ธารธรรมใสเย็นยิ่ง สุขได้
Group Blog
 
 
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

ประสบการณ์ธรรม"ผมว่า ผมเจอนิพพานแล้ว" จากคุณ"ไห่"

ประสบการณ์ตรง ผมว่า ผมเจอนิพพานแล้ว


เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้น วันนี้ 3 มกราคม 2555 เที่ยงคืนมั้ง (ตอนพิมพ์ คือ ตีสาม)

ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดี หรือ ข่าวร้าย แต่ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ในห้องนี้ ที่เป็นปัจจัยให้ผมเจอเหตุการณ์นี้ ผมต้องเรียกสติคืนมาเป็นอย่างมาก เพราะตื่นเต้นกับตัวเอง

หลังจากที่ผมทำสมาธิ วิปัสสนา เสร็จ (เดียวจะเล่ารายะละเอียดด้านล่าง)

ก็เกิดสภาวะจิตแบบนี้ "โอ้ เราโง่มาตั้งนาน" และตามด้วยรู้สึกขยะแขยงตัวเอง ขยะแขยงร่างกายแบบบอกไม่ถูก มันเป็นความขยะแขยงแบบจริงใจมากๆ รู้สึกว่าพอมองแฟนปุ๊บ รู้สึกเหมือนนอนกับศพ รู้สึกแบบ "ไม่เคยรู้สึกมาก่อน" รู้สึกว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ ก็คือ ศพเดินได้ รู้เลยว่า ทุกอย่างมันเป็นแค่ เรื่องสมมติ เรื่องราวธรรมะเหมือนตัวต่อที่ประกอบกันครบหมด

ผมต้องค่อยๆ เบรคตัวเองลง ใจเย็น สติของผมชัดเจนมาก

สัญญา เวทนา สังขาร สงัดไปแล้ว .. จิตของผม หยุด นิ่ง อยู่กับที่ เห็นการขยับร่างกายชัดเจนหมด แม้แต่ตอนนี้ ตอนกำลังพิมพ์คีย์บอร์ด

เข้าเรื่องเลยละกัน

ขณะที่ผมกำลังทำสมาธิวิปัสสา ในหัวผมตอนนั้น กำลังไล่วงจรปฎิจจสมุปบาท อยู่ กำลังพิจารณา รอยต่อการเกิดอยู่

ช่วงรอยต่อการเกิด มันอยู่ตรง ".....อุปทาน > ภพ > ชาติ "

คำถามคือ หลังจากที่เราตายไปแล้ว เกิดอะไรขึ้น ?

ผมตอบได้อย่างเต็มปากว่า "คุณไม่มีทางรู้" เพราะ... "มันไม่มีคุณอยู่ตั้งแต่ต้น" คุณเป็นแค่ "กองธาตุ" รวมตัวกัน แล้วตั้งสมมติตัวเองขึ้นว่า มีตัวตนอยู่ คุณอาจจะไม่เข้าใจตอนนี้ แต่ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า คุณไม่มีจริง ผมแทบจะไม่อยากใช้ สรรพนามเรียกว่า "คุณ และ ผม" เพราะ ตอนนี้ เราต่างก็เหมือน "ศพคุยกัน"

ผมสามารถบอกได้เลยว่า คุณจะไปเกิดที่ไหน ?

หลังจากที่คุณตายไป คุณจะไม่มีทางรู้อะไรซักอย่าง มันเป็นช่วงที่ไม่มีอะไรเลย เพราะมันไม่มีคุณอยู่ตรงนั้น คุณจะรู้สึกอีกทีว่าเกิดแล้วก็ตอนที่ "เหตุปัจจัยพร้อม"

นั้นก็หมายความว่า ตอนนั้นพ่อแม่ของคุณ (อาจไม่ใช่มนุษย์) เบ่งคุณออกมาแล้ว คุณถึงจะรู้สึกแบบโง่ๆ ว่าคุณปรากฎแล้ว คุณอาจจะลืมตาดูโลก และงงๆ ว่าที่นี่ที่ไหน ? (หากตาไม่บอด) แต่ตอนนั้น ผมบอกไม่ได้น่ะ ว่าคุณเป็น มนุษย์ หมา แมว หรือ ตัวอะไรไม่รู้

สถานที่เกิดของทุกคน คือ "กรรม"

กรรมมันคือดินแดนขนาดใหญ่ นึกง่ายๆว่า เป็นทุ้งหญ้าขนาดหลายล้านเอเคอร์ ซึ่งคุณพร้อมที่จะโผล่ออกมา "เสมือนกับต้นหญ้าที่งอกขึ้น บนดินและน้ำที่พร้อม หรือ เราจะเรียกว่า เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม"

เหตุปัจจัยพร้อม หมายถึง ตอนที่พ่อแม่ผสมพันธ์กันเสร็จ ตั้งครรภ์ รอ 9 เดือน ร่างกายคุณประกอบเสร็จ คุณก็ใช้งานได้แล้ว

จุดที่คุณจะปรากฎ ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณอุปทานอะไรไว้ก่อนตาย คุณสร้างกรรมไว้ตรงไหน อย่างไร กับใคร คุณอาจจะไปโผล่ใน สุขคติ หรือ ทุคติ หรือ โลกมนุษย์ ตรงไหนก็ตามใน 31 ภพนี้

THERE IS NO YOU HERE IN THIS WORLD AT THE BEGINNING!! มันไม่มีคุณ หรือใครๆ เลยบนโลกใบนี้ ตั้งแต่แรก มันมีแต่ "สิ่งประกอบ"

คำถามต่อไปคือ แล้วนิพพาน มันอยู่ตรงไหน ?

ผมชื่นชมในความฉลาด ของพระพุทธเจ้าของเรา ที่สามารถตรัสรู้เรื่องทั้งหมดได้ ผมชื่นชมมากๆ ที่พระองค์ หาวิธีหนีการเกิด บนดินแดนกรรมได้สำเร็จ ผมชื่นชม ในวงจรปฏิจจสมุปบาท ที่พระองค์ตรัสรู้พบ ผมต้องขอขอบคุณการตรัสรู้อันยิ่งใหญ่นี้ เพราะ ทุกคนสามารถรอดจากการเกิดได้

องค์คุลีมาร ที่จริงต้องไปโผล่ตรงอบายเลยด้วยซ้ำ แต่ก็รอดไปได้

นิพพาน คือสภาวะจิต ผมขอยืนยันว่า นิพพานเป็นสภาวะจิต มันคือจิตตอนที่รู้แล้วว่า "ทุกอย่าง ทั้งหมด ทั้งมวล นี้ คือ อนัตตา" จิตของคุณคือ พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงแล้ว คุณเข้าใจเกมส์การเกิดแล้ว คุณรู้กฎกติกาของมันหมดแล้ว คุณแจ้งทุกอย่างๆ คุณปะติปะต่อ ทุกอย่างได้แล้ว คุณรู้อย่างชัดแจ้งแล้วว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่อนัตตา

ที่ผมบอกคุณไปว่า ตอนที่คุณตาย คุณจะไม่รู้อะไรเลย เพราะ ตอนนั้น คุณมีช่วงรอยต่อที่เรียกว่า "อุปทาน" อยู่

ถ้าคุณถอด อุปทานออก คุณจะพบเลยว่า วงจรการเกิดของคุณขาดลง สังเกตุดีๆน่ะ ... อุปทาน ----> ภพ -----> ชาติ

ตอนร่างกายคุณแตกสลายไป นามรูป วิญญาณทุกอย่างก็จะดับลง หากคุณถอดอุปทานออกได้ตอนคุณยังมีชีวิตอยู่ พอคุณตายไป คุณก็จะตื่นจากการเกิด คุณจะไม่ไปโผล่ในแดนกรรมอีก คุณจะเป็นอิสระจากการเกิด คุณจะตื่นตอนคุณตาย

แหล่ะนี่แหละ คือ เหตุที่องค์คุลีมารรอด จากการเกิดในอบาย เขาทำให้การเกิดเป็นโมฆะ

หากคุณยังมีอวิชชาอยู่ คุณยังถืออุปทานอยู่ ตอนคุณตาย คุณจะไม่รู้อะไรเลย คุณจะรู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ร่างกายคุณประกอบเสร็จ (แต่บอกไม่ได้น่ะว่าตัวอะไร) คุณจะไปโผล่ในแดนกรรมที่คุณก่อไว้ คุณจะคิดว่า คุณมีตัวตน

จบละ ผมไม่ได้ขอให้ใครเชื่อผมน่ะครับ คุณสามารถวิจารณ์ผมได้อย่างเต็มที่ อาจจะบอกว่า ผมมั่วก็ได้น่ะ ผมไม่ซีเรียส ทุกคนๆ ในตอนนี้ คือ เพื่อน พี่น้อง ที่ร่วมเกิดในดินแดนกรรมนี้ สำหรับผม

สภาวะนี้ถ้าไม่เจอกับตัว คุณจะไม่เข้าใจที่ผมพูดหรอก คุณจะยังรู้สึกปกติดีอยู่ แต่ผมในตอนนี้ รู้สึกเบื่อสุดๆ พอรู้ว่าตัวเองติดแหงกอยู่ตรงนี้ แต่ก็รู้สึกเป็นสุขลึกๆ เหมือนกัน



จากคุณ : ไห่
เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:51:22


1. โล่ง โปร่ง สงบ สบาย ตลอด โดยที่ไม่ได้กำหนดวางอุเบกขา

2. จิตจะอยู่อารมณ์สติปัฎฐาน โดยที่ไม่ต้องกำหนด จะเกิดกายนุสติ อัตโนมัติตลอด จิตจะไม่ฟุ้งไปทีอื่น อารมณ์จะเป็นหนึ่งเดียว

3. จิตจะไม่เกิดอาการกระเทือนจากอารมณ์อื่น ไม่ใช่เพราะอุเบกขา

4. จิตจะเชื่อฟัง ไม่กำหนดอารมณ์เอง

5. แม้ว่าจะทำงานอย่างอื่น แต่จิตจะคืนเข้าสู่สภาวะ ในข้อที่ 1 ตลอด ไม่หาย

6. ไม่มีความปรารถนาใดๆ ในโลก ไม่ติดใจ ไม่อยาก ใช้ชีวิตก็เหมือนปกติ แต่สภาพแวดล้อมจะไม่กระเทือนอะไรเราเลย จิตจะไม่โยก ไม่ไปเอง จะอยู่ภายในการควบคุม

7. สติจะเต็มตลอด โดยไม่ต้องกำหนดจิตอะไรซักอย่าง เช่นเราระลึกเรื่องนี้ จิตก็จะรู้ว่าเราระลึก เหมือนมีตัวคุม เราจะไม่ล่องลอย หรือ ระลึกอะไรแล้วลืมตัว

8. จิตไม่ได้ว่าง เพราะ สงบนิ่ง หรือ แช่นิ่ง คนละอารมณ์กับอุเบกขา แต่จิตจะโล่ง โปร่ง (อันนี้บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าเข้าใจแบบนี้ไปก่อนละกัน)

9. จิตจะไม่เห็นว่า เรื่องใดๆ ในโลกนี้ เป็นทุกข์แล้ว จะเกิดอุบาย รับมือไว้หมด จิตจะไม่กระเทือน

ผมไม่ค่อยได้เข้า pantip (เหตุผลหลายๆอย่าง)

ถ้ามีโอกาส จะเข้าไปตั้งกระทู้อีกกระทู้ แล้วจะพยายามอธิบาย ให้ละเอียด

ปล. จุดประสงค์ ของเรามีอย่างเดียวน่ะครับ คือ ดับทุกข์ ละอุปทาน เป็นคนดี และช่วยเหลือผู้อื่น

//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11530488/Y11530488.html

ขออนุโมทนาครับ




 

Create Date : 10 มกราคม 2555
2 comments
Last Update : 10 มกราคม 2555 0:56:36 น.
Counter : 1265 Pageviews.

 

สาธุ อนุโมทนา

 

โดย: ตา IP: 49.49.129.139 31 ธันวาคม 2555 18:03:25 น.  

 

เมื่อเห็นธรรม/ธรรรมชาติ ขอโอกาสและความช่วยเหลือให้แก่บุคคลอื่นๆ โดยทิืงร่อยรอยของท่านต่อกระบวนการ/วิธีการเดินทางของท่านไว้ด้วย จักเป็นคุณยิ่ง.....และขออนุโมทนา

 

โดย: ผู้เดินทาง IP: 110.169.153.99 5 ตุลาคม 2556 17:52:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ใจพรานธรรม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




มีหลายเรื่องที่ควรสงสัย แต่เราไม่สงสัยในสิ่งต่างๆนั้นแล้ว
เราศรัทธาแต่ในพระรัตนตรัย

..แม้เทวดา มารหรือพรหม จะมีหรือไม่มีอยู่จริง
เราก็มีธรรม มีปัญญารู้ในสิ่งต่างๆนั้นด้วยตนเองแล้ว
ทั้งปัญญา ทั้งศรัทธา เป็นสิ่งที่ท่านต้องสร้างให้เกิดขึ้นเอง
ใครสร้างท่านไม่ได้

พระพุทธเจ้า พระองค์ดุจผู้บอกทางให้เท่านั้น
จะเดินหรือไม่ เรามิได้กล่าวโทษตำหนิท่านแต่อย่างใดเลย
ท่านเชื่อ ท่านก็เดิน ท่านไม่เชื่อก็ควรแล้ว ที่ท่านจะสงสัยควรแล้วที่ท่านจะปฏิบัติ เพื่อคลายความสงสัยนั้น
S! Radio
Express 4
เพลง ทานตะวัน ---ฟอร์ด
ศิลปิน รวมศิลปิน : Express
อัลบั้ม Express 4
ดูเนื้อเพลงคัดลอกโค้ดเพลงนี้
ขอบคุณ code และ ภาพ จากคุณ aggie_nan ตามลิงค์ที่อยู่ ด้านล่างครับ
Friends' blogs
[Add ใจพรานธรรม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.