|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย
..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง ใครสร้างท่านไม่ได้
พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
|
|
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
|
|
|
|
|
|
|
คำว่า "ไม่มี" ภาษาบาลีใช้คำว่า "นิรัตตา"
ในความหมายคำว่า "ไม่มี" สิ่งนั้นไม่เคยมีมาก่อน
ส่วนคำว่า "ไม่ใช่" ภาษาบาลีใช้คำว่า "อนัตตา"
ในความหมายคำว่า "ไม่ใช่" สิ่งนั้นไม่ใช่ แต่สิ่งที่ใช่ต้องมี
เช่นนั่นไม่มีอมตะธรรม แสดงว่าอมตะธรรมไม่มีไม่ต้องเสียเวลาหา
ส่วนนั่นไม่ใช่อมตะธรรม แสดงว่าอมตะธรรมมีอยู่แต่เห็นอยู่หนะไม่ใช่ ต้องหาที่ใช่
ขอยกตัวอย่างเช่น นายก.บอกกับนายข.ว่า
ดูต้นไม้ตนโน้นสิ ไม่มีนก นายข.จะรู้ได้ทันทีว่าไม่มีนก ไม่ต้องมองหา
ถ้านายก.บอกนายข.ว่า ดูต้นไม้ตนนั้นสิ นั่นไม่ใช่นก
นายข.ก็ต้องพิจารณาต่อว่า เมื่อไม่ใช่นกแล้วเป็นตัวอะไรกันแน่???
ฉะนั้นคำว่าไม่ใช่กับไม่มีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ใช้แทนกันไม่ได้
แต่ภาษาไทยที่สอนๆกันมาในสปช.นั้น กับถูกสอนว่า
ภูติ ผี เทวดา อินทร์ พรหม ทั้งหลายล้วนไม่มีตัวตน
แต่แท้ที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง แต่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้
เลยกลายเป็นว่าอะไรที่ไม่มีรูปร่างให้จับต้องได้ ล้วนไม่มีตัวตนทั้งนั้น
คำ"สมมุติบัญญัติ"นั้น จะมีขึ้นมาได้ สิ่งนั้นต้องมีอยู่จริงจึงจะบัญญัติเรียกขึ้นมาได้
เช่นสิ่งที่เป็นภาชนะรูปทรงกระบอกใสๆ เราสมมุติบัญญัติเรียกว่า"แก้วน้ำ"
ก็เป็นที่รู้กันว่า สิ่งๆนี้เรียกว่าแก้วน้ำ ถ้าไม่มีแก้วน้ำอยู่ก่อนแล้ว เราจะบัญญัติขึ้นมาได้มั้ย?
ปัญหาทุกวันนี้ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เพราะสมมุติบัญญัติ
แต่เกิดจากการที่เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นในสมมุติบัญญัติต่างหาก
เช่นเราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์๕ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตนของเรา
พระอริยสาวกทั้งหลายล้วนปล่อยวางอุปาทานขันธ์๕ได้แล้ว
เมื่อท่านไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สมมุติบัญญัติก็ยังต้องใช้กันอยู่ ไม่ได้ให้เพิกถอนสมมุติบัญญัตินิครับ
สมมุติบัญญัติมีไว้ให้ใช้เท่านั้น ไม่ใช่มีไว้ให้ยึดมั่นถือมั่นหรือเพิกถอนทิ้ง....
ธรรมภูต