ธารธรรมใสเย็นยิ่ง สุขได้
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
30 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
แง่คิดธรรมของเพื่อนสมาชิก

.


Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2552 9:38:47 น. 2 comments
Counter : 304 Pageviews.

 
ผมขอแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปจากที่เข้าใจนะครับ
คำว่า "ไม่มี" ภาษาบาลีใช้คำว่า "นิรัตตา"
ในความหมายคำว่า "ไม่มี" สิ่งนั้นไม่เคยมีมาก่อน

ส่วนคำว่า "ไม่ใช่" ภาษาบาลีใช้คำว่า "อนัตตา"
ในความหมายคำว่า "ไม่ใช่" สิ่งนั้นไม่ใช่ แต่สิ่งที่ใช่ต้องมี

เช่นนั่นไม่มีอมตะธรรม แสดงว่าอมตะธรรมไม่มีไม่ต้องเสียเวลาหา
ส่วนนั่นไม่ใช่อมตะธรรม แสดงว่าอมตะธรรมมีอยู่แต่เห็นอยู่หนะไม่ใช่ ต้องหาที่ใช่

ขอยกตัวอย่างเช่น นายก.บอกกับนายข.ว่า
ดูต้นไม้ตนโน้นสิ ไม่มีนก นายข.จะรู้ได้ทันทีว่าไม่มีนก ไม่ต้องมองหา
ถ้านายก.บอกนายข.ว่า ดูต้นไม้ตนนั้นสิ นั่นไม่ใช่นก
นายข.ก็ต้องพิจารณาต่อว่า เมื่อไม่ใช่นกแล้วเป็นตัวอะไรกันแน่???

ฉะนั้นคำว่าไม่ใช่กับไม่มีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ใช้แทนกันไม่ได้
แต่ภาษาไทยที่สอนๆกันมาในสปช.นั้น กับถูกสอนว่า
ภูติ ผี เทวดา อินทร์ พรหม ทั้งหลายล้วนไม่มีตัวตน
แต่แท้ที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง แต่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้
เลยกลายเป็นว่าอะไรที่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้ ล้วนไม่มีตัวตนทั้งนั้น

คำ"สมมุติบัญญัติ"นั้น จะมีขึ้นมาได้ สิ่งนั้นต้องมีอยู่จริงจึงจะบัญญัติเรียกขึ้นมาได้

เช่นสิ่งที่เป็นภาชนะรูปทรงกระบอกใสๆ เราสมมุติบัญญัติเรียกว่า"แก้วน้ำ"
ก็เป็นที่รู้กันว่า สิ่งๆนี้เรียกว่าแก้วน้ำ ถ้าไม่มีแก้วน้ำอยู่ก่อนแล้ว เราจะบัญญัติขึ้นมาได้มั้ย?

ปัญหาทุกวันนี้ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เพราะสมมุติบัญญัติ
แต่เกิดจากการที่เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นในสมมุติบัญญัติต่างหาก
เช่นเราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์๕ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตนของเรา

พระอริยสาวกทั้งหลายล้วนปล่อยวางอุปาทานขันธ์๕ได้แล้ว
เมื่อท่านไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สมมุติบัญญัติก็ยังต้องใช้กันอยู่ ไม่ได้ให้เพิกถอนสมมุติบัญญัตินิครับ

สมมุติบัญญัติมีไว้ให้ใช้เท่านั้น ไม่ใช่มีไว้ให้ยึดมั่นถือมั่นหรือเพิกถอนทิ้ง....

ธรรมภูต


โดย: ใจพรานธรรม วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:01:16 น.  

 
ความฝัน----
อาการนอนไม่หลับของผู้เจริญสติถือเป็นเรื่องปกติ..

เกิดจากจิตที่ตื่นตัว..ทำให้ความง่วงซึมลดน้อยลง

อย่ากังวลหรือสงสัยในอาการนอนไม่หลับ..เพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านยิ่งทำให้นอนไม่หลับมากขึ้นไปอีก..

หากยอมรับสภาพได้..การนอนหลับก็จะเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ..คือ

..จะหลับเมื่อร่างกายอ่อนเพลีย..ต้องการพักผ่อน
..จะนอนน้อยลง..และตื่นบ่อยขึ้น..

การนอนหลับแล้วไม่ฝัน..เรียกว่าจิตลงภวังค์คือไม่ขึ้นรับอารมณ์ทางอายตนะทั้ง6..
การฝันคือ..การขึ้นรับอารมณ์ของจิตทางมโนทวาร..หรือเรียกว่าคิดในเวลาหลับ
ผู้เจริญสติ..จะระลึกรู้อารมณ์ได้ไวขึ้น..แม้ขณะหลับถ้าจิตไม่เป็นภวังคจิต..และขึ้นวิถีรับอารมณ์ทางมโนทวาร..
ก็จะสามารถระลึกรู้อารมณ์นั้นได้ดีกว่าผู้ไม่เจริญสติ..
จึงเหมือนว่า..ฝันมากขึ้น

สติสามารถเกิดขึ้นได้ในขณะหลับ...

ข้อสังเกตุขณะหลับสนิท(จิตเป็นภวังค์)กับขณะฝัน(จิตทำงานทางมโนทวาร)..

อะไรที่ไปรู้สภาพจิตขณะนั้น..

ถือว่าแบ่งปันประสบการณ์กัน..ถูกหรือผิดก็คงต้องพิจารณาเอาเอง..
(หากคุณนมสิการเห็นว่าไม่สมควรก็ลบได้ครับ)
แต่ที่แน่ๆ..ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุ..อย่าสงสัยอะไรเลย
สิ่งใดรู้สึกได้..สัมผัสได้..สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นมาจากเหตุที่ถูกต้องแล้ว..que sera sera..
จากคุณ: palmgang
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&group=3


โดย: ใจพรานธรรม วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:8:32:00 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ใจพรานธรรม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว
เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย

..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง
เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว
ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง
ใครสร้างท่านไม่ได้

พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น
จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย
ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
S! Radio
Express 4
เพลง ทานตะวัน ---ฟอร์ด
ศิลปิน รวมศิลปิน : Express
อัลบั้ม Express 4
ดูเนื้อเพลงคัดลอกโค้ดเพลงนี้
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
Friends' blogs
[Add ใจพรานธรรม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.