|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คนไม่มีปัญญา กับ คนปัญญาอ่อน
คนปัญญาอ่อน ยังรู้ธรรมบ้างยังเข้าใจในธรรมบ้าง คนไม่มีปัญญา รู้ธรรม แต่ไม่เข้าใจในธรรมนั้นเลย
คนปัญญาอ่อน มีปัญญาแต่ยังไม่แก่กล้า แต่ยังมีความเพียรที่จะให้รู้ที่สุดแห่งธรรมนั้น กิเลสยังเบาบาง คนไม่มีปัญญา ไม่มีปัญญา ไม่เข้าใจ ไม่เพียร กิเลสก็เต็มล้น
คนปัญญาอ่อน ได้รู้ธรรมนั้นแล้ว ใช้ปัญญาที่ตนมีอยู่อันน้อย ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ตน คนไม่มีปัญญา ได้รู้ธรรมนั้นแล้ว แต่ไม่มีปัญญา ก็ไม่รู้จะปฏิบัติธรรมไปเพื่ออะไร
คนปัญญาอ่อน อาศัยที่ตนพอมีปัญญาก็รู้ทราบอยู่ว่าปัญญาที่ตนมียังอ่อน ยังอาจสามารถให้ปัญญาของตนแก่กล้าได้ คนที่ไม่มีปัญญา เพราะขาดปัญญาไม่รู้อะไรในตนเลย ก็มิอาจทำตนให้เป็นผู้มีปัญญาแม้อันน้อยได้
อ่านแล้วเข้าใจเพราะมีปัญญา อ่านแล้วไม่รู้ก็บอกว่า ผู้เขียนปัญญาอ่อน ก็เป็นเช่นนั้น
Create Date : 24 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 23:56:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 601 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย
..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง ใครสร้างท่านไม่ได้
พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
|
|
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
|
|
|
|
|
|
|