอียดเข้ามาทำไมเยอะนักวะ ไปเที่ยวไม่ได้ต้องการอะไรเยอะขนาดน้านนน

ขอบอกว่า นั่นมันเป็นความชอบส่วนตัวเจ้าค่ะ
เพราะเราชอบรายละเอียดเล็กๆ โดยเฉพาะบางอย่างที่หาไม่ได้จากหนังสือทั่ว ๆไป มันแสดงให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นเขาคิดอะไรยังไง รู้แล้วรู้สึกรักญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นน่ะ

แต่ก็ต้องขออภัย ถ้ามันทำให้บางคนเบื่อนะคะ
ถ้าเบื่อรายละเอียดมาก ๆ ก็มาอ่านหัวข้อวัดจิ๋ว ๆ สถานที่เที่ยวเล็กๆแบบนี้ดู อาจจะสบายใจขึ้นค่ะ




Create Date : 11 สิงหาคม 2554
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 4:45:31 น.
Counter : 3266 Pageviews.

1 comments
  
ตามมาเที่ยวครับ อยากไปแบบนี้บ้าง ขอไปพักบ้างได้ไหม Host Family อ่ะ
โดย: คนขับช้า วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:21:33:36 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

blueschizont
Location :
ประจวบคีรีขันธ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



รักญี่ปุ่น