เรื่องเล่าจากความทรงจำ ..... ย้ายถิ่นฐาน.....
ในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธุ์ 2501 ป้าก็ได้ม่โอกาส ลืมตาดูโลก เป็นสมาชิกใหม่ของพ่อและแม่ แม่เล่าว่าป้าเกิดตอนเช้ามืด ที่พอมองเห็นใบไม้ หลุ่บหลู นั้นคือวิธีการจดจำ เวลาการเกิดของคน ในชนบทสมัยนั้น และการตั้งชือ ของเด็กในสมัยนั้นก็จะนิยมตั้ง ตามลักษณะ ผิวพรรณ หรือรูปร่างหน้าตา ของเด็ก อาจรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ณ. เวลานั้น เช่น พี่ที่รู้จักของป้าคนหนึ่ง ชื่อ น้ำท่วม เพราะเกิดในที่น้ำท่วมพอดี แม่ว่าป้าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย กินเก่ง แข็งแรง เจริญเติบโตตามวัย ด้ว นมแม่ และข้าวบดกับกล้วย อาหารยอดฮิตของเด็กสมัยนั้น ป้าอายุได้ประมาณ 3 ขวบ แม่เริ่มป่วยเป็นโรค เบาหวาน ซึ่งในสมัยนั้นเป็นโรคที่น่ากลัว มาก แม่ ร้องไห้เสียใจ กลัวว่าจะไม่มีอายุยืนยาว เลี้ยงป้าจนโต แล้วครอบครัวของเราก็ได้มีโอกาสย้ายถิ่นฐาน มาทำมาหากิน ที อ. บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พ่อเป็นช่างโรงสี เงินเดือน 600 บาท แม่เป็นแม่ครัวประจำโรงสี เงินเดือน 100 บาท มีบ้านพักเป็นเรือนไม้ ใต้ถุนสูงให้อยู่ การกินอยู่ก็กิน ในกงสี ที่ทางโรงสีจัดทำเลี้ยงคนงาน ที่บ้านพักแม่จะมีครัวเล็กๆ เอาไว้ทำอาหารมื้อพิเศษบ้างเป็นครั้งคราว ประมาณ ปี พ.ศ 2507 แม่ได้ตั้งท้องอีกครั้ง เมื่อถึงกำหนดคลอด ป้าจำได้ว่า บนเรือนผู้ใหญ่ดู วุ่นวาย กับการคลอดน้องคนใหม่ ป้าซึ่งเป็นเด็กก็เพลิดเพลิน กับการเล่นกับเพื่อนๆ ไปตามประสา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ แม่ก็ยังไม่สามารถคลอดน้องได้ จนสุดความสามารถของหมอ ตำแย ในสมัยนั้น เขาว่าเด็กตัวใหญ่ และติดที่ช่วงไหล่ จึงคลอดไม่ได้ และแม่เองก็เป็นหญิงที่กระดูกเชิงกรานแคบ สุดท้ายเฒ่าแก่ โรงสีก็ต้องสั่งให้เอาเรือ เร็วออก บรรทุกแม่ และผู้ติดตาม ทั้งหมด ขึ้นเรือทวนน้ำไปที่ ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษณ์ เพื่อขึ้นรถบรรทุ สิบล้อ ที่เฒ่าแก่ ให้มาจอดรอรับช่วง พาแม่ไป โรงพยาบาล สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ เหตุที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะถ้าพาแม่ออกจาก บ้านด้วยรถสิบล้อ สภาพสาหัสขนาดนั้น แม่คงไม่ สามารถ ทนต่อถนนลูกรังที่ขรุขระ เป็นหลุมบ่อได้ ความเจ็บปวดทรมาณแสนสาหัสขนาดนั้น คน ที่เคยผ่านการคลอดแบบธรรมชาติ มาคงจะรู้ซึ้งดี และแม่ก็ได้เดินทางมาถึงโรงพยาบาล สวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งในสมัยนั้น ยังเป็นอาคารไม้ ผู้ใหญ่ พูดกันว่า หมอใช้เครื่องดูดเด็กออก น้องเป็นผู้หญิงตาย แม่ปลอดภัย นี่เป็นช่วงเหตุการณ์หนึ่ง ถึงแม้นว่าในตอนนั้น ป้าจะยังเด็กแต่ก็ไม่เคยลบเลือนไปจากความทรงจำเลย ปีถัดมา แม่ตั้งท้องน้องอีกคน คราวนี้แม่มีการฝากท้อง และเข้ามาหาหมอตามนัดในตัว จังหวัด เสมอ เพราะคนเป็นโรคเบาหวาน ถ้ามีท้องเด็กมักจะตัวใหญ่ ครั้งนี้แม่คลอดที่คลินิค ชื่อดัง ในสมัยนั้น ได้น้องผู้ชาย แต่น้องก็ไม่รอดตายตอนคลอด ป้าจึงกลายเป็นลูกคนเดียวของ พ่อแม่ ช่วงที่แม่และพ่อ พากันไปคลอดน้องที่ตัวจังหวัด ได้ฝากป้าให้อยู่ในการดูแลของ เมียเฒ่าแก่ โรงสี ช่วงนั้นนาจะอายุประมาณ 10 ขวบ และน่าจะอยู่ในช่วง หน้าแล้ง เพราะกลางแม่น้ำปิง มีหาดทราย พวกเพื่อนๆรุ๋นพี่ ที่เขารุ่นหนุมรุ่นสาว ได้พากันว่ายน้ำข้ามไปเล่นหาดทรายกัน ด้วยความซน ของป้า ได้ว่าตามเขาไป ป้าก็ว่าหาดทรายมันก็ใกล้ๆ แต่ทำไมขาป้าไม่แตะพื้นทราย เสียที และคิด ว่าคงพลุบๆโผล่ๆ เหมือนลูกหมาตกน้ำ ให้ พี่ๆเห็น มีพีผู้ชาย ชื่อ พี่บุตร ได้ว่ายน้ำมาพาขึ้นหาด และเมื่อว่ายกลับเข้าฝั่ง ตามปกติ พ่อ ป้าได้กลับมาจากตัวจังหวัดเพื่อรับป้าไปเยี่ยมแม่ ถ้าในวันนั้น ป้าจมน้ำตาย และน้องที่คลอดก็ตาย พ่อและแม่คงพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ในชีวิต แต่พ่อและแม่ ยังโชคดีที่เหลือป้า ลูกที่ดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไว้ให้ปวดหัว ปวดใจ กันอีก นาน
Create Date : 06 สิงหาคม 2559 |
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 11:44:18 น. |
|
2 comments
|
Counter : 567 Pageviews. |
|
|
ดีครับ
คุณพ่อได้รับเงินเดือนสูงนะครับ ท่าเทียบกับเงินสมัยก่อน