[รีวิว] เพิ่งดูจบ Dunkirk อีกมุมหนึ่งของสงคราม
Dunkirk (2017) imdb 8.7 หนังที่บทพูดน้อยก็สนุกได้ องค์ประกอบในตัวหนังลงตัวทั้งภาพและเสียง ตื่นเต้นและระทึกไปกับตัวละคร ที่แบ่งฉากเป็น 3 องค์ 3 มุม ทั้งบก-น้ำ-อากาศ แต่เชื่อมโยงและบรรจบเข้าด้วยกัน ในตอนจบ ดูจบก็ยังจำชื่อตัวละครไม่ได้ด้วยซ้ำเนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไรมากเลย บทน้อยมาก เป็นหนังสงครามที่ไม่ใช่หนังบู๊ แอ๊คชั่น ยิงกันระห่ำ แต่เป็นหนังที่สร้างมาได้ค่อนข้าง Real พล็อตคือ ทหารอยากกลับบ้าน แค่นั้นแหละ ตีแผ่อีกแง่มุมของสงคราม ทหารที่ถูกฝึกมาก็มีความรักตัวกลัวตาย เราเห็นได้ว่าไม่ว่าใครก็รักชีวิตตัวเอง
หนังเล่าถึงสงครามที่อังกฤษร่วมรบกับฝรั่งเศส สู้กับเยอรมัน(นาซี) กันที่ดันเคิร์ก เป็นเหตุการณ์ตอนที่ถอนกำลังทหารออก
ตัวหนังมี 3 มุมมอง นักบิน - ทหารที่อยากกลับบ้าน - ชาวบ้านที่ออกเรือมารับทหาร โนแลนทำให้เราเห็นว่า ภายในสถานการณ์เดียวกัน เราเห็นมิติของตัวละครที่แตกต่างกันเยอะมาก มีทั้งทหารขี้กลัว คนเห็นแก่ตัว ผู้เสียสละ ผู้กล้า ผู้นำที่ดี ผู้มีคุณธรรม บางคนรอดตายเพราะทิ้งให้คนอื่นตาย บางคนก็มาเพื่อต้องการอยู่ในหน้าประวัติศาตร์ และแม้ในตอนจบ ทหารส่วนใหญ่ได้กลับบ้าน แต่ก็มีผู้ที่สูญเสียอยุ่ดี
ภาพเราว่าสวยอยู่นะ แต่การลำดับภาพมีเหลื่อมๆ เวลากัน แบบ ตอนนี้เป็นคนนี้ มองเห็นเหตุการณ์นี้ แต่พอกลับมาในมุมอื่น เราก็งงว่าเหตุการณ์นี้มันผ่านไปแล้วนี่ จนตอนท้ายๆ มาเก็ตว่ามันคือการเล่าเรื่องต่างมุมมองในเวลาเดียวกันนั่นเอง
บางช่วงของหนังกดดันและลุ้นมาก เสียงเพลงก็ระทึก ใส่มากดดันคนดูอีก ไม่กล้าลุกไปห้องน้ำเลยเพราะด้วยความที่หนังไม่ค่อยมีบทพูด กลัวว่าพลาดไปตอนนึงแล้วจะไม่เข้าใจ
ใครยังไม่ดูก็ดูเถอะ อย่าคิดว่ามันน่าเบื่อ เสียงระเบิด เครื่องบินมาที นึกว่าดูแบบ 4D เก้าอี้สั่นสะเทือนมาก ขนาดดูโรงปกติ
ครั้งนี้โนแลนเลือกนักแสดงหน้าใหม่ๆ มาซะเยอะ ที่เคยร่วมงานกับโนแลนมาแล้ว ก็มี ทอม ฮาร์ดี้ และ คิลเลียน เมอร์ฟี จากหนังเรื่อง Bat man, Inception กันทั้งคู่